บุปผาเสน่ห์หา หมอเทวดาจูนจิ่ว

บทที่6ทางของข้าก็คือเจ้า



บทที่6ทางของข้าก็คือเจ้า

ยากที่จะเชื่อเมื่อกี้จูนเหลยเทียนยังอยากที่จะฆ่าจูน จิ่วตอนนี้กลับปอดแหกขึ้นมาทันที

จูนจิ่วหัวเราะดูเหมือนไม่แปลกใจเลยนางพูดขึ้น ว่า”เรือนของข้าโดนจูนเชียนเชียนเผาแล้วข้าต้องการ เรือนหลังใหม่จูนเหลยเทียนเจ้ารู้ว่าจะต้องทำยังไงใช่ ไหม?”

“ได้ข้าจะรีบสั่งยกเรือนตงหูให้เจ้าเป็นยังไง?”

เรือนตงหู?

จูนจิ่วทบทวนความทรงจำไม่ปรากฏปัญหาใดใดนาง จึงตกลง

เช็ดเลือดบนมีดสั้นให้สะอาดจูนจิ๋วแลสายตามองสอง พ่อลูกอย่างเยือกเย็น“พวกเจ้าไสหัวไปได้แล้วหากอีก ครั้งพวกเขาก็คือจุดจบของพวกเจ้า”

จูนเหลยเทียนหน้าชาขมขู่จูนจิ๋วกล้าขมขู่เขา แต่ตอนนี้จูนจิ๋วมีความสามารถแบบนี้

จูนเหลยเทียนแอบกัดกรามพยักหน้ารับเพียง ภายนอกแล้วรีบลากจูนเขียนเขียนที่ตกใจกองอยู่กับ พื้นขึ้นมาจากไปจูนจิ๋วร้องทักว่า”เดี๋ยวก่อน”
“เจ้ายังมีอะไรอีก”

“เจ้าของบ้านรองเล็กๆเห็นคุณหนูเอกอย่างข้าจักต้อง ทำยังไง?”จูนจิ๋วค่อยๆยกคางมองจูนเหลยเทียนอย่าง ล้อเลียน

ใบหน้าจูนเหลยเทียนบิดเบี้ยวก้มหัวทำความเคารพ อย่างไม่เต็มใจ”จูนเหลยเทียนเจ้าของบ้านรองคาราวะ คุณหนูจิ่วขอคุณหนูจิ่วอนุญาติให้พวกเรากลับไป

“ไสหัวไป”

จูนเหลยเทียนจากไปอย่างโกรธเคืองและไม่ทันระวัง ว่ามีเข็มเงินลอยปักเข้าไปในร่างจูนเซียนเซียนร่างจูน เชียนเชียนกระตุกเบิกตาโตสีหน้าเจ็บปวดจนบิดไปมา เมื่อนางอ้าปากพูดกลับพูดไม่ออก

จูนจิ๋วยิ้มที่มุมปากนางเคยพูดว่าจะตัดลิ้นนางก็จะไม่ กลับคํา

ชั่วชีวิตนี้ของจูนเซียนเชียนจะไม่สามารถพูดได้อีก และยังต้องทนเจ็บปวดดั่งโดนเผาภายในร่างกายทุกวัน จูนจิ่วถือว่าเป็นการช่วยเจ้าของเดิมแก้แค้น

เสียงในกำลังข้อมือถามจูนจิ๋วขึ้นว่า “เจ้านายทำไมเจ้า ถึงปล่อยพวกเขาไป

“ร่างกายนี้อ่อนแอมากรับมือกับคนพวกนั้นจนไม่มี แรงเหลือแล้วฝีมือจูนเหลยเทียนมีสูงกว่านิดหน่อยหากรับมือกับเขาจะไม่เป็นผลดีอีกอย่างข้าเก็บเขาไว้ยังใช้ ประโยชน์ได้

จูนจิ่วพูดไปด้วยนวดแขนไปด้วย

ปวดเมื่อยยิ่งนัก

ร่างกาย ออกกําลังเพียงแปบเดียวก็หมดแรงแล้ว ดูท่านางต้องบำรุงดีๆล้างไขกระดูกถึงจะสามารถเอา กำลังความสามารถในภพที่แล้วกลับคืนมาแต่ในภพนี้มี นักจิตนั่นคืออะไรอีก?

มือคู่หนึ่งฟาดอยู่บนบ่าจูนจิ่วออกแรงนวดอย่างพอดี

กำไลข้อมือร้องเรียกขึ้น”เจ้านายผู้ชายคนนั้นมาแล้ว”

การนวดทำให้จูนจิ๋วสบายตัวขึ้นเยอะนางชายตามอง ดูผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์”ทำไมเจ้ายังไม่ ไป?”

“สาวน้อยเจ้าโกหกข้าเจ้าชื่อจูนจิ่วไม่ใช่จิ่วเยว่

..….….….………..ไม่รู้จักทำไมต้องบอกชื่อจริงของตนนาง ไม่ได้โง่สักหน่อย

พริบตาเดียวก็มองรู้ว่าจูนจิ่วคิดยังไงผู้ชายยกคางจูน จิ่วขึ้นมามองด้วยดวงตาสีทองพูดขึ้นว่า “ข้าชื่อโม่อู๋เยว่ ตอนนี้เรารู้จักกันแล้วนะ”
“อืมด้วยความยินดี”

“แต่ชื่อจิ่วเยว่ก็ไม่เลวเจ้ามีข้าข้ามีเจ้าต่อไปหากเรามี ลูกสาวก็ให้ตั้งชื่อนี้”

จูนจิ๋ว”??”

กำไลข้อมือพูดขึ้นว่า “เจ้านายเป็นการจีบที่สูงส่งมาก ถึงขั้นอยากที่จะมีลูกกับท่านเลยนะ”

หากเป็นคนอื่นจูนจิ่วจะใช้เข็มปักจนท่อนล่างของเขา ไม่ขันอีกแต่โม่อู๋เยว่เห็นแก่ที่หน้าตาหล่อเหลา…… จึงยอมปล่อยเขาไป …..จูนจิ๋ว

ปัดมือโม่อู๋เยว่ทิ้งจูนจิ๋วถอยหลังไปสองก้าว”เราไม่ สนิทกันเจ้าไปตามทางของเจ้าข้าไปตามทางของข้า”

“แต่ทางของข้าก็คือเจ้า”

โม่อู๋เยว่ยิ้มลักยิ้มช่างเป็นภัยต่อประชาชนประเทศ ชาติ“เจ้าอยู่ที่ไหนข้าก็จะอยู่ที่นั่นไม่ว่ายังไงเจ้าก็สลัด ข้าทิ้งไม่ได้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ