บทที่ 19 ตบหน้าอย่างแรง!
บทที่ 19 ตบหน้าอย่างแรง!
ผู้จัดการหลิวมองไปที่ดิงพ่างแล้วพูดขึ้น : “ขอโทษด้วย
นะครับ ประธานดิง นี่เป็นคำสั่งของเบื้องบนครับ ผมทำ อะไรไม่ได้จริงๆ” “ใครว่านายทำอะไรไม่ได้? สร้อยเส้นนี้มันต้องเป็นของ
ฉันสิ!” ดิงพ่างตะโกนเรียกเสียงดัง
“คือว่า…ผมยังมีธุระที่ต้องทําน่ะครับ ผมขอตัวก่อนนะ ครับ!” พอพูดจบ ผู้จัดการหลิวก็รีบหนีไปทันที
ไม่ว่าจะเป็นดิงพ่าง เฉินเส่หรือว่าหยางล่อ สําหรับผู้ จัดการหลิวแล้วก็เป็นคนที่ไม่ควรไปยุ่งเลยด้วยทั้งนั้น เขาก็เลยคิดได้ว่าเขานี่ซวยจริงๆ
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” พอเห็นว่าผู้จัดการหลิวรีบเดินหนีไป คิงพ่างก็รีบตะโกนเรียกด้วยความโมโห แต่ไม่ว่าเขาจะ เรียกอย่างไร ผู้จัดการหลิวก็เดินไปไกลแล้ว
“ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันไม่ให้อภัยแกแน่ๆ!” พอเห็นว่าผู้จัดการ หลิวเดินหนีไปแล้ว ดิงพ่างก็กัดฟันพูดด้วยความโกรธ
“หึ!” ดิงพ่างหันไปมองหยางล่อแล้วแค่นเสียงขึ้น :”ครั้งนี้ฉันคนนี้ขอยอมแพ้ไปก่อนละกัน” พอเห็นว่าสร้อย เส้นนั้นอยู่ในมือของเฉินเส่แล้ว ดิงพ่างก็พูดข่มก่อนที่จะ หมุนตัวเดินจากไป
“รอเดี๋ยวก่อน!” พอเห็นว่าดิงพ่างกำลังจะจากไป หยาง ล่อก็รีบเดินขึ้นไปขวางเขาไว้ทันที
ดิงพ่างเห็นแบบนั้นก็ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย : “แกคิดจะ
ทําอะไร?”
หยางล่อยิ้มเยาะก่อนจะพูดขึ้น : “นี่ไอ้อ้วน เหมือนว่า นายจะลืมไปนะว่าพวกเราพนันกันไว้น่ะ นายพูดว่าถ้าฉัน ทำให้สร้อยเส้นนั้นมาอยู่ในมือฉันได้ นายจะเรียกฉันว่า ปะป๋าสามทีไง!”
“พนันอะไรกัน? พูดจามั่วซั่วอะไร?” พอได้ยินหยางล่อ พูดแบบนั้น สายตาของดิงพ่างก็ฉายแววร้อนรนทันที
หยางล่อเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย : “นี่คิดจะคืนค่ หรือไงกัน?”
“คืนคำอะไร?” ดิงพ่างตะโกน : “รีบหลีกไปได้แล้ว ฉันยัง มีธุระต้องทำอีก ถ้ายังกล้ามาขวางอีก ฉันจะเรียกตำรวจ แล้วนะ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน”
หยางล่อแสยะยิ้ม : “ดูเหมือนว่าถ้าไม่สั่งสอนสักหน่อยนายจะ จะไม่รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของฉันสินะ”
“แกจะทำอะไร?” พอได้ยินแบบนั้น ดิงพ่างก็ถามอย่าง หวาดกลัว
“จะทําอะไรงั้นหรือ? อีกเดี่ยวนายก็ได้รู้แล้วล่ะ!” พอพูด จบ หยางล่อก็ถูกแขนเสื้อตัวเองขึ้น
คิงพ่างเห็นดังนั้นก็ร้องตะโกนอย่างหวาดกลัว : “แกอย่า เข้ามานะ ฉันเป็นผู้บริหารของบริษัทม่าวหยวนเชียวนะ รองนายกเทศมนตรีก็เป็นลุงของฉัน ถ้าแกกล้าลงมือล่ะก็ ฉันทําให้แกตายทั้งเป็นแน่ๆ”
“ชิ! ถึงแม้พ่อจะเป็นพระเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!” หยาง ล่อพูดอย่างเหยียดหยาม หลังจากนั้นเขาก็พุ่งหมัดไปหา ทันที
อ๊าก! หยางล่อเหวี่ยงหมัดไปประทับลงบนหน้าของเขา จนได้ยินเสียงร้องโหยหวนของดิงพ่างดังขึ้นมา
“ช่วยด้วย!” ดิงพ่างร้องโหยหวนเหมือนหมูที่โดนเชือด
“ถ้าหากนายไม่เรียกฉันว่าปะป๊าสามครั้งล่ะก็ วันนี้ก็ไม่มี ใครช่วยนายได้หรอก!” ขณะที่หยางล่อพูดอยู่นั้น ก็ได้ยิน เสียงหยางล่อบรรเลงหมัดลงไปบนร่างกายของดิงพ่างไม่ หยุดเหมือนกับเสียงเม็ดฝนที่ตกปรอยๆ อีกอย่างหยางล่อก็เป็นถึงเทพประยุทธ์ที่สง่างาม แล้วดิงพ่าง จะไปเทียบเขาได้อย่างไรกัน
“ถ้าหยางล่อยังทำแบบนั้นต่อไปจะเกิดเรื่องไหมน่ะเสี่ยว หลิง? พวกเราไปห้ามเขากันเถอะ!” พอเห็นว่าหยางล่อ กำลังอัดดิงพ่างอยู่แบบนั้น เฉินเส่ก็พูดอย่างกังวลใจ
แต่ด้ายเสี่ยวหลิงกลับพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ : “ฉัน คิดว่าหยางล่อทําได้ดีออกนะคะพี่! เจ้าคิงพ่างอะไรนี่มัน น่ารังเกียจ ถ้าไม่สั่งสอนเขาหน่อยคงยากที่จะขจัดความ น่ารังเกียจในใจเขาไปได้แน่”
เฉินเสถอนหายใจเบาๆ เธอรู้สึกว่าดิงพ่างเป็นคนน่ารัง เกียจจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรดิงพ่างก็เป็นถึงผู้บริหารของบ ริษัทม่าวหยวน แถมยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่มาก ถ้าหาก ไปก่อเรื่องเข้าล่ะก็คงจบไม่สวยแน่ๆ
“พอได้แล้วหยางล่อ! ไม่ต้องอัดเขาแล้ว!” พอคิดได้แบบ นี้ เฉินเสก็รีบไปปรามเขาไว้ทันที
หยางล่อเงยหน้าขึ้นพูด : “พี่เส่ อย่ามายุ่งเรื่องนี้เลยครับ ถ้าไม่สั่งสอนไอ้อ้วนนี่เสียหน่อย เขาคงไม่รู้แน่ๆ ว่าคำว่า ตายมันเขียนว่าอย่างไร” พูดจบ หยางล่อก็ลงมืออัดดิง พ่างต่อ เฉินเส่เองก็หมดคำจะพูดพอได้ยินหยางล่อพูด แบบนั้น
“อย่ามาตีแฟนฉันนะ!” ขณะนั้นเอง ผู้หญิงที่แต่งหน้า เสียหนาเตอะ ที่ยืนอยู่ไม่พูดอะไรมาตลอด ก็พุ่งเข้ามาหา หยางล่อ
“หึ! เห็นแก่ผู้หญิงของนาย ฉันจะให้อภัยนายแล้วกัน!” พอเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นพุ่งเข้ามาหาเขา หยางล่อก็ส่ง เสียงหีก่อนจะหยุดมือลง สำหรับหยางล่อแล้ว เขาไม่มี ทางลงมือกับผู้หญิงได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำยอมต้อง ให้อภัยดิงพ่างไป ซึ่งดิงพ่างตอนนี้ก็ถูกหยางล่ออัดลง ไปนอนกองกับพื้น จนใบหน้าแทบจะเหมือนหัวหมูเลยที เดียว
หยางล่อจ้องไปที่ดิงพ่างพลางยิ้มเยาะ : “จะเรียกฉันว่า ปะป๊าหรือว่าไม่เรียก? ถ้าไม่เรียกล่ะก็ วันนี้ฉันอัดนายจน เยี่ยวไหล อัดนายจนหมดสมรรถภาพ อัดนายจนขี้เยี่ยว ไหลออกมาเลย”
“โอ้โห หยางล่อ ทำไมนายถึงพูดหยาบคายแบบนี้ล่ะ เนี่ย?” พอได้ยินแบบนั้น ด้ายเสี่ยวหลิงก็หน้าแดงไปจนถึง ใบหู
หยางล่อน่ะเป็นถึงยมทูตที่สง่างามเลยนะ ดิงพ่างมาล่วง เกินเขาแบบนี้เขาก็ต้องสั่งสอนไปบ้าง ดิงพ่างตอนนี้ก็กลัว หยางล่อไปแล้ว ในสายตาของเขาหยางล่อก็คือปีศาจ ชัดๆ
พลันดิงพ่างก็พูดมาอย่างไรเรี่ยวแรง : “อย่าอัดฉันอีก เลยนะ ฉันยอมเรียกก็ได้!
“ปะป๊า!” ดิงพ่างพูดเสียงแผ่ว
หยางล่อเงี่ยหูฟังแล้วพูดขึ้น : “พูดอะไรนะ? ทำไมเสียง เบาขนาดนั้น!”
“ปะป๊า!” ดิงพ่างตะโกนเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้
หยางล่อยิ้มเยาะ : “คำสุดท้าย!”
“ปะป๊า!” ดิงพ่างตะเบ็งออกมาสุดเสียง
หยางล่อโบกมือปัดด้วยสีหน้าที่รู้สึกรังเกียจ : “รีบไสหัว ไปได้แล้ว หลังจากนี้อย่าให้ฉันเห็นอีก ไม่อย่างนั้นครั้ง หน้าไม่ปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้แน่”
“ได้ๆๆ!” พอได้ยินแบบนั้น ดิงพ่างก็รีบผงกหัวหง็กๆ ทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าอายที่สุดในชีวิต ของดิงพ่าง พลันผู้หญิงของเขาก็เข้ามาพยุงแล้วพูดขึ้น : “ที่รักคะ ให้ฉันช่วยประคองนะ!”
“ไปให้พ้น!” คิงพ่างใช้มือผลักผู้หญิงคนนั้นล้มลงไป อย่างแรง ก่อนจะตะโกนขึ้นด้วยความโมโห : “คนต่ำช้าน่า รังเกียจ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเธอล่ะก็ ฉันก็คงไม่จนตรอก แบบนี้ เธอไสหัวไปให้พ้นเลยนะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า อีก”
หลังจากที่ระบายสิ่งที่อยู่ในใจจนหมด ดิงพ่างก็เดินโซ ซัดโซเซออกไปจากร้านเครื่องประดับทันที พอเห็นว่าดิง พ่างไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็หลั่งน้ำตาออกมา จากนั้นเธอก็ ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปด้วยใบหน้าที่อ้างว้าง
“ไอ้อ้วนนั่น มันทำกับผู้หญิงแบบนี้ได้อย่างไรกัน?ไ พอเห็นว่าดิงพ่างผลักเธอล้มลงแบบนั้น ด้ายเสี่ยวหลิ งก็ตะโกนด่าอย่างโมโห บนใบหน้าของเฉินเส่เองก็เผย สีหน้าที่รู้สึกรังเกียจออกมาเช่นกัน สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดก็ คือผู้ชายที่กล้าลงมือกับผู้หญิงเนี่ยล่ะ! ในใจของหยางล่อ เองตอนนี้ก็ก่นด่าดิงพ่างด้วยเช่นกัน แค่มองปราดเดียวก็รู้ แล้วว่าไอ้อ้วนนี่เป็นคนขี้ประจบประแจงแค่ไหน
แต่สำหรับหยางล่อแล้ว เขาไม่ได้มีดิงพ่างอยู่ในสายตา เลยแม้แต่น้อยล่ะนะ
หลังจากที่เฉินเส่จ่ายเงินเสร็จ ก็พาพวกเขาเดินออกจาก ร้านเครื่องประดับทันที
หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็เดินออกจากห้างโดยไม่ได้อยู่เดินเล่นต่อเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมเธอถึงพูดภาษาฝรั่งเศสได้ล่ะ หยางล่อ?” ทันใด นั้น เฉินเสก็ถามหยางล่อขึ้นพลาจ้องเขม็ง
“ฮ่าๆ!” หยางล่อหัวเราะขึ้นเสียงดัง : “พี่เองก็รู้ไม่ใช่หรือ ว่าผมเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศน่ะ? มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ ผมเรียนภาษาฝรั่งเศสมา ดังนั้นการที่ผมพูดได้ก็ไม่ใช่ เรื่องประหลาดอะไรนี่ครับ”
หยางล่อรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเฉินเส่ต้องถามคำถามนี้ขึ้น ดังนั้นเขาก็เลยคิดคำตอบไว้ในหัวก่อนแล้ว ส่วนเรื่องตัว ตนที่แท้จริงของตัวเองนั้น หยางล่อไม่อาจพูดออกไปได้ หยางล่อเองก็ออกมาจากหน่วยยมทูตนั้นแล้ว ตอนนี้เขา ใช้ชีวิตเหมือนประชาชนคนธรรมดาเท่านั้น
“เป็นแบบนั้นจริงหรือ?” เฉินเส่ยังคงถามอย่างสงสัย
หยางล่อยิ้มพูด : “แน่นอนสิครับ!”
“คนโกหก!” ด้ายเสี่ยวหลิงที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น : “บอกมา ตรงๆ เลยนะหยางล่อ ว่านายคุยกับใคร ทำไมอยู่ดีๆ ท่าที ของผู้จัดการนั้นถึงได้เปลี่ยนไปเร็ว จนขายสร้อยเส้นนั้น ให้เร็วขนาดนั้น”
หยางล่อยิ้มให้อย่างมีเลศนัย : “เป็นความลับนะ ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังแล้วกันเนาะ
หึ! พอเห็นว่าหยางล่อไม่ยอมพูด ด้ายเสี่ยวหลิงก็ส่ง เสียงหีอย่างขุ่นเคืองนิดๆ
เฉินเสเองก็ยังคงถามด้วยสีหน้าสงสัย : “เธอเป็นใครกัน แน่น่ะหยางล่อ? พวกเราไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ของเธอเลยนะ เธอจะไปทําอะไรที่เมืองนอก พวกเราก็ ไม่รู้ แถมด้วยฝีมือร้ายกาจของนายอีกที่ทำไมถึงได้เก่ง ขนาดนั้น? ทำไมนายถึงเข้าใจภาษาฝรั่งเศส? อีกอย่าง นายโทรหาใคร ถึงได้ทำให้ผู้จัดการคนนั้นแสดงท่าที หวาดกลัวขนาดนั้น?”
พอเจอกับคำถามที่มาเป็นชุดๆ ของเฉินเส่ หยางล่อก็ หัวเราะแล้วพูดขึ้น : “ก่อนอื่นผมเป็นแค่ประชาชนคน จีนธรรมดานะครับ อีกอย่างอดีตของผมก็แค่กินนอน ธรรมดาไม่มีอะไร ส่วนที่ผมไปทำอะไรที่เมืองนอกนั้น ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้หรอกครับ แล้วทำไมฝีมือผมถึงดี ขนาดนั้น ก็เป็นเพราะผมเรียนกับผู้เฒ่าท่านหนึ่งตั้งแต่ยัง เด็กๆ น่ะ ส่วนเรื่องที่ผมโทรหาใคร พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ครับ…เนอะ”
ถึงแม้หยางล่อจะตอบคำถามของตัวเองจนหมด แต่พูดก็ เหมือนกับไม่พูดอยู่ดี ทำให้เฉินเส่อดไม่ได้ที่จะค้อนตามอง
ด้ายเสี่ยวหลิงเองก็พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ เลื่อมใส : “หยางล่อ นับวันนายยิ่งลึกลับเข้าไปทุกทีนะ อยากจะรู้จริงๆ เลยว่านายยังมีความลับอยู่อีกมากแค่ ไหนกันแน่ นี่ทําให้ฉันคาดหวังเลยนะ!”
“ฮ่าๆ!” หยางล่อหัวเราะลั่น : “จริงหรือ? ไม่ต้องเลื่อมใส ขนาดนั้นหรอก พี่มันก็แค่ตำนานเท่านั้นล่ะ”
เฉินเสพูด : “เสี่ยวล่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเมืองเจียง เฉิง นายอย่าไปก่อเรื่องอะไรเด็ดขาดนะ ยกเว้นว่ามีคน มาหาเรื่องเธอ ฉันก็จะไม่ปล่อยมันไปแน่”
ถึงเฉินเส่จะไม่ได้พูดออกมาดังมาก แต่ทุกๆ คำก็เน้นย้ำ เข้าไปในใจเขา ทำให้หยางล่อซาบซึ้งใจที่สุด ทำให้เขารู้ เลยว่าเฉินเส่นั้นอยู่ข้างเขามากแค่ไหน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ