เกิดใหม่เป็นแม่นางลัคกี้

บทที่ 2 ผู้ชายคนนั้น



บทที่ 2 ผู้ชายคนนั้น

“โอ้ สุดยอดเลยนี่! พูดขนาดนี้แสดงว่า ตระกูลหลัวของ พวกคุณก็จะมีนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วสิ? ถ้าเป็นแบบ นี้ล่ะก็ ทางครอบครัวของพวกเราก็ไม่คู่ควรแล้วสินะ! ”

หลัวหลิงหลิงเพิ่งจะพูดจบ ประตูทางเข้าก็มีเสียงคนพูด ขึ้นมาด้วยคําพูดประชดประชัน

เธอหันไปมองอย่างรวดเร็ว เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลัง ทยอยกันเดินเข้ามาข้างใน มีหนึ่งคนในนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ที่สุดดึงดูดสายตาของเธอ

จู่ๆหลัวหลิงหลิงก็ตอบสนองกลับมา…….

พวกคนที่แม่เลี้ยงเรียกเมื่อตะกี้มาแล้วอย่างนั้นเหรอ? ทางฝั่งพ่อแม่ของฝ่ายชายมาดูตัวเธอ?

เธอจําได้ว่าชาติที่แล้ว พอเธอได้ยินว่าตนเองจะถูกแม่ เลี้ยงส่งไปให้แต่งงาน พอเพิ่งจะมาถึงบ้าน ก็หนีไปก่อน น้ำก็ยังไม่ทันดื่มสักคำ!

แต่ในชาตินี้ เธอตกลงมาบนรถเกวียนสามล้อที่มีคนลาก พอลืมตามาก็กลับมาตอนที่อายุสิบแปดแล้ว
ตรงหน้าเป็นหมู่บ้านที่แห้งแล้งทรุดโทรมสมัยช่วงปลาย ยุค80 ในหัวกลับเต็มไปด้วยแสงสีเสียงของเมืองใหญ่ ทางตอนใต้ในสมัยตอนที่อายุสี่สิบกว่าๆ

สองอย่างนี้มันผสมปนเปกัน ทำให้เธอแทบจะแยกไม่ ออกระหว่างความฝันและความจริง เธอรู้สึกมึนๆงงๆตั้งแต่ เช้าจนถึงคํา

ช่วงหลายวันมานี้เธอเอาแต่พยายามปรับตัว ใช้พลังงาน ไปกับการจัดการกับอารมณ์ความคิดไปจนหมด แทบจะ ไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจคำพูดของคนที่อยู่รอบข้างเลย

ถึงยังไง เธอก็พูดกับแม่เลี้ยงไปตั้งแต่วันแรกแล้ว…… ว่าเธอไม่ยอมที่จะถูกจับไปแลกลูกสาวเพื่อแต่งงาน แน่นอน!

แต่ใครจะไปรู้ แม่เลี้ยงกับพี่ชายแทบจะไม่สนใจคำ ปฏิเสธของเธอเลยแม้แต่น้อย ฉวยโอกาสตอนที่เธอกำ ลังมึนๆงงๆ เรียกคนของตระกูลเซี่ยงมา!

มองดูภาพตรงหน้านี้ คนที่เดินนำทางมาก็คือพี่ชายต่าง บิดามารดาของเธอ หลัวเฉิงนั่นเอง

แต่พอกวาดสายตาไปมอง เธอก็ไปเห็นเข้ากับผู้ชายที่ สูงใหญ่มากๆคนหนึ่งเข้า
หลัวหลิงหลิงรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าผู้ชายที่ชื่อเซี่ยงหงหยวน คนนั้นออกไปเป็นทหารตั้งแต่อายุสิบแปดปี ผ่านไปแปดปี แล้วเพิ่งจะกลับมา ตอนนี้อายุก็ยี่สิบหกปีแล้ว!

ปกติแล้วเด็กผู้ชายในหมู่บ้านพอผ่านอายุยี่สิบปีแล้วก็ ต้องหมั้น อายุยี่สิบสองปีก็ได้รับใบอนุมัติแต่งงาน พออายุ ยี่สิบสามยี่สิบสี่ก็เป็นชายสูงอายุแล้ว

แล้วตอนนี้ คนคนนี้กลับมีอายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่ แต่งงาน แสดงว่ายืดเยื้อมานานมากพอแล้วจริงๆ!

ชาติที่แล้วถ้าเธอได้ยินอายุที่มากขนาดนี้เธอก็รังเกียจ สุดๆ ภาพที่อยู่ในหัวก็คือคนหนวดเคราเต็มหน้าไปหมด ชายแก่ที่ทั้งคําทั้งอวบ

แต่ตอนนี้พอเห็นผู้ชายที่เดินเข้ามาคนนั้นแล้ว เธอกลับ พบว่าเขาก็ดูไม่เลวเลยเหมือนกัน!

ภาพที่เห็น ก็คือชายที่สูงใหญ่มากๆคนหนึ่ง ถึงขนาดที่ สูงเท่ากับเธอสองคนต่อกันได้เลย แถมรูปร่างของเขา ก็กำยำล่ำสัน ช่วงไหล่กว้างมาก ดูเป็นชายประเภทที่มี เรี่ยวแรงพละกำลังมากๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผิวพรรณ แม้ว่าจะคล้ำไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่สีดำเมี่ยงเหมือนกับผิว ของคนตามชนบทที่ถูกแดดเผานานจนเกินไป แต่กลับ เป็นผิวสีแทนที่ดูดี
แถมโครงหน้าของเขาก็ดูชัดดูดี สองตาก็ดูนิ่งลึก สายตาดูมีประกาย

ต่อให้ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ก็สามารถสังเกตเห็นเขา ได้ทันที!

หน้าตารูปร่างที่ได้สัดส่วนแบบนี้พอได้เห็นแล้ว จู่ๆความ โกรธเกลียดในใจของหลัวหลิงหลิงก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น แล้ว

เธอเป็นคนที่เห็นแก่รูปร่างหน้าตาเป็นหลัก อันนี้เธอไม่

ปฏิเสธ

แต่ว่าเซียวรุ่ยที่เธอชอบเมื่อสมัยก่อนตอนอายุยี่สิบปี เป็นคนประเภทหน้าขาวหน้าตาหล่อเหลา หลังจากอายุ ยี่สิบปีแล้ว ผู้ชายประเภทที่สูงใหญ่ทรงพลังแบบเซี่ยงหง หยวนกลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากกว่า

แต่น่าเสียดาย….ขานามสกุลเซี่ยง

ตอนนี้เธอยังคงเหมือนกับชาติก่อน รู้สึกไม่ชอบและต่อ ต้านต่อการแลกเปลี่ยนลูกสาวกันเพื่อแต่งงานแบบนี้สุดๆ แต่ว่าพูดถึงชาติก่อนหลังจากที่เธอปฏิเสธการแต่งงาน แบบนี้ไปก็ถูกเซียวรุ่ยทอดทิ้งทันที แม่และน้องสาวของ ผู้ชายคนนี้ก็ยังเอาข่าวนี้ไปป่าวประกาศทั่วอย่างไม่มีหยุด ไม่มีหย่อน แถมยังพูดเสริมเติมแต่งใส่ไฟไปอีกซะจนเธอแทบจะรับไม่ไหว

พอต่อมา หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน……..ประมาณต้นปี ของปีถัดไป เซี่ยงเสี่ยวเฟิงก็ไปหลงละเลิงคำพูดคารม ของวัยรุ่นที่ไม่มีการศึกษาไม่มีการไม่มีงานทำจนหัวปักหัว ป๋า จากนั้นก็ไม่ว่าจะเป็นจะตายยังไงก็ต้องแต่งงานกับเขา ให้ได้ แล้วก็หนีไปพร้อมกับผู้ชายคนนั้น!

เนื่องจากเรื่องนี้เอง ทำให้ฉีกหน้าของเฉินจินจูและเซี่ยง หงหยวนไปไม่น้อย!

แม่สามีกับน้องสะใภ้ที่ชั้นยอดคู่นี้ ใครได้เจอคนนั้น ถือว่าโชคร้ายสุดๆ!

ต่อมาเธอก็วางแผนที่จะจะเรียนต่ออย่างสงบสุข แต่ไม่ ได้วางแผนที่จะเอาตัวเข้าไปพัวพันกับครอบครัวนี้

ดังนั้น ถึงแม้ว่าความประทับใจเมื่อแรกพบจะไม่เลวเลย แต่หลัวหลิงหลิงก็ยังปฏิเสธพวกเขาอย่างชัดเจนอยู่ดี!

ตอนที่ในหัวเธอกำลังคิดอยากที่จะข้ามผ่านเรื่องราวทุก อย่างที่ชวนปวดหัวของตระกูลเซี่ยงอยู่นั้น หลัวหลิงหลิงก็ รู้สึกได้ว่ามีสองตากำลังสอดส่องมองมายังเธอจากที่สูง อยู่
สายตา หลักแหลมรวดเร็วมาก! เธอถูกมองจนรู้สึก หนาวไปถึงกระดูก รีบเงยหน้าขึ้นไปดู ก็ไปสบเข้ากับสอง ตาที่นิ่งลึกเข้าพอดี

เซี่ยงหงหยวนนั่นเอง!

จับได้คาหนังคาเขาว่ากำลังแอบมอง! แต่หลัวหลิงหลิ งกลับไม่รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเชิดคางขึ้น มองสบตากับเขาอย่างใจกล้า…….ฉันก็มองคุณเหมือนกัน แล้วมันจะทำไม?

ถึงขนาดที่เธอยังจงใจถามขึ้นมาหนึ่งประโยค”คุณคือเซี่ ยงหงหยวน?”

ชายคนนั้นพยักหน้า“ใช่ คุณคือหลัวหลิงหลิงสินะ”

ถึงน้ำเสียงจะจริงจัง แต่กลับทำให้หลัวหลิงหลิงแทบจะ นําออกมา

ผู้ชายคนนี้น่าสนใจดีนี่!

เขาฟังออกว่าเธอจงใจถามคำถามนี้ขึ้นมา มาแบบไหน ก็ตอบกลับไปแบบนั้น ก็เลยพูดทักทายเธอกลับไปแบบ เดียวกับที่เธอทำ!
ที่แท้ก็เป็นคนที่ไม่ยอมโดนเอาเปรียบสินะ ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้น่าจะจัดการง่ายแล้วสิ!

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้วัดพลังกันอยู่นั้น จู่ๆเฉิน จินจูก็สอดปากเข้ามา ใช้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ พูดแทรกขึ้น”แกยังคิดจะเรียนต่ออีกเหรอ? แกจะไม่ไว้ หน้าเลยหรือไง ไม่ดูตัวเองเลยว่าอายุปาไปเท่าไรแล้ว! ผู้หญิงที่โตเท่าแกในหมู่บ้านก็หมั้นหมายแต่งงานกันไป หมดแล้ว ขนาดที่มีลูกให้อุ้มแล้วด้วย! แต่แกนี่สิ ยื้อมา จนถึงตอนนี้ ฉันกับพ่อของแกแทบจะร้อนใจตายอยู่แล้ว แกรู้บ้างไหม?”

“อีกอย่าง เป็นผู้หญิง จะเรียนไปเยอะแยะทําไม? ถือ โอกาสตอนยังเป็นวัยรุ่นรีบจัดแจงเรื่องการแต่งงาน มีลูก สักสองสามคนให้เร็วๆดีกว่าเยอะเลย พอแกแก่ตัวไปไม่มี ใครเอาแล้ว ก็คงจะต้องแต่งกับคนพิการคนตาบอดแล้ว ล่ะมั้ง อายุปูนนั้นก็มีลูกไม่ได้แล้ว ถึงตอนนั้นแกจะรู้สึก เสียใจ!!

หลัวหลิงหลิงตอบกลับไปกลางๆไม่เย่อหยิ่งแล้วก็ไม่ ถ่อมตัวเกินไป”ถ้าฉันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย แล้ว หางานที่มั่นคงทำได้ ถึงตอนนั้นผู้ชายมากมายก็จะเต็มใจ แต่งงานกับฉันอยู่ดี ปัญญาชนที่อยู่ข้างนอกแบบพวกเขา ไม่เหมือนกับผู้ชายในหมู่บ้าน สิ่งที่คนเขาต้องการก็คือ ความรู้และคุณธรรมมาเป็นหลัก ส่วนหน้าตาอายุมาเป็นเรื่องรอง ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันก็จะหาเงิน ซื้อบ้านซื้อรถซื้อประกันสังคมด้วยความสามารถของตัว เอง ไม่พึ่งผู้ชายคนไหน ถึงไม่มีลูกฉันก็สามารถใช้ชีวิต ดีๆได้

หลังจากที่ได้ออกไปเจอกับโลกภายนอกที่กว้างใหญ่ เธอถึงได้รู้ว่าที่ที่ตัวเองยืนอยู่ในตอนนี้มันติดขัดล้าหลัง ขนาดไหน

แล้วก็รู้ว่าตัวเองในตอนนั้นยอมละทิ้งการเรียนไปเพียง เพราะการหาเรื่องโวยวายของแม่เลี้ยง มันเป็นทางออกที่ โง่เง่าขนาดไหนด้วยเช่นกัน!

ใบรับรองการศึกษาต่างหากที่จะเป็นใบเบิกทางที่มี ประโยชน์ที่สุดในการใช้ดำรงชีวิต น่าเชื่อถือกว่าพี่น้อง ทางฝ่ายของบ้านภรรยาอะไรนั่นเป็นไหนๆ!

“ไร้สาระ!

เฉินจินจูแทบจะไม่เชื่อคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย

เธอลากหลัวหลิงหลิงออกมา“แกดูสภาพที่น่าสมเพช เอือมระอาของแกสิ ไม่หวีผมล้างหน้า เสื้อผ้าก็ไม่ เปลี่ยน! แกทำแบบนี้มันก็เท่ากับไม่ให้เกียรติทาง ครอบครัวของหงหยวนที่เขาอุส่าต์มาหาแกตั้งแต่เช้าตรู่ ขนาดนี้เลยนะ แกรีบกลับห้องไปจัดการตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะ!

เธอผลักหลัวหลิงหลิงให้เข้าไปในบ้าน ไม่โอกาสเธอได้ พูดเลยแม้แต่น้อย

ผู้หญิงตามชนบทที่ทำไร่ทำนาอยู่หลายปีเรี่ยวแรงก็เลย เยอะมาก หลัวหลิงหลิงที่ตอนนี้เพิ่งจะอายุสิบแปดปี แรงเธอไม่ได้เลยสักนิด

หลัวหลิงหลิงถูกเธอผลักเข้าไปข้างในบ้าน เธอถอน หายใจออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์”ช่างเหอะ ถึงยัง ไงเป้าหมายของวันนี้ก็คือทำให้พวกเขาปลงใจ เลี่ยงการ ทะเลาะวิวาทจะดีกว่า! ไม่อย่างนั้นถ้าหลัวเฉิงกับแม่ของ เขาโกรธขึ้นมา ใครจะไปรู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก?”

“ตอนนี้เก็บกวาดเสร็จแล้ว ฉันจะออกไปพูดกับพวกเขา ะไรไร้สาระ ตรงๆให้จบๆไปเลยแล้วกัน ไม่ต้องพูดพล่ามอะไ แล้ว! จากนั้น ก็ทําเหมือนกับชาติที่แล้ว หอบข้าวของ แล้วหนีไปทันที! สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่บ้านของฉันตั้งแต่ แรกอยู่แล้ว”เธอพูดพึมพำกับตัวเองพลางเก็บข้าวเก็บของ ไปพลาง ถือโอกาสเก็บกระเป๋าที่จะหนีออกไปเสร็จแล้ว ด้วย จากนั้นก็ออกไป

ในขณะนี้เอง เซี่ยงหงหยวนก็ถูกพาเข้ามานั่งข้างใน บ้านเรียบร้อยแล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ