คัมภีร์เหนือเวท

กุญแจดอกที่ 10 : วิชาอาวุธกับข่าวของฟรอส (บทต้น)



กุญแจดอกที่ 10 : วิชาอาวุธกับข่าวของฟรอส (บทต้น)

ทุกคนกล่าวอ้างว่าดาบที่ดีนั้นคือดาบที่แหลมและคมกริบ ทว่าสักกี่คนจะรู้ว่าความจริงนั้นดาบที่ดีที่สุด… คือตามที่อยู่ในมือของผู้ที่ใช้มันเป็น เพราะต่อให้เป็นดาบไม้ที่ไร้ซึ่งความคม หากอยู่ในมือของผู้ที่ใช้มันเป็นแล้ว…. มันก็สามารถกลับกลายเป็นดาบจริงที่คมกริบได้เช่นกัน

วันนี้คาไมเคิลตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนล้าพลางลูบสําคอของตนเอง ที่ไม่มีบาดแผลใดๆหลงเหลือเอาไว้อีกแล้ว ฝีมือการรักษาของ นักล่าอันดับหนึ่งยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่ใช่แค่ไม่ทิ้งรอยเอาไว้แต่ไม่ หลงเหลือแม้ความเจ็บปวด

ภาพแรกที่ผ่านเข้ามาในดวงตาสีน้ำเงินของเขาคือภาพของนัก ล่าอันดับสาม ยังซุกหน้าอยู่กับหมอบนเตียงอย่างมีความสุข ท่าเมื่อวานคณฟรอสจะเสียพลังไปมากแต่ก็อย่างว่าเดินทางข้าม รัฐนี่นะ ถ้าจะกลับดึกก็คงไม่แปลกอะไร
“อรุณสวัสดิ์คาไมเคิล” และก็เหมือนเมื่อวานที่ตื่นนอนเรยังคงนั่ง ถักผมให้เซนอยู่บนเก้าอี้และเซนก็ยังคงทักเขาอย่างสดใสร่าเริง เช่นเดิม

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเซน” คาไมเคิลทักกลับก่อนจะหยิบข้าว ของเครื่องใช้เดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้ฟรอสยังคงนอนอย่าง แสนสุขบนเตียงเหมือนเดิม และราวกับภาพที่ฉายซ้ำเพราะเมื่อ เขาจัดการตัวเองเสร็จเรก็เกือบจะถักผมให้เซนเสร็จแล้วเหมือน กันแต่ไอ้คนที่ควรจะอาบน้ำแต่งตัวต่อจากเขากำลังนอนสบาย อุราอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเดิม

“คุณฟรอสครับ” คาไมเคิลเดินเข้าไปเรียกนักล่าอันดับสามที่ชัก จะนอนขี้เซาขึ้นทุกวัน ไปๆมาๆคาไมเคิลชักจะคิดว่าคนที่ทำตัวไม่ สมตำแหน่งมากที่สุดคงจะเป็นคุณฟรอสเนี่ยแหละ

“คุณฟรอสครับ” ย้ำอีกนิดเผื่อเจ้าของชื่อจะตื่นแม้จะรู้ดีว่ามัน เป็นความหวังที่ริบหรี่อย่างมากก็ตาม แต่จะให้เขาใช้ความรุนแรง เหมือนอย่างที่คุณเรทำก็คงไม่ดีมั้งทำแบบนั้นคุณฟรอสคงแย่ ในเมื่อเมื่อวานคุณฟรอสโดนคุณเรใช้ไปยังร้านหนึ่งในรัฐเซรีนนี่ นา เป็นเขา…เขาก็คงไม่อยากลุกจากเตียงขึ้นมาเผชิญความจริง ในตอนนี้หรอก

แต่ดูเหมือนนักล่าอันดับหนึ่งจะไม่คิดแบบนั้นเพราะทันทีที่เรใส่ แว่นตาสีขาวให้เซนอย่างเบามือเจ้าตัวก็ก้าวฉับๆไปยืนข้างเตียง ของนักล่าอันดับสาม
“อรุณสวัสดิ์คาไมเคิล” และก็เหมือนเมื่อวานที่ตื่นนอนเรยังคงนั่ง ถักผมให้เซนอยู่บนเก้าอี้และเซนก็ยังคงทักเขาอย่างสดใสร่าเริง เช่นเดิม

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเซน” คาไมเคิลทักกลับก่อนจะหยิบข้าว ของเครื่องใช้เดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้ฟรอสยังคงนอนอย่าง แสนสุขบนเตียงเหมือนเดิม และราวกับภาพที่ฉายซ้ำเพราะเมื่อ เขาจัดการตัวเองเสร็จเรก็เกือบจะถักผมให้เซนเสร็จแล้วเหมือน กันแต่ไอ้คนที่ควรจะอาบน้ำแต่งตัวต่อจากเขากำลังนอนสบาย อุราอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเดิม

“คุณฟรอสครับ” คาไมเคิลเดินเข้าไปเรียกนักล่าอันดับสามที่ชัก จะนอนขี้เซาขึ้นทุกวัน ไปๆมาๆคาไมเคิลชักจะคิดว่าคนที่ทำตัวไม่ สมตำแหน่งมากที่สุดคงจะเป็นคุณฟรอสเนี่ยแหละ

“คุณฟรอสครับ” ย้ำอีกนิดเผื่อเจ้าของชื่อจะตื่นแม้จะรู้ดีว่ามัน เป็นความหวังที่ริบหรี่อย่างมากก็ตาม แต่จะให้เขาใช้ความรุนแรง เหมือนอย่างที่คุณเรทำก็คงไม่ดีมั้งทำแบบนั้นคุณฟรอสคงแย่ ในเมื่อเมื่อวานคุณฟรอสโดนคุณเรใช้ไปยังร้านหนึ่งในรัฐเซรีนนี่ นา เป็นเขา…เขาก็คงไม่อยากลุกจากเตียงขึ้นมาเผชิญความจริง ในตอนนี้หรอก

แต่ดูเหมือนนักล่าอันดับหนึ่งจะไม่คิดแบบนั้นเพราะทันทีที่เรใส่ แว่นตาสีขาวให้เซนอย่างเบามือเจ้าตัวก็ก้าวฉับๆไปยืนข้างเตียง ของนักล่าอันดับสาม
*ฟรอส…คาไมเคิลก็ปลุกนายอยู่ตั้งนานแต่นายไมตีนเองต่าง หาก” เซนนาเรียสพูดแก้ให้คู่หมั้นตนเองเสียงใสพลางยิ้มให้คน ที่ถูกปลุกอย่างรุนแรงตั้งแต่เช้าของวัน

“ก็ไม่ได้ยินนี่หว่า” ฟรอสอดจะบ่นออกมาไม่ได้

พวกนักล่าทุกคนก็มักจะเป็นแบบนี้ ถ้าได้นอนห้องเดียวกับนักล่า อันดับหนึ่งเวลาไปทำงานด้านนอกพวกเขาจึงสามารถปล่อยวาง ไม่ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งพวกเขาก็มักจะหลับลึก ไปสักหน่อย

“ไปอาบน้ำ ถ้าช้าไม่รอ” เสียงหัวนเด็ดขาดของเจ้าชายแห่ งดาร์กเซสทําเอาฟรอสต้องรีบวิ่งไปหยิบข้าวของเข้าห้องน้ำไป อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ลืมส่งเสียงไล่หลังกลับมาเพราะกลัวว่านัก ล่าอันดับหนึ่งจะทําแบบที่พูดจริงๆ

“รอก่อนนะโว้ย ไม่รอของแช่งให้โดนเซนทิ้ง ช่างเป็นคู่แข่งที่ น่ากลัวเหลือเกิน…

ร่างทั้งสี่รีบวิ่งเข้าห้องเรียนพร้อมกับกริ่งเริ่มเรียนคาบแรกที่ดัง ขึ้นพอดีทําเอาเพื่อนในห้องหันมามองแล้วอยากตบมือให้อย่าง ชื่นชม รอดตายไปได้อย่างสวยงามเลยนะเพื่อน
คาไมเคิลและฟรอสหอบหายใจถี่เพราะความเหนื่อยก่อนจะเดิน ไปนั่งที่โต๊ะ เซนเพียงแค่หายใจลึกขึ้นเท่านั้นแต่เรกลับไม่มีแม้แต่ เหงื่อสักหยดเดียว

ฟรอสได้แต่บ่นในใจกับการเกือบเข้าห้องสายในวันที่สอง เหตุ ผลน่ะเหมือนวันแรกเลยเพราะเด็กสาวผมชมพูดันอยากจะเดินดู รอบโรงเรียนอีกนิดทั้งสี่ก็เลยต้องไปทัวร์โรงเรียนยามเช้าพร้อม ทักทายพวกวิญญาณที่ลอยตามมาเป็นขบวน กว่าจะรู้ตัวกริ่งเข้า เรียนก็เกือบจะดังแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้ก็อดบ่นนักล่าอันดับหนึ่งกับนักล่าอันดับสองไม่ ได้ คิดว่าพวกเขาวิ่งเร็วเท่าตัวเองหรือไงถึงวิ่งโดยใช้เต็มฝีเท้า ขนาดนั้น แต่นึกว่าเข้าห้องแล้วจะได้นั่งพักสบายๆเสียหน่อยพวก วิญญาณในห้องที่รออยู่แล้วก็พากันพุ่งเข้ามาหาทันที

“นี่พวกนายไปไหนกันมาเหรอถึงได้เกือบสายกันอย่างนี้ เพื่อน ชายที่ชื่อราอินถามออกมาพลางมองเพื่อนทั้งสี่คนที่เดินไปนั่ง ประจําที่ของตนเอง ดวงตาสีทองของเด็กสาวผู้เป็นนักล่าอันดับ สองหันไปมองก่อนจะยิ้มให้

เขาเป็นเด็กหนุ่มผู้มีดวงตาสีน้ำตาแดงเหมือนเส้นผมส่วนคน ข้างๆนั้นเป็นพี่ชายฝาแฝดที่มีชื่อว่ามาอิ เจ้าตัวมีรูปร่าง หน้าตา และนิสัยเหมือนกันเป๊ะจึงไม่แปลกที่หลายคนในห้องมักจะเรียก สองคนนี้สลับกันอยู่เสมอ แถมทั้งคู่ยังชอบอยู่ด้วยกันเสียอีก หลายครั้งที่ยังหัวเราะชอบใจที่มีคนทักตัวเองสลับกัน

“ราอินใช่ไหม” เซนเอ่ยถามทำเอาเพื่อนในห้องสนใจเพราะบาง ครั้งพวกเขายังแยกไม่ออกเลยว่าคนไหนราอินคนไหนมาอิ

“โหย…ทายถูกด้วยแหะ เธอนี่เก่งชะมัด” มาอิที่นั่งอยู่ข้างๆพูด ออกมาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

“ก็พวกเธอมีหลายอย่างที่ต่างกันอยู่ฉันก็เลยแยกออก” คําพูด ของเด็กสาวผมชมพูทำเอาฝาแฝดทั้งสองแทบจะวิ่งเข้ามากอด ด้วยความรัก คิดก็แต่ดวงตาสีนิลเย็นๆของคนที่นั่งข้างเด็กสาวที่ ปรายมามอง

“ไง…เกือบสายเลยนะพวกนาย เซนอีกคนบอกแล้วให้เดินมากับ ฉันก็ไม่เชื่อ” คามิเลียเดินเข้ามาทักทายเพื่อนทั้งสี่คนที่เพิ่งมา ถึงห้องทำเอาเซนได้แต่ยิ้ม ขืนเซนทำตามที่คามิเลียพูดจริงเรอง โวยวายออกมาแต่เช้าแน่ข้อหาที่คู่หมั้นสุดรักทิ้งเขาไปก่อน

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้สายสักหน่อย” เด็กสาวตอบกลับเป็นเวลา เดียวกับที่อาจารย์วิชาภาษาศาสตร์ก้าวเข้ามาในห้องทําให้ทุกคน ต่างกลับเข้าไปนั่งที่เตรียมตัวเริ่มคาบเรียนคาบแรกของวันนี้
“พวกเธอคงรู้ใช่ไหมว่าภาษาถิ่นในแต่ละรัฐแตกต่างกันออกไป แต่พวกเราก็จะใช้ภาษากลางที่ทุกคนเข้าใจตรงกันสื่อสารกัน มากกว่า วันนี้เราเลยจะลองมาเรียนเกี่ยวกับภาษาถิ่นในรัฐต่างๆ บ้าง” อาจารย์สาวพูดก่อนจะลงมือเขียนกระดานเป็นภาษาต่างๆ แล้วค่อยๆอ่านออกเสียงให้ฟัง

เซนาเรียสฟิงที่อาจารย์พูดอย่างตื่นเต้น สำหรับเจ้าหญิงที่ไม่มี วันออกไปนอกรั้ววังการได้รับข้อมูลใหม่ๆ งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับเธอไม่น้อยเลย ผิดกับฟรอสที่พยายามอย่างยิ่งที่จะลืมตา ขึ้นมาฟัง นักล่าอันดับสามอยากจะตบหัวตนเองหลายๆครั้งเพื่อ ให้ตื่นตัวเพราะเมื่อวานเขานอนดึกและเสียพลังงานในการวิ่งข้าม รัฐไปมากกว่าใครๆ

“ฟรอสไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้วิชาต่อไปคือวิชาอาวุธ พวกเราส่วนใหญ่ก็หลับเอาแรงกันทั้งนั้นแหละ” เพื่อนชายที่ชื่อ ยูเร็ตพูดขึ้นพลางหันไปมองเพื่อนผู้ชายรอบห้องที่พร้อมใจกัน หลับเป็นแถวเพื่อให้ดูเป็นตัวอย่างจนฟรอสชักอยากรู้ว่าคนพวกนี้ เป็นนักเรียนพิเศษซึ่งมาอยู่ห้องนี้ได้ยังไง แต่เอาเถอะคงไม่มีใคร เป็นแบบเขาที่โดนพวกวิญญาณรุมช่วยทำข้อสอบหรอก งั้นเอา เป็นว่า

“ราตรีสวัสดิ์นะคาไมเคิล ยูเร็ต” สิ้นคำพูดคนผมเขียวก็ฟุบหน้า ลงกับโต๊ะแล้วหลับไปในทันที เพียงไม่นานเสียงกรนนิดๆก็เล็ด รอดออกมาบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับล็กแค่ไหน
ยูเร็ตอดจะทึ่งกับเพื่อนคนนี้ไม่ได้ หัวถึงโต๊ะก็หลับแล้วหรือ นาย จะสบายใจอะไรขนาดนั้น คาไมเคิลอดจะส่ายหน้ากับท่าทางของ นักล่าอันดับสามไม่ได้ ทำไมคนๆนี้ถึงได้อันดับดีกว่าเขานะ คิด พลางยิ้มอย่างสุภาพให้ยูเร็ตที่เป็นคนแนะนำ

“อย่าไปสนใจเลยครับ คนบ้าก็แบบนี้แหละ

**.

วิชาต่อมาคือวิชาอาวุธและวิชานี้เป็นวิชาที่จะต้องเรียนรวมกัน ทั้งสองห้อง อันที่จริงวิชาการใช้อาวุธไม่น่าจะมีเรียนเลยสักนิด แต่เพราะโรงเรียนคิงเคสเป็นโรงเรียนพิเศษสำหรับคนชั้นสูง หรือลูกคุณหนูที่มีเงินทางโรงเรียนเลยนำมาสอนเพื่อให้สามารถ ป้องกันตัวเองได้ในเวลาฉุกเฉิน แต่ในวิชาอาวุธจะไม่มีการสอน เกี่ยวกับปืนเพราะปีนจะเป็นวิชาที่แยกเรียนออกไปอีก ซึ่งทาง โรงเรียนก็จัดให้ปืนเป็นวิชาป้องกันตัวที่ต้องมีการเรียนการสอน ทุกชั้นปี

แม้คาบ แล้วอาจารย์สาวที่สอนวิชาภาษาศาสตร์จะปล่อยพวก เขาสายแต่ปีหนึ่งห้อง A ก็เข้ามารอในโรงฝึกก่อนห้อง B เสียอีก

อาจารย์ที่สอนวิชานี้แทนที่จะเป็นอาจารย์ผู้ชายท่าทาง แข็งแกร่งอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรกกลับเป็นอาจารย์สาวผมสั้น ที่มีท่าทางคล่องแคล่วมากกว่า
นักล่าทั้งสี่คนพากันชะงักเมื่อเห็นคนที่จะต้องสอนพวกเขา ไม่ใช่เพราะดูถูกว่าผู้หญิงร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วจะมา สอนพวกเขาได้เพราะขนาดนักล่าอันดับสองที่แข็งแกร่งของ พวกเขายังเป็นผู้หญิงสวย มองภายนอกดูอ่อนแอเปราะบางจน ไม่น่าจะยกดาบขึ้น และที่พวกเขาชะงักก็ไม่ใช่เพราะรู้จักคนตรง หน้าแต่เป็นเพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารบางๆที่ปล่อยออกมาจาก คนตรงหน้าตลอดเวลา

การมีจิตสังหารได้แบบนี้สำหรับผู้ไร้เวทแล้วมันยากมากทีเดียว นั่นแปลว่าอาจารย์สาวคนนี้คงจะต้องผ่านเรื่องเสี่ยงตายและอาจ จะเคยแม้กระทั้งเคยต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันในชีวิตจริง แต่ น่าเสียดายที่เธอไม่เคยเรียนรู้ที่จะเก็บจิตสังหารของตนเองให้ มิดชิด เผยความสามารถของตนเองแบบนี้ ถ้าหากพวกเขาเป็น ศัตรูคงลงมือเก็บเธอคนแรกแน่ๆ

พวกเขาทั้งสี่คนไม่มีใครหวั่นเกรงว่าหญิงสาวที่มาเป็นอาจารย์ คนนี้จะจับจิตสังหารของพวกเขาได้เพราะพวกเขาที่เป็นนักล่า เรียนรู้ที่จะเก็บจิตสังหารให้มิดชิดมาตั้งแต่เด็ก

“น่าสงสัยนะครับ” คาไมเคิลพูดออกมาพลางเดินไปนั่งบนที่นั่ง พร้อมเพื่อนๆที่เหลือ

“ตราบใดที่ไม่ยุ่งกับเรา ตราบใดที่ไม่ขวางทางเรา เราก็จะไม่ยุ่ง เกี่ยวกัน” ฟรอสเอ่ยเสียงเย็นก่อนจะละความสนใจจากอาจารย์ เมื่อพวกนักเรียนห้อง B เดินเข้ามาในห้องฝึก และมันทำให้ฟรอสได้รู้ว่าจำนวนของเด็กทั้งสองห้องว่าแตกต่างกัน มากขนาดไหน

ขณะที่ห้อง A ซึ่งเป็นเด็กห้องพิเศษมีอยู่ประมาณสิบกว่าคนใน แต่ละชั้นปีแต่เด็กห้อง B กลับมีสี่สิบกว่าคน ช่างเป็นจำนวนที่แตก ต่างจนน่าพิศวงเลยจริงๆ

“นายเห็นคนที่เดินตามเข้ามาไหม” ราอินเอ่ยถามพวกเขาพลาง ชี้นิ้วให้นักเรียนใหม่ทั้งสี่ดู คนที่นำเด็กห้อง B เข้ามาคือเด็กหนุ่ม ผู้มีผมและดวงตาสีแดงเพลิงผู้มาพร้อมกับท่าทางมั่นใจ

“เขาเป็นใครหรือ” เซนถามออกมาอย่างอยากรู้

“เทอมที่แล้วหมอนั่นเป็นคนที่ใช้ดาบเก่งที่สุดในรุ่นเราเลยละ ราอินพูดออกมาก่อนที่มาอิจะเสริมต่อ

แถมเทอมที่แล้วผลทดสอบออกมา ที่หนึ่ง ที่สองและที่สาม เป็นของห้อง B ทั้งหมดเลย ส่วนห้องเราก็มีคาเอวแหละที่พอ จะชิงที่สี่มาได้” คำพูดของมาอิ เอาเด็กสาวผมชมพูยิ้มตอบ เหมือนจะขอบคุณในข้อมูลที่เด็กหนุ่มพูดออกมาให้ฟัง

“แล้วมาอิกับราอินเชื่อไหม ว่าเทอมนี้คนที่ได้อันดับหนึ่งถึงสาม อาจจะเป็นห้องเราก็ได้” เสียงหวานของเด็กสาวผมชมพูเปรยขึ้น พร้อมรอยยิ้ม อา…ถ้าไม่ได้ก็คงเสียทีที่เป็นนักล่าอันดับต้นกันแล้ว ยกเว้นก็แต่เรจะมีแผนการอื่น

“ได้แบบนั้นก็ดี” มาอิรับคำแต่ก็ไม่แน่ใจว่าเซนพูดจริงหรือพูด เล่นกันแน่

“ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ” เสียงใสของอาจารย์สาวดังขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องพากันตอบรับ

“ครับ / ค่ะ” อาจารย์สาวยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงตอบของ เหล่าลูกศิษย์

“เห็นบอกว่าห้อง A มีนักเรียนเข้ากลางเทอมใช่ไหม ไหนยกมือ ให้ดูหน่อยสิ” เสียงใสที่ดังมาอีกครั้งทำให้นักล่าทั้งสี่ต่างยกมือ ขึ้นอย่างเสียไม่ได้ พวกห้อง B ฮือฮาขึ้นมาอย่างสนใจเพราะทุก คนที่นี่ต่างรู้ดีว่าข้อสอบเข้ากลางเทอมของโรงเรียนคิงเคสยาก บรม

“พวกเธอเองเหรอ…อืมฉันไม่เคยสอนพวกเธอก็เลยยังไม่รู้ว่า พวกเธอจะตามเพื่อนทันไหม” อาจารย์สาวพูดพลางทําสีหน้า ครุ่นคิดแต่เพียงไม่นานเจ้าตัวก็กลับมายิ้มอย่างสดใสเช่นเดิม

“เอาอย่างนี้ ฉันจะให้พวกเธอประลองกับสี่อันดับแรกของชั้นปีดี กว่าจะได้รู้ว่าฝีมือของพวกเธอดีขนาดไหน” อาจารย์สาวพูดก่อน จะเรียกนักเรียนชายสามคนจากห้อง B และอีกคนห้อง A

“พวกเธอคงไม่รู้จักชื่อครูใช่ไหม ครูชื่อเลพีเรีย มาเกอร์สอนวิชา อาวุธเนี่ยแหละ” ครูสาวแนะนำตัวก่อนจะหันไปทางเด็กหนุ่มผม แดงกับตาสีแดงเพลิงที่เขาเห็นว่าเป็นคนเดินนำเพื่อนห้อง B เข้า มาเป็นคนแรก

“เซเรียส เลจูลได้ที่หนึ่งมาจากห้อง B เด็กหนุ่มตอบพร้อมรอย พื้นที่ส่งให้เพื่อนใหม่ทั้งสี่ที่ยังคงนั่งมองเขาลงมาจากที่นั่งอย่าง นักสนุก

“ฉันเบเนอร์ เซเทียได้ที่สองห้อง B เด็กหนุ่มคนที่สองแนะนำ ตัวพร้อมรอยยิ้มสดใสไม่ต่างจากอาจารย์สาว

“ผมเลซาน มาลีเอส ที่สามจากห้อง B” เด็กหนุ่มคนถัดไปแนะนำ ตัวพร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนร่าเริงไม่ต่างจากสองคน

“อาเอว มีเดีย ห้อง A อันดับสี่ พวกนายคงรู้จักอยู่แล้ว” คน สุดท้ายเป็นเด็กหนุ่มผมเทาพร้อมดวงตาสีเทาที่ดูจะรักความสงบ มากกว่าความสนุกแต่อย่าได้ไปทำให้เพื่อนคนนี้โกรธขึ้นมาเชียว

เอ้า…คนตรงนั้นน่ะลงมาได้แล้ว” นักล่าทั้งสี่ต่างเดินลงมา จากที่นั่งเมื่อคนเป็นอาจารย์สาวเอ่ยปากเรียก ก่อนจะมายืนประจันหน้ากับคนทั้งสี่ที่ยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว

แนะนำตัวก่อนประลองด้วย มันเป็นมารยาท” อาจารย์สาวเตือน ทำให้คาไมเคิลเริ่มแนะนำตัวออกมาก่อนเป็นคนแรก ใครใช้ให้ เขามีอันดับสุดท้ายเล่า

“ผมคาไมเคิล ห้อง A ครับ” เด็กหนุ่มผมน้ำเงินพูดอย่างสุภาพ พร้อมรอยยิ้ม

“ฟรอส ห้อง A” นักล่าอันดับสามแนะนำตัวเองพร้อมรอยยิ้ม กว้างเหมือนอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ

“เซนาเรียส ห้อง A ค่ะ” เด็กสาวคนเดียวแนะนำตัวอย่างร่าเริง ดวงตาสีทองยังคงทอประกายถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวอยู่ในร่างเด็กสาว เฉิ่มๆละก็คงมีผู้ชายหลายคนเคลิ้มไปแล้วแน่ๆ โดยเฉพาะนักล่า อันดับหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆแต่ถึงไม่ได้อยู่ในสภาพน่ารักเจ้าตัวก็ ทําให้หลายคนต้องหันไปมองอย่างสนใจเพราะน้ำเสียงใสๆนั่น

“เรฟานอฟ” สั้น ง่าย ได้ใจความแถมไม่ยอมขยายความใดๆต่อ แล้วเสียงยังเย็นเยียบนั่นก็มากพอที่จะเรียกความสนใจของทุก คนให้หันมาที่เขาแทนหญิงสาวที่เขานึกหวงนักหวงหนา

แน่นอนว่ามันก็ได้ผลเพราะไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็โดนหมอนี่ดึงความสนใจไปหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงเย็นๆหรือความ กดดันที่พวกเขารู้ล็กได้ หมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังเป็นจุดสนใจ เหมือนเดิม ฟรอสอดจะคิดอยู่ในใจเงียบๆไม่ได้

“ใครจะลองก่อนดี” อาจารย์สาวถามอย่างนึกสนุกไปด้วย

“ฉันเอง” เสียงหวานของเด็กสาวผมชมพูเสนอตัวเป็นคนแรก ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าพลางกวาดสายตามองคนทั้งสี่เพื่อ เลือกคู่ต่อสู้ แต่ยังไม่ทันเลือกใครเช่นก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียง ทีดังขึ้นข้างตัวเธอ

เลือกคาเอวเซน…แล้ว อย่าได้ชนะ” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ดวงตา สีทองเหลือบไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆแวบหนึ่ง

เชนยิ้มออกมาบางๆราวกับจะบอกร่างสูงว่าได้ตามคําบัญชา เธอ ไม่รู้หรอกว่าเหตุใดเรถึงอยากจะให้เธอทำแบบนั้น เธอรู้เพียงว่า ไม่ว่าอย่างไรเรก็ไม่มีทางทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายหรือสภาพ เพลียพลาโดยเด็ดขาด

เซนาเรียสทําตามที่เรแนะนำโดยเดินไปหยุดอยู่หน้าคาเอวก่อน จะยิ้มออกมา

“เอาละ คู่แรกคือเซนาเรียสกับคาเอว” อาจารย์สาวตะโกนให้ทุก คนได้ยินขณะคนที่เหลือต่างเดินกลับเข้าไปนั่งที่
“อย่าแสดงฝีมือออกมาหมดนะเซน จำไว้ตอนนี้เราอยู่ที่โรงเรียน ในฐานะคนธรรมดา” เรเดินเข้าใกล้คู่หมั้นสาวของตนเองอีกครั้ง หนึ่งพลางกระซิบหญิงสาวเสียงเบา

“ได้ตามนั้นเลยเร” เสียงใสตอบเบาๆก่อนจะหันไปหาคาเอวขณะ ที่เรเดินไปนั่งที่

“ผู้ประลองเลือกอาวุธ” เสียงของอาจารย์ตะโกนบอกพลางชี้ไป ทางอาวุธที่อยู่ด้านหนึ่งของลานประลอง ทั้งคาเอวและเซนต่าง เดินเข้าไปดูอาวุธต่างๆมากมายพลางครุ่นคิดว่าตนเองจะใช้อะไร ในการต่อสู้ครั้งนี้

อืม…บางอันหน้าตาแปลกๆก็ใช้ไม่เป็นเสียด้วย อย่างพัดที่ทำ จากไม้แบบนั้น เอาเถอะเลือกดาบที่ใช้ง่ายที่สุดดีกว่า เด็กสาวคิด ก่อนจะลงมือเลือกดาบและไม่นานหญิงสาวผมชมพูก็ได้ดาบที่น้ำ หนักและด้ามจับพอดีมือ แต่น่าเสียดายที่อาวุธทุกอย่างในนี้ไม่ แหลมคมและต่อให้คนธรรมดาออกแรงฟันขนาดไหนก็ไม่มีทาง ได้แผลแน่ๆ ทว่าในกรณีของนักล่าต่อให้อาวุธที่อยู่ในมือไร้ซึ่ง ความคมทุกคนก็ยังสามารถใช้อาวุธนั้นแยกเหยื่อของตนออกเป็น ชิ้นๆได้อยู่ดี

ร่างบางเดินมายืนที่ลานประลองอีกครั้งหนึ่งและเธอก็เห็นคาเอว เลือกดาบที่ยาวกว่าเธอมากมายืนรอเธออยู่แล้ว ดวงตาสีทองมอง ดาบในมือของเพื่อนร่วมห้องของตนเองอย่างพิจารณา
“อย่าแสดงฝีมือออกมาหมดนะเซน จำไว้ตอนนี้เราอยู่ที่โรงเรียน ในฐานะคนธรรมดา” เรเดินเข้าใกล้คู่หมั้นสาวของตนเองอีกครั้ง หนึ่งพลางกระซิบหญิงสาวเสียงเบา

“ได้ตามนั้นเลยเร” เสียงใสตอบเบาๆก่อนจะหันไปหาคาเอวขณะ ที่เรเดินไปนั่งที่

“ผู้ประลองเลือกอาวุธ” เสียงของอาจารย์ตะโกนบอกพลางชี้ไป ทางอาวุธที่อยู่ด้านหนึ่งของลานประลอง ทั้งคาเอวและเซนต่าง เดินเข้าไปดูอาวุธต่างๆมากมายพลางครุ่นคิดว่าตนเองจะใช้อะไร ในการต่อสู้ครั้งนี้

อืม…บางอันหน้าตาแปลกๆก็ใช้ไม่เป็นเสียด้วย อย่างพัดที่ทำ จากไม้แบบนั้น เอาเถอะเลือกดาบที่ใช้ง่ายที่สุดดีกว่า เด็กสาวคิด ก่อนจะลงมือเลือกดาบและไม่นานหญิงสาวผมชมพูก็ได้ดาบที่น้ำ หนักและด้ามจับพอดีมือ แต่น่าเสียดายที่อาวุธทุกอย่างในนี้ไม่ แหลมคมและต่อให้คนธรรมดาออกแรงฟันขนาดไหนก็ไม่มีทาง ได้แผลแน่ๆ ทว่าในกรณีของนักล่าต่อให้อาวุธที่อยู่ในมือไร้ซึ่ง ความคมทุกคนก็ยังสามารถใช้อาวุธนั้นแยกเหยื่อของตนออกเป็น ชิ้นๆได้อยู่ดี

ร่างบางเดินมายืนที่ลานประลองอีกครั้งหนึ่งและเธอก็เห็นคาเอว เลือกดาบที่ยาวกว่าเธอมากมายืนรอเธออยู่แล้ว ดวงตาสีทองมอง ดาบในมือของเพื่อนร่วมห้องของตนเองอย่างพิจารณา
เธอกับคาเอวต่างก็ใช้ดาบที่เป็นอาวุธประชิดทั้งคู่ ดาบในมือของ คาเอวจะกินบริเวณในการฟื้นและการป้องกันมากกว่าแต่ก็ใช้ว่า คนที่เสียเปรียบจะเป็นเซน มันขึ้นอยู่กับว่าใครจะดึงจุดอ่อนของ อีกฝ่ายมาคุมเกมก่อนกันคนๆนั้นถึงจะได้เปรียบ

ทว่าคิดมาถึงตรงนี้เซนก็ต้องรีบสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไป เพราะเธอไม่มีสิทธิจะได้เปรียบคาเอว ตราบใดที่เรสั่งให้เธอแพ้ เธอก็ต้องแพ้

“นายว่าใครจะชนะ” ฟรอสถามขึ้นอย่างอารมณ์ดีแต่ในใจมีคำ ตอบไว้แล้วว่าต้องเป็นเซนแน่นอน ก็เด็กสาวคนนั้นเป็นนักล่า อันดับสองเลยนะถ้าไม่ใช่เรก็อย่าหวังเลยว่าจะมีใครชนะเด็กสาว คนนั้นได้

“ผมว่าคุณคาเอวครับเพราะผมได้ยินคุณเรสั่งให้คุณเซนแพ้” คำ ตอบของคาไมเคิลทำเอาฟรอสหันไปมองนักฆ่าอันดับหนึ่งอย่าง ไม่เข้าใจ

“ทำไมละเร…นายน่าจะให้เซนแสดงฝีมือให้เต็มที่เพื่อจะไม่ให้ ใครมายุ่งกับเธอไม่ดีกว่าเหรอ” นักล่าอันดับสามไม่เข้าใจความคิด ของเด็กหนุ่มคนนี้เลยสักนิด

“โง่… ยิ่งแสดงความสามารถออกมาก็จะยิ่งโดนเพ่งเล็ง” เสียง เย็นเอ่ยออกมาเมื่อวางแผนบางอย่างไว้ในใจราวกับพวกเขาไม่มีค่าอะไรให้ต้องสนใจ…ไม่มีค่าแม้แต่จะทำให้ คนๆนี้เหลียวมามอง

เมื่อวางเซนให้พ้นจากสายตาก็ต้องมีตัวดึงดูดสายตาให้แผนที่ วางไว้ดีขึ้นและคนที่จะดึงดูดสายตาพวกนั้นจะต้องเป็นพวกเขา สามคน คนๆนี้จะน่ากลัวไปถึงไหนกันเพียงแค่ให้เด็กสาวคนนั้น ปลอดภัยคนรอบข้างจะเป็นยังไงก็ได้อย่างนั้นหรือ

ไม่ใช่สิ…ไม่ใช่เพียงแค่คนรอบข้าง แม้แต่ตัวเองเรก็ยังยอมเป็น ตัวล่อ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเด็กสาวคนนั้นเพียงคนเดียว

“มันคือสิ่งที่ให้พวกเราพิจารณาหรือคำสั่ง” ฟรอสกัดฟันถาม พลางมองใบหน้าราบเรียบของเรฟานอฟ

นายน่ะเคยเห็นพวกเรามีค่าหรือไม่ หรือเห็นพวกเราเป็นเพียง หมากตัวหนึ่งที่จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น

เสียงปะทะดาบของเซนาเรียสยังดังมาไม่หยุดแต่คนรอคําตอบ กลับได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตนเองเท่านั้น จะให้พวกเขาทำ จริงๆหรือ

เคร้ง… เสียงคาเอวปัดดาบในมือของเซนจนหลุดไปกองกับพื้น ก่อนจะใช้ดาบไม้ในมือของตนเองจ่อคอหญิงสาว ทว่าเสียงนั่น ไม่ได้เข้า ฟรอสและคาไมเคิลเลยแม้แต่น้อยเพราะในสมองของ พวกเขามีเพียงคำพูดของนักล่าอันดับหนึ่งเท่านั้น

คำสั่ง!!” เสียงเฮของเพื่อนๆที่ดังขึ้นยามเมื่อคาเอวเป็นฝ่ายชนะ ราวกับจะกลบบทสนทนาทั้งหมดของนักล่าทั้งสามทว่าเรก็ได้ยิน คําตอบของนักล่าอันดับสามกับนักล่าอันกับหกชัดเจน

“ถ้ามันเป็นคำสั่งของนักล่าอันดับหนึ่ง…พวกเราก็พร้อมปฏิบัติ

คาม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ