ท่านอ๋อง ให้มันน้อยๆหน่อยเพคะ

บทที่11 พระชายาคนใหม่



บทที่11 พระชายาคนใหม่

ท่านหวางเฟยเดิมที่เป็นเพียงนางสนมของท่านอ๋องหัวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ค่อยเป็นที่โปรดปรานนัก ในตอนแรกท่านอ๋องหัวกับ ท่านหัวหวางเฟยพระชายาคนแรกรักใคร่กันมาก ชั่วชีวิตไม่มีผู้ หญิงคนอื่นให้กำเนิดบุตร เป็นชื่อก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถึงได้มีนางสนมอย่างท่านหวางเฟยคนปัจจุบันผู้นี้ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากการสิ้นพระชนม์ของท่านหัวหวางเฟย พระชายาคนแรก กล่าวคือภายหลังการสิ้นพระชนม์ของท่านย่า แท้ๆของเงินชื่อ นางก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นพระชายาองค์ใหม่จริงๆ

แต่ทว่า นางเป็นพระชายามาหลายปีแล้ว นางกลับยังคงไม่มี บุตร ต่อมา หลังจากที่ท่านอ๋องหัวสิ้นพระชนม์ นางก็พึ่งพาแค่ เพียงเฉินเซียวซึ่งเป็นพ่อของเป็นชื่อ

เป็นเซียวผู้นี้คล้ายคลึงกับท่านอ๋องหัวมาก และจะไม่ใกล้ชิด สนิทสนมกับใครเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่นางเป็นแม่เลี้ยง เงินเซียวก็โตมากแล้ว

แต่หลังจากที่เป็นนางสนมในจวนมาหลายปี จู่ๆนางก็กลายมา เป็นนายหญิงของจวน นางจะละทิ้งสิทธิ์เหล่านี้ไปง่ายๆอย่างนั้น ได้ซะที่ไหน ดังนั้น นางก็เลยกำลังคิดอยากจะให้เงินเซียว แต่งงานกับคนที่นางสามารถจัดการได้ตามอำเภอใจสักคน

อ๋องหัวเป็นอ๋องต่างเชื้อสายเพียงหนึ่งเดียวในราชวงศ์เทียนห รง และก็เป็นแม่ทัพเจิ้นโก๋ บัญชาการกองกำลังทหารที่เกรียงไกรรักษาชายแดนตลอดทั้งปี รักษาความสงบของประเทศ สูงส่งหา ใดเปรียบ ท่านหวางเฟยจึงไม่ยอมสละสิทธิของตัวเองอย่าง แน่นอน แม่ทัพเจิ้นโกเป็นเกียรติยศ ให้แม่ทัพสำคัญสำหรับการ ปกป้องสันติภาพของแคว้น

แต่ต่อมา สุดท้ายแล้วตำแหน่งอ๋องหัวก็ได้เปลี่ยนเป็นเงินเซียว พ่อของเวินชื่อ นางไม่อยากปล่อยมืออีกต่อไป สิทธิ์นี้ก็จะถูกส่ง ไปอยู่ในมือของหวางเฟยรุ่นต่อไป ดังนั้นในเวลานั้นเองนางจึง คิดหาวิธีที่จะทำให้หลานสาวของตัวเองแต่งงานกับพ่อของเงิน ชื่อ เช่นนั้นนางก็จะสามารถยึดครองสิทธิ์นี้เอาไว้ได้ตลอดไปและ สามารถทำให้เป็นเซียวปฏิบัติต่อนางเช่นเดียวกับปฏิบัติต่อแม่ผู้ ให้กำเนิดของตัวเองตลอดไป

เดิมทีเป็นเซียวไม่ได้มีความคิดใดๆเกี่ยวกับการแต่งงานของ ตัวเองเลย ในเวลานั้นท่านหวางเฟยเองก็ยังไม่ได้เปิดเผย อุปนิสัยส่วนตัวของตนเองออกมาเป็นเซียวที่เป็นของหัวแล้วก็ เลยยังเคารพนางเป็นอย่างมาก

แต่ทว่า ฐานะทางครอบครัวของพวกนางต่ำเกินไป พี่ชายของ นางเป็นเพียงขุนนางระดับหกชั้นโทคนหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มี อำนาจอะไร ครอบครัวเช่นนี้ จะมีลูกสาวมาเป็นหวางเฟยได้ อย่างไร

ดังนั้นต่อมา ผู้ที่ได้แต่งงานกับเงินเซียว ก็คือบุตรีหลวงของ อดีตใต้เท้าเฉิงเสียงแห่งแคว้นเทียนจีน ในเวลานั้นแม้ว่าตาของ เวินชื่อไม่ได้เป็นเฉิงเสี้ยงแล้ว แต่ถึงอย่างไรเกียรติศักดิ์ศรีของ เขาก็อยู่ที่นั่น บุตรสาวของเขาแต่งงานกับอ๋องหัว ช่างเป็นดั่งกิ่งทองใบหยกเสียจริงๆ

การแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นสวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กัน อ๋องหัวเองก็ ไม่ได้คิดค้านแต่อย่างใด ในสายตาของเขา การป้องกัน ชายแดนเป็นเรื่องที่ชอบธรรม การแต่งงานให้กำเนิดบุตรก็เป็น เพียงส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้นเอง

พอเรื่องราวเป็นอย่างนี้ จึงทำให้ในตอนนั้นท่านหวางเฟยที่ได้ คิดคำนวณทุกอย่างไว้ดีแล้วอดที่จะโกรธเกรี้ยวไม่ได้ แต่นางก็ จนปัญญา นางเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว แล้วก็ไม่มีตระกูลพ่อแม่ที่มี อำนาจอะไร และไม่สามารถพูดอะไรได้ จึงทำได้เพียงพยายาม คิดหาหนทางจนถึงที่สุด เพื่อให้หลานสาวของตัวเองได้แต่งงาน เข้ามาเป็นนางสนมให้ได้

ต่อมาแม่ของเงินชื่อเสียชีวิต เงินเชียวก็ไปตั้งมั่นรักษา ชายแดนเป็นปีๆ หลายปีมานี้ภายในจวนก็เลยเหลือเพียงสี่คน ได้แก่ ท่านหวางเฟย แม่ของเงินจีน เป็นจั่นและเป็นชื่อ

สามในสี่คนล้วนเป็นพวกเดียวกัน แน่นอนว่าชีวิตความเป็น อยู่ของเวินชื่อไม่ค่อยผ่านไปด้วยดีสักเท่าไหร่ โชคดีที่สถานะ ของนางสูงส่งและมีเกียรติ นางเป็นบุตรสาวของอดีตพระชายา ผู้คนเหล่านี้จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรมั่วชั่วอยู่เบื้องหน้า

เงินซื้อครุ่นคิดเรื่องต่างๆมากมายเหล่านี้ ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น ท่านหวางเฟย ใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อสิทธิของนาง และ น้องสาวต่างมารดาคนนั้นของนางก็พยายามคิดจนแทบล้ม ประดาตายเช่นกัน นึกขึ้นมาในตอนนี้ ไม่รู้ว่าท่านหวางเฟยผู้นี้จะทำอะไร ท้ายที่สุดจึงได้จะส่งแก้วตาดวงใจของตัวเองไปอยู่ในเสื้ ยงโก๋ชื่อ และยังไม่รู้เลยว่านางตัดใจได้จริงๆหรือเปล่า

ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่ เสียงข้างนอกก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“ท่านป้า ท่านจะทำตามที่คุณหนูรองพูดไม่ได้นะเจ้าคะ ถึง แม้ว่านางจะเป็นบุตรหลวง แต่ว่า จีนเอ๋อร์ของเราก็เป็นคุณหนู สามโดยชอบธรรมของจวนอ๋องหัวเช่นเดียวกันนะเจ้าคะ แน่นอน ว่านางเป็น….

เป็นชื่อลืมตาขึ้นอย่างแผ่วเบา เดิมทีนางไม่ได้คิดที่จะไปสนใจ นาง แต่ในเวลานี้มันกลับมาก่อกวนอยู่บนหัวของนางอีกครั้งแล้ว

เป็นแค่นางสนม คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าพูดที่วัวกระทบคราด อยู่ข้างนอกเช่นนี้ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ดีขนาดนี้ เป็นป้า หลานสายเลือดเดียวกันนี่นา หากมีอะไรจะพูด จําเป็นต้องวิ่งมา พูดถึงหน้าประตูของนางงั้นหรือ?

ก็วิ่งมาพูดให้นางฟังเลย ไม่ใช่หรือ?

“ได้ เรื่องนี้ ข้ามีข้อสรุปของตัวเองแล้ว และอนึ่ง จิ่นเอ๋อร์เป็น คนยังไง ในใจข้ารู้ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะสามารถมาพูดให้เสีย หายตามใจชอบเช่นนี้ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ