บทที่ 11 สามีร้อง ภรรยารับ
เย่หลิงนัยน์ตาเปล่งประกายทันที นางนึกว่าฉันซือจึงไม่ได้ให้ ความสำคัญอะไร ที่แท้เขาไปตามหลี่เจ๋งมาคุยเรื่องนี้เลย
นางยังสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าฉันซือจึงดูเหมือนไม่ใช่คนที่ทำ ตามคนอื่นง่ายๆ ขนาดนั้น แล้วพอพูดถึงการแยกบ้านเขากลับไม่
ว่าอะไรเลย แต่สุดท้ายเขาเป็นคนที่ลงมือทำเลย
หลิวซื้อนิ่งงัน ผ่านไปสักพักถึงถามขึ้น “พูดว่าอะไรนะ? แยก บ้านหรือ? ”
ตอนนี้ตระกูลฉินไม่มีใครแยกบ้าน อำนาจสูงสุดทางการเงิน อยู่ในมือของหลิวซื่อ เหตุผลหลักที่สำคัญก็คือรอให้ฉินเหวินอาน สอบติดซิ่วไฉ หนึ่งคนบรรลุเป็นเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวก็ พลอยได้ดีไปด้วย
ทว่าหลิวซื่อไม่ได้พูดถึงเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ฉันสือจึงจะแยก ออกไปก็เพราะว่า ถ้าฉันสือจึงออกไป งานทุกอย่างในบ้านก็ควร จะมีฉินสื่อจุนและฉินฮือฮุย สองพี่น้องเป็นคนทำ
“เรียกฉันต้าให้ออกมา บ้านนี้ไม่แยกก็ได้ ถ้าไม่แยกวันข้าง หน้ารายได้ที่สือวิ่งหามาก็ให้แยกออกมา” เฉิงเต๋อเหรินพาคนๆ หนึ่งเดินเข้ามาในเรือน “สือวิ่งก็คือคนที่ข้าเฝ้าดูจนเติบโต เรื่อง นี้ข้าจะยุ่งให้ถึงที่สุด”
“นี่ถ้าเกิดว่าเรื่องมันบานปลายขึ้นมาจะกระทบกับชื่อเสียงของปัญญาชนก็คงไม่ดีหรอกกระมัง” เย่หลิงยืนอยู่ข้างหลังฉินสื่อ จิ้ง แล้วจู่ๆ ก็พูดประโยคนี้ออกมา
คำพูดนี้เมื่อเทียบกับคำพูดอื่นแล้ว ทำให้หลิวซื้อรู้สึกกลัวที่สุด ที่พึ่งพิงที่ใหญ่ที่สุดของนางคือบุตรชายที่ได้เรียนหนังสือคนเดียว เท่านั้น ถ้าเกิดว่าถูกอาจารย์ที่อยู่ในเมืองมาได้ยินเข้าจริงๆ ก็ คงจะไม่ดีต่อฉินเหวินยาน แบบนั้นก็คงจะ………
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตัวเองถูกขี้หมาบังตาจนมัวพร่า ฉินสื่อจิ่งกับเมีย ดูๆ แล้วก็คงไม่ใช่คนที่เงียบสงบ หากเก็บไว้ใน บ้าน วันใดเกิดทำให้ฉันเหวินยานลำบากไปด้วย จะยิ่งทำให้ได้ ไม่คุ้มเสีย!
สําหรับเรื่องเงินนั้น ถึงจะแยกบ้านกันแล้ว ฉันต้าให้ก็ยังคง เป็นพ่อของฉันซือจิ่ง! และตัวเองยังเป็นแม่ของฉันซือจิ่ง เขาก็จะ ไม่สามารถดูแลพวกเขาสองคนได้เลยหรือ!?
ฉันต้าให้ที่อยู่ในห้องรับแขกตั้งนานแล้ว ก็พลันได้ยินเสียง ทะเลาะด้านนอก แต่เขาเองก็ไม่ค่อยชอบฉินสือจึงเท่าไหร่ กลับ นึกไม่ถึงว่าอยู่ๆ หลี่เจิ้งจะโผล่มา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเดิน ออกไปอย่างใจเย็น
คนรอบข้างต่างก็จับจ้องไปที่เขา ทำให้เขารู้สึกเสียหน้ามา พอ นึกถึงฉินสือจึงโวยวายเรื่องครอบครัวให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็ยิ่งรู้สึก ไม่ชอบบุตรชายคนนี้ขึ้นไปอีก จึงให้ฉันลือจจึงไปปิดประตูทันที เพื่อที่จะไม่ให้มีสายตามาจับจ้องที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกสะใจของคน ข้างนอก
“ไหนๆ คนที่สามารถตัดสินใจได้ก็อยู่นี่แล้ว” เฉิงเต๋อเหรินพูด “ต่างฝ่ายต่างพูดอะไรหน่อย ว่าตกลงบ้านนี้จะแยกหรือไม่แยก
ฉินสือจึงพูดด้วยเสียงต่ำและหนักแน่น “แยก”
เย่หลิงจึงต้องสามีร้อง ภรรยารับ “แยก” รีบแยกเถอะ แยก ไปตัวเองจะได้หาเงินได้ดีๆ ไม่งั้นอยู่ในตระกูลฉิน คิดว่าหาเงิน มาไว้ในมือแล้ว ทั้งบ้านนี้ต่างก็อยากจะควักเงินออกจากตัวเอง พอคิดดูแล้วก็ยิ่ง ใจคอไม่ดี
“ฉันต้าไห่ เจ้าว่าอย่างไร? ” เฉิงเต๋อเหรินหันไปมองฉันต้าให้
ฉันต้าไร่อ้าปากอยากจะปฏิเสธ ถ้าบ้านนี้มีเพียงบุตรคนโต แยกออกไป ก็จะยิ่งถูกคนในหมู่บ้านนินทาลับหลัง เขาไม่อยาก เสียหน้าอีกแล้ว
“แยกบ้าน หนึ่งเดือนสองร้อยอัฐ ไม่แยก วันข้างหน้าเงินของ ข้า ข้าจะจัดการดูแลเอง” ฉินสือจึงพูดด้วยเสียงเรียบ เขารู้ว่าต่อ หน้าเงินกับหน้าตา หลิวซื้อกับพ่อแท้ๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลย คนนี้จะเลือกอะไร
ดั่งที่คาดไว้ไม่มีผิด พอเขาพูดจบ หลิวซื่อกับฉันต้าไปก็ทำ นัยน์ตาเปล่งประกาย หนึ่งเดือนสองร้อยอัฐ นั่นไม่ใช่จำนวน น้อยๆ เลย หนึ่งปีมีเงินสองตำลึงเงินเข้าในบัญชี
ไม่รู้ว่าทำไม เย่หลิงจู่ๆ ถึงรู้สึกว่าอารมณ์ของฉันสือจึงไม่ได้ดี ขนาดนั้น พอเห็นพ่อแม่ที่หน้าเงินจนไม่สนใจบุตรชายที่จากบ้าน ไปสิบปีแล้วเพิ่งกลับมา จู่ๆ ก็รู้สึกปวดใจนางจึงเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วจับมือของฉันคือวิ่งไว้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ