บุปผาเสน่ห์หา หมอเทวดาจูนจิ่ว

บทที่4จูนจิ๋วคนเดิมผู้อนาถ



บทที่4จูนจิ๋วคนเดิมผู้อนาถ

จูนจิ๋วยื่นมือรับมีดสั้นออกมาจากกำไลข้อมือจ่อตรง ปากจูนเซียนเซียน”อ้าปากอย่างว่าง่ายสีข้าจะลงมือ อย่างรวดเร็วไม่เจ็บหรอก”

“อือฮือฮือ”จูนเซียนเชียนหรือจะกล้าอ้าปากกัดกราม อย่างสุดแรงแล้วส่ายหัวอย่างเดียว

นางตกใจจนตัวงอเบิกตาโตมองดูจูนจิ๋วตกใจกลัวอ ย่างที่สุดนางน่ากลัวมาก

จูนเชียนเชียนอยากขอความช่วยเหลือแต่บ่าวไพร่ ต่างล้มกลิ้งอยู่กับพื้นปี้หลัวตกใจจนเสียงหายในสายตา พวกเขาจูนจิ่วไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างเมื่อก่อนอีกต่อ ไปนางเป็นผีที่โหดเหี้ยมอำมหิตนางกลับมาแก้แค้นแล้ว

จูนจิ่วขมวดคิ้ว“ไม่อ้าปากนึกว่าข้าจะไม่มีหนทางแล้ว ใช่ไหม?”

จูนจิ๋วขยับนิ้วยกคางจูนเชียนเชียนออก

“อ๊าก”

“หยุดนะ”เสียงดังคำรามเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบกำลังเดิน

มีดสั้นเพิ่งบาดปากของจูนเชียนเชียนเลือดสดๆไหล ออกมาจูนจิ่วได้ยินเสียงจึงหันไปดูมองเห็นชายวัยกลาง

มาคนจ้องมองนางด้วยความตกใจและโมโหนางหาคนคน นี้ในความทรงจําเขาคือจูนเหลยเทียนเจ้าบ้านบ้านรอง เมืองเฟิงหลัว

คนหนึ่งที่เกลียดและต้องการให้จูนจิ่วคนก่อนตาย

เหมือนกัน จูนเหลยเทียนตะโกนขึ้นว่า”จูนจิ่วเจ้ากล้าดียังไงยัง

ไม่รีบปล่อยเชียนเชียน”

จูนเซียนเขียนอยากร้องเรียกขอความช่วยเหลือแต่ คางโดนถอดออกแล้วในปากยังมีมีดสั้นคาอยู่จึงทำได้ เพียงปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างหวาดกลัวแววตามองไป ยังจูนเหลยเทียนอย่างขอความช่วยเหลือ

“ทำไมข้าต้องปล่อยนาง?”

“จูนจิ่วเจ้ากล้าดียังไงที่ไม่ฟังคำสั่งข้า”จูนเหลยเทียน ถลึงตา

เขาได้ทราบข่าวบอกว่าเรือนทางทิศตะวันออกเฉียง ใต้มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดจึงคิดถึงว่าเชียนเขียนเคย มาเล่าข่าวดีให้ฟังว่าได้ฆ่าจูนจิ๋วตายแล้วนางจะไปจุด เผาเรือนทิ้งให้จูนจิ่วไม่หลงเหลืออะไรในโลกนี้อีก

ในใจคิดป้องกันไว้ก่อนเผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงจึงรีบ มาดูยังไงจูนเหลยเทียนก็คิดไม่ถึงว่าจะเห็นภาพตรง หน้านี้
ไหนบอกว่าจูนจิ๋วตายแล้วไม่ใช่หรือ?

มองดูจูนเหลยเทียนแล้วจูนจิ๋วก็หัวเราะบนใบหน้านาง ยังเปื้อนไปด้วยเลือดสดๆท่าทางที่หัวเราะ ทำให้นาง งดงามมากและเหมือนกับรอยยิ้มของเทพแห่งความ ตายในใจจูนเหลยเทียนหวั่นกลัว

จูนจิ่วเก็บมีดสั้นเช็ดเลือดบนใบหน้าจูนเชียนเขียนกา รกระทำนี้ทำให้ในใจจูนเหลยเทียนตกใจจนเนื้อเต้นจูน จิ่วเงยหัวมองดูจูนเหลยเทียน”จูนเหลยเทียนเจ้าเป็น แค่เจ้าของบ้านรองมีสิทธิ์อะไรให้คุณหนูอย่างข้าฟังคำ ของเจ้า?”

“เจ้า”

“ข้าจำได้เกียรติศักดิ์ของข้าคือคุณหนูเอกตาม ธรรมเนียมแล้วเจ้าพบข้าต้องทําความเคารพทักทาย ข้า”จูนจิ่วพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน

“ฮ่าฮ่าฮ่า”จูนเหลยเทียนอ้าปากกว้างหัวเราะ”จูนจิ๋ว เจ้ากำลังฝันอยู่หรือ?เจ้าคนขี้ขลาดตาขาวอย่างเจ้ายัง อยากเป็นคุณหนูเอก?พ่อแม่เจ้าล้วนตายไปแล้วเหลือไว้ แค่คนขี้ขลาดตาขาวอย่างเจ้าตระกูลจุนยอมเลี้ยงดูเจ้า ล้วนเป็นบุญอย่างยิ่งแล้ว

“เจ้าคงยังไม่ลืมว่าทำไมเจ้าถึงถูกส่งมายังบ้านรองไช่ ไหม?เจ้าทำให้คุณหนูใหญ่โกรธจึงโดนไล่ออกมาตอนนี้ คนที่สั่งฆ่าเจ้าก็เป็นคำสั่งของจู่หมู่เจ้ายังมีสิทธิ์อะไรมา พูดถึงเกียรติศักดิ์ของเจ้าต่อหน้าข้า?”
หือมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?

จูนจิ่วทบทวนความทรงจำของตนพบว่าจูนเหลยเทียน พูดไม่ผิดตอนนี้นางยังรู้อีกว่าบ่าวไพร่ที่มากับจูนเชียน เชียนเป็นคนของจู๋หมู่คำสั่งของผู้หญิงจิตใจเหี้ยมโหด คนนั้น

“นายท่านเจ้าของเดิมของร่างนี้มีชิวิตอนาถยิ่ง นัก”เสียงในกำไลข้อมือพูดขึ้น

อืมจูนจิ่วเห็นด้วยช่างอนาถจริงๆ

จูนเหลยเทียนเห็นจูนจิ่วไม่พูดอะไรก็นึกคิดว่าจูนจิ๋ว เกรงกลัวจึงยกมือออกคำสั่งให้ทหารล้อมจูนจิ๋วไว้

จูนเหลยเทียนจ้องมองจูนจิ๋วอย่างเย้ยหยัน”จูนจิ๋ววัน นี้เจ้าต้องตายปล่อยเชียนเชียนเดี๋ยวนี้ข้าจะให้เจ้าได้ ตายอย่างรวดเร็ว”

“เจ้าอยากจะฆ่าข้า?อาศัยเจ้าเอี๊ยนะ”จูนจิ่วหัวเราะ เสียงดังไม่รีบร้อนเลยสักนิด

เสียงในกำไลข้อมือก็กำลังหัวเราะ”คนอย่างพวกเขา คิดอยากจะฆ่าเจ้านายฝันไปเถอะเจ้านายลงมือเลยสั่ง สอนพวกเขาสักหน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ