นักรบจอมราชันย์

บทที่ 8 สำเร็จ!



บทที่ 8 สำเร็จ!

บทที่ 8 สําเร็จ!

ขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจอยู่นั้น หยางล่อก็ปัดมือ ไปมาอย่างพึงพอใจ เขาลูบจมูกแล้วพูดขึ้นช้าๆ “ไม่ทราบ ว่า ตอนนี้คุณสมบัติฉันผ่าน พอที่จะเป็นครูของโรงเรียน กังฟูฉี่หางได้หรือยัง? ผู้ตรวจสอบ” หยางล่อมองไปทาง หวางหมิงแล้วถามขึ้น

ใบหน้าของหวางหมิงตอนนี้น่ากลัวจนน่าขนลุก เขา โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ไอ้บ้า ถ้าอัดเบาจนซะเป็นแบบนี้ แล้วบอกว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน แล้วคนแบบไหนถึงจะผ่าน กันล่ะ แต่หวางหมิงเองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมรับอะไรง่ายๆ ตอนนี้เขาต้องพยายามกู้หน้าของตัวเองขึ้นมาเสียบ้าง

“เรื่องการเป็นครูน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันขอเตือน อะไรอย่างหนึ่งนะ การจะอยู่ที่นี่จะอาศัยแค่ฝีมืออย่าง เดียวไม่ได้หรอกนะ ครูเหล่านั้นเองก็มีฝีมือ ลูกศิษย์ต่างๆ ก็เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ยังถูกเหล่านักเรียนไล่ออกไป เพราะฉะนั้นนายต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีๆ” ถึงแม้ว่า ตอนนี้สีหน้าของหวางหมิงจะดูแย่ แต่เขาก็เป็นคนที่มีชื่อ เสียงของโรงเรียนแห่งนี้ การพูดแบบนี้คงไม่ทำให้เขาเสีย หน้ามากหรอกนะ

พอได้ยินหวางหมิงพูดแบบนั้น หยางล่อก็รู้สึกสบายใจขึ้น เดิมทีเขาก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรหวางหมิงมากอยู่ แล้ว เพราะฉะนั้นไปอัดเขาเสียจนเป็นแบบนี้จึงรู้สึกไม่ สบายใจ อีกอย่างท่าทางเมื่อสักครู่ของหวางหมิงก็แสดง ความจริงใจออกมา ดังนั้นหยางล่อจึงตัดสินใจที่จะช่วย เหลือหวางหมิงสักหน่อย พลางเดินก้าวเท้ายาวไปหยุด อยู่ตรงหน้าของหวางหมิง พลางใช้มือข้างหนึ่งจับบ่าเขา เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็จับไปที่ศอกของเขา

“นายจะทำอะไร? ฉันยอมแพ้ไปแล้วนะ” หวางหมิงเห็น ว่าหยางล่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา หน้าเขาก็ซีดเผือด ทันที

“ชีวิตทุกคนมันก็ไม่ได้ง่ายหรอกนะ เอาเป็นว่าถ้านาย อยากจะดีขึ้นเร็วๆ ล่ะก็ อย่าขยับเด็ดขาด” พูดหยางล่อ พูดจบ เขาก็กดไปที่ไหล่ของหวางหมิงมืออีกข้างหนึ่งก็บิด เบาๆ สิ่งที่ได้ยินหลังจากนั้นก็คือเสียงร้องตะโกนของหวา งหมิง กับเสียงกระดูกของเขาดังกร๊อบ

“เรียบร้อย พักสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ แล้ว ขานายต้องทําด้วยหรือเปล่า?”

หวางหมิงลองขยับแขนเขาดู ก็พบว่าแขนตัวเองใช้ การได้แล้ว สีหน้าก็ฉายแววยินดีออกมาแล้วรีบพูดขึ้น “ขอบคุณพี่หยางมากๆ ขอบคุณที่ไม่ถือสาเด็กคนนี้ ต้องการครับ ต้องการ”
หวางหมิงยื่นขาออกมาให้เขาตรงหน้า ท่าทางของเขา แบบนี้เหมือนกับเด็กกำลังแย่งกินขนมเลย

หยางล่อยิ้มอย่างพึงพอใจ ดูเหมือนกับแม่กำลังให้นมลูก เลยนะ หยางล่อพลางใช้วิธีแบบเดียวกัน ครั้งนี้หวางหมิง เองก็รู้แล้ว จึงออกแรงกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงไว้

“ขอบคุณมากๆ พี่หยาง ถ้าพี่ต้องการตอนนี้ก็สามารถ เริ่มสอนได้เลย ความหวังของโรงเรียนเราขึ้นอยู่กับพี่ แล้ว” หวางหมิงพูดพลางจ้องมาที่หยางล่ออย่างกับเป็น พ่อแท้ๆ ความโกรธแค้นที่มีก่อนหน้านี้ก็สลายหายไปหมด แล้ว

“วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้น่ะ ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ด้วยซ้ำ อีกอย่างวันนี้ก็เพิ่งจะวันพฤหัสเองนะ เอาไว้ฉัน กลับไปเตรียมตัวก่อน แล้วจะมาเริ่มสอนอาทิตย์หน้าล่ะ กัน” หยางล่อเองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลที่จะไม่ให้อภัยเลย เมื่อคนอื่นเคารพเขา เขาก็ต้องเคารพคนอื่นเช่นกัน

“ไม่มีปัญหาเลยครับ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พี่หยาง อีกเดี่ยวโรงเรียนเราก็จะมีการจัดประลองศิลปะการต่อสู้ สมัยใหม่แล้ว พอถึงตอนนี้นักเรียนของโรงเรียนเราต้อง รบกวนพี่ด้วยนะ” หวางหมิงรีบยื่นบุหรี่ให้หยางล่อหนึ่ง มวน โดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองอยู่เลย ตอนนั้นทุกคนเองก็ถูกครูคนอื่นๆ บอกให้แยกตัวกัน จึง เหลือเพียงแค่ครูกับเหล่านักเรียนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ครูเพียงหยิบมือเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณมาก นายก็อย่าเรียกฉันว่าพี่ หยางเลย หลังจากนี้นายนั่นแหละที่เป็นพี่ฉัน ขอให้นาย เรียกฉันว่าอาจารย์หยางก็พอแล้วล่ะ” หยางล่อคาบบุหรี่ มวนนั้นขึ้น หวางหมิงเองก็รีบรุดมาจุดไฟให้ความรู้สึก แบบนี้มันก็ไม่เลวเลยนะ

หวางหมิงเองก็เหมือนคนที่ได้รับการประคบประหงม อย่างดี พลางพยักหน้าหงิกๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าค่อย มาเริ่มสอนนะ วันนี้ขอตัวก่อนล่ะ” หยางล่อคีบบุหรี่ พลาง เดินจากไปทันทีโดยไม่ได้รอให้หวางหมิงมาคํานับอะไร เขาอีกเสียก่อน จนกระทั่งกายของเขาหายไป หวางหมิงก็ เหมือนตื่นขึ้นจากความฝัน

เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันอยู่จริงๆ เหมือนเริ่ม จากบนฟ้าแล้วถูกลากลงไปนรก หลังจากนั้นก็ถูกช่วย กลับมายังโลกมนุษย์ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหยางล่อคน เดียว

หลังจากที่ออกมาจากสนามกีฬาแล้ว หยางล่อก็บังเอิญ เจอคนสองคนที่รู้สึกคุ้นๆ ที่หน้าประตูโรงเรียน ดูเหมือน ว่าหนึ่งในนั้นเคยเห็นที่สนามกีฬามาก่อน ส่วนอีกคน

เหมือนว่าจะใช้วางหูที่เคยลวนลามหลินเย่ที่ร้านคาเฟ่นั้นมาก่อนหรือเปล่านะ พวกที่ถูกเขาสั่งสอนพวกนั้น หรือ ว่าจะมาแก้แค้นงั้นหรือ? แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แฮะ มาแค่ สองคนเอง

“สวัสดีครับ อาจารย์หยาง!” พลันเห็นสองคนนั้นวิ่งเข้า มาหาเขาด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว

หยางล่อเองก็จ้องไปที่สองคนนั้น ก่อนจะถามขึ้นอย่าง

ประหลาดใจ “อืม มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”

คนที่ซื่อหลิวเชนก็ยิ้มพูด : “อาจารย์หยาง คิดไม่ถึง เลยว่าครูจะล้มหวางหมิงได้จริงๆ นะเนี่ย ตอนนี้ครูเป็น ขวัญใจของพวกเราเลยนะครับ!”

ว้างหูเองก็พูดเสริมขึ้น : “ใช่แล้วๆ อาจารย์หยางเก่งกาจ สุดๆ เมื่อวานนี้ผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอง พอหลิวเชนมาเล่า ให้ผมฟัง ผมก็รู้เลยว่าต้องเป็นครูแน่ๆ ดังนั้นผมก็เลยมาร ออยู่ที่นี่”

พอเห็นทั้งสองคนมาประจบเขาแบบนี้ หยางล่อก็หัวเราะ พูด : “มันก็แค่เรื่องจิ๊บจ๊อยน่า”

พอเห็นท่าทีไม่สนใจของหยางล่อ ทำให้สีหน้าของทั้ง สองคนเต็มไปด้วยความเลื่อมใส “อาจารย์หยาง พวกเรา อยากจะอยู่กับครูด้วย ไม่รู้ว่าครูจะยอมรับพวกผมทั้งสอง คนหรือเปล่า?” ขณะนั้นเอง หลิวเชนก็ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง

“อยู่กับฉันงั้นหรือ? แล้วพวกนายจะมาอยู่กับฉันทำไม?” พอได้ยินแบบนั้น หยางล่อก็ถามขึ้นอย่างสงสัย

หลิวเชนเองก็พูดขึ้น : “อาจารย์หยาง หลังจากที่ผมได้ เห็นพละกำลังที่แข็งแกร่งของครู พวกเราก็เลื่อมใสครู อย่างมาก ขนาดคลื่นทะเลที่โหมกระหน่ำยังทำอะไรครู่ ไม่ได้เลยนะครับ!”

“มีคําชมขนาดนั้นเลยหรือ?” หยางล่อพูดอย่าง

ประหลาดใจ

หลิวเชนเองก็พยักหน้าหงิกๆ : มีสิครับ ผมกับว้างหูรู้สึก ว่าอาจารย์หยางทั้งเป็นวีรบุรุษที่เก่งกล้า อีกทั้งรูปร่างสูง

พอได้ยินคําประจบประแจงของหลิวเชนแบบนี้ ทำให้ หยางล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองนี่ช่างเก่งกาจเสีย เหลือเกิน หลังจากพูดกันไปมาอยู่ไม่กี่นาที หลิวเชนก็ หยุดพูดลง

หยางล่อเห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ : “จะ หยุดทำไมกันเล่า? ไม่ต้องหยุด ฉันยังฟังไม่หนำใจเลย” พอได้ยินแบบนั้น หลิวเชนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หลัง จากนั้นเขาก็พูดสอพลอใส่ไม่หยุด
สุดท้ายหลิวเจนก็เอาคําศัพท์ที่ตัวเองรู้ทั้งหมด พูด ไหลไฟดับ จนหยางล่อที่กำลังฟังอยู่ เผยรอยยิ้มขึ้นบน ใบหน้า

“อันนั้น ฉันพูดไม่ออกจริงๆ ด้วยล่ะ” พอเห็นสีหน้ายิ้ม แย้มของหยางล่อ หลิวเซนก็หัวเราะขึ้น

หยางล่อเองก็หัวเราะพูด : “เอาล่ะ นี่มันไม่ใช่เหตุผล ที่พวกนายจะต้องมาพูดโน้มน้าวใจฉันหรอกนะ ฉันแค่ ต้องการให้พวกนายบอกเหตุผลที่อยากจะมาอยู่กับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงรับศิษย์มาตามใจไม่ได้หรอ

คําพูดของหยางล่อเองก็ไม่เลวเลย เขาเป็นถึงเทพ ประยุทธ์ที่สง่างาม ถ้าหากต้องรับศิษย์มาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่า จะมีสักกี่คนที่ยอมตามเขามา หลิวเชนสบตากับว๊างหู พอ เห็นว่าทำอะไรไม่ได้ ว้างหูจึงถอนหายใจเบาๆ แล้วพูด ขึ้น : “อาจารย์หยาง ถ้าอย่างนั้นจะพูดความจริงนะครับ! พวกเราทั้งสองคนนั้นต่างก็เป็นแค่นักเลงหัวไม้ ที่พอจะมี กำลังอยู่บ้าง แต่พอได้เห็นความเก่งการของครูแล้ว พวก เราก็รู้ได้ทันทีว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ถ้าให้เทียบกับพวกผม ผมคงไม่ใช่ฟ้า ผมเป็นเพียงแค่ดินธรรมดาเท่านั้น ดังนั้น พวกเราจึงต้องอาศัย เพื่อให้ครูช่วยสอนผมเรื่องพวกนี้ อย่างดีครับ”

หยางล่อพยักหน้ารับ : “ที่นายพูดมาก็จริงนะ แต่ทำไม ฉันต้องรับพวกนายด้วยล่ะ?”
หลิวเชนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกัดฟันพูด : “อาจารย์หยาง ถึงแม้ว่าครูจะเป็นครูของโรงเรียนนี้แล้ว แต่ครูก็เพิ่งมา ที่นี่ครั้งแรก อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคนหรือสถานที่ที่นี่ นัก อย่างไรก็ต้องการคนเป็นมือเป็นเท้าให้ ดังนั้นพวกเรา จึงยอมทําเรื่องเหล่านั้นแทนครูให้ หลังจากนี้ถ้าหากเกิด เรื่องลำบากขึ้น อย่างน้อยพวกเราสองคนก็พอจะช่วย เหลืออะไรได้บ้าง แน่นอนว่าดูจากความสามารถของครู แล้ว คงไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางได้ ขนาดหวางหมิงที่ ยอดเยี่ยมคนนั้นยังถูกครูปรนนิบัติพัดวีอย่างเหมาะสม เลย”

พอได้ยินหลิวเชนพูดแบบนั้น หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะ คิดลังเล

นําที่วางหูพูดก็ไม่ผิด จริงๆ แล้วหยางล่อไม่ได้ให้ความ สําคัญกับตำแหน่งครูของตัวเองมากขนาดนั้น แต่ในเมื่อ ต้องอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป การจะมีลูกศิษย์สักคนสองคน ก็พอจะมีข้อดีอยู่บ้างล่ะนะ

พอเห็นทั้งสองคนทําท่าเคร่งเครียด หยางล่อก็หัวเราะ ขึ้น : “เอาเหตุผลแบบนี้มาเกลี้ยกล่อมฉัน ถ้าอย่างนั้นต่อ จากนี้พวกนายทั้งสองคนก็มาอยู่ด้วยกันกับฉันนี่ล่ะ! แต่ ว่า ว๊างหู นายไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนกังฟูฉี่หางไม่ใช่ หรือ?”

พลันสีหน้าของว้างหูก็เปลี่ยนไป เขาคิดว่า หยางล่อ คงจะมาคิดบัญชีเก่ากับเขาแน่ๆ หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไปล่วงเกิน เขาไม่เคย เจอคนที่สุดยอดอย่างหยางล่อมาก่อนเลย

“วางใจเถอะครับอาจารย์หยางเดี่ยวอาทิตย์หน้าวางคู่กั เป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้แล้วล่ะครับ” หลิวเซนคนนี้หู ตาเฉียบคมมาก เขารีบพูดประนีประนอมให้กับว้างหูทันที

ว้างหูพลันเหมือนได้เห็นทางออก ก็พูดตามขึ้น “ที่หลิว เชนพูดมาก็ไม่ผิดครับ ผมจะรีบกลับไปบอกแม่ให้เอา เงินมาลงทะเบียนเดี๋ยวนี้เลย เพราะโรงเรียนนี้ก็รับสมัคร นักเรียนทั้งปีอยู่แล้วล่ะครับ”

หยางล่อเห็นความจริงใจของทั้งสองคน ก็ไม่คิดจะทำให้ พวกเขาลำบากใจอีก พลางพูดขึ้นเลี่ยงๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ดี งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

ทั้งสองคนก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก พลางรีบก้ม

หัวคำนับทันที “ขอบคุณครับ พี่โล่!”

ทั้งสองคนดูปีติยินดีอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดของหยาง ล่อแต่อย่างไรก็ตามสรรพนามเขาเปลี่ยนอีกแล้วหรือเนี่ย

ขณะนั้นวางหูเองไม่รู้เลยว่า การตัดสินใจที่พวกเขาทำ จะเป็นการเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของเขา ภายในหลายปีหลังจากนี้ว้างหูกับหลิวเชนทั้งสองคนก็จะเอาเรื่องนี้ไป เล่าให้กับทุกคนว่า ชีวิตนี้เขาเลือกตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด แล้ว นั่นก็คือการผูกมิตรกับหยางล่อนั่นเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ