บทที่ 5 ตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว
“เจ้าดูดีๆ ว่าเจ้างดงามเพียงใด
เจ้าแม่กวนอิมปรากฏกายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม จิ้งจอกน้อย ดีใจเป็นอย่างยิ่ง นางวิ่งวนรอบร่างของเจ้าแม่
“อาจารย์ ข้ากลายเป็นเซียนแล้ว ข้ากลายเป็นเซียนแล้ว เจ้าค่ะ”
“ใช่และเจ้าก็งดงามอย่างที่ข้าคิด ใบหน้านี้เห็นทีว่าทั้งแดน สวรรค์คงหาเทพที่มาเปรียบได้ยากยิ่ง
เจ้าแม่เอ่ยต่อ
“หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”
เจ้าแม่กวนอิมวาดมือ เสกกระจองเต็มบาน ให้นางใบหนึ่ง จิ้งจอกน้อยจ้องมองกระจกบานนั้นด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ สตรีในกระจกคือเทพเซียนผู้งดงามอย่างที่สุด
นางสำรวจร่างตนเองด้วยนิ้วมือสั่นระริก เมื่อมองจนเต็มตาก รู้สึกยินดีปนหวาดหวั่นด้วยตกตะลึงในรูปโฉมที่งดงามของ ตนเอง นางก้าวถอยหลังไปหลายก้าวทั้งหยิกทั้งส่วนตนเองให้ ตื่นจากฝันอันงดงามนี้
นางเจ็บจริง ไม่ใช่ฝันหรอกหรือ
“เป็นตัวศิษย์หรือเจ้าคะ” แม้แต่เสียงของตนเองยังไพเราะเพราะพริ้งราวกับจิ้งหรีดกินน้ำค้างทิพย์จนจิ้งจอกน้อยตกใจ
“ข้าผู้เป็นอาจารย์ยินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดความพยายามของ เจ้าก็บรรลุผล”
เจ้าแม่เอ่ยจบแล้วตวัดแส้ในมือพาร่างของเจ้าสุนัขจิ้งจอกเก้า หางที่กลายเป็นเซียนผู้งดงามขึ้นสู่เบื้องบนของทะเลทักษิณ เหนือพื้นน้ำยาม ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างจึงปรากฏร่างกาย สตรีผู้งดงามสองคนลอยเด่นภายใต้วงกลมสีทองสุกสกาว
เจ้าจิ้งจอกเก้าหางยังไม่ทันได้หายตกตะลึง ก็ได้รับความ ปรีดายิ่งขึ้นเมื่อเจ้าแม่เอ่ยกับนางว่า
“เพราะเจ้าหมั่นภาวนาจิตใจแน่วแน่จึงบรรลุเป็นเซียนได้อย่าง
ตั้งใจข้าขอชื่นชมนัก บัดนี้ได้เวลาทำพิธีต้องรับเจ้าอย่างเซียนผู้
อื่น ภายใต้แสงจันทร์สุกสกาวของเทพจันทราขาขอมอบชื่อให้
เจ้าว่าฮวาเย่ห์หยวนหมายถึงดวงจันทร์อันงดงาม แต่เพื่อ
เป็นการตอบแทนสวรรค์เจ้าต้องทำภารกิจบางสิ่งให้สำเร็จ ใน
วันพรุ่งนี้ข้าจะนำพระราชสานจากองค์เง็กเซียนมาให้เจ้าจงรอ
คอยให้ดี”
“ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ”
เจ้าสุนัขจิ้งจอกเก้าหางได้รับนามใหม่ว่า ฮวาเห์หยวน
มีชื่อแซ่เป็นของตนเองเปรียบประดุจคำให้พรของเจ้าแม่กวน อิมทำให้นางอิ่มเอมและมีความสุขยิ่งนัก นางสาบานต่อหน้าเจ้า แม่ภายใต้แสงจันทร์ไม่ว่าต้องเอาวิญญาณเข้าแลกนางก็จะทำ ภารกิจเพื่อตอบแทนสวรรค์ให้สําเร็จ
หลังกลับจากการเข้าพิธีรายงานตัวเขียนใหม่ คิ้วงามของฮวา เย่ห์หยวน ขมวดเข้าหากันไม่หยุด นางจะทำเช่นไรถึงจะแก้ไข เรื่องยุ่งยากนี้ได้ กว่านางจะเป็นเซียนได้ใช้เวลานับหมื่นแสน ลำบากยากเข็ญยังไม่มีโอกาสเสวยสุขเลยด้วยซ้ำ นี่นางจะต้อง วิญญาณแตกสลายตั้งแต่ยังไม่พ้นหนึ่งเดือนเลยหรือ ฮวาเล่ห์ หยวนนั่งคอตกไหล่ลู่อยู่ท่ามกลางสายน้ำไหลรินรอบกายใน นําหนักทักษิณ
“เจ้ากลุ้มใจอันได เชื่อมั่นในตนเองหน่อยเจ้าเป็นสัตว์เวท เพียงตัวเดียวในห้าหมื่นปีที่สามารถบรรลุเป็นเซียนได้เชียวนะ ควรทำท่าทางดีใจกว่านี้หน่อยสิ” เสียงราบเรียบแต่เปี่ยมด้วย เมตตาของเจ้าแม่ดังขึ้น
“ศิษย์สงสัยว่าเหตุใดเป็นศิษย์เจ้าคะ”
“จอมมารมีนิสัยเย็นชา โหดเหี้ยมเย่อหยิ่งก็จริง แต่เท่าที่รู้คือ เขาไม่มีนิสัยทําร้ายสตรีมาก่อน สตรีที่เข้าใกล้เขาล้วนหวาดกลัว หน้าที่นี้เจ้าจึงเหมาะสมที่สุด ด้วยประการแรกเจ้ามีนิสัยมุ่งมั่น กล้าหาญหาผู้ใดเปรียบ ประการที่สอง ในยามนี้บนสวรรค์ข้า บอกเจ้าได้เลยว่าหามีผู้ใดงดงามเทียบเคียงเจ้าได้ ดังนั้นหน้าที่ นี่เง็กเซียนฮ่องเต้จึงได้มอบให้แก่เจ้าอย่างไรเล่า”
“แต่ข้าเพิ่งเป็นเซียนได้วันเดียวนะเจ้าคะ”
“เพราะเพิ่งเป็นจึงยังไม่มีความเย่อหยิ่ง เจ้าจึงเหมาะที่จะ ยั่วยวนเขาที่สุดตั้งใจทำงานของเจ้าให้ดีเถิดข้ามีกิจธุระมากเจ้า ก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้แล้วดังนั้นดูแลตนเองให้ดี หากเกิดเรื่องจําเป็นเจ้ารู้ว่าต้องเรียกข้าอย่างไรไม่ใช่หรือ” “แต่ขากลัวเจ้าค่ะ ให้ผู้อื่นไปแทนได้หรือไม่เจ้าคะ”
“ดูเถิดเจ้า เจ้ามีใบหน้างดงามเช่นนี้จะมีผู้ใดกล้าหักหาญ น้ำใจเจ้าเล่า ไม่ว่าผู้ใดหากเป็นบุรุษไม่มีทางที่จะต้านทานเสน่ห์ ยั่วยวนของเจ้าได้อีก อีกทั้งสิ่งที่เจ้าพิเศษกว่าผู้อื่นคือเจ้ามีกำเนิด เป็นสุนัขจิ้งจอกเก้าหางพอบรรลุกลายเป็นเซียนเจ้าถึงได้มีพลัง แห่งการดึงดูดบุรุษเพศได้ถึงเพียงนี้
“พวกท่านส่งให้ข้าไปยั่วยวนเขาเท่ากับให้ข้าไปตายชัดๆ หากสวรรค์ไม่ต้องการให้ข้าบรรลุเซียนเพียงบอกกล่าวดีๆ เหตุ ใดต้องทำร้ายข้าด้วยวิธีนี้กันเล่า” แม้จะเอ่ยเช่นนั้นนางก็ก้ม หน้ายอมรับ อย่างน้อยหากตายก็ยังมีหน้ามีตาว่าตนเองเคยเป็น เขียนมาแล้ว
“เรื่องนี้เป็นชะตาลิขิตของเจ้าตั้งแต่แรกเจ้าจะพร่ำบ่นอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งใดได้ข้าไม่มีเวลาคุยกับเจ้าแล้วเตรียมตัว ไว้เถิดอีกไม่กี่วันต้องเดินทางแล้ว”
“ท่านอาจารย์เจ้าคะหากข้าตายจะเกิดสิ่งใดขึ้นเจ้าคะ”
“ข้าไม่คิดทอดทิ้งเจ้าหากเจ้าตายจริงข้าจะรวบรวมดวงจิตของ เจ้าให้ไปเกิดที่โลกมนุษย์ดีหรือไม่”
“แต่มนุษย์น่าหวาดกลัวจิตใจไม่แน่นอนข้าไม่อยากเกิดเป็น มนุษย์”
“เกิดเป็นมนุษย์ยังมีโอกาสบำเพ็ญตบะขึ้นมาเป็นเซียนตอนนั้นข้าจะช่วยเจ้าอีกครั้ง”
เจ้าแม่กวนอิมเอ่ยอ่อนโยน ฮวาเห์หยวนจําต้องยอมพยัก หน้ารับชะตากรรมแต่โดยดี
“ท่านอาจารย์เจ้าคะ จอมมารผู้นั้นมีนามว่าอย่างไร” “นามของเขานั้นคือ ลี่เซียนจ้าน เจ้าจงจำไว้ให้มั่น
“ลีเซี่ยนจ้าน” ฮวาเล่ห์หยวนทวนคำ พร้อมกับท่องชื่อนี้เอาไว้ ในใจให้มั่น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ