เกิดใหม่เป็นแม่นางลัคกี้

บทที่ 6 เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง



บทที่ 6 เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง

หลัวหลิงหลิงตกใจจนน้ำตาไหลออกมา แต่เธอยังคงอด กลั้นความกลัวที่อยู่ในใจเอาไว้ ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง”แก อย่าเข้ามานะ! ฉันไม่กลัวแก! ได้ยินแล้วยัง ว่าฉันไม่ กลัวแก!

“ผมรู้”เสียงทุ้มต่ำในลำคอ ทำไมพอได้ยินแล้วถึงรู้สึก คุ้นหูไม่น้อยเลย?

หลัวหลิงหลิงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตกใจ จึงได้รู้ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เธอรู้จัก!

แต่แค่รู้จักเท่านั้น……..เพราะว่า คนคนนี้ก็คือเซี่ยงหง หยวนนั่นเอง!

ในมือของเขาถือคีมจับปลาที่ทํามาจากแผ่นไม้ไผ่ ที่ขาก็ สวมรองเท้าบูทที่ยาวมาถึงเข่า รองเท้าเลอะไปด้วยโคลน ที่หลังก็แบกตะกร้าสานที่ทำจากไม้ไผ่ไว้หนึ่งใบ

นี่เป็นการแต่งกายที่พบเห็นได้บ่อยตอนกลางดึกของ ผู้ชายในยุคสมัยนี้ การใช้ชีวิตในหมู่บ้านลำบากมากๆ การเก็บเกี่ยวในหนึ่งปีมีจำกัด ถ้าในอาหารมีเนื้อสักชิ้น นั่นก็ถือว่ามีชีวิตที่ดีแล้ว ดังนั้นมีบางคนรับไม่ได้ที่วันๆบน โต๊ะอาหารจะมีแต่พวกซุปพวกน้ำ ก็เลยอาศัยช่วงกลาง คืนออกมาจับพวกปลาไหลนาตามคูคลอง ถ้าไม่เอาไปทำ อาหารให้กับครอบครัว ก็เอาไปขายเปลี่ยนเป็นเงินให้ครอบครัว

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเซี่ยงหงหยวนกำลังทําแบบนี้อยู่

พอมั่นใจแล้วว่าตรงหน้านี้คือคนเป็นๆ หลัวหลิงหลิงจึง ผ่อนคลายลง เธอขาอ่อนทันที นั่งลงไปกับพื้นอย่างแรง

เซี่ยงหงหยวนมองเธอตัวอ่อนต่อหน้าต่อตาของตัวเอง เขากลับไม่ขยับมือเท้าเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่ได้เข้าไป ช่วยเธอด้วย ทั้งสองคนมองสบตาไม่พูดอะไรด้วยท่าที่ คนหนึ่งนั่งคนหนึ่งยืนอยู่แบบนั้นไปนานสองนาน

สุดท้าย พอเห็นว่าหลัวหลิงหลิงนั่งอยู่นานแล้วไม่มีทีท่า ว่าจะลุกขึ้น เขาจึงถามขึ้นมาหนึ่งประโยค”จะให้ผมช่วย พยุงคุณไหม?”

หลัวหลิงหลิงพยักหน้าทันที”ฉันขาอ่อน ลุกขึ้นไม่ได้” เซี่ยงหงหยวนจึงเข้าไปช่วยพยุงเธอลุกขึ้นมา

บอกได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้สูงใหญ่ทรงพลังสุดๆ แค่แรง ของแขนข้างเดียวก็มากซะจนน่ากลัวแล้ว ไม่คิดว่าจะ ลากแค่เบาๆ ก็สามารถดึงเธอขึ้นมายืนได้!
แต่ต่อให้ลุกขึ้นมา หลัวหลิงหลิงกลับพบว่าสองขาของ เธอยังคงอ่อนเหมือนกับเส้นหมี่อยู่เหมือนเดิม ยืนทรงตัว ไม่ได้!

ในระหว่างที่หมดหนทางนั้น เธอทำได้แค่ส่งยิ้มอย่าง รู้สึกผิดไปให้กับเขา”ขอโทษนะ ฉันไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน หิวจนร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเลย”

เธอที่หิวจนแขนขาอ่อนแรงอยู่แล้ว เมื่อตะกี้ก็ดันตกใจ จนขวัญกระเจิง ทำให้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ของเธอหายไปจนเกลี้ยง

ตอนนี้ไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย

เซี่ยงหงหยวนพอได้ฟังสิ่งที่เธอพูดแล้ว ก็หันไปมอง ใบหน้าขาวผ่องที่อยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ของเธอ จู่ๆ สีหน้าของเขามืดมน

เนื่องจากแสงที่มืดมัวของพระจันทร์ มาตกกระทบทำให้ เป็นเงามืดๆอยู่แล้ว แล้วตอนนี้สีหน้าของผู้ชายคนนี้ก็ มืดมนขึ้นไปอีก หลัวหลิงหลิงรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบๆมันลด ลงไปไม่น้อย หนาวเย็นจนเธอสั่นไปทั้งตัว!

หวังว่าเขาคงจะไม่ลงไม้ลงมือกับเธอหรอกใช่ไหม? ถือ โอกาสแก้แค้นที่เธอเปิดโปงเขาต่อหน้าผู้คนเมื่อตอน กลางวัน? หรือเพราะว่าหลังจากที่กลับไปแล้ว เขาถูกพ่อแม่สั่งสอน ดังนั้นเขาก็เลยมาระบายความโกรธแค้นที่ อยู่ในใจของตัวเองกับเธอ?

ในหัวคิดจนสับสนวุ่นวายไปหมด เธอเห็นชายคนนี้ กำลังล้วงบางสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตผ้าไหมเทียมออก มา…ลูกอมหนึ่งเม็ดยื่นให้กับเธอ

ลูกอมนมตรากระต่ายขาว

หลัวหลิงหลิงสายตาเปล่งประกาย หิวจนสองมือสั่นไป หมด แทบจะไม่มีกะจิตกะใจไปสนเรื่องอื่นแล้ว เธอรีบ แย่งลูกอมเม็ดนั้นมา แกะเปลือกลูกอมออกแล้วก็โยน ลูกอมเข้าไปในปากทันที

รสชาติของนมที่เข้มข้นเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก แถม ยังมีรสชาติหวานละมุนที่ค่อยๆไหลจากลิ้นลงไปยังท้อง ช่วยบรรเทาอาการหิวมาหลายวันของเธอได้อย่างช้าๆ

กินลูกอมไปครึ่งเม็ดแล้ว หลัวหลิงหลิงในที่สุดก็เริ่มมี เรียวมีแรงกลับมานิดหน่อย

เธอค่อยๆดึงสติกลับมา แล้วเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองกำลังจับมือ ของเซี่ยงหงหยวนอยู่ยังไม่ยอมปล่อย!

เธอจึงรีบดึงมือกลับมาทันที”ขอบคุณคุณ แล้วก็ ขอบคุณสำหรับลูกอมเม็ดนี้ของคุณด้วย จะคืนให้กับคุณวันหลังนะ!

“เกิดอะไรขึ้น?”เขากลับพูดถามขึ้น“ทำไมคุณถึงโผล่มา อยู่ที่นี้กลางดึกกลางดื่นแบบนี้? แล้วทำไมถึงหิวได้ขนาด นี้?”

รู้สึกได้ถึงเจตนาที่ดีของเขา ทำให้นึกถึงเรื่องที่เขาช่วย เธอเมื่อตอนกลางวันอีกครั้ง จิตใจของหลัวหลิงหลิงก็ ผ่อนคลายลงไปเยอะ ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าเพราะเหงาและ โดดเดี่ยวมานานหรือว่ายังไง จู่ๆเธอก็รู้สึกอยากจะพูดคุย ขึ้นมา

“ถ้าเกิดฉันบอกคุณว่า วันนี้หลังจากที่พวกคุณกลับไป แล้ว พวกพ่อของฉันก็ขังฉันเอาไว้ วางแผนที่จะหลอกคุณ มาในวันพรุ่งนี้ แล้วจัดการขังฉันไว้รวมกับคุณ แล้วพอทุก อย่างมันเสร็จสมอารมณ์หมายของพวกเขาหมดแล้ว หลัง จากนั้น ฉันก็จะต้องแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น แบบนี้คุณจะเชื่อไหม?”

“เชื่อ”

หือ?

หลัวหลิงหลิงอึ้งตะลึงไป เธอยังนึกว่าเขาจะต้องถาม ต่ออีกสองสามคำถามเพื่อให้แน่ใจเสียอีก! แต่ที่ไหนได้ ผู้ชายคนนี้กลับเลือกที่จะเชื่อเธอโดยที่ไม่ถามอะไรสักค่า?

พอเธอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเซี่ยงหงหยวนพยักหน้า“คืน นี้หลัวเฉิงก์ไปที่บ้านของผมแล้วเหมือนกัน จากนั้นก็ถูก พ่อของผมไล่ออกไป

แต่เสี่ยวเฟิงก็แอบหนีตามออกไปพูดคุยกับเขาอยู่นาน สองนาน พอกลับมาก็ยิ้มแย้ม ไม่นาน พ่อแม่ของผมก็ยิ้ม อย่างดีอกดีใจเหมือนกัน เห็นท่าทางแบบนั้นของพวกเขา ก็รู้แล้วว่าพวกเขาจะต้องวางแผนทำเรื่องไม่ดีแน่ๆ”

อุ๊บ!

หลัวหลิงหลิงหลุดขำท่าทีของเขาที่กำลังพูดแขวะพ่อแม่ น้องสาวของตัวเองด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง

“ทำอยู่ตั้งนาน ที่แท้ในใจของคุณเองก็ไม่พอใจพวกเขา มานานมากแล้วเหมือนกัน”

“อื้อ”เขาพยักหน้า ก่อนจะหยิบกระติกน้ำของทหารออก มาจากเอว แล้วยื่นออกมาให้เธอ“ดื่มน้ำไหม?”

“ดื่ม!
ไม่ว่ายังไงก็กินของของคนอื่นไปแล้ว ถ้าตอนนี้จะมา ปฏิเสธอีกก็จะดูดัดจริตเกินไป หลัวหลิงหลิงจึงไม่เกรง อกเกรงใจอะไรเขาแล้ว เธอพูดตอบรับอีกฝั่งอย่างไม่ เกรงใจ ก่อนจะรับกระติกน้ำมาดื่มไปอึกใหญ่

ตอนที่เธอกำลังดื่มน้ำ ข้างๆหูก็มีเสียงของเซี่ยงหงหยวน ดังขึ้นมา”จริงๆแล้วผมเป็นลูกของลุง แต่พ่อแม่แต่งงาน กันแล้วสี่ห้าปียังไม่มีลูก ดังนั้นจึงรับผมมาเลี้ยงดู แต่ พอผมเข้ามาในบ้านได้ไม่ถึงครึ่งปี แม่ของผมก็ตั้งครรภ์ คลอดเสี่ยวเพิ่งออกมา จากนั้นในใจของพวกเขาก็มีแค่ ลูกแท้ๆของตัวเองเท่านั้น ผมก็เลยกลายเป็นภาระไปโดย ปริยาย แต่ลุงของผมมีลูกชายหกคนแล้ว เลี้ยงไม่ไหว ไหนๆก็ให้ผมมาแล้ว พวกเขาก็เลยไม่อยากจะรับผมกลับ ไปอีก”

“หลายปีมานี้ไม่ว่าพ่อแม่ของผมจะบอกตรงๆหรืออ้อมๆ ลุงกับป้าของผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พอพ่อแม่รังแกผม พวกเขาก็ไม่สนใจใยดี……

หลัวหลิงหลิงวางกระติกน้ำลง เห็นใบหน้าที่เยือกเย็น ของเขา

แต่ว่าได้รับประสบการณ์จากเมื่อตะกี้มาแล้ว หลัวหลิง หลิงจึงรู้ว่าเขาไม่ได้โมโหตนเอง เธอก็เลยไม่ได้รู้สึกกังวล
“ดังนั้น คุณปฏิเสธถูกแล้ว อย่าว่าแต่คุณเลยที่รับไม่ ได้ที่ตัวเองโดนดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้ ถ้าผมรู้ว่าพวก เขาใช้วิธีนี้มาเหยียดหยามภรรยาของผม ผมก็ไม่ยอมรับ เหมือนกัน! “เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทรงพลัง

“ดังนั้นตอนพวกเขากำลังรุมกระทำฉันเมื่อตอนกลาง วัน คุณก็เลยมาช่วยฉันใช่ไหม?”หลัวหลิงหลิงถามขึ้นมา ทันที

แม้ว่าเขาจะพูดออกมานับคำได้ แต่ทุกช่วงเวลาที่พูดมา แต่ละประโยคก็พอเหมาะพอเจาะมาก ช่วยเปิดโอกาส ให้เธอได้ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งก้าวได้เหมาะเจาะพอดี! แถมสุดท้ายถ้าไม่ใช่เพราะเขายอมถอยกลับไปเอง จาก นิสัยใจคอของเซี่ยงเสี่ยวเฟิงกับแม่ของเธอจางหมิงหลัน แล้ว เกรงว่าน่าจะยังอยู่อาละวาดสร้างความวุ่นวายต่อได้ มากกว่านี้อีก!

ผู้ชายคนนี้ช่างรู้จักสังเกตสถานการณ์มาก จากนั้นก็พูด คำพูดที่พอเหมาะพอเจาะมาในเวลาที่ต้องการพอดี แม้ว่า จะพูดไม่เยอะ แต่ก็มีส่งกระทบมาก อย่างน้อยตอนนี้เธอ ก็มีความประทับใจในตัวเขาไม่น้อยแล้ว!

“ถูก เพราะว่าผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน! “เซี่ยงหงหยวน พยักหน้าอย่างแรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ