กุญแจดอกที่ 8 : เข้าเรียนวันแรก
คุณอาจจะเป็นเพียงคนๆหนึ่งที่ยืนอยู่บนโลก
ทว่าคุณรู้ไหมว่าบางที…
คุณอาจจะเป็นโลกทั้งใบสําหรับคนบางคน
วันนี้นักล่าอันดับหกต้องตื่นขึ้นมาพบกับความแปลกใจตั้งแต่เช้า
“อรุณสวัสดิ์ คาไมเคิล” เสียงหวานที่คุ้นหูเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาลุก ขึ้นมาจากเตียงและนั่นแหละคือความแปลกใจในยามเช้าวันนี้ ของคาไมเคิล เด็กสาวผมชมพูยาวในชุดนักเรียนหญิงเรียบร้อย นั่งอยู่บนเก้าอีกหน้ากระจกโดยที่มีเรกำลังถักผมเปียข้างหนึ่ง ให้ แต่เซนไม่ควรจะมาอยู่ในห้องพักของพวกเขาตั้งแต่เช้าแบบนี้ หรือเปล่า หรือมันเป็นเรื่องปกติ หรือเขาจะคิดมากไปเอง
ทว่าถึงจะนึกแบบนั้นคาไมเคิลก็เลือกที่จะเก็บคำถามพวกนั้นเอา ไว้ในใจ ขนาดนักล่าอันดับหนึ่งยังไม่เอ่ยปาก เขาที่เป็นเพียงนัก ล่าอันดับหกจะมีสิทธิพูดอะไรได้ ดวงตาสีน้ำเงินของคาไมเคิล กวาดไปมองทั่วห้องทําให้เขาเห็นฟรอสที่ยังนอนสบายใจเฉิบอยู่บนเตียงตรงกลางทั้งๆที่ตอนนี้ข้างนอกก็เริ่ม สว่างมากแล้ว
“ไปอาบน้ำแล้วปลุกหมอนั่น เสียงเย็นเยียบของคนที่ถักเปียให้ เซนอยู่ดังมา ไม่ใช่คำเปรยหรือคำขอร้องแต่มันคือคำสั่ง และต่อ ให้คนพูดไม่ระบุว่าเป็นใครคาไมเคิลก็รู้ได้ว่าคนที่เรฟานอฟเอ่ย สั่งอยู่คือเขา
เด็กหนุ่มผมฟ้าเดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้เรถักผมให้เซนต่อ โดยมีเสียงกรนของฟรอสดังเป็นฉากหลัง เพียงไม่นานคาไมเคิล ก็เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากจัดการธุระของตนเองเสร็จ เรียบร้อย ถึงตอนนี้เราเริ่มจะถักเปียอีกข้างให้เซนใกล้จะเสร็จ แล้ว ส่วนนักล่าอันดับสามก็ยังคงนอนกินบ้านกินเมืองอยู่เช่นเดิม
“คุณฟรอสครับ” คาไมเคิลสะกิดเรียกนักล่าอันดับสามอย่าง สภาพทว่าคนถูกเรียกก็ยังคงหลับต่ออย่างไม่สนใจ
เซนใช้สัมผัสของนักล่าแอบดูวิธีการปลุกฟรอสของนักล่าอันดับ หกซึ่งมันก็สนุกไม่น้อยในความคิดของเด็กสาว คาไมเคิลทั้งเขย่า ทั้งตะโกนจนเสียงแหบแห้งไปหมดแต่คนที่ต้องการจะให้ตื่นก็ยัง คงหลับไม่รู้เรื่องจนนักล่าอันดับหกที่เคยสุภาพอยากจะทำการ ชำแหละคนตรงหน้าทิ้งเสีย แม้นักล่าอันดับหนึ่งจะถักเปียให้เด็ก สาวคนเดียวในห้องเสร็จแล้วคาไมเคิลก็ยังไม่สามารถดึงฟรอสอ อกจากนิทราอันแสนสุขของเจ้าตัวได้ทำเอาเซนต้องยิ้มขำๆ
คาไมเคิลจำต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากนักล่าอันดับต้น ทั้งสองเมื่อหมดปัญญาจะปลุกคนขี้เซาคนนี้แล้วจริงๆ เขาไม่กล้า ทำอะไรที่รุนแรงไปมากกว่าการเขย่าและตีแล้ว ใครมันจะไปนึก ว่านักล่าอันดับสามจะขี้เซาได้ขนาดนี้ น่าแปลกที่คุณฟรอสยังคง รอดมาได้จนถึงปัจจุบันโดยไม่โดนใครฆ่าตอนที่นอนอยู่ไปเสีย ก่อน
แต่ความจริงแล้วถ้าฟรอสมาทำภารกิจกับคนอื่นหรือมาทำ ภารกิจคนเดียว นักล่าอันดับสามไม่มีทางหลับลึกแบบนี้ ที่เขา กล้าหลับนั่นก็เพราะไว้ใจในเขตอาคมของเรฟานอฟ ฟรอสมั่น ใจมากว่าถ้านักล่าอันดับหนึ่งเป็นคนลงมือกางเขตอาคมปกป้อง เองจะไม่มีใครสามารถฝ่าเข้ามาได้เด็ดขาดถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม
เพราะแบบนั้นเวลาไปทำงานกับนักล่าอันดับหนึ่งและนักล่า อันดับสอง ฟรอสจึงเผลอปล่อยตัวตามสบายและหลับลึกจนเร ต้องใช้ความรุนแรงในการลงมือปลุกบ่อยๆ (ซึ่งถ้าไปทำงานด้วย กันสองคนเรไม่มีทางปลกหรอก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเซน เรก็จําเป็น ต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีงาม ไม่ทิ้งเพื่อร่วมงานของตนเองเอา
ไว้) ซึ่งความจริงข้อนี้คาไมเคิลไม่ได้รู้ด้วย
เรสวมแว่นตาหนาเตอะกรอบสีขาวให้เซนเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เตียงฟรอสอย่างไม่พูดไม่จา คาไมเคิล เขยิบออกห่างตามสัญชาตญาณของตนเองที่ร้องเตือน ถ้าถึงมือ ของคุณรเมื่อไหร่เรื่องคงจบไม่สวยแน่
โครม!!
และมันก็เป็นอย่างที่คาไมเคิลคิดเมื่อร่างของนักล่าอันดับสาม หล่นลงจากเตียงเสียงดังลั่นก่อนจะกลิ้งไปกับพื้นอีกหลายตลบ ด้วยแรงถีบอันทรงพลังที่เรฟานอฟประทานให้ถึงที่
“ใคร…ใครทํา…มันเจ็บนะโว้ย” ได้ผลฟรอสกระเด้งตัวขึ้นมาจาก พื้นทันทีก่อนจะเอามือลูบเอวและสะโพกที่กระแทกพื้นอย่างจัง ด้วยความเจ็บ เด็กหนุ่มผมเขียวหันซ้ายหันขวาขณะที่ปากยังบ่น ไม่หยุด แต่มันก็น่าบ่นอยู่หรอกเพราะฟังจากเสียงเมื่อกี้ดูท่าคน ถีบจะไม่ออมแรงให้เลย ไม่รู้ว่าไปเก็บกดมาจากไหนหรือเปล่า
“ไอ้บ้าเร นี่นายถีบฉันอีกแล้วเหรอ หัดปลุกแบบคนธรรมดาบ้าง สิวะ หรือปลุกให้นุ่มนวลเหมือนปลุกเซนก็ได้” ฟรอสโวยวาย ประท้วงหาความยุติธรรมทันทีเมื่อหันกลับมาแล้วเห็นเรยืน กอดอกจ้องตนอยู่ แต่คำพูดนั้นมันทำเอาคาไมเคิลรู้แล้วว่าคุณ เรมักจะใช้วิธีนี้ปลุกคุณฟรอสเป็นประจำ แล้วทำไมไม่บอกละ ครับผมจะได้ใช้วิธีนี้ไม่ต้องไปเขย่าปลุกและตะโกนเรียกให้เมื่อย หรอก
“ไปอาบน้ำ” คำประกาศิตดังมาพร้อมไอเย็นทำเอาฟรอสรีบ หุบปากฉับแล้ววิ่งไปคว้าข้าวของเข้าห้องน้ำไปในทันที ใครจะไป อยู่ให้ตัวเองโดนเชือดเล่า
เซนอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงโวยวายของฟรอส ว่าลืมหยิบชุดนักเรียนออกมาจากในห้องน้ำ ร้อนถึงคาไมเคิลที่ ต้องไปหยิบชุดนักเรียนส่งให้อีกเพราะถึงอย่างไรคนอย่างนักล่า อันดับหนึ่งก็คงจะไม่คิดเดินมาหยิบชุดนักเรียนไปยื่นให้หรอก ส่วนเหตุผลง่ายๆที่หมอนี่ไม่มีวันทำแบบนั้นก็คือ ฟรอสไม่ใช่เซน
เอาเป็นว่าฉันลงไปรอข้างล่างนะ” คู่หมั้นสาวบอกก่อนจะ กระโดดออกไปทางหน้าต่างปล่อยให้นักล่าทั้งสองคนรอเพื่อน ร่วมห้องคนสุกท้ายที่ยังโวยวายไม่เลิก
ทําไมหมอนี่ถึงได้เป็นนักล่าอันดับสามนะ มันคือคําถามที่คา ไมเคิลไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
.**.
บรรยากาศยามเช้าในโรงเรียนคิงเคสดีมาก แสงแดดยามเช้า ช่วยให้สดใสในขณะที่ลมเย็นๆพัดพาคลายความร้อนของแสง อาทิตย์ นักเรียนมากมายต่างเดินกันขวักไขวทั้งที่เพิ่งเป็นยาม เช้า
ร่างทั้งสี่เดินอยู่บนระเบียงที่ปูด้วยพรมแดงหรูหราซึ่งตรงไปยัง ห้องเรียนของพวกเขา มองออกไปเพื่อชมบรรยากาศข้างนอก แล้วก็ได้แต่คิดว่าวันนี้ช่างอากาศดีเหมาะจะเอาฤกษ์เอาชัยในวัน แรกที่ย้ายเข้ามาเรียนจริงๆ
เด็กสาวผมชมพูเดินอยู่ตรงกลางระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสามคนที่ ทําเหมือนกับจะปกป้องไม่ให้ใครเข้าใกล้ทั้งที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ ตรงกลางก็ไม่ได้สวยอะไรนักหนา โดยเฉพาะในเวลาที่เธอถูกถัก ผมเปียสองข้างและสวมแว่นตาสีขาวหนาเตอะดูจะเพิ่มเสียด้วย ซ้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่มองดวงตาสีทองหลังกรอบแว่นแล้ว พวกเขากลับโดนดึงดูดให้เข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว
“นี่…ห้องเรียนเราห้องไหนเหรอ” เสียงหวานถามเพื่อนที่เดินมา ด้วยกัน
“อืม… 1/A ครับ” คาไมเคิลที่ถือเอกสารเกี่ยวกับการเรียนอยู่เอ่ย ตอบให้เมื่อเห็นเลขห้องที่ปรากฏอยู่บนเอกสารในมือ
“ห้อง 1/A 1 นี่น่าจะเป็นชั้นปีใช่ไหมแล้ว A คืออะไร” ฟรอสถาม พลางชะโงกหน้าเข้าไปดูเอกสารในมือนักล่าอันดับหก
“น่าจะมาจากการที่ห้องในแต่ละชั้นปีมีแค่สองห้องจึงเรียกว่า ห้อง A กับห้อง B ก็ได้ครับ” คาไมเคิลตอบคำถามให้คนขี้สงสัย แต่มันก็ทําให้นักล่าอีกสองคนได้ข้อมูลไปด้วย
“ว่าแต่เราตื่นเช้าไปหรือเปล่า อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาเรียน” ฟ รอสถามขณะก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆ เรหันไปมองคนขี้บ่นก่อนจะ เหยียดยิ้มออกมาราวกับจะดูแคลนความคิดนั้นหนักหนา
“ถ้าคิดแบบนั้นนายคงสายตั้งแต่วันแรก” เสียงเย็นของนักล่า อันดับหนึ่งเอ่ยก่อนจะหันไปสนใจกับเด็กสาวผู้เป็นนักล่าอันดับ สองต่อปล่อยให้พวกเขายืนงงกับคำพูดทิ้งท้ายนั่น
ถ้าคิดแบบนี้จะสายตั้งแต่วันแรกอย่างนั้นหรือ
และแล้วคาไมเคิลกับฟรอสก็รับรู้ว่าเหตุใดเรจึงพูดออกมาแบบ นั้นเพราะพวกเขาเกือบจะเข้าเรียนสายตั้งแต่วันแรกจริงๆ ไม่ใช่ ว่าห้องเรียนอยู่ไกลออกไปมากมาย ไม่ใช่ว่าพวกเขาหลงจนมา ไม่ถูก ไม่ใช่ว่าพวกเขาเดินเอื่อยๆกินลมแต่เป็นเพราะเด็กสาวบาง คนที่เดี๋ยวก็แวะดูนันเดี๋ยวก็แวะดูนี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นไป ตลอดทางจนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องพากันวิ่งมาห้องเรียนก่อนที่ จะสายในวันแรกกันจริงๆ
ให้ตายสิเรพูดถูก บางทีพวกเขาควรจะตื่นเช้ากว่านี้อีกมากๆ
“ผมคาไมเคิล แอนรีสครับ” เสียงของนักล่าอันดับหกแนะนําตัว เป็นคนแรกปลุกให้ฟรอสที่กำลังคิดนู้นคิดนี่ได้สติและหันกลับมาสนใจสถานการณ์ปัจจุบัน
“ผมฟรอส ธันเดอร์ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เสียงของเด็ก หนุ่มผมเขียวผู้เป็นนักล่าอันดับสามพูดขึ้นก่อนจะกวาดดวงตาสี เขียวของตนเองไปมองรอบๆห้อง
ภายในห้องที่กว้างใหญ่และสะอาดสะอ้านกลับมีนักเรียนอยู่ ทั้งหมดแค่แปดคนเท่านั้น บางอ้างว้างชะมัดเลย ห้องตั้งกว้างแต่ มีนักเรียนแค่แปดคนเอง…ไม่ใช่สิรวมพวกเขาเข้าไปอีก คนก็ เป็นสิบสอง แต่ก็ยังน้อยไปอยู่ดี
เซนาเรียส…เรียกสั้นๆว่าเซนก็ได้ค่ะ” คราวนี้เป็นตาเด็กสาวผม ชมพูแนะนำตัวเองบ้าง ดวงตาสีทองเปล่งประกายพร้อมรอยยิ้ม ที่ส่งให้ทุกคนในห้อง ถึงแม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะดูเพิ่มแต่รอยยิ้ม ร่าเริงนั่นก็ดึงดูดพวกเขาได้อย่างประหลาด
เรทีเห็นแบบนั้นยังคงยืนนิ่งราวกับว่าไม่สนใจอะไรแต่ภายใต้ ท่าทางแบบนั้นคาไมเคิลกับฟรอสรู้ได้ในทันทีว่าหมอนี่กำลัง อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก
“เรฟานอฟ” เสียงเย็นเยียบดังขึ้นภายในห้องทำเอาพวกผู้ชาย พากันชะงักขณะที่ผู้หญิงอีกสองคนกันเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าหมอ นี่จะเย็นชาไปถึงไหน
“เมื่อรู้จักกันแล้วก็เชิญเข้าที่ เอาเป็นว่าพวกเธอไปนั่งด้านหลังก็แล้วกัน มันคงไม่มีผลกระทบต่อการเรียนของพวกเธอใช่ ไหม” อาจารย์หนุ่มพูดพลางผายมือไปทางเก้าอี้สี่ตัวหลังที่ยัง ว่าง
เรเดินนำเข้าไปเป็นคนแรกโดยไม่พูดอะไรขณะเซนก้มหัวให้อา จารย์นิดๆแทนคําขอบคุณแล้วรีบเดินตามเรไปติดๆ
คาไมเคิลได้แต่ยิ้มออกมาอย่างสภาพขณะที่ฟรอสถอนหายใจ ออกมา ก็จะไม่ให้ถอนหายใจออกมาได้ยังไงเล่าหลังห้องน่ะมัน แหล่งรวมวิญญาณเลยนี่นา แล้วเรมันจะไปมีปัญหาอะไรพอเดิน ไปถึงก็เลือกโต๊ะสองตัวหน้าแล้วฉดให้เซนนั่งลงด้วย ส่วนเขากับ คาไมเคิลก็ต้องเผชิญกับพวกวิญญาณหลังห้องที่ตรงเข้ามาหา พวกเขาแทบจะในทันที
“เอาล่ะ วันนี้วิชาประวัติศาสตร์ พวกเราจะกล่าวถึงดินแดนของผู้ ใช้เวทกันบ้าง” อาจารย์หนุ่มประจำวิชาพูดออกมาทำเอาเซนหน้า มุ่ยลงเพราะความเบื่อผิดกับเพื่อนคนอื่นๆในห้องที่เริ่มจะตื่นเต้น กัน แต่จะเบื่อก็ไม่แปลกเพราะเรื่องที่อาจารย์หนุ่มคนนี้กำลังสอน เป็นเรื่องพื้นฐานที่คนในดินแดนผู้ใช้เวทต้องรู้มาตั้งแต่เด็ก
เซนหันไปมองข้างหลังแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นคาไมเคิล และฟรอสกำลังโดนวิญญาณทั้งชาย ทั้งหญิง ทั้งเด็กและทั้งคน แก่รม นี่ขนาดอยู่ในชั่วโมงเรียนและอาจารย์แกก็ยังยืนพูดอยู่ หน้าห้องไม่ไปไหนแต่เจ้าพวกนี้ก็ยังรุมถามนั้นถามนี่เสียงดัง
เซนหันกลับไปฟังอาจารย์ต่อตั้งใจว่าจะทนฟังเพื่อไม่ให้อาจารย์ หนุ่มเสียหน้าแต่ฟังไปฟังมากลับหลับไปตรงนั้นเสียได้ เรที่นั่ง อยู่ข้างๆหันไปมองคนเป็นคู่หมั้นที่นั่งหลับแล้วได้แต่ขยับยิ้มนิดๆ ให้กับภาพนั้นด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าเซนจะทำอะไรก็น่ารักไปเสีย หมด
ทว่าเพียงพริบตาเดียวรอยยิ้มนั้นก็จางหายไปราวกับไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อนพร้อมกับดวงตาสีนิลดๆที่หันไปมองด้านหลังราวกับ จะปรามเมื่อเสียงของทั้งคนและวิญญาณดูเหมือนจะยิ่งดังขึ้นจน เสียมารยาท เสียงดังแบบนี้เดี๋ยวเซนก็ตื่นหรอก
เมื่อเสียงออดหมดเวลาดังขึ้นและอาจารย์ก็ออกไปจากห้องแล้ว พวกเพื่อนๆที่รอเวลานี้มานานก็ตรงดิ่งเข้ามาหานักเรียนสี่คนที่ เข้ามาเรียนกลางเทอมทันที
คาไมเคิลกับฟรอสแทบจะเป็นลมเพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งโดนพวก วิญญาณรุมมาหยกๆนี่จะมาโดนเพื่อนร่วมห้องรุมกันอีกเหรอเนี่ย มันวันซวยอะไรของพวกเขาสองคนกัน
เซนสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อรับรู้ถึงสายตามากมายที่จับจ้องเธอ อันที่ จริงพออยู่กับเรทีไรเธอมันจะชอบนอนอย่างสบายใจจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ในเวลานี้กลับมีสายตาหลายคู่มองมาที่ เธอจนเธอทนนอนต่อไปไม่ไหวและเมื่อดวงตาสีทองลืมขึ้นเธอ ก็เห็นเพื่อนร่วมห้องยืนห่างจากเธอและเรไปประมาณเมตรหนึ่ง แต่ละคนส่งสายตามาราวกับบอกว่าอยากทำความรู้จักกับพวกเธอ ด้วย แต่ดูเหมือนพวกเขาจะหวั่นเกรงอะไรบางอย่างอยู่
เซนหันไปมองเรที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วก็เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่มีเพื่อน คนใดกล้าเข้ามาหาเลยสักคน แม้เด็กหนุ่มผมดำที่นั่งอยู่ข้างเธอ จะตีหน้าเรียบทำเป็นมองไม่เห็นเพื่อนคนใดในห้องแต่บรรยากาศ รอบตัวนักล่าอันดับหนึ่งกลับเย็นเยียบจนไม่น่าเข้าใกล้ เรมักเป็น อย่างนี้เสมอเพราะเจ้าตัวแทบจะไม่สนใครเลย แต่คนเราจะอยู่คน เดียวในโลกใบนี้ได้ยังไง
“สวัสดี…” เสียงหวานของเซนาเรียสทักพร้อมรอยยิ้มที่ส่งไปให้ เพื่อนๆทำเอาบรรยากาศน่าอึดอัดในตอนแรกคลายลงทันที
เรได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะแอบขัดใจนิดๆไม่ได้ ต่อให้เขา ไม่อยากทำความรู้จักกับใครแต่เซนคงไม่ได้มีความคิดแบบเดียว กับเขา แต่เซนจะทำอะไรเขาก็ไม่ขัดอยู่แล้ว
“ไงเซน…” เสียงหวานใสของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทักก่อนพวก เพื่อนๆที่ยังลังเลว่าจะเข้ามาดีไหม เธอชักอยากรู้แล้วว่าเรนี่น่า กลัวขนาดนั้นเลยหรือ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ