บทที่ 13 ฉันมันเป็นคนโมโหไม่มีเหตุผล
ในตอนที่ลอบมองดู มีชิงเดียวก็เปลี่ยนเป็นคนน่ารักในทันที ทันใด เป็นคนที่เห็นแล้วช่างน่าสงสาร
เธอเดินเข้าไปใกล้เซียงชิงฉือ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปดึงแขน เสื้อเขาเบาๆ ราวกับเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆก็มิปาน : “ชิงฉือ คุณ เห็นแล้วใช่ไหมล่ะคะ มีแต่ฉันเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับ คุณ เซียเสวก็มีแต่ทำให้คุณโกรธ แต่พวกเราไม่ใช่แบบนั้น พวก เรายังมีความทรงจำมากมายและพวกเรายังคงมีความรักต่อ
เดิมทีมู่ชิงเหยวคิดจะใช้การ์ดเห็นอกเห็นใจ อยากจะลองใช้
อดีตที่ผ่านมาของพวกเขา “อาการโมโหโดยไม่มีเหตุผล” ของ
เซี่ยเสว่ ตรงกันข้ามกับความอ่อนโยนและละเอียดอ่อนของเธอ
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเธอยังพูดไม่ทันจบเซียงซิงฉือก็สะบัดเธอ
ออก ด้วยแรงนั้นถึงแม้ว่าเธอจะจับเสื้อไว้ที่มุมหนึ่งแต่ก็สะบัดเธอ
จนล้มลงไป
หลังจากที่เธอยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาโดย มีน้ำตาคลอหน่วย เธอกัดฟันเบาๆ รู้สึกเสียใจอย่างมาก
บางทีเซียงชิงฉืออาจจะถูกเซี่ยเสวทำให้โกรธ ดังนั้นตอนที่พู ดกับมู่ซิงเหยวจึงเต็มไปด้วยความโมโห ยิ่งไปกว่านั้นเสียง ค่อนข้างสูง : “คุณสร้างปัญหาพอหรือยัง!
มู่ชิงเหยวคิดจะก้าวไปด้านหน้า แต่เซียงชิงฉือก้าวถอยหลังเร็วกว่าเธอไปหนึ่งก้าว จากนั้นเธอก็หัวเราะเยาะเย้ยตัวเองเบาๆ พร้อมกับบ่นอย่างอึดอัดใจเบาๆ : “ฉันสร้างปัญหาพอแล้วหรือ ยัง? ถ้าหากเป็นเรื่องที่ฉันรักคุณล่ะก็ บางทีถ้าฉันสร้างปัญหานี้ ไปตลอดชีวิตก็คงจะไม่มากเกินไปหรอก
เธอมีความภาคภูมิใจในข้อนี้เสมอมา แต่เพราะเซียงชิงฉือที่ อยู่ที่นี่ เธอก็ค้นพบได้โดยทันทีว่า ถ้าเธอยังคงภาคภูมิใจเช่นนี้ ต่อไป เขาก็จะยิ่งปล่อยให้ตัวเองยิ่งไกลออกไป
ทั้งหมดเป็นเพราะการปรากฏตัวของเซียเสร่ ทำให้เธอรู้สึกได้ ถึงภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การแต่งงานระหว่างพวก เขา การปรากฏตัวของเซี่ยเสน่และการเปลี่ยนไปของเซียงชิง ฉือ…ทุกอย่างล้วนเป็นภัยคุกคามต่อเธอ
ก่อนหน้านี้หากเขาได้ยินคำพูดนี้ เขาจะต้องมีความสุขมากๆ อย่างแน่นอน
แต่เพราะเมื่อกี้นี้เขาเพิ่งจะทะเลาะกับเซียเสร่ ตอนนี้เขาจะมี อารมณ์มาพูดเรื่องความรักได้อย่างไรกัน ความเดือดดาลที่มีอยู่ เต็มหัวเขานั้น มันก็เป็นเพราะมซึ่งเหยวเป็นคนเริ่มทำขึ้นมันมา ทำให้ความเข้าใจผิดของเขากับเซียเสรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“มซึ่งเหยว ผมจะพูดอีกครั้งนะ! คุณฟังให้ดี ผมเป็นผู้ชายที่ แต่งงานแล้ว คุณก็ควรจะดูแลตัวเองให้พ้นจากปัญหานี้ด้วย
ป้าจาง ส่งแขก!” หลังจากพูดอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดจบแล้ว เซียงซิงฉือ หมุนตัวเดินขึ้นไปชั้นบน
เขาไปแล้ว ทิ้งมู่ชิงเหยาเอาไว้กับใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อ หันไปมองดูแผ่นหลังที่เด็ดขาด ในขณะที่เขาเดินจากไป มือของ เธอค่อยๆตกลงที่ข้างตัวอย่างช้าๆ แล้วเป็นหมัด เธอแต่งหน้า อย่างประณีต สวมชุดกระโปรงเป็นพิเศษแต่กลับกลายเป็น เรื่องน่าหัวเราะไปแล้ว
นี่ยังคงเป็นเซียงชิงฉือคนนั้นที่เธอรักและเขาก็รักเธออยู่ไหม? แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเรียกเธอเต็มยศแบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้ง แรก และครั้งแรกนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการปรากฏตัวของเซียเส
ขณะที่คิดๆอยู่ ก็เกิดม่านหมอกขึ้น ในดวงตาของเธอ โดยที่ลม ไม่สามารถพัดพาไปได้ และความเกลียดชังของเธอที่มีต่อเซี่ยเส วก็แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เธอจ้องมองป้าจางที่เตรียมตัวเชิญเธอออกไปอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็หมุนตัวเดินย่างเท้าที่สวมส้นสูงออกไปอย่างเย่อ หยิ่ง
และที่บนชั้นสอง แน่นอนว่าเซียงชิงฉือถูกขังไว้ที่ด้านนอก ประตู ใบหน้าของเขาหม่นหมอง
เขาอดกลั้นแล้วเคาะประตู : “ เซี่ยเสว คุณเปิดประตู แล้วพวก เราออกมาคุยกันดีๆเถอะ”
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ น่ากลัวว่าเขาคงจะหันหลังกลับแล้วเดินจาก ไปเลย แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว จากประสบการณ์ที่โรง พยาบาลเมื่อคืนนี้ เขาได้รู้ถึงน้ำใจของเซี่ยเสว ยังมีเรื่องที่เขา หลอกลวงเธอก่อน และมซึ่งเหยวที่อยู่ด้านหลังเขาอีก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ควรจะอธิบายให้เข้าใจ
ที่บานประตูกั้น เสียงของเซี่ยเสวตะโกนด้วยความร้อนรน อย่างหยุดไม่อยู่ว่า : “ พวกเราไม่มีอะไรจะต้องพูดกันค่ะ ฉันเชื่อ ในสิ่งที่หูของฉันได้ยิน และที่ตาของฉันมองเห็น
เรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่โดนหลอก เธอต้องระบายออกอยู่ นานถึงจะบรรเทาลง ตอนนี้ยังมีมซึ่งเหยวมาอีกคน ขอบเขตของ เธอถูกแตะต้องโดยสมบูรณ์แล้วจริงๆ
เมื่อคิดถึงมู่ชิงเหยวจูบบนใบหน้าของเซียงซิงฉือ เธอรู้สึกไม่ สบายไปทั้งตัว แม้แต่การมองเห็นเขา เธอก็รู้สึกว่าเขาสกปรก มาก สกปรกจริงๆ
ในช่วงเวลานั้นก็รู้สึกว่ามีม่านหมอกกั้นระหว่างพวกเขาขึ้นมา ทันใด ทําอย่างไรก็ไม่สามารถกำจัดไปได้ และในใจของเซี่ยเส ก็เหมือนกับมีหินก้อนใหญ่มากกำลังกดทับอยู่ทำให้หดหู่และ อึดอัดเป็นอย่างยิ่ง
“เรื่องอุบัติเหตุเป็นความผิดของผมเอง ผมขอโทษคุณได้ ไหม?”
ณ บานประตูที่คั่นเอาไว้ เซี่ยเสบู่เอนหลังพิงประตูหันหลังให้ เขา และเขายืนเผชิญหน้ากับเธอ
“คุณเชียงชิงฉือรู้ว่าทำผิดด้วยเหรอ” น้ำเสียงนั้นเย้ยหยัน
ในความเป็นจริงที่เซี่ยเสวกังวลใจมากขึ้นในตอนนี้ แทนที่จะ เป็นเรื่องที่ถูกหลอกเรื่องอุบัติเหตุกลับเป็นซิงเหยว
สําหรับการพูดถากถาง เซียงซิงฉือคิดว่าเป็นเขาที่หลอกลวง เธอสมควรแล้วที่เธอจะทำแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ทะเลาะด้วย
เชียงซิงฉือลดการวางท่าลง แล้วพูดเสียงเบาลง : “เพราะคุณ พูดว่าจะหย่าแล้วผมก็เลยโกรธจนนึกออกแค่วิธีนี้ ผมรู้นะเซียเส ว่าคุณก็ใส่ใจผมอยู่ถูกมั้ย?”
หลังจากรู้ว่าเธอเองก็ใส่ใจเขาแล้วยังกลัวอย่างมากว่าเขาจะ
ประสบอุบัติเหตุจริงๆ ในใจของเขาก็มีความสุขมากกว่าใคร
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ทันใดนั้นเซี่ยเสวก็เหมือนกับลูกบอลที่โดน ปล่อยลมออก เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไง
ในตอนที่รู้ความจริงนั้นเธอโกรธมากจริงๆ โกรธที่เขาหลอก เธอ แต่ความเป็นจริงของความโกรธ ไม่ใช่เพราะว่าเธอใส่ใจ เขา หรือกลัวว่าเขาจะเกิดเรื่องอย่างนั้นหรอกเหรอ
ดังนั้นเรื่องนี้ สามารถสรุปได้สั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ
ได้ยินคําอธิบายจากเซียงชิงฉือ
“และเหตุการณ์ของมู่ชิงเหยาเมื่อกี้นี้ ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด
เมื่อพูดถึงมซึ่งเหยว เซี่ยเสวก็เหมือนวัตถุไวไฟ สามารถเข้าสู่ สถานะพร้อมจะระเบิดได้ในชั่วพริบตา
“คุณจะบอกว่าภาพที่ฉันเห็นเมื่อกี้นี้เป็นภาพลวงตาล่ะ? หรือ ว่าคุณไม่สามารถปล่อยให้เธอกลับบ้านหรือผลักเธอออกได้งั้น สิ? หรือว่าจากคิ้วไปที่ตาของพวกคุณมันเป็นของปลอม? เชียง ชิงฉือ ฉันไม่ใช่คนโง่! คุณเองก็อย่ามาทำราวกับว่าฉันโง่นักเลยค่ะ!”
เธอพูดออกมาเป็นชุดๆ แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถควบคุม ได้ คำพูดนั้น “ไหลออกมาเป็นน้ำก๊อก” คำพูดถูกพ่นออกมาไม่ หยุด และความโกรธทั้งหลายก็สาดลงบนตัวเซียงซิงฉือ
เซียงซิงฉือ โดนค่าพูดของเธอสาดใส่จนพูดไม่ออก เขานิ่ง เงียบและปรับสภาวะอารมณ์ของตัวเอง
เป็นเวลานาน เขาถึงจะลืมตาที่ปิดสนิท แล้วดวงตาของเขาก็ เย็นเยียบลงไปอีกราวสองสามระดับ มันมืดมนเหมือนสภาพ อากาศก่อนที่พายุไต้ฝุ่นจะมาถึงยังไงยังงั้น
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อย่ามีปัญหานักเลย คุณออกมาได้ แล้ว”
เซี่ยเสาที่กำลังโมโหอยู่เป็นทุนเดิม แล้วเซียงชิงฉือพูดแบบนี้
ก็กลายเป็นน้ำมันราดบนกองไฟอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอตั้งใจพูดมากขนาดนั้น กลายเป็นว่าในใจของเขาคิดว่า เธอเป็นคนที่โมโหโดยไม่มีเหตุผลเลยหรือไง? จะมีอะไรที่ทำให้ คนเจ็บปวดใจได้มากกว่านี้อีกมั้ยนะ?
เขาไม่มีคำอธิบายอะไรเลย แต่กลับมีข้อสรุปง่ายๆว่า เธอมี ปัญหา
เพราะความโกรธจัด เซี่ยเสว่จึงเตะประตูอย่างแรงโดยทันที แล้วโยนคำพูดเพื่อระบายไม่ให้รู้สึกโกรธแค้นออกไปว่า “ใช่ แล้วล่ะค่ะ ฉันกำลังสร้างปัญหาอย่างไม่มีเหตุผล ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปหามชิงเดียวคนที่จะไม่ทำเรื่องไม่มีเหตุผลของคุณแล้วกัน!
หลังจากพูดจบ เธอก็วิ่งขึ้นไปบนเตียง โดยไม่สนใจอะไร คลุม
ตัวเองไว้อย่างแน่นหนา ภูตผีเท่านั้นที่รู้ว่าอารมณ์ของเธอตอนนี้ แย่แค่ไหน
เซียงซิงฉือที่อยู่ด้านนอกประตู ถูกคำพูดนี้กระแทกเข้าใส่ไม่เบาเลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ