ตอนที่ 20 : 1 นาที
ตอนที่ 20 : 1 นาที
ในเกมวันที่ 27 มีนาคม 2044 เวลา 03.00 น.
หนวดของคราเคนโจมตีกวาดเป็นวงกว้าง ทําให้แนวหน้า ของ Devil Breaker ต้องถอยร่นออกมา
“ทั้งถึก ทั้งไม่มีช่องโหว่แบบนี้น่ารำคาญชะมัด” มาร์คเอ่ย เขาลองวิ่งเข้าไปอีกครั้ง เส้นหนวดสองเส้นก็โจมตีขนาบ ทั้งสองครั้ง ไม่ยอมให้เขาผ่านไปได้ง่ายๆ มาร์คจึงกระโดด หลบ หนวดทั้งสองเส้นปะทะกันเสียงดังฉาด แต่ทว่าเส้นที่ สามก็โจมตีฟาดเข้ากกลางลำตัวทำให้เขากระเด็นตามแรง ฟาดกลั้งไปตามพื้นห้องโถง
“บ้าเอ้ย !!” ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนสบถ
ทางด้านสนนั้นร่ายกลาสซีบาเรีย รับการโจมตีของหนวด ที่ฟาดลงมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“แบบนี้แย่แน่ มานาใกล้จะหมดแล้วด้วย” พาราดินหนุ่มจึง หยุดร่ายสกิลแล้วกระโดดถอยออกมาจากระยะการโจมตี
ฟ้าว ฟ้าว ฟ้าว
นานาวิ่งเปลี่ยนเศษซากเสาหินบนพื้นเพื่อใช้เป็นที่กำบัง สองมือยังคงพยายามยิงธนูเพื่อทำดาเมจให้มากที่สุด ถึง แม้จะแค่หลักสิบแต่ถ้ายิงไปเรื่อยๆมันก็ตายได้เหมือนกัน เมื่อคิดแบบนั้นเธอจึงรีดเค้นความเร็วที่ตัวเองยิงให้มาก ที่สุด เธอค่อยๆเปลี่ยนจำนวนธนูที่ยิงในแต่ละครั้ง จาก หนึ่งดอก เป็นสามดอก เป็นหาดอก ตามลำาดับ
เกินกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าใช้ Lethal Bird หรือ Hundred Mach Arrow ตอนนี้ยังไงมันก็ไม่ตายแน่นอน แถมมันสิ้น เปลือกมานาเกินไป และที่สำคัญฉันไม่สามารถรับประกัน ได้ว่าดาเมจที่ทำได้มันรุนแรงพอกับเกราะที่แข็งแบบนี้ นักธนูสาวนั่งพิงโขดหินเพื่อพักเหนื่อย พลางวิเคราะห์ สถานการณ์ตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกอยากจะให้ทีมนี้มี อาชีพยิงไกลอีกคนจริงๆ
ตบ ตบ ตบ
หมาป่าซอมบี้ตัวสุดท้ายของฟ้าถูกฟาดเข้ากลางลำตัว ส่ง ให้มันนอนแน่นิ่งกับพื้นก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นสีสํา
“หนอยยยยยย แบบนี้ก็คงต้องเรียกหุ่นเชิดโครงกระดูก สินะ” ฟ้าวิ่งไปเพื่อหาที่หลบซ่อน เพราะข้อเสียของสกิล ‘หุ่นเชิดโครงกระดูก’ ทำให้เธอต้องทำแบบนั้น เพื่อหาที่ หลบที่เหมาะสม และอยู่นอกระยะการโจมตีของคราเค่น เธอจึงหลับตาร่ายสกิล
“จงออกมา นักรบโครงกระดูกของข้า วิชาแห่งความตาย หุ่นเชิดโครงกระดูก” ออร่า นําแผ่ปกคลุมร่างของหญิง สาว วงแหวนเวทย์นับสิบปรากฏบนพื้นอัญเชิญนักรบโครง กระดูกออกมา มันค่อยๆเดินเข้าไปหาบอสปลาหมึกยักษ์ อย่างช้าๆ
เมื่อพวกมันเดินเข้าเขตการต่อสู้คราเค่นกวาดหนวดตัว เองหวดร่างโครงกระดูกนับสิบแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี แต่ ฟ้าก็กำมือขวาดึกเข้าหาตัวเป็นคำสั่งให้โครงกระดูกฟื้น คืนชีพอีกครั้ง
“นี่สินะกองทัพโครงกระดูกที่ผมเห็นตอนสู้กับเจ้าเต่า ทมิฬ”ดวงตาสีแดงก๋าจ้องมองกองทัพของฟ้าอย่างสนใจ
“ถ้างั้นผมจะแช่แข็งมันเอง” ปลาหมึกยักษ์
“แปละ มันใช้สกิลนาแข็งได้เหมือนกัน” หญิงสาวแสดง ท่าทีตกใจเธอจึงรีบคลายคาถาของตนเองทันที
“โห่ !! แย่จังอดแช่แข็งซะแล้ว” ปลาหมึกยักษ์พูดอย่าง สุภาพ แต่ก็ชวนให้รองหัวหน้าทีมสาวคนนี้อดเจ็บใจไม่ได้
“ชิ !!” ฟ้าขมวดคิ้วเธอจึงร่ายสกิลเรียกหมาป่าซอมบี้ออก มาสามตัวเช่นเคย
“โทษทีนะทุกคน ตอนนี้ฉันทำได้แค่นี้” รองหัวหน้าทีม กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ
“ไม่เป็นไรน่า เรื่องเข้าประชิดให้พวกฉันจัดการเอง” ตุลย์ ปลอบเพื่อนสนิทของเขา สองมือยังคงแกว่งทวนรับการ โจมตีของคราเคน
“ดูท่าพวกคุณจะมาได้แค่นี้นะครับ น่าเสียดายแต่คงต้อง จากลากันแล้ว” คราเค่นกล่าวอย่างเสียดาย วงแหวนเวทย์ สีนํ้าเงินนับสิบปรากฏตรงหน้าของมัน พร้อมจะระดมยิงฝน ย้าแข็งได้ทุกเมื่อ
“ดูเหมือนนายจะเข้าใจผิดไปนะคราเคน” น้ำเสียงที่หวาน และหยิ่งของคานาเลียงความสนใจของเขาเอาไว้ ทําให้ เขาหันไปมองพบว่าตอนนี้เธอยืนอยู่กับวารีเพียงสองคน ภพและเจมส์ผู้ที่คอยป้องกันเธออย่างที่เคยเป็นไม่ได้ยืน อยู่ตรงนั้น ดวงตาสีแดงก่ำเบิกค้างปลาหมึกยักษ์จึงหยุด ร่ายสกิลแล้วรีบหันไปที่แท่นบัลลังก์ของตนทันที
หนูมุสิกะกำลังวิ่งเข้าไปตู้กระจกที่เก็บไข่มุกสิบแปด จันทราเอาไว้
“แสบนักนะ” คราเคนระดมหนวดของมันโจมตีใส่หนูขาว อย่างบ้าคลั่ง หนวดเส้นหนึ่งแทงขวางหน้าของมันเอาไว้ หนูขาวจึงเอี้ยวตัวหลบสี่เท้ายังคงวิ่งต่อไปแต่เหมือนกับ คราเด่นคำนวณเอาไว้แล้วแท่งหนวดกำลังจะพุ่งใส่หนูมุสิ กะอย่างพอดิบพอดีในไม่ช้า
“แกอย่าหวังจะทำร้ายมุสิกะของฉันเลยเว้ย !!” เจมส์ ตะโกนอย่างหนักแน่น เขาถือการ์ดของหนูมุสิกะขึ้นมามันเปล่งออร่าสีส้มเขาหลับตาเพื่อร่ายสกิล
“สกิลนักอัญเชิญ – หนูมุสิกะ – มายาลวงตา” เมื่อร่าย สกิลเสร็จร่างของหนูมุสิกะที่กำลังวิ่งไปยังแท่นบัลลังก์ก็ โปร่งแสง มันวิ่งทะลุหนวดที่พุ่งใส่อย่างไร้บาดแผลรวมถึง โขดหินที่ขวางทางอยู่ หนูขาวสามารถวิ่งทะลุผ่านไปได้ ทั้งหมด ราวกับว่าไม่เคยมีเศษหินอยู่ตรงนั้น
“อะไรกัน !!” คราเคนพูดอย่างร้อนรน เป็นครั้งแรกที่เขา สูญเสียความสุขม
Skil Data : สกิลนักอัญเชิญ – หนูมุสิกะ – มายาลวงตา
ระดับ : 2 ดาว LV:5/5
เงื่อนไข : สกิลนี้จะได้รับก็ต่อเมื่อทำพันธะสัญญากับ ‘หนู มุสิกะ’ และจะใช้สกิลนี้ได้ก็ต่อเมื่อเราอัญเชิญ “หนูมุสิกะ ออกมาแล้วเท่านั้น
หนูมุสิกะจะได้รับบัพ ‘ร่างลวงตา’ ที่จะสามารถวิ่งผ่านสิ่ง กีดขวางได้เป็นระยะเวลา 5 วินาที (+ 1 / LV Skill) และมี ความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 10 % ( + 2% / LVSkill) และผู้ร่ายสกิลจะได้รับบัพดังต่อไปนี้
ระยะเวลาอัญเชิญ “หนูมุสิกะ นานขึ้น 10 วินาที (+ 10 วินาที / LV Skill)
ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 10 %(+2% / LV
Skill) เป็นเวลา 20 วินาที
(+ 20 วินาที / LV Skill)
เสียงของหนวดกระแทกลงพื้นอย่างเสียเปล่า เมื่อไปถึง แท่นตู้กระจก หนูมุสิกะจึงกระโจนขึ้นไป ขาหน้าของมันดึง มีดเล่มงามที่แขวนไว้อยู่ด้านหลังฟาดกระจกอย่างแรงจน แตกกระจาย พร้อมกับสกิลมายาลวงตาที่หมดฤทธิ์ลงพอดี
“สําเร็จ !!” เจมส์ตะโกนอย่างสะใจ ขาหน้าทั้งสองของหนู ขาวรีบยกไข่มุกสีนวลขึ้นมา มันเหล่ตามองเราเล่นอย่างผู้ มีชัย
“อย่างหวังจะกลับไปได้ง่ายๆเลย” วงเวทย์สีน้ำเงินนับร้อยปรากฏเหนือแท่นบัลลังก์ หนูมุสิกะแสดงอาการผงะ ตกใจเล็กน้อย หาฝนนํ้าแข็งถูกระดมยิงออกมาไม่ให้อีก ฝ่ายได้ตั้งตัว
“ตอนนี้แหละเจมส์ มุสิกะ” ดราเล่นหันไปหาเจ้าของเสียง ไม่ทันได้สังเกตว่าเอกภพวิ่งมาอยู่ตรงบันไดแท่นบัลลังก์ ตอนไหน ชายหนุ่มตะโกนให้สัญญาณหนูมุสิกะโยนไข่มุก ไปหาเอกภพ ส่วนเจมส์ก็ร่ายคาถาคลายอัญเชิญหนูมุสิ กะทันที หนูขาวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้กับปลาหมึกยักษ์ก่อน จะหายไปเหลือเพียงออร่าสีส้มอ่อนค่อยๆลอยสลายไปใน อากาศ
“ต๊ะ !! เพื่อให้ได้ชมก นายยอมสละตัวเองขนาดนั้นเลย หรอ” คราเคนจ้องมองเด็กหนุ่มที่ยืนหันหลังให้เขา สองมือ ยังคงถือไข่มุกลูกงามเอาไว้แน่น เอกภพค่อยๆหันไปหา เขาช้าๆ ดวงตาสองสีจ้องมองอีกฝ่ายอย่างท้าทายพลาง คลี่ยิ้มอย่างสภาพเป็นการเย้ยหยันท่ามกลางห่าฝนน้ำแข็ง ที่ค่อยๆถล่มลงมาใส่เขา
“ใครบอกว่าฉันสละตัวเอง ?” น้ำเสียงของภพไม่ได้แสดง ว่าตัวเองยอมแพ้แต่อย่างใด ทําให้เขาตกใจและนึกขึ้นได้ ถึงตอนที่ทีม Devil Breaker สู้กับเต่าทมิฬ สกิลที่เอกภพ เคยใช้เพียงครั้งเดียวในตอนนั้น
หาฝนนาแข็งถล่มลงมาพังบัลลังก์ และตู้กระจกที่เคย เก็บไข่มุกสิบแปดจันทราไว้ราบเป็นหน้ากองจนไม่เหลือ เค้าเดิม คราเค่นก้มมองผลงานตัวเองอย่างกังวลใจ แต่สิ่ง ที่เขาคิดกลับเป็นความจริงเมื่อตรงหน้าเขาไม่พบร่างของ เอกภพเลย
คราเค่นรีบหันไปหาเจ้าหญิงคานาเลียที่ตอนนี้เอกภพ กําลังยีน ไข่มุกสิบแปดจันทรา ให้เธอไปเสียแล้ว คานา เลียคลี่ยิ้มอย่างพอใจ เธอรับอาวุธคู่ใจมาอยู่ในมือเป็นที่ เรียบร้อย
“บ้าน่า !!” คราเค่นสบถ
“ถูกต้อง The Last Point ยังไงละ !!” ภพตอบอีกฝ่าย อย่างชัดเจน
“แก !!!” บอสปลาหมึกยักษ์ร่ายสกิลเรียกวงแหวน เวทมนตร์นับสิบอีกครั้ง
“พอแล้วล่ะ……” คานาเลียเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสนจะเย็นชา ไข่มุกในมือของเธอเปล่งแสงสีขาว วงแหวนเวทย์สี ขาวนวลปรากฏอยู่ใต้เท้าของเธอ
“Kraken’s Soul – Release !!” ฉับพลันบอสปลาหมึก ยักษ์ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ ออร่าสีขาวนวลปกคลุมไปทั่ว ตัวของมันร่างของมันค่อยๆถูกบีบให้มีขนาดเล็กลงอย่าง ช้าๆ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!” ร่างของ ปลาหมึกยักษ์ค่อยๆสลายหายไปเหลือเพียงชายหนุ่มโจร สลัดที่ตอนนี้นั่งชันเข่าขวาอยู่กับพื้น หายใจหอบอย่างหมด สภาพ พร้อมกับขึ้นเตือนติดสถานะ “เหนื่อยล้า
“สกิลเดียวที่จะทำลายความไร้เทียมทานของนายได้ หนึ่ง ในปัจจัยสำคัญก็คือ ไอเทมของภารกิจนี้ “ไข่มุกสิบแปด จันทรา’ ” พีระอธิบาย มือขวาดันกรอบแว่นให้เข้าที่ ดวงตา สีเทาจ้องอีกฝ่ายผ่านแว่นไร้กรอบไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร ออกมา
เมื่อสิบนาทีก่อน
“ภพ ฉันต้องการ The Last Point’ ของนาย ฉันจะเล่า รายละเอียดให้ฟัง” พีระดันกรอบแว่นให้เข้าที่พลางหันไป หาเด็กหนุ่มผมดำ
สมองของเด็กหนุ่มประมวลผลอยู่ไม่นาน มุมปากของเด็ก หนุ่มก็ขยับยิ้มขึ้นมาดวงตาสองสีมองอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่
“บอกผมมาได้เลยครับ !!”
“ดี ถ้างั้นฟังให้ดีนี่คือรายละเอียด” พีระมองเด็กหนุ่มอย่าง พอใจ เขาเลื่อนหน้าต่างของเขาให้เด็กหนุ่มดูสกิลหนึ่ง ของเจ้าหญิงคานาเลีย
“Kraken’s Soul – Release” เขาอ่านชื่อสกิลและมอง หน้าพีระ ซึ่งนินจาหนุ่มพยักหน้าตอบแทนคำพูด
Skill Data: Kraken’s Soul – Release
เงื่อนไข : ต้องใช้ ไข่มุกสิบแปดจันทรา’ ในการร่ายสกิล
มอนสเตอร์บอส ‘คราเคน’ หากอยู่ในร่างสมบูรณ์ ค่าการ ป้องกันและสกิลสูงมาก จึงไม่สามารถใช้การโจมตีปกติ และท่าไม้ตายเต็มรูปแบบได้ ถ้าหากยังฝืนโจมตีแบบนั้น ห่าฝนน้ำแข็ง’ จะทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนใน ที่สุดนักผจญภัยจะเป็นผู้แพ้เสียเอง
Kraken’s Soul – Release จะทําการผนึกร่างสมบูรณ์ ของคราเคนทําให้กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์เหมือนเดิม และ จะทําให้มอนสเตอร์บอสติดสถานะ ‘เหนื่อยล้า’ เป็นเวลา เป็นเวลา 1 นาที และถูกโจมตีแรงขึ้น 20 % อย่างถาวร และจะไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้อีก 30 นาที
“นี่มัน วิธีเดียวที่จะเอาชนะได้งั้นหรอครับ ?” เมื่อทราบ ข้อมูลทั้งหมดทำให้เขาเข้าใจได้ทันที
“เงื่อนไขของสกิลนี้ต้องใช้ไข่มุกที่ว่านั่นในการร่าย ซึ่ง มันอยู่ตรงนั้น” พีระชี้ไปยังแท่นตู้กระจกที่มี “ไข่มุกสิบแปด จันทรา’ ถูกวางไว้บนหมอนกำมะหยี่สีแดงอย่างปราณีต
“ผมเข้าใจแล้วครับ เพื่อที่จะส่งไข่มุกให้กับคุณคานาเลีย อย่างเร็วที่สุดและไม่ถูกขัดขวาง สกิล The Last Point ของผมคือสั่งจําเป็นใช่ไหมครับ” ภพอธิบายในสิ่งที่ตัวเอง คิด ซึ่งพีระก็ยิ้มให้อย่างพึงพอใจกับคำตอบของเด็กหนุ่ม ตรงหน้า
แต่ว่าถ้านายวิ่งนุ่มๆเข้าไป ไม่มีทางที่มันจะยอมปล่อยไป ได้ง่ายๆแน่ ดังนั้น….” พีระหันไปหาเจมส์ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ยกมือซ้ายที่สวมถุงมือสีน้ำตาลตบไปยังบ่าของเด็กหนุ่มที่ ใส่แว่นหนาเตอะ
“ผมหรอครับ ?” เจมส์ถามพลางเอานิ้วชี้ตัวเองอย่าง ประหลาดใจ
“หนูมุสิกะของนาย จะเป็นตัวล่อเข้าไปชิงไข่มุกและส่ง ให้ภพทันที เพราะฉันเชื่อว่าถ้าไข่มุกของมันไม่ปลอดภัย มันจะระดมโจมตีพวกนายอย่างบ้าคลั่งแน่ๆ เพื่อไม่ให้ สัตว์อัญเชิญของนายบาดเจ็บรีบคลายอัญเชิญทันที” พีระ อธิบายแผนการ
“แต่ว่านายจะต้องเข้าไปทีหลังนะภพ หาที่หลบซ่อนแล้ว ค่อยๆเข้าไปอย่าให้หมอนั่นจับได้
“ครับผม !!” ภพตอบอย่างหนักแน่น
“เอาล่ะ จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกนายสองคนนะ ระหว่างนี้ฉันกับพวกนั้นจะดึงความสนใจของมันให้” พีระ หันหลังให้กับเด็กหนุ่มทั้งสอง เขาร่ายสกิลเรียกร่างแยก แล้ววิ่งออกไป
ปัจจุบัน
“ฉันขอไม่อธิบายอะไรนายมากไปกว่านี้นะ เพราะเดี๋ยว 1 นาทีมันจะเสียเปล่า” พีระตัดบท พูดจบก็เรียกร่างแยกทั้ง เจ็ดร่างออกมาทันที
“ใจร้ายจังนะครับ แต่จะขอบอกก่อนนะครับว่า 1 นาทีนี้ ต้องฆ่าผมให้ตายนะครับ เลือดผมมีสองแสนสองหมื่น ถ้า สิ้นสุดสถานะ ‘เหนื่อยล้า และผมไม่ตาย ผมจะใช้สกิล Kraken Burst ทำให้ผมกลับมากลายร่างเป็นร่างสมบูรณ์และเลือดกลับมาเต็ม” คราเค่นคลี่ยิ้มกล่าว อย่างท้าทาย ไม่นานนักข้อมูลของสกิลก็เด้งขึ้นมาที่หน้า จอของทุกคน
Skill Data: Kraken Burst
Cool Down : 00
เงื่อนไข : หลังจากที่มอสดราเค่นถูกสกิล Kraken’s Soul – Release และสิ้นสุดสถานะ ‘เหนื่อยล้า จะสามารถใช้สกิ ลนี้ได้
คืนร่างคราเคนให้กลับมาเป็น “ร่างสมบูรณ์’ ได้ทันที และ ฟื้นฟู HP ให้กลับมาเต็ม 100% สกิลนี้จะรีเซตคูลดาวน์ ทันทีที่มีการใช้สกิล Kraken’s Soul – Release
“เอาละนี่ก็ผ่านมา 18 วินาทีแล้วจะทําอะไรก็รีบทํานะ ครับ” คราเคนกล่าว
บอสดราเค่น ร่างมนุษย์ HP 225,683 / 450,000
‘อีก 42 วินาทีจะสิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
“เดี๋ยวก็รู้” พีระตอบ ดวงตาสีเทาจ้องมองอีกฝ่ายอย่าง มีเลศนัย มาร์คกระโดดมาจากด้านหลังของพีระเพื่อเริ่ม โจมตีก่อน
“กระบองยักษ์ !!” มาร์คฟาดกระบองเต็มแรงใส่คราเคน เพื่อสร้างสถานะ ‘ทลายเกราะ
6,580
พีระขว้างมีดระเบิดใส่เขาไปก่อนสามเล่มและนานาก็ยิง ธนูลำแสงสีเขียวอีกห้าดอกเป็นการช่วยเร่งดาเมจเข้าไป
อีก
1,080/1,115/1,142
1,617 / 1,589 / 1,771 / Critical 2,233 / Critical
2,286
เมื่อถึงระยะโจมตีพีระจึงร่ายสกิลทันที
“ระบำเงาสังหาร – ซากุระ 7 กลีบ !!” พระเปิดรูปแบบการ โจมตี การโจมตี 6 ครั้งแรกด้วยร่างเงา และจบด้วยการโจม ดีคริติคอลด้วยตัวเขาเอง และถีบร่างนั้นให้กระเด็นออกไป
6,215/6,450/6,680/6,816/7,216/7,572/ Critical 8,396
ดาเมจ 7 ฮิต ที่เกิดขึ้นนั้นได้รับเสริมดาเมจจากสถานะ หลายเกราะ ของมาร์ค, ผลบัพ คำอวยพรแห่งสายน้ำ, บัพเพิ่มความเสียหาย และการไร้ป้องกันของคราเด่นจาก สถานะ ‘เหนื่อยล้า’ จากผลของสกิล Kraken’s Soul – Release’ ของเจ้าหญิงคานาเลีย ทำให้เกิความเสียหาย มหาศาลครั้งละไม่ต่ำกว่าหกพันดาเมจ ซึ่งบอสโจรสลัด หนุ่มรับเต็มๆ
Total Damage: 62,117
บอสดราเค่น ร่างมนุษย์ HP 163,566 / 450,000
‘อีก 33 วินาทีจะสิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
“อิ๊ก !!” คราเค่นกระอักจากแรงกระแทก แม้จะเกิดความ เสียหายแค่ในเกมแต่ก็สมจริงมากๆ
“ต่อละนะ !! ย่าห์” เข็มร่ายสกิล โหมดร่างอัคคี’ เธอ ประเคนอัปเปอร์คัทใส่ชายหนุ่มทำให้นั้นลอยขึ้นไปใน อากาศ เธอประสานมือทั้งสองเข้าหากัน เหมือนกับตอนต่อ สู้กับเลเวียธาน
“ไม่คิดว่าจะได้ใช้ท่านี้สองรอบในวันเดียวกันนะเนี่ย ท่า ไม้ตายเขี้ยวอสูรแห่งนรก” เปลวเพลิงก่อตัวเป็นรูปหัว หมาป่า มันขยับปากตามจังหวะมือของหญิงสาว เมื่อมือทั้ง สองบรรจบกันมันจึงเคราเค่นสร้างแรงระเบิดที่รุนแรง เนื่องจากคราวนี้ไม่มีการโจมตีระยะไกลที่ต้องทําลาย เหมือนตอนสู้กับเลเวียธาน เธอจึงสามารถใช้ท่าไม้ตาย ได้อย่างเต็มที่
6,192/6,309 / 6,214/6,253/6,360 / 6,132/ 6,268/6,175/6,341
Total Damage: 54,244
บอสดราเค่น ร่างมนุษย์ HP 107,322 / 450,000
‘อีก 22 วินาทีจะสิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
ออร่าสีส้มที่แผ่ปกคลุมร่างเข็มวราได้หมดลง เธอคุกเข่า ลงกับพื้นเนื่องจากผลข้างเคียงของท่าไม้ตายเธอ ทําให้ เธอติดสถานะ ‘เหนื่อยล้า’ เช่นกัน หญิงสาวเงยหน้ามอง ผลงานตนเองที่ตอนนี้กำลังลอยเคว้งอยู่ในอากาศกำลัง ร่วงลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง
ราวกับสื่อใจกันได้ มาร์คใช้สกิล ‘กระบองยักษ์’ ทุบครา เค่นลงกับพื้นเพื่อสร้างสถานะ ทลายเกราะ ขั้นที่สอง
8,023
“Lethal Bird !!” ลำแสงสีน้ำเงินรูปร่างเหยี่ยวถูกยิงออก มาจากธนูของนานาบินซ้ำดาเมจใส่เป้าหมายอย่างไม่ ปราณีสร้างดาเมจเพิ่มอีกเกือบสองหมิ่นดาเมจ
18,812
บอสคราเค่น ร่างมนุษย์ HP 80,487 / 450,000
‘อีก 16 วินาทีจะสิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
เหลือเวลาไม่มากแล้ว การโจมตีของคนสุดท้ายจะต้องทํา ดาเมจให้มากพอที่ฆ่าเขาได้ ตุลย์กระโดดขึ้นไปเหนือร่าง ของคราเค่นดวงตาสีน้ำตาลเข้มจองมองศัตรูหมายจะเอา ชีวิตกับการโจมตีครั้งสุดท้าย
“ห ! ตอนนี้สมาชิกในทีมไม่มีใครทําดาเมจได้ถึงแปดหมื่น เลยนะครับ ขนาดคนที่เป็นตัวดาเมจอย่างนินจาหรือนักธนู ก็ทําดาเมจใส่ผมได้ไม่เท่าไหร่เลย พวกคุณแพ้แล้ว” ครา เค่นยิ้มอย่างมั่นใจ ไม่มีการตอบจากฝ่ายตรงข้าม ตุลย์เปิด หน้าต่างไอเทมของตนแล้วเรียกทวนที่มีหน้าตาเหมือน กันออกมาอีกเล่ม โจรสลัดหนุ่มตาเบิกกว้างสัมผัสได้ถึง อันตรายที่มาถึงตัวเขา
“ทวนคู่ ?” ฟ้าเอ่ยขึ้นมา ดวงตาสีม่วงจ้องเพื่อนของเธอ อย่างประลาดใจ แม้จะเล่นด้วยกันมาตลอด แต่ฟ้าไม่เคย เห็นตุลย์ใช้สกิลที่ต้องใช้ทวนสองเล่มในการโจมตีมาก่อน เลย ไม่ใช่แค่เพียงรองหัวหน้าทีมคนสวยแต่ทุกคนต่างแปลกใจเช่นกัน
“เฮอะ! ตัดสินใจเลือกคลาสแล้วสินะ” มาร์คยิ้มอย่างมี เลศนัย
“ท่าไม้ตาย ทวนคู่ – มังกรคู่ถล่มโลกา” ออร่าสีขาวแผ่ ปกคลุมทวนทั้งสองของตุลย์ก่อตัวเป็นรูปมังกร มันคำราม อย่างเกรี้ยวกราด ชายหนุ่มกระหน่ำทวนทั้งคู่แทงใส่เป้า หมายทันที
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก” คราเคนตะโกนร้องอย่างเจ็บ ปวดกับกระโจมตีที่โหมกระหน่ำของตุลย์ แม้ดาเมจแต่ละ ครั้งจะขึ้นเพียงสามถึงสี่พันต้นๆเนื่องจากเป็นสกิลที่ตุลย์ พึ่งอัพเกรดได้ไม่นาน แต่จำนวนฮิตตอนนี้พุ่งไปถึงสิบหก ฮิตแล้ว
สิบเจ็ด……สิบแปด……สิบเก้า……ยี่สิบ
Total Damage 78,669
บอสดราเค่น ร่างมนุษย์ HP 1,818 / 450,000
อีก 3 วินาทีจะสิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
ตุลย์ วัดทวนคู่ฟาดกลางลำตัวอีกฝ่ายเป็นการจบกระบวน ท่าครั้งสุดท้ายเป็นการโจมตีฮิตที่ยี่สิบเอ็ดและเป็นดาเมจค ริติคอล
Critical 5,812
บอสคราเค่น ร่างมนุษย์ HP 0 / 450,000
‘สิ้นสุด สถานะเหนื่อยล้า
ร่างบางร่วงลงสู่พื้นนอนแน่นิ่งไม่มีการตอบสนองใดๆ ใบหน้าขาวเนียนปรากฏรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
บรรยากาศกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง สมาชิกทีม Devil Breaker ต่างหายใจหอบกับมองดูผลงานของตัวเองด้วย ความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาสีน้ำเงินของคานาเลยมองทั้งสิบคนตรงหน้าของตนอย่างประหลาดใจเช่น กัน
ไม่นานนักทุกคนก็ได้รับข้อความแจ้งเตือน เป็นการ ตอกย้ำว่าพวกเขาไม่ได้ฝันไป
“ยินดีด้วยคุณจัดการบอสด่านที่สี่ คราเค่น สําเร็จแล้ว
“ภารกิจ ‘ชิงไข่มุกสิบแปดจันทรา” ประสบความสําเร็จ
“ไชโย !! พวกเราทำสำเร็จแล้ว” ทีม Devil Breaker ต่างโห่ร้องด้วยความดีใจกับการต่อสู้อันยาวนานที่ได้จบ ลงแล้ว แต่เฮฮาได้ไม่นานเสียงปรบมือของ NPC สาวก็ ทำลายบรรยากาศให้กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ดวงตาทั้ง สิบคู่หันไปหาเธออย่างพร้องเพรียง คานาเลียค่อยๆก้าว เท้าอย่างช้าๆ เมื่อมาถึงตรงหน้าพวกเขา เธอจึงยิ้มให้กับ พวกเขาด้วยความยินดี
“ยินดีด้วยนะคะ ต่อไปก็ถึงตาฉันแล้วค่ะ” พูดพร้อมกับ ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่มองทั้งสิบคนอย่างมีเลศนัย เมื่อ ได้ยินดังนั้นบางคนถึงกับหน้าถอดสี
“อย่าบอกนะว่าเธอคือลาสบอสอีกอะ ? จะกลายร่างเป็น ตัวอะไรอีกปะเนี่ย ถ้าเป็นแบบนั้นพวกฉันจะยอมแพ้แล้ว นะ” ภพถามด้วยความรู้สึกที่ไม่ไว้วางใจเจือปนไปด้วย ความอ่อนล้า
“ไม่ใช่ยะ !! สวยๆแบบฉันคิดว่าจะกลายร่างเป็นมอนส เตอร์น่าเกลียดน่ากลัวแบบตานิ่นหรือไง” เธอแก้มป่องด้วย ความโกรธ แต่ไม่นานนักเธอก็สงบสอารมณ์และกระแอม เบาๆก่อนจะเอ่ยต่อ
“ฉันหมายถึง รางวัลภารกิจนี้มีสองชิ้น ชิ้นแรกไปรับที่ Quest Center ส่วนอีกชิ้นคือรับจากฉันไงละ
“รับจากเธองั้นหรอ ? แล้วมันคืออะไรอะ ?” ตุลย์ถาม
“ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ ตอนนี้พวกนาย ‘คู่ควร’ แล้ว”
โปรดติดตามชมตอนต่อ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ