บทที่ 3 หย่ากับเจ้าทันที
และอีกข้างที่เย่หลิงมองไม่เห็น ฉันคือวิ่งก็ยิ้มมุมปาก แล้วควัก เอาซองกระดาษตรงกลางอกออกมา พลันแกะกระดาษออก ช้าง ในมีหมั่นโถวอวบอ้วนสีขาวสองลูก
เย่หลิงกลืนน้ำลายด้วยความหิวทันที แล้วยื่นมือเพื่อที่จะรับ ไว้ แต่กลับถูกฉินสือจึงเอามือหลบ นางจึงขึงตามองเขาที่ขัด ขวางการทำให้ท้องอิ่มของนางทันที
“เมื่อครู่เจ้าจะพูดอะไรนะ? ” ฉันซือจึงยังคงทำสีหน้าที่ไม่ แสดงอารมณ์ใดๆ ทว่าตอนนี้เย่หลิงกลับรู้สึกว่าเขาเลวมาก
แล้วพลางมองหมั่นโถวที่ลอยไปลอยมาตรงหน้าตัวเองที่ไม่
สามารถหยิบได้ นางจึงมั่นใจว่าเขาตั้งใจทำแบบนี้แน่นอน! จะให้ตัวเองยอมทำตามงั้นหรือ? ภายในใจของเย่หลิงรู้สึก
ไม่ยอมพ่ายแพ้ จึงจับจ้องหมั่นโถวไว้ แล้วพุ่งเข้าไปทันที
แต่สุดท้ายก็แย่งหมั่นโถวมาไม่ได้ แถมตัวนางยังล้มไปอยู่ใน อ้อมกอดของฉันสือจึงอีก
“ปัง! ”
ประตูถูกผลักออกอีกครั้ง มีแม่เฒ่าที่ดูคนหนึ่งถือไม้ไผ่ ยืนอยู่ตรงประตู จากนั้นก็เรียกขึ้นเสียงดัง “เมียเจ้าใหญ่! ยังไม่ ตื่นอีก! นอนจนเหมือนหมูแล้ว รีบไปทำความสะอาดคอกหมู เดี๋ยวนี้! อีกอย่าง…….ดีเยี่ยม! เมียเจ้าใหญ่ เจ้ากลับกล้าคบชู้สู่ชายหลังจากที่เพิ่งออกเรือนไปเพียงวันแรกนั้นหรือ! ดูสิว่าข้าจะ ไม่มีคนชั้นต่ำอย่างเจ้าให้ตายได้อย่างไร! ”
แม่เฒ่าพูดไปครึ่งประโยคถึงสังเกตเห็นว่าในเรือนมีสองคน คนที่ถูกเย่หลิงกดไว้นางก็เห็นหน้าตาไม่ค่อยชัด ปฏิกิริยาแรก ของนางคือผู้หญิงที่ไม่ได้เสียเงินสินสอดทองหมั้นแบบนี้นั้น เป็น คนชั้นต่ำอย่างที่คาดไว้จริงๆ นี่แค่วันแรกก็เผยธาตุแท้ของตัวเอง ออกมาแล้ว
เพราะว่าเมื่อเช้านี้ นางเห็นฉันสือจึงออกไปข้างนอกแต่เช้า แล้ว!
ทันใดนั้นนางก็ฉุกคิดขึ้นได้ แต่ก่อนเพราะว่าน้องชายต่างก็ สร้างครอบครัวแล้ว เจ้าใหญ่กลับยังไม่มีครอบครัว จึงชอบถูก คนในหมู่บ้านซุบซิบนินทา แต่พอนึกถึงเจ้าใหญ่ที่ต้องของแม่ นางในตระกูลธรรมดาก็ยังต้องเสียเงินทองก็รู้สึกเจ็บใจ กลับนึก ไม่ถึงว่าเจ้าสองกลับบอกตัวเองว่าเห็นแม่นางคนหนึ่งเป็นลมอยู่ ข้างถนน!
นี่มันไม่ใช่เรื่องดีๆ ที่ฟ้าประทานมาหรือ นางเลยโบกมือแล้ว พาเจ้าสองไปพาแม่นางคนนี้กลับมาแล้วถามนามให้ชัดเจน จาก นั้นก็ให้แต่งงานกับเจ้าใหญ่ เห็นแก่แม่นางผู้นี้ที่เป็นลมไปอีกสัก พัก ไม่แน่ว่านางก็คงไปแล้ว แถมตัวเองยังเป็นถึงผู้มีพระคุณที่ ช่วยชีวิตนางไว้ ทำให้นางได้แต่งงานกับเจ้าใหญ่ ก็ยังถือว่าให้ เกียรตินางมากแล้ว!
“ข้าจะให้เจ้าใหญ่หย่ากับเจ้า! ” แม่เฒ่าก็คือหลิงซื่อ แม่เลี้ยงของฉันซือจิ่ง ตระกูลฉินมีฉินสื่อสิ่งที่เป็นเพียงบุตรคนเดียวที่บิดา ของเขาคือฉันต้าให้และภรรยาคนก่อน
หลิงซอยืดเอวขึ้น แล้วก็พูดคำพูดสกปรกที่ดูหมิ่นและเหยียด หยามออกมา และในใจของนางก็คิดว่าหุ่นอย่างเย่หลิงดูไม่ กระฉับกระเฉง เลี้ยงไว้ไม่แน่คงไม่สามารถทำงานอะไรได้ แล้ว ยังเลี้ยงเสียข้าวสุก หย่าได้ก็ดี
อย่างไรก็ตามถือว่าฉันสือจึงได้สร้างครอบครัวแล้ว วันข้าง หน้าคนในหมู่บ้านก็จะไม่มีใครพูดอีกแล้ว
และเพราะว่าพอหลิงชื่อเข้ามาก็พูดเหมือนจุดประทัดไม่ยอม หยุด จากนั้นก็เอาแต่พูดถึงเรื่องคบชู้สู่ชาย ผ่านไปพักหนึ่งเ หลิงถึงคิดขึ้นได้ว่าหญิงตรงหน้าพูดอะไร เลยรู้สึกโมโหฉุนเฉียว อย่างรุนแรง!
นางจึงลุกขึ้นเพื่อทำให้หลิงชื่อเห็นว่าคนที่อยู่ใต้ร่างของตนนั้น เป็นใคร และเป็นอย่างที่คาดไว้ พอเห็นฉันสือวิ่ง หลิวซื้อก็เหมือน ถูกคนบีบคอ แล้วก็ดับสลายไป
“เจ้าใหญ่? ทำไมเจ้าถึงอยู่บ้านได้…..ไม่ใช่ว่าออกไปตัดฟืน
หลิงซื่อพูดอย่างล้ำๆ อึ้งๆ ไปสักพัก แล้วพูดขึ้นเพื่อให้ดูมี เหตุผล และสามารถพูดต่อได้อย่างเต็มที่ “ดีเหลือเกิน ที่พวกเจ้า สองคนกลับแอบมาขี้คร้านอยู่ในเรือนแบบนี้! ”
“ท่านป้า ร่างของท่านใหญ่กว่าข้าสองคนแน่ะ แถมยังดูแข็ง แรงมาก ดูไม่ออกเลยว่าท่านจะจบชีวิตลงเมื่อใด? ท่านยังต้องการคนอย่างข้าที่แค่ถูกท่านผลักนิดเดียวก็ล้มแล้ว ไป ทําความสะอาดคอกหมูจริงหรือ? ”
“ข้าควรไปเดินข้างนอกหนึ่งรอบหรือไม่ ให้ญาติพี่น้องได้เห็น ว่าข้ามีสภาพเช่นไร แล้วให้พวกเขาลองไตร่ตรองกันดีไหม? “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ