บทที่ 18 จะไปกันสองคนเหรอ ไม่มีทาง
กวินตราขยับแว่นตาขึ้นลงขณะสำรวจความสวยตัวเองใน กระจกมองหลัง เธอถักเปียสองข้าง แต่งหน้าแบบบางที่สุด ชุดที่ สวมใส่ก็ไม่ใช่แซ็กหรือเดรสแบรนด์ดังเหมือนทุกวัน แต่เป็นกาง เกงยีนส์สีซีด และเสื้อยืดคอวีรัดรูปสีดำที่ไปสอยมาจากห้าง สรรพสินค้า
แน่นอนล่ะว่า พนักงานขายตกใจไม่น้อย กับการที่ว่าที่ คุณนายเจ้าของห้างมาเดินช้อปเสื้อผ้าที่ไม่ใช่แนว เพราะ พนักงานตั้งแต่ระดับปลายแถว ไล่ขึ้นไปจนถึงระดับผู้บริหาร ระดับสูง ไม่มีใครไม่รู้จักหล่อน
แม้จะไม่เคยคุ้นกับการแต่งตัวแบบบ้านๆ ทว่าเมื่อได้ลองสวม เสื้อผ้าพวกนี้ดูสักตั้ง หล่อนก็พบว่า มันทำให้การเคลื่อนไหว คล่องแคล่วมากขึ้น ทั้งยังไม่ต้องระวังเวลาจะนั่ง นอน หรือเดิน
หวังว่าการเปลี่ยนลุคส์ครั้งนี้ จะดึงความสนใจของคุณเล็กได้ บ้างนะ
เธอลงจากรถคันหรู เดินฉับๆ เข้าไปทางหลังร้าน นี่เพิ่งจะเก้า โมงเช้า กรภัทรอาจจะยังไม่เข้ามา แต่เธอจะมาดูความคืบหน้า ก่อน แล้วค่อยชวนเขาออกไปเดินเล่นชิลๆ ตอนพักกลางวัน
พนักงานที่ร้านเหลือเพียงไม่กี่คน ที่ต้องเตรียมพวกวัตถุดิบ ล้างถ้วยล้างจาน เก็บกวาดร้าน เพื่อเตรียมเปิดให้บริการในช่วง
บ่าย
“สวัสดีค่ะคุณกวินตรา นัดกับคุณชายไว้เหรอคะ ผู้จัดการรอ อยู่ในห้องทํางานค่ะ”
“อ้าว…สวัสดีค่ะพี่ปลา” หล่อนยกมือไหว้คุณผู้ช่วยที่เดินออก มาต้อนรับ แล้วขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะทำเนียนถามกลับไปว่า “เอ๊ะ…คุณเล็กมาถึงแล้วเหรอ
คะ?”
“ผู้จัดการไม่ได้กลับบ้านค่ะ เมื่อคืนนอนค้างที่นี่กับพนักงาน บางส่วน พวกเราทำโอทีกันจนดึกเลยค่ะ”
“เหรอคะ….พนักงานบางส่วนที่นอนค้างที่นี่ มีใครบ้างเหรอ คะ?”
“ก็พวกช่างและก็พนักงานผู้ชายน่ะค่ะ เดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟมา ให้นะคะ เชิญคุณกวินตรา ในห้องเลยค่ะ
“ขอบคุณค่ะ” กวินตราถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่มีชื่อยัยเด็กชื่อ ประหลาดพักค้างอ้างแรมที่นี่ด้วย
เธอเดินย่องไปหยุดที่หน้าห้องทำงานของกรภัทร เงี่ยหูฟังว่า เขาอยู่กับใครหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นจะได้ยินเสียงอะไรนอกจาก เสียง ทุกๆ กักๆ ที่ดังออกมา
เธอแง้มบานประตูออกเล็กน้อย แล้วมองเข้าไป ก็เห็นว่าเขา กำลังยืนหันหลังมาทางประตู มือก็เปิดแฟ้มเอกสารพลิกไปพลิก มา เมื่อเห็นแล้วว่าเขาไม่ได้ยุ่งกับงาน เธอก็เปิดประตูแล้วเดิน เข้าไป
“มาแล้วเหรอปลั๊ก?”
เสียงร้องทักของเขา โดยไม่ได้หันมา ทำให้เธอสะดุ้งในวินาที แรก แล้วก็เจ็บจี๊ดเมื่อรู้ว่าเขากำลังรอคอยใครอยู่
“ผมยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย” กรภัทรซ่อนยิ้มอยู่ในสีหน้า “หิวจัง…เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกัน
เขาเก็บแฟ้มเข้าที่เมื่อได้เอกสารที่ต้องการ ก่อนจะหันกลับมา แล้วก็หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อคนที่อยู่ในห้องกลายเป็นผู้หญิงอีก คน
“อ้าว! กวินเองเหรอ…” เขาอึ้งไป เมื่อเห็นกวินตรา ในภาพ ลักษณ์ใหม่ ทั้งแว่นตา เสื้อผ้าหน้าผม ถอดแบบปรารถนามา เปี๊ยบ
“ค่ะ” กวินตรายิ้มหวาน ข่มความขุ่นมัวไว้ในใจ รู้ดีว่ากรภัทร ไม่ชอบให้เธอเซ้าซี้ “กวินมาดูความคืบหน้าของบาร์น่ะค่ะ เพราะ หลายวันแล้วไม่ได้เข้ามาดูเลย”
“คืบหน้าไปเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ เหลือแต่พวกวัสดุตกแต่ง ที่ผมกำลังจะไปดูวันนี้”
“จริงเหรอคะ…ดีจัง วันนี้กวันว่างทั้งวันเลยค่ะ” เธอรีบบอก แม้ เขาจะไม่ได้เอ่ยปากชวน “แต่ว่า…กวินยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย หิวจนทนไม่ได้แล้วนะคะเนี่ย”
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมๆ กับที่คุณผู้ช่วยโผล่เข้ามาพร้อมกับถาดข้าวต้ม กาแฟ และขนมปังแยม
“เมื่อได้ยินคุณกวินตราบ่นว่าหิว นี่ค่ะ ข้าวต้มร้อนๆ ที่พ่อ ครัวเพิ่งทำเมื่อเช้า ทานก่อนนะคะจะได้มีแรง
กวินตราจึงได้แต่ยิ้มแหยๆ ที่ถูกขัดจังหวะ ผิดกับกรภัทรที่นึก ขอบคุณผู้ช่วยสาวรุ่นพี่ ที่เข้ามาได้ถูกที่ถูกเวลา เพราะไม่อย่าง นั้น เขาจะต้องทนฟังหล่อนรบเร้าให้พาออกไปจนหูชาแน่
เขามีนัดกับปรารถนา ตั้งใจว่าจะพาเธอไปทำธุระไม่คิดว่า กวินตราจะโผล่มาแบบไม่ได้นัดหมาย และอาจทําให้ตารางนัด ของเขาไม่เป็นดังหวัง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขารู้แล้วล่ะว่าจะเป็นใคร ไม่ได้ จึงเอ่ยปากอนุญาต และบอกกับผู้ช่วยในประโยคหลัง
“เชิญครับ…พี่ปลาครับ ขอข้าวต้มอีกสองที่นะครับ”
“ได้ค่ะ”
ประตูห้องเปิดออก คุณผู้ช่วยเดินออกไป พร้อมกับที่ปรารถนา ก้าวเข้ามาเช่นกัน
ปรารถนายกมือไหว้คุณผู้ช่วยที่ยิ้มเป็นนัยๆ ก่อนเธอจะเข้าใจ รอยยิ้มนั้น เมื่อเข้ามาในห้องแล้วพบว่าคุณชายยืนอยู่หน้าตู้เก็บ เอกสาร ขณะที่แขกกิตติมศักดิ์ของเขา นั่งอยู่หน้าชามข้าวต้ม หอมฉุย
เธอยกมือไหว้คนทั้งสอง ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าคนหนึ่ง ยกมือรับไหว้ ส่วนอีกคนเพียงแต่เหลือบตาขึ้นมองแล้วก็หันหน้า หนีไปทางอื่น
คุณกวินตราโผล่มาตอนนี้ก็ดี เพราะมันทำให้เธอไม่รู้สึก ประดักประเดี๋อเวลาอยู่กับเขาตามลำพัง ยิ่งเขาพูดจาแปลกๆ เมื่อวาน เธอก็ยิ่งคิดมาก คิดจนนอนไม่หลับทั้งคืน
ฝ่ายกวินตรา เมื่อเห็นว่าใครโผล่มา เธอก็เอากระเป๋าถือและ กุญแจรถวางไว้บนโซฟาจนเต็มพื้นที่ ป้องกันไม่ให้ใครหน้าไหน มานั่ง
“เอ่อ…เดี๋ยวปลั๊กไปรอข้างนอกนะคะ” เธอขยับตัว อึดอัดกับ บรรยากาศที่ไม่สู้ดีนักในห้อง
“ผมขอข้าวต้มปลาสองที่เพื่อปลูกด้วยนะ…กินรองท้อง
ก่อน เดี๋ยวเราต้องไปธุระกันหลายที่” ชายหนุ่มส่งสายตาวิงวอน
พลางเก็บเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะจนหมด
“เอาเก้าอี้มา….กินที่โต๊ะผมนี่ล่ะ ผมก็ต้องกินด้วยเหมือนกัน
“เอ่อ…ค่ะ” ปรารถนาไม่กล้าปฏิเสธ เธอจึงเดินก้มตัวผ่านหน้า กวินตราไป ยกเก้าอี้อีกตัวมาไว้หน้าโต๊ะทำงานของเขา แล้วนั่ง รออย่างสงบเสงี่ยม
กวินตราเองก็ไม่ยอมเช่นกัน หล่อนลุกไปยกเก้าอี้อีกตัวมาไว้ ใกล้ๆ เด็กสาว ก่อนจะยกชามข้าวต้มขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก็หล่อน จะร่วมวงด้วย ใครจะทำไม!
“กินด้วยกันหลายคน…อร่อยดีนะคะ” ว่าแล้วเธอก็ตักข้าวต้ม เข้าปาก เดี๋ยวโชว์คนทั้งสองอย่างเอร็ดอร่อย
ไม่นาน…คุณผู้ช่วยก็ยกชามข้าวต้มเข้ามาเสิร์ฟ
อาหารเช้ามื้อนี้ เป็นมื้อที่กรภัทรอึดอัดที่สุด เพราะกวินตราไม่ กินอย่างเดียว แต่ยังชวนคุยจ๊ะ โดยขุดเรื่องสมัยเก่าแก่มาเป็น หัวข้อสนทนา เพื่อกันคนที่ไม่ได้มีตัวตน ณ ช่วงเวลานั้นออกไป
กระทั่งพวกเขาเตรียมตัวออกไปข้างนอกนั่นล่ะ หล่อนจึงได้
หยุดพูด
“กวินไปด้วยนะคะ เรื่องเลือกของตกแต่งเนี่ย กวินถนัดเป็นที่ หนึ่งเลยค่ะ”
“ได้สิ…เรามีเวลาถึงตอนเที่ยงคงเลือกดูไม่นาน
“แหม…แต่รถก็ติดออกนะคะ”
“ใครว่าผมจะเอารถไปล่ะ ผมจะนั่งรถไฟฟ้าต่างหาก
“ต๊ะ!” กวินตราผงะ เมื่อได้ยินว่าต้องนั่งรถไฟฟ้า เผลอๆ อาจ ไม่ได้นั่งเพราะคนใช้บริการเยอะ อาจต้องห้อยโหนไปตลอดทาง
โอย…แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
“กวินจะขับรถไปก็ได้นะ แต่ผมชอบขึ้นรถไฟฟ้ามากกว่า ประหยัดแถมสะดวกดีด้วย”
“ไปก็ไปค่ะ แหม…ขึ้นรถไฟฟ้าสนุกจะตาย”
เรื่องที่กวินตราคิดว่าสนุก กลับไม่สนุกอย่างที่คิด เมื่อรถไฟฟ้าขบวนที่พวกเธอโดยสาร แทบจะไม่มีที่ว่างให้ยืนเกาะ ทั้งต้องเบียดเสียดกับผู้คนหลากหลายอาชีพ ทั้งหญิงและชาย แออัดเหมือนปลากระป๋อง ไหนจะเหงื่อไคล และกลิ่นตัว กลิ่น น้ำหอม ตลบอบอวลจนเธอแทบสลบ
โอ๊ย! ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องลำบากขนาดนี้เลย คุณชายนะ คุณชาย มีรถราคาเป็นล้านไม่นั่ง มายืนเบียดกับพวกรายได้ต่ำ ซะงั้น!
เธอเหลือบมองหาที่นั่งว่างระหว่างรถจอดในสถานี แล้วรีบ เบียดตัวเองไปนั่งอย่างว่องไวขณะที่คนทยอยออกจากรถ โชคดี ที่ยังเหลืออยู่หนึ่งที่ แม้จะเผื่อคุณชายไม่ได้ แต่ตัวเองก็ขอสบาย ก่อนล่ะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ