เกิดใหม่เป็นแม่นางลัคกี้

บทที่ 5 แผนการที่ชั่วร้าย



บทที่ 5 แผนการที่ชั่วร้าย

พอได้ยินลุงสองพูดแบบนี้ หลัวหลิงหลิงก็วางใจลงได้

แม้ว่าคุณลุงทั้งสองคนของเธอจะไม่ใช่คนใหญ่คนโต อะไร แต่หลังจากที่แม่จากไปแล้วพวกเขาดูแลใส่ใจเธอ กับพี่สาวมากๆ

ปลายปีที่แล้วพี่สาวหลัวเฟยเฟยแต่งงานออกเรือนไป ตามจริงแล้วถ้าอ้างตามหลักกฎของงานเลี้ยงเวลาทำ เต้าหู้ปลาควรจะใช้ปลาเฉายื้อในการทำ แต่เพื่อความ ประหยัดแล้ว พ่อกับแม่เลี้ยงก็เลยใช้ปลาเกล็ดเงินที่ปกติ แล้วคนในหมู่บ้านจะเอาให้แมวให้หมากินมาแทนปลาเฉา อื้อ

หลังจากที่ลุงสองเจอแล้ว เขาก็อดทนรอจนพี่สาวถูก ทางฝั่งของบ้านสามีรับตัวไป จากนั้นเขาก็เข้าไปกดพ่อลง ที่พื้น แล้วจัดการต่อยทุบตีพ่อต่อหน้าต่อตาญาติมิตรที่ยัง ไม่ได้กลับ

แน่นอนว่าลุงสามก็ช่วยเหมือนกัน

ตอนนี้พอเธอร้องขอความช่วยเหลือ ลุงสองก็ลุกยืนขึ้น มาปกป้องเธออย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย!

ความรู้สึกที่มีคนมาปกป้องตัวเองนี่มันดีจริงๆ ที่แท้เธอก็

ไม่ได้สู้รบเพียงลำพัง!
ในเวลานี้ สมาชิกส่วนของตระกูลเซี่ยงเดินจากไปไกล แล้ว หลัวถั่วต้งพาหมอมาจากสถานีอนามัย เฉินจินจูก็ แทบไม่มีเวลาไปคิดบัญชีกับหลัวหลิงหลิง เธอรีบพาหมอ ไปดูอาการของหลวเฉิงทันที

แน่นอนว่า พอดูเสร็จแล้ว หลัวเฉิงก็ไม่ได้ถูกเตะจนบาด เจ็บอะไร แค่รู้สึกปวดตรงท้องนิดหน่อยเท่านั้น นอนพัก สักหน่อย เขาก็ดีขึ้นเยอะแล้ว

จากนั้นเฉินจินจูก็ตอบสนองกลับมา คิดจะไปหาเรื่อง หลัวหลิงหลิง แต่ลุงสองลุงสามก็ลากหลัวกั๋วต้งมาอยู่ ข้างๆกันเอาไว้ดั่งเป็นกำแพงประตูหลงเหมินเอาไว้ก่อน

“พี่ใหญ่ไม่ว่าพี่จะรักประคบประหงมหลัวเฉิงขนาดไหน แต่ยังไงหลิงหลิงก็เป็นหลานสาวแท้ๆของผม ผมไม่ยอม ให้ ยกเธอให้กับใครง่ายๆตามอำเภอใจแบบนี้หรอกนะ ครับ ตอนที่เฟยเฟยแต่งงานออกเรือนไปด้วยตรากตรำ ก่อนหน้านี้ ผมก็อดทนอดกลั้นเอาไว้มากพอแล้ว ดังนั้นจะ ให้หลิงหลิงน่าอนาถใจกว่าเฟยเฟยไม่ได้เด็ดขาด! ตัวพี่ เองไม่รักหน้ารักตา แต่ผมยังรักอยู่! ”

หลัวกั่วต้งยังรู้สึกไม่สบอารมณ์“หลิงหลิงเป็นลูกสาวของ ฉัน งานแต่งงานของเธอฉันเป็นคนตัดสินใจเอง!

“พี่ตัดสินใจเองกับผีน่ะสิ! นี่มันยุคสมัยใหม่กันแล้ว ประเทศเขาเปิดให้แต่งงานได้อย่างอิสระแล้ว ถ้าหลิงหลังไม่อยากแต่งงานกับคนของสกุลเซี่ยง เธอก็ไม่ต้อง แต่ง! พี่ใหญ่ถ้าพี่ยังบังคับขืนใจเธออีก ก็อย่ามาหาว่าผม ที่เป็นน้องชายไม่เกรงใจก็แล้วกัน ! ”

พอเห็นน้องชายทั้งสองคนกำมือกำหมัด หลัวกั๋วต้งกับ เฉินจินจูต่างก็พากันตกใจกลัวทันที

เฉินจินจูสบถหีออกมาอย่างไม่สบอารมณ์”แต่ฉันก็ยัง อยากจะให้เธอแต่งอยู่! แต่เธอทำซะตระกูลเซี่ยงตกใจ หนีกันไปหมดแล้ว คนเขาบอกเองว่าไม่เอาเธอแล้ว ฉัน ก็ไม่กล้าไปบังคับเธออีก! ขนาดวันนี้เธอทำได้ขนาดนี้ พรุ่งนี้จะไม่ฆ่าพวกเราเลยเหรอ! ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ นะ! ”

ลุงสองลุงสามจึงวางใจลงได้

แต่ว่าพวกเขายังพูดเตือนไปอีกสองสามประโยค ก่อน จะจากไป

แต่พอลุงทั้งสองคนเพิ่งจะเดินไป เฉินจินจูที่อยู่ข้างหลัง ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

หลัวเฉิงก็กระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้ จับหลัวหลิงหลิงผลัก เธอเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ปิดประตู ล็อคกลอนดังแกร็ก!
หลัวหลิงหลิงหันไปทุบประตูอย่างแรง หลัวเฉิงพี่จะทำ อะไร?”

“เหอะๆ แกนึกว่าไปฟ้องพวกลุงสองแล้ว พวกเขาจะ มาปกป้องแกได้อย่างนั้นเหรอ? แกชื่อเกินไปหน่อยมั้ง! ฉันจะบอกแกให้นะ ฉันชอบเสี่ยวเฟิง ฉันมั่นหมายเอาไว้ จะแต่งงานกับเธอ! เรื่องที่จะเอาแกยกให้กับพี่ชายของ เธอก็พูดกันไว้ดิบดีแล้ว แกอย่านึกว่ามาร้องไห้โวยวาย แล้วจะหนีพ้นไปได้! ฉันเป็นผู้ชาย ฉันพูดคำไหนคำ นั้น! ”

เสียงตะคอกของหลัวเฉิงดังเข้ามาจากข้างนอก

หลัวหลิงหลิงยิ้มอย่างเย้ยหยันไม่หยุด

“ถ้าแน่จริงก็ลองมาบังคับฉันให้ไปแต่งสิ?”

“ไม่ต้องบังคับแกหรอก ตอนค่ำวันพรุ่งนี้ฉันจะให้เสี่ยว เพิ่งพาพี่ชายของเธอมาอีกครั้ง ให้พวกแกได้อยู่ในห้อง ด้วยกันสองคน รอพวกแกเสร็จกิจแล้ว ฉันก็จะรอดูว่าน อกจากเขาแล้วแกยังจะแต่งงานกับใครได้อีก!

“เสี่ยวเฉิง แบบนี้ได้เหรอ? แกไม่กลัวว่ายัยเด็กคนนี้จะ บ้าคลั่งอีกครั้งใช่ไหม?”

“กลัวทำไม? เซี่ยงหงหยวนตัวสูงใหญ่ขนาดนั้น หลัวหลิงหลิงสู้แรงเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้ามันเกิดบ้าคลั่งขึ้น มาอีก ปิดประตูไปให้เขาสั่งสอนมันซะ เดี๋ยวมันก็ยอมเชื่อ ฟังแล้ว! มันก็แค่ขาดการอบรมสั่งสอนเท่านั้นแหละ!”

ข้างนอก บทสนทนาของ หลัวเฉิงกับ เฉินจินจูสองแม่ลูก ดังเข้ามาในหูอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

ส่วนพ่อของหลัวหลิงหลิง หลัวกั๋วต้ง เขาไม่มีส่งเสียง คัดค้านแต่อย่างใด

พอได้ยินสองแม่ลูกคู่นั้นพูดคุยปรึกษาว่าจะวางแผน เรื่องนี้กับเซี่ยงเสี่ยวเฟิงยังไงดี หลัวหลิงหลิงค่อยๆเดิน ห่างออกไปทีละนิดๆ มุมปากก็ยกขึ้นยิ้มอย่างเย้ยหยัน

“นอกจากว่าฉันจะบ้าจะโง่เท่านั้นแหละ พวกคุณถึงจะ จัดการตามแผนได้สำเร็จ! ”

เพื่อที่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับเธอ ครอบครัวนี้ก็ไม่ให้ ข้าวไม่ให้น้ำหลัวหลิงหลิงกินแม้แต่ค่าเดียวตลอดทั้งวัน บอกว่าจะบีบทรมานเธอ

แต่หลัวหลิงหลิงก็ดื้อรั้น เธอรออยู่ในห้องอย่างเงียบสงบ ไม่ว่าหลัวเฉิงจะมาไม้ไหน เธอก็ไม่ตอบสนองอะไรกลับ ไปแต่อย่างใด
หลัวเฉิงกระโดดโลดเต้นอยู่นาน สุดท้ายก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ

“ช่างเถอะ ฉันไม่สนแกแล้ว! ถึงยังไงพรุ่งนี้ตอนค่ำ ฉัน

ก็จะรอดูว่าแกจะร้องออกมายังไง!”

เขาพูดด่าทอเธอตรงหน้าประตูอยู่สองสามประโยค ก่อนจะกลับไปนอนด้วยความไม่พอใจ

หลัวหลิงหลิงพอได้ยินข้างนอกไม่มีเสียงอะไรแล้ว ก็ หลับตาลง เก็บสะสมเรี่ยวแรงเอาไว้

ไม่ทันได้รู้ตัวก็เป็นเวลากลางดึกแล้ว ทุกอย่างเงียบสงัด เธออยู่ในห้องสามารถได้ยินเสียงกรนดังขึ้นมาจากห้องที่ ติดกันได้

จากนั้นหลัวหลิงหลิงจึงลุกขึ้นมาจากเตียง

ประตูล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว ตรงนอกหน้าต่างก็มีเหล็ก ดัด สองช่องทางนี้ไม่สามารถหนีไปได้เลย ตอนนี้ สิ่ง เดียวที่เธอสามารถเลือกได้มีเพียงแค่หลังคาเท่านั้น

โชคดีที่เธอซนตั้งแต่เด็กๆ ปีนต้นไม้ไปจับรังนก ลงแม่น้ำ ไปจับปลาจับกุ้ง ไม่มีอะไรที่เธอยังไม่เคยทำ! ต่อมา พอทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหาร เธอก็ต้องทำทุกสิ่งทุก อย่างเอง ดังนั้นการที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาในตอนนี้ไม่ได้ยากสําหรับเธอเลยสักนิด!

แค่ใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้น หลัวหลิงหลิงก็ทำให้ หลังคาเป็นรู จากนั้นก็ออกมาทางรูนั้น แล้วก็กระโดดไป ตรงกำแพงของบ้าน สุดท้ายก็กระโดดลงมาจากกำแพง สองเท้าลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย

OK! หนีออกมาจากกรุงสำเร็จแล้ว!

ตอนนี้ แค่ต้องเดินเข้าไปในเมือง จากนั้นก็นั่งรถสายเช้า ที่สุดไปยังตัวเมืองเธอก็จะหลุดพ้นจากสถานที่บ้าๆแห่งนี้ แล้ว!

หลัวหลิงหลิงคิดๆแล้ว เธอก็ไปที่บ้านของคุณลุงทั้งสอง ก่อน

แต่เธอไม่ได้เคาะประตู แค่เขียนข้อความสั้นๆสองแผ่น พูดอธิบายสาเหตุของเรื่องราวอย่างคร่าวๆ แล้วก็เอา ข้อความฉบับนั้นสอดเข้าไปในซอกประตูของบ้านทั้งสอง หลัง จากนั้นเธอก็เดินย่องออกไปจากหมู่บ้าน เดินตรงไป ยังสุสานที่อยู่นอกหมู่บ้าน

มาอยู่ตรงหน้าหลุมฝังศพของแม่ เธอโค้งตัวลง

“แม่ หนูต้องไปแล้วนะ หลายปีมานี้พ่อปฏิบัติกับหนูยังไง แม่เองก็น่าจะเห็นแล้ว โดยเฉพาะเรื่องในวันนี้…….…..เห็นๆอยู่ว่าพวกเขาทำในสิ่งที่ดูถูกดูแคลนไม่สนใจความ รู้สึกของหนูเลยสักนิด จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่กลับ ใจ กลับด่าทอหนูว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวไปทำแผนของพวกเขา พัง พวกเขายังจะทำลายทั้งชีวิตของหนู! หนูรับไม่ไหว แล้ว หนูต้องไปแล้วจริงๆ แม่อยู่บนสวรรค์ต้องปกป้อง คุ้มครองหนูนะคะ ให้หนูสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เร็วๆ จากนั้นก็มีชีวิตที่ดีกว่าพวกเขาให้ได้!

เธอโค้งคำนับให้กับหลุมศพไปสามที ก่อนจะเงยหน้าขึ้น มาเช็ดๆหัวตา แล้วหันเดินจากไป

ที่นี่เป็นสุสานที่กว้างใหญ่ คนในหมู่บ้านละแวกนี้พอตาย แล้วก็จะมาฝังศพกันที่นี่ กลางดึกเงียบสงัดไร้ผู้คน สุสาน ยิ่งเงียบจนน่ากลัว มีลมพัดผ่านมา กอหญ้าในสุสานโบก สะบัด เสียดสีกันจนเกิดเสียง กลางค่ำกลางคืนมันน่า กลัวแปลกๆ

ในตอนนี้เอง กลุ่มเมฆครึ้มลอยมา บดบังความสว่าง ของดวงจันทร์เอาไว้ แสงสว่างตรงหน้าก็หายไปกลาย เป็นความมืดมิด หลัวหลิงหลิงลืมตาโตอย่างสุดชีวิต พยายามที่จะมองทางเดินให้ชัดเจน

ทันใดนั้น ก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมาจากในกอหญ้าที่อยู่ ข้างหน้า จากนั้น หลัวหลิงหลิงก็เห็นสิ่งของเรียวๆยาวๆสิ่งหนึ่งค่อยไหลออกมาอย่างช้าๆ ไหลออกมาจากฟม หญ้าต่อหน้าต่อตาของเธอ

จากนั้นก็มีลมพัดโบกมาอย่างแรง……

“ว้าย!

เธอตกใจจนร้องออกมาเสียงดัง รีบสับเท้าวิ่งออกไปจาก สุสานอย่างรวดเร็ว

เพิ่งจะวิ่งออกมาจากสุสาน ตรงหน้าก็มีเงาคนสูงใหญ่ ปรากฏขึ้นมา!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ