เกิดใหม่เป็นแม่นางลัคกี้

บทที่ 8 บะหมี่เนื้อกุ้ง



บทที่ 8 บะหมี่เนื้อกุ้ง

รถจ้กรยานเร็วกว่าสองเท้าอยู่แล้ว เซี่ยงหงหยวนพาเธอ ขี่จักรยานไปไม่ถึงยี่สิบนาที ทั้งสองคนก็มาถึงในเมือง

ในเวลานี้เอง ร้านค้าต่างๆในเมืองยังคงปิดอยู่

ในยุคปลาย80 เศรษฐกิจตลาดยังคงเข้าไม่ถึงเมืองเล็กๆ แบบปิดของพวกเขา ดังนั้นร้านค้าต่างๆในเมืองจึงไม่เยอะ นอกจากร้านหนังสือซินหัว ร้านขายเทป ร้านเกม ร้าน เสื้อผ้าเพียงไม่กี่ร้านแล้วก็พวกร้านขายส่งแล้ว ที่เหลือก็ เป็นพวกร้านค้าประปรายแล้วก็ร้านอาหารเช้าอีกไม่กี่ร้าน เท่านั้น

แต่พอถึงช่วงศตวรรษที่21 ต่อให้เป็นเมืองเล็กๆก็ยัง ตกแต่งไปด้วยไฟนีออนไปหมด พวกวัยรุ่นเสียงดังอึกทึก ทั้งคืน ร้องคาราโอเกะเล่นเกมกัน ตลอดทั้งคืนจนสว่าง ถือเป็นเรื่องปกติ

แต่ตอนนี้ ในเมืองเงียบกริบ นอกจากร้านอาหารเช้าไม่กี่ ร้านที่เปิดร้านกำลังนวดแป้งทำซาลาเปาทำหมั่นโถวแล้ว ร้านค้าอื่นๆก็เงียบกริบกันหมด คนส่วนใหญ่ยังคงนอน หลับกันอยู่

แต่ว่า ก็เป็นความเงียบสงบที่ไม่ได้เจอมาในช่วงหลายปี มานี้เหมือนกัน ความเงียบที่แสนอบอุ่นช่วยปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้าไปจนหมดของหลัวหลิงหลิงได้ไม่ น้อย

ดีจริงๆ

แม้ว่าในศตวรรษนี้สรรพสิ่งยังไม่มีการพัฒนามากพอ แต่เธอก็ยังคงเด็กอยู่! เด็กวัยรุ่นที่สามารถทำให้ทุกๆ อย่างสามารถเป็นไปได้! ครั้งนี้เธอจะต้องใช้ชีวิตให้ดีๆ เพื่อชีวิตของตัวเอง!

แถม ถ้ายังไม่พัฒนาก็เท่ากับว่ายังมีธุรกิจอีกมากที่ ต้องจัดตั้งขึ้น ความบันเทิงทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่อยู่ที่ นี่ล้วนแต่อยู่บนที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่ได้มีการจัดตั้งจัด สร้างอะไรขึ้นมาทั้งนั้น ที่เธอมีก็คือพื้นที่ว่างในการแสดง ศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่!

แค่กวาดสายตามองไป ธุรกิจมากมายก็พากันผุดขึ้นมา ในหัวแล้ว ในใจของเธอเริ่มกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที

ขณะที่ในใจกำลังคิดวางแผนว่าจะเริ่มธุรกิจยังไง รถ จักรยานของเซี่ยงหงหยวนก็มาถึงยังสถานีรถโดยสาร ประจําทางแล้ว

หลัวหลิงหลิงกระโดดลงมาจากเบาะด้านหลัง เธอกะที่ จะพูดกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะหันหัวรถจักรยานจากไปแล้วก่อน!

ไปได้อย่างกระชับฉับไวมาก!

หลัวหลิงหลิงอึ้งตะลึงไป ก่อนที่เธอจะยิ้มๆอย่างหมด หนทาง ดูท่าฉันคงจะคิดไปเองคนเดียว เขาก็แค่ใจดีช่วย ฉันเท่านั้น เขาไม่ได้สนใจอะไรในตัวฉันเลยสักนิด!

“อื้อ แบบนี้ก็ดีแล้ว ดีแล้วล่ะ”

เธอวางใจลงได้อย่างสมบูรณ์

หลังจากที่เซี่ยงหงหยวนส่งหลัวหลิงหลิงลงแล้ว เขา ก็ขี่จักรยานไปที่แผนกรับซื้อขายปลาในเมือง แม้ว่าใน หมู่บ้านจะมีคนไปรับทุกวัน แต่ราคาในเมืองมันแพงกว่า ในหมู่บ้านครึ่งกิโลกรัมละสองเหมา ดังนั้นแม่ของเขามัก จะให้เขามาขายในเมืองอยู่บ่อยๆ

ตอนที่เขามาถึง คนที่รับซื้อปลาก็เพิ่งจะมาถึง!

พอเห็นเซี่ยงหงหยวนขี่จักรยานมา คนคนนั้นก็ตกใจ ทันที”หงหยวนทำไมวันนี้คุณมาเช้าขนาดนี้? ถ้าคุณมา เช้ากว่านี้ ผมก็ยังไม่ได้ออกมาตั้งแผงเลยนะ! ”
“มีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยมาก่อนน่ะ เซี่ยงหงหยวนพูด อย่างนิ่งๆ จากนั้นก็เอาตะกร้าที่แขวนอยู่ที่ด้ามจับรถ จักรยานยื่นออกไป

คนรับซื้อปลารีบมาชั่งน้ำหนัก น้ำหนักไม่เบาเลยจริงๆ

ผมว่ายังไงก็ประมาณห้ากิโลได้! “ เขาชั่งอยู่สักพัก”สิบกิโลพอดี! ครึ่งกิโลสองเหมา

ทั้งหมดก็สองหยวนสี่เหมา รับไปสิ นี่เงินของคุณ!

เซี่ยงหงหยวนรับเงินมา แต่กลับพบว่าสายตาของคนรับ ซื้อปลากําลังมองไปยังข้างหลังของเขา

เขารีบกลับไปมองทันที เห็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบ เจ็ดสิบแปดปีกำลังยิ้มมาให้กับเขาอย่างอ่อนโยน!

“ดีจังที่หาคุณเจอ! “หลัวหลิงหลิงถือประเป๋าใบใหญ่วิ่ง เข้ามาพร้อมกับหอบแฮกๆ“ฉันไปถามมาแล้ว รถสายที่ไป ตัวเมืองที่เช้าที่สุดก็ประมาณเจ็ดโมงครึ่ง ตอนนี้เพิ่งจะห้า โมงกว่าๆเอง! ยังเช้าอยู่เลย ฉันจะเลี้ยงข้าวเจ้าคุณสัก มื้อแล้วกัน!

เซี่ยงหงหยวนขมวดคิ้ว เขากำลังคิดที่จะปฏิเสธ แต่คิด

ไม่ถึงว่าคนขายปลาจะหัวเราะออกมาเสียงดังก่อน “ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุณถึงมาในเมืองซะเช้าตรู่ขนาดนี้ที่แท้ก็มาส่งภรรยานี่เอง! คุณนี่โชคดีจริงๆเลยนะเนี่ย

ภรรยาของคุณนี่สวยจริงๆ!

หลัวหลิงหลิงหน้าแดงขึ้นมาทันที เซี่ยงหงหยวนก็ส่าย หัว”เธอไม่ใช่ภรรยาของผม

“หือ? แล้วเป็นใครล่ะ?”

เขาอึ้งไป“คนในหมู่บ้าน

พูดอย่างคลุมเครือไปหนึ่งประโยค ก่อนจะรีบขึ้นรถไป กันเถอะ!

หลัวหลิงหลิงรีบขึ้นไปตาม

พอเห็นหนุ่มสาวคู่นี้จากไปแล้ว คนขายปลาก็เบะ ปาก“ตอนนี้เป็นคนในหมู่บ้าน ใครจะไปรู้ผ่านไปสองวัน อาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้? ผมว่าคุณก็แอบสนใจในตัวเธอไม่ น้อยเลยนะ”

แน่นอนว่าหลัวหลิงหลิงกับเซี่ยงหงหยวนไม่ได้ยินสิ่ง ที่เขาพูด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องกลับไปพูดแก้ต่าง แน่นอน!

เพราะว่าการขัดจังหวะของคนคนนี้ ทำให้เซี่ยงหงหยวนพลาดโอกาสที่จะพูดปฏิเสธ ตอนนี้เขาจึงจำใจต้อง ไปกินอาหารเช้ากับหลัวหลิงหลิง

ข้างนอกของสถานีรถโดยสารมีร้านอาหารเช้าอยู่สอง ร้าน หลัวหลิงหลิงเลือกมาหนึ่งร้าน เถ้าแก่พอเห็นพวก เขาเข้ามา ก็ยิ้มอย่างรู้สึกผิดทันที”ขอโทษนะครับ ตอนนี้ เวลามันเช้าเกินไป เสี่ยวหลงเปาของพวกเราเพิ่งจะทําได้ แค่สองเข่งเอง! หมี่ก็เพิ่งจะทำเส้นเสร็จ กระทะน้ำมันยัง ไม่ทันตั้งเลย ถ้าพวกคุณไม่รีบ รอสักครู่ได้ไหมครับ?”

“ไม่เป็นไร พวกเราไม่รีบค่ะ”หลัวหลิงหลิงส่ายหัวทันที เธอสั่งของมาอย่างคุ้นเคย “เอาเสี่ยวหลงเปาสองเข่ง หมี่ เนื้อไก่หนึ่งถ้วยเพิ่มไข่พะโล้หนึ่งลูกค่ะ”

พูดจบเธอก็หันไปมองเซี่ยงหงหยวน”คุณจะเอาอะไรอีก

ไหม?”

“เอาบะหมี่ซูเมี่ยนสามถ้วย”เขาพูดขึ้น

หลัวหลิงหลิงส่ายหัวทันที“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันเลี้ยง คุณเอง คุณกินหมี่ซุเมี่ยนเท่ากับว่าคุณดูถูกน้ำใจของ ฉันอยู่นะ เถ้าแก่ เอาหมี่เนื้อไก่มาให้เขาหนึ่งถ้วย บะหมี่ กระดูกหมูหนึ่งถ้วย บะหมี่เนื้อกุ้งอีกหนึ่งถ้วย! ”

เขาเงยหน้ามา หลัวหลิงหลิงกลับเชิดคางขึ้น จ้องมองเขาด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด ท่าทางประมาณว่าคุณจะทํ อะไรฉันได้

แน่นอนว่าเซี่ยงหงหยวนทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้ว

ผู้ชายคนนี้เป็นคนพูดไม่เก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วก็ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องทะเลาะวิวาทกันด้วย! ด้วยเหตุนี้ เองพอมาเจอกับหลัวหลิงหลิงที่ทั้งฉลาดแล้วก็พูดเก่ง เขา ก็เลยต้องยอมจำนนแต่โดยดี

เถ้าแก่เนี้ยที่ตั้งแผงเร็วหน่อยพอเห็นพวกเขาแบบนี้ เธอ ก็หลุดขำออกมา”พ่อหนุ่ม ภรรยาของคุณเป็นห่วงเอ็นดู คุณขนาดนี้ คุณคงแอบดีใจอยู่ล่ะสิ! ”

“พวกเราไม่ใช่สามีภรรยา! “ทั้งสองคนรีบพูดตอบกลับ ไปพร้อมกัน

“อ้าว แบบนี้นี่เองเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยนะ จ้ะ ฉันพูดผิดไปแล้ว”เถ้าแก่เนี้ยเป็นคนมีไหวพริบ เธอรีบ เปลี่ยนคำพูดทันที แล้วก็หันหน้ากลับไปทำงานต่อ

เธอเปิดเตาขึ้น แล้วก็เอาเสี่ยวหลงเปาวางเข้าไปนึ่ง จาก นั้นก็สั่งสามีให้ทำบะหมี่ แกะหัวกุ้ง ทั้งสองคนกำลังยุ่ง ชุลมุนกันสุดๆ

หลัวหลิงหลิงพอเห็นพวกเขากำลังยุ่งขนาดนั้น เธอก็หันไปพูดกับเซี่ยงหงหยวน”คุณรอฉันสักครู่นะ”

จากนั้นเธอก็เดินตรงเข้าไป”ฉันช่วยผัดเอง! ‘

“เห้อ ได้ยังไงล่ะ? เนื้อกุ้งมันคาวมาก ถ้าผัดไม่ดีมันจะ

รสชาติแย่นะ! “เถ้าแก่เนี้ยพูดขึ้นด้วยความรีบร้อน “ไม่เป็นไรค่ะ รสชาติแย่ฉันก็กินเอง”หลัวหลิงหลิงกลับ

ตอบกลับไป

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อชาติที่แล้วเธอยึดมั่นในการเปิดร้าน อาหารของเธอมาก ลงมือผัดกุ้งแดงด้วยตัวเองไม่รู้ว่ากี่ ตัวต่อกี่ตัวแล้ว เธอกล้ายืดอกพูดขึ้นได้เลยว่า ถ้ากุ้งแดง ที่เธอผัดไม่อร่อย บนโลกนี้ก็ไม่มีกุ้งแดงของใครที่ถือว่า รสชาติดีแล้ว!

ตอนที่พูด เถ้าแก่ก็เอาหัวกุ้งกับเส้นหลังกุ้งออกอย่าง ขะมักเขม้น เหลือเพียงแค่เนื้อกุ้งเท่านั้น

หลัวหลิงหลิงล้างกระทะจนสะอาดหมดจดอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอาไปวางบนเตาที่มีไฟลุกซู่อยู่ เทน้ำมัน ใส่หอม ใหญ่กระเทียมขิงแล้วก็พริกลงไป จากนั้นก็ใส่กุ้งแดงลง ไปผัด

ไม่นาน กลิ่นหอมที่ชวนดึงดูดก็ลอยตลบอบอวลไปทั่ว แผง เถ้าแก่เนี้ยเห็นแบบนี้ เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆอย่างช่วยไม่ได้ “หอมจริงๆ! แม่สาวน้อยเธอผัดเนื้อกุ้งได้ดี มาก ดูแล้วน่าจะผัดอร่อยกว่าฉันอีกนะเนี่ย! “

“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ”

หลัวหลิงหลิงมีความมั่นใจในฝีมือการทำอาหารที่ทำให้ ตัวเองได้บ้านมาหนึ่งหลังเมื่อชาติที่แล้วเป็นอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ