เกิดใหม่เป็นแม่นางลัคกี้

บทที่ 1 ฉันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย



บทที่ 1 ฉันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เช้าตรู่ของช่วงต้นฤดูร้อน พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจาก เส้นขอบฟ้า สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างอย่างสว่างสดใส ส่องแสงแยงตา

หลัวหลิงหลิงลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นก็คือมุ้งกันยุงเก่าๆที่ เริ่มจะเหลือง แล้วก็ผนังกำแพงที่เป็นจุดด่างๆไปทั่ว ถึง ขนาดที่ถ้าขยับแม้แต่นิดเดียว เตียงที่อยู่ข้างล่างนี้ก็จะ สั่นโยกเยกจนเกิดเสียงดัง

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนแต่ทั้งเก่าทั้งแก่ แต่สีหน้าของเธอ กลับมีรอยยิ้มที่สุขสบายใจ

“ดีจริงๆ ที่ฉันยังอยู่ที่นี่! วันที่สามแล้ว! ”

ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็มั่นใจแล้ว ว่าเธอกลับมาแล้วจริงๆ!

จากคนอายุสี่สิบแปดปีที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะ สุดท้ายกําลังนอนรอความตายอยู่บนเตียง ได้กลับมาเป็น วัยรุ่นอายุสิบแปด…..สิบแปดปีที่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถ เป็นไปได้!

“ดูท่าแล้วสวรรค์คงจะเข้าข้างฉัน สวรรค์คงจะได้ยินคำ อธิษฐานก่อนตายของฉัน ตอนนี้ถึงช่วยฉันทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงแล้ว! “

เธอ หลัวหลิงหลิง ได้เกิดใหม่แล้ว!

ในขณะที่กำลังพูดพึมพำกับตัวเองอย่างคือกดีใจอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงเล็กสูงของผู้หญิงดังออกมาจากตรงลานบ้าน ข้างนอก

“อยู่ไหน? นี่มันกี่โมงที่ยามแล้ว ทางบ้านของฝ่ายสามีจะ มาดูแล้วยังจะนอนอืดอยู่บนที่นอนไม่ยอมลุกขึ้นมาอีก พวกคนหนุ่มสาวนี่ ช่างมือเท้าขี้เกียจเหมือนกับคนพิการ จริงๆ ผู้หญิงแบบนี้ถ้าเป็นตอนสมัยเรานะไม่มีพ่อแม่ สามีบ้านไหนเอาหรอก! ตอนนี้กว่าจะมีคนมา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่กลับยังเสแสร้งแกล้งหาอยู่ที่นี่อยู่ อีก!

“ลูกสาวที่พวกคุณตระกูลหลัวสั่งสอนเลี้ยงดูมา เห็นแก่ ตัวไม่ยอมเข้าใจอะไรสักอย่าง พอถึงตอนที่คนเราไม่ สนใจใยดีเธอแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะรอดูว่าเธอจะร้องไห้ ออกมายังไง!

เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังมากทำให้รู้สึกปวดหัว รอยยิ้มบนใบหน้าของหลัวหลิงหลังค่อยๆ ลง ผู้หญิงที่กำลังพูดด่าทออยู่ข้างนอกนั้น ก็คือแม่เลี้ยงของเธอ เฉินจินจู

ตอนที่เธออายุสิบขวบ แม่ได้จากโลกนี้ไป ในเวลาไม่ถึง หนึ่งปี พ่อเธอก็รับแม่เลี้ยงเข้ามาอยู่ด้วยอย่างรอไม่ไหว แม่เลี้ยงยังพาพี่ชายที่อายุมากกว่าเธอสองปีติดมาด้วย หลัวเฉิง

จากนั้น วันเวลาของเธอกับพี่สาวก็ผ่านไปอย่างทุกข์ ยากลำบากวันแล้ววันเล่า

แม่เลี้ยงลำเอียงเข้าข้างลูกชายของตัวเอง ปากก็บอกว่า เห็นเธอกับพี่สาวเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ แต่คนที่กินดีอยู่ดี ก็เป็นลูกชายแท้ๆของตัวเองทั้งนั้น เธอกับพี่สาวทำงาน ทุกวัน กลับได้แค่เก็บกินของที่พี่ชายไม่กินแล้ว ถึงขนาด ที่หลังจากพวกเธอสองพี่น้องเรียนจบแล้ว แม่เลี้ยงก็ไม่ ยอมให้พวกเธอเรียนหนังสือต่อ!

ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ก็ช่างมันแล้วกัน ต่อมาแม่เลี้ยงกลับ ยังไม่ยอมปล่อยพวกเธอไป จัดแจงให้พี่สาวแต่งงานไป ก่อนแล้วเธอก็ช่วงชิงเงินมาหนึ่งก้อน ตอนนี้ก็ยังจะมา วางแผนให้เธอไปแลกเปลี่ยนลูกสาวแต่งงานให้กับพี่ชาย ของเธอหลัวเฉิงอีก!

แถมการที่ต่างฝ่ายต่างแลกลูกสาวของตัวเองเพื่อแต่ง เข้าบ้านของอีกฝั่งนี้ มันยังมีแผนการที่แอบซ่อนเอาไว้ ด้วย
สาเหตุของเรื่องนี้ ก็คือแม่เลี้ยงผู้เป็นแม่หม้ายที่พาพี่ ชายไร้ประโยชน์แบบหลัวเฉิงติดมาด้วยคนนี้ เธอถูกใจเ ยงเสี่ยวเฟิงของหมู่บ้านเกาหลิงที่อยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง จะ เป็นจะตายยังไงก็ต้องให้ลูกชายแต่งงานกับเธอให้ได้

แต่พ่อแม่ของเซี่ยงเสี่ยวเฟิงเสนอราคาแลกเปลี่ยนที่ สูง…..อยากจะแต่งงานกับลูกสาวของบ้านฉันสินะ? ได้! โทรทัศน์ตู้เย็นเครื่องซักผ้า สามอย่างนี้ต้องมี แถมยังต้อง มีเงินค่าสินสอดอีกห้าร้อยด้วย

นอกจากนี้แล้ว ตระกูลหลัวของพวกเขายังต้องส่ง ลูกสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานออกเรือนไปให้อีก….หรือก็คือ เธอหลัวหลิงหลิงนั่นเอง ไปแลกเปลี่ยนเป็นภรรยาของพี่ ชายเซี่ยงเสี่ยวเฟิง ซึ่งก็คือเซี่ยงหงหยวน!

ถึงจะบอกว่าเป็นการที่ต่างฝ่ายต่างแลกลูกสาวของ ตัวเองให้เป็นลูกสะใภ้ แต่ของทุกสิ่งทุกอย่างที่ทาง ครอบครัวพวกเขาให้กับตระกูลหวางก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก ปกติทั่วไป ถึงขนาดที่มีเพิ่มเธอเข้ามาหนึ่งคนอีกด้วย!

เธอก็คือของแถมนั่นเอง…..ส่งให้ไปเปล่าๆฟรีๆ!

เรื่องแบบนี้ คนปกติทั่วไปไม่มีใครรับได้หรอก! ถ้าเป็นหลัวหลิงหลิงจากชาติก่อนพอได้ฟังแบบนี้แล้วแน่นอนว่าเธอก็ต้องปฏิเสธไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่

น้อย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอในตอนนั้นก็มีคนที่อยู่ในใจแล้วอยู่ แล้วด้วย นั่นก็คือแฟนที่กำลังจะจบการศึกษาระดับชั้น ปวช. เซียวรุ่ยนั่นเอง

เซียวรุ่ยกับเธอเติบโตมาด้วยกัน สมัยประถมกับมัธยม ต้นทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แถมยังได้ครอง ตำแหน่งที่หนึ่งที่สองของห้องอยู่ตั้งหลายปีด้วย…วน ใหญ่เธอจะได้ที่หนึ่ง ส่วนเซียวรุ่ยที่สอง

พูดกันตามหลักแล้ว ดูจากคะแนนของเธอก็สามารถ เรียนต่อได้สบายๆเลย แต่ในช่วงสามปีที่เธอกำลังเรียน มัธยมต้นนั้น แม่เลี้ยงก็เอาแต่หาเรื่องทะเลาะกับพ่อ ก่อ เรื่องวุ่นวายไปหมด

ตอนที่ใกล้จะสอบเข้ามัธยมปลาย แม่เลี้ยงก็ยิ่งเอาแต่ บอกว่ามีชีวิตอยู่ต่อไม่ไหวแล้วจะกินยาฆ่าแมลงให้ตายๆ ไปซะอยู่แบบนี้ตลอดทั้งวันทั้งคืน พ่อถูกเธอหาเรื่อง โวยวายจนทนไมไหว จึงปฏิเสธที่จะให้เงินค่าสอบกับเธอ ทําให้เธอต้องพลาดการสอบเข้ามัธยมปลายไป

สุดท้าย เซียวรุ่ยก็สอบเข้าวิทยาลัยครูไปได้อย่างไม่น่า แปลกใจอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดคิดก็คือ หลังจาก ที่ได้รับจดหมายรับเข้าศึกษาของวิทยาลัยครูแล้วเขาก็มาหาหลัวหลิงหลิง สารภาพกับเธอทันที!

แถมเชียวรุ่ยก็สัญญากับเธอว่าจะแต่งงานกับเธอ พาเธอ ออกจากครอบครัวนี้ จะให้ครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวที่ เป็นของพวกเขาสองคนกับเธอ

คำพูดนี้ ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง

เธอเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวรุ่ยอย่างไม่ลังเลเลย แม้แต่น้อย ถึงขนาดที่ไปทำงานพาร์ทไทม์กับเซียวรุ่ยที่ ในเขตตัวเมืองด้วย เงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือน นอกจาก จะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ที่เหลือ ทั้งหมดก็เอาไว้ซื้อเสื้อผ้าซื้อหนังสือให้กับเซียวรุ่ย

พอเห็นเซียวรุ่ยที่ใกล้จะได้จบการศึกษาจากปวช.แล้ว จะได้รับมอบหมายงานแล้ว อนาคตที่สดใสของพวกเขาก็ อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น พอถึงจุดๆนี้ แม่เลี้ยงกลับคิดที่จะ ส่งเธอให้ไปเป็นลูกสะใภ้ของชายแก่คนหนึ่ง เรื่องแบบนี้ เธอจะยอมเห็นด้วยได้ยังไง?

ดังนั้นชาติก่อน เธอจึงทะเลาะกับแม่เลี้ยงอย่างรุนแรงไป ยกใหญ่ จากนั้นก็หนีออกจากบ้านไป ไปพึ่งพิงเซียวรุ่ยที่ อยู่ในเขตตัวเมือง

แต่ต่อมาเรื่องจริงก็ปรากฏ… เซียวยก็ไม่ใช่คนดีอะไรเลย!
เขาหลอกใช้ความปรารถนาที่อยากจะมีครอบครัวของ เธอ หลอกเธอให้เอาเงินให้เขากินเขาใช้ แถมยังสวม เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่เธอซื้อให้กับเขาไปตามจีบลูกสาว ของหัวหน้าเขตอีก จากนั้น หลังจากที่จบการศึกษาจาก ปวช.และได้รับมอบหมายงานแล้วก็สลัดเธอทิ้งไป

เท่านั้นไม่พอ เขายังชี้หน้าด่าเธออีกว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย สองแม่ลูกรวมหัวกัน ปากบอกว่าจะแต่งงานกับเขา แต่ กลับไปคุยเรื่องแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แล้วก็เอาเรื่องที่ เถ้าแก่ร้านอาหารที่เธอทำงานพาร์ทไทม์อยู่ลวนลามเธอ ไปพูดบิดเบือนว่าเธอไปอ่อยเขาคิดอยากที่จะเป็นเมีย น้อยจะได้กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยอย่างหน้าไม่อาย!

เป็นพวกปากโป้งที่ชอบเอาเรื่องของเธอไปพูดให้เสียๆ หายๆ แถมยังสร้างภาพให้ลูกของตัวเองเป็นคนที่ถูก กระทํา โดนหลอกลวงน่าสงสาร สุดท้ายก็ทำลายชื่อเสียง ของเธอจนย่อยยับป่นปี้

เธอรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทําได้แค่ต้องลงใต้ไปทำงาน พาร์ทไทม์กับคนที่อยู่ในเมืองเล็กๆ ออกจากบ้านไป เผชิญกับความทุกข์ยากลำบากข้างนอก

ล้มลุกคลุกคลานอย่างลำบากอยู่ข้างนอกตั้งสามสิบปี กว่าเธอจะเก็บเงินซื้อบ้านหลังเล็กๆได้ไม่ใช่ง่ายๆเลย ใน ที่สุดวันเวลาก็เสถียรมั่นคงสักที
แต่ในตอนนี้เอง เธอกลับทรุดลง ไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะสุดท้าย

สาเหตุเรื่องนี้ก็คือ ในช่วงแรกเธอต้องประหยัดเงิน อด อาหารอดน้ำจนส่งผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร

ในใจอัดอั้นไปด้วยความไม่เต็มใจ หลังจากที่เธอเจ็บ ปวดทุกข์ทรมานอย่างหมดเรี่ยวแรงแล้ว ก็หลับตาลง อย่างหมดหนทาง ก่อนที่ใกล้จะตาย ในใจของเธอมีเพียง แค่ความปรารถนาอันแรงกล้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…….. ถ้าสวรรค์ให้เธอได้เกิดใหม่อีกหนึ่งชาติ เธอจะไม่ยอมใช้ ชีวิตอย่างทุกข์ใจและน้อยเนื้อต่ำใจแบบนี้อีกแน่นอน!

จากนั้นพอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเองกลับมา ตอนอายุสิบแปดปีอีกครั้ง!

ขณะที่หลัวหลิงหลิงกำลังหวนนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่นั้น ก็มีเสียงที่เริ่มดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆของผู้หญิงดังเข้ามาจาก ข้างนอก แถมยังซัดโต๊ะโยนเก้าอี้อย่างไม่หยุดหย่อนอีก ด้วย

เธอปลักประตูออกไปอย่างหมดความอดทน เสียงด่า ของแม่เลี้ยงเฉินจินจูจึงได้เงียบลง

“โอ้ ในที่สุดคุณหนูรองก็ยอมลุกขึ้นมาสักที ฉันยังนึกว่าแกกำลังรอให้ฉันเอากับข้าวกับปลาและโถฉี่ไปเสิร์ฟ ไปคอยปรนนิบัติดูแลให้กับแกถึงห้องแล้วซะอีก!

เธอหันหน้ามา พูดทักทายกับหลัวหลังหลังอย่างประชด แดกดัน

หลัวหลิงหลิงไม่สนคำเยาะเย้ยเย้ยหยันของเธอ เธอ เปิดปากพูดออกมาทันที”คุณป้า ไม่ต้องมาหาเรื่องวุ่นวาย อะไรกับฉันที่นี่หรอก ตอนนี้ฉันไม่สนคำพูดอะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีทางยอมแต่งงานกับคนที่คุณหาเอาไว้ให้หรอก ต่อให้คุณจะไปปั่นหัวพ่อจนมาอยู่พวกเดียวกับคุณก็ตาม ฉันตัดสินใจไว้เรียบร้อยแล้ว……

“ฉันจะเรียนหนังสือ สอบเข้ามหาวิทยาลัย! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ