ท่านอ๋อง ให้มันน้อยๆหน่อยเพคะ

บทที่ 12 เสียงเอะอะโวยวาย



บทที่ 12 เสียงเอะอะโวยวาย

ภายในดวงตาหงส์ของเงินซ่อมีแสงแวววับเปล่งประกายอยู่ คนเหล่านี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะต้องพูดใส่ร้ายป้ายสีนางทุกที่จริงๆ คำพูดนี้หมายความว่าอะไร แม้ว่าพวกนางจะตรวจสอบแล้ว แต่ ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นชื่อท่ เกรงว่าจะไม่อาจปล่อยนางไปได้

กลัวเพียงว่าต่อให้ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เกรงว่าทุกคนล้วน ต้องคิดว่าเป็นชื่อลงมือกับเป็นชิ้นเป็นแน่ ถึงเวลานั้นสาวใช้มามา ที่อยู่ภายในจวนก็จะพูดเรื่อยเปื่อยไปสู่ภายนอก นี่ยังไม่รู้เลยว่า ชื่อเสียงของเวิน อจะเป็นอย่างไรบ้าง มามาหมายถึงหญิงชรา รับใช้)

“เจ้าค่ะ ท่านป้า ข้าเป็นห่วงเหลือเกินเจ้าค่ะ!”

น้ำเสียงที่เศร้าโศกเสียใจมากด้านนั้นเมื่อสักครู่นี้ บัดนี้ก็ได้ เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่สงบลงและแสดงท่าทางที่รู้มารยาทมี วัฒนธรรมออกมาแล้ว

“อืม เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก ไปจัดของให้จิ้นเอ๋อร์ให้เรียบร้อย ทางเสี่ยงโก๋ชื่อนั้นน่ะ…”ท่านหวางเฟยหยุดพูดไปสักพัก แล้วจึง พูดสุดเสียงออกมาว่า “ทุกข์ยากลำบากเล็กน้อยก็ทนๆหน่อยละ กัน!”

เงินซื่อพลิกตัวลุกขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเล็ก น้อย
นางยังนึกว่าท่านหวางเฟยจะพูดว่า นางได้จัดเตรียมทุกอย่าง ไว้ดีแล้ว พอเงินจิ้นไป ก็จะไม่ได้รับความยากลำบากอะไร แต่คิด ไม่ถึงเลยว่า ท่านหัวหวางเฟยผู้นี้จะอยู่ในระดับที่ใช้ได้อยู่ และไม่ คิดว่าในเวลานี้จะยังรู้ว่าต้องหยุดปากของทุกคนเอาไว้ตรงนี้

ไม่น่าแปลกใจเลยทีชีวิต ในชาติก่อนของนางจะน่าสังเวชใจ ขนาดนั้น ที่ต้องต่อสู้กับคนเช่นนี้ นางเรียบง่ายและไม่ทุกข์ระทม อย่างนั้น คงหมดหนทางที่จะพูดอะไรจริงๆสินะ

“เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

“ความดีและความชั่วจะได้รับผลกรรมในที่สุด ไม่ใช่ว่าเราจะ ไม่แก้แค้น เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลา เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมันจะ ต้องมีผลลัพธ์เสมอ!!

น้ำเสียงของท่านหวางเฟยช่างมีพลังอำนาจโน้มน้าวจิตใจคน ได้ เหมือนกับว่านางสามารถสรุปข้อดีข้อเสียของคนได้หลังจาก ปิดฝาโลงแล้วอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อวานล้วนได้ข้อสรุปออกมาอย่างนั้นแล้ว วันนี้พวกนางกลับ ยังออกมาเอ้อระเหยลอยชาย และคิดว่าจะสามารถสร้างความ แตกต่างได้ คนเหล่านี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เป็นชื่อ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ช่างเถิด นางไม่ต้องการที่จะพูดกับพวกเขาใน ยามเช้าตรู่เช่นนี้ นางจึงเพียงแค่มองออกไปจากหน้าต่างเท่านั้น

นางเห็นเพียงเงินจีนสวมใส่ชุดสีม่วง บนศีรษะประดับปิ่นมุก หนึ่งอัน บวกกับเดิมทีนางก็ไม่เด็กแล้ว รูปร่างของนางเติบโตขึ้น แล้ว พอแต่งตัวแบบนี้ในตอนนี้ ภายใต้แสงตะวันยามอรุณรุ่งช่างดูสวยหยาดเยิ้มและเสน่ห์เป็นพิเศษ

ไม่ใช่ว่าจะไปเลี้ยงโก๋ชื่อหรือ?

แต่งสวยหยาดเยิ้มขนาดนี้ ไปอะไร หรือว่าไป ยั่วยวนพระสงฆ์?

เงิน อพ่นความคิดอันชั่วร้ายของตัวเองออกช่างเถิดช่างไม่ต้องไปคิดอะไรให้ได้ ท่าทางแทบ อยากจะย้ายของทั้งหมดไปด้วยนี้ ว่าท่านเฟยกลัวว่า คนอื่นจะว่าหรือเปล่า

ในขณะเป็นชื่อกำลังมองสาวกลุ่มตลกนั้น แล้วพวกจะ ต้องแล้ว เป้าหมายบรรลุแล้วตามที่คาดเอาไว้จริงตั้งอยู่ ตรงนี้ไม่มีความหมายอะไร

“ท่านย่า หลานอำลาท่านย่ากับท่านแม่น้อยเจ้าค่ะ”

เงินเห็นคนมาเยอะมากแล้ว ก็เลยก้าวข้างหน้าและ หน้าซื่อ แสร้งทำท่าทางที่อ่อนโยนหาเปรียบออกมา ราวกับ ได้ความทุกข์ใจมิใช่น้อย ชื่อหมดค่าพูดการกระทำ นางจริงๆ

“ดี ไปเถิด ถึงวันที่กำหนดแล้ว ย่าจะไปรับแน่นอน อีก อย่าง แม้ว่านั่นจะลำบาก แต่ก็ไม่ใครทำร้ายอย่างแน่นอนเจ้าวางใจได้เลย กล่าวลาท่านแม่น้อยของเจ้าให้ดีๆนะ!”

ท่านแม่น้อย?

เงินชื่อกลอกตาหงส์ของนางขึ้น และไม่แสดงสีหน้าอะไรบน ใบหน้าเลย แต่คนที่คุ้นเคยกับนางล้วนรู้ว่า สีหน้าเช่นนี้ของนาง คือการแสดงออกว่าใครบางคนกำลังจะโชคร้ายแล้ว

“ทำไมขาไม่รู้เลยว่าท่านพ่อของขามีนางสนมอีกคนตอนไหน ในจวนนี้ ไม่ใช่ว่ามีเมียน้อยเพียงคนเดียวหรอกหรือ? คนเหล่านี้ ช่างยกยอปอปั้นตัวเองเก่งจริงๆ!

แต่ก็ช่างเถิด ฟ้าสว่างแล้ว คนคนนี้ ก็ไม่อาจรออยู่ในบ้านเป็น เวลานานได้อีกต่อไป ไปดีกว่า รู้สึกสบายกายสบายใจแล้ว

อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่ได้เพิกเฉยกับตอนที่เป็นจีนจากไป นาง เดินเข้ามาในลานบ้านด้านนี้ด้วยสีหน้าแววตาที่อาฆาตแค้น คาดว่า ตอนนี้นางคงแทบอยากจะฉีกร่างเป็นชื่อให้เป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย ให้จงได้ แต่ทว่า ทำไมนางถึงไม่ทำเสียเลยล่ะ?

เงินจีน หนทางข้างหน้ายังไม่สิ้นสุด เรื่องของเรายังอีกยาว ไกล…

เวลาเพิ่งจะล่วงเลยผ่านไป มีดอกไม้มากมายที่อยู่หน้าประตู ลาน นั่นคือดอกไม้ที่นางปลูกเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ในความทรง จำของนางมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ตอนนี้เธอแทบ จะจำไม่ได้ว่าดอกไม้ที่หน้าประตูลานเหล่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร บ้าง ตอนนี้มีโอกาสอีกครั้ง นางจะต้องไปดูดอกไม้เหล่านี้ให้ดีๆ

สักหน่อยอย่างแน่นอน
เหล่านี้คือเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้นานาพันธุ์ที่พ่อของนางน กลับมาจากต่างถิ่น เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในบ้านนางก็เคยดูแลเป็น ประจํา แต่ตอนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะรกไปด้วยวัชพืช ดูเหมือนว่า ท่านหวางเฟยผู้นี้ไม่เคยเห็นที่นี่อยู่ในสายตาเลยสักนิด คงจะ วางแผนไว้ว่านางจะไม่กลับมาอีกใช่หรือไม่?

“เหอะๆ..”

เวิน อหัวเราะเยาะ

“คุณหนู ทำไมท่านมาอยู่ตรงนี้ล่ะเจ้าคะ ดอกไม้ที่หน้าประตู ลานนรกไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าบ่าวในจวนแห่งนี้มัวทำอะไรกันอยู่ คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งไปชมตอนนี้เลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวหรูเอ๋อร์จะไปหา คนมาจัดการให้นะเจ้าคะ!”

หรูเอ๋อร์เห็นเป็นชื่อกำลังมองดอกไม้เหล่านี้ด้วยสีหน้าที่ไม่ พอใจ จึงคิดว่านางไม่พอใจ

เงินชื่อก็ไม่ได้อธิบายอะไร นางคือเป็นชื่อ เป็นคุณหนูที่เกิด จากภรรยาหลวงแห่งจวนหัวอ๋อง ท่านตาของนางเป็นอดีตเฉิงเสื้ ยง ท่านแม่ก็เป็นบุตรหลวงเฉิงเสียง ชาติกำเนิดสูงศักดิ์ นางเป็น นายหญิงที่ชอบธรรมในบ้านหลังนี้ ทำไมต้องทนกล้ำกลืนความ เจ็บช้ำน้ำใจด้วย กฎเกณฑ์ที่ควรมีก็ต้องมีอย่างแน่นอน มิฉะนั้น เกรงว่าคนอื่นจะคิดว่านางเป็นเด็กอมมือและปล่อยให้คนกลั่น แกล้งเอาได้!

คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อวาน พ่อบ้านจะไม่เปิดประตูให้นาง
“หรูเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่ดูพวกเขาจัดการทําความสะอาดให้ เรียบร้อยนะ แล้วก็สิ่งที่ต้องทำความสะอาดภายในลานก็ต้องทำ ด้วยนะ แล้วก็ ภายในลานของเราควรมีคนดูแลสักสามสี่คน เจ้า ก็ไปหาคนดูแลมาสักสามสี่คนละกัน ถ้าใครไม่เชื่อฟัง เจ้าไม่ จําเป็นต้องใช้เหตุผลกับพวกเขาหรอก ถึงเวลานั้นข้าจะมา จัดการเอง!”

สีหน้าท่าทางของนางเงียบสงบและมีความมั่นใจมาก ทำให้ หัวใจของหรูเอ๋อร์ตื่นตระหนก แต่กลับถอนหายใจหนักมาก ความเย็นชาและความงดงามของคุณหนูของพวกนาง และยังมี อุปนิสัยที่ทำให้คนประหลาดใจนั้น ไม่สามารถเทียบกับคนอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน

“คุณ…คุณหนู ท่านจะออกไปไหนหรือเจ้าคะ?”

เงินซื่อสาวเท้าก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เตรียมออกไปข้างนอก หรูเอ๋อร์ที่ตะลึงงันอยู่นานจึงไล่ตามนางมา

“หรูเอ๋อร์ ข้ามีธุระนิดหน่อย จำเป็นต้องออกไป เจ้าไม่ต้องไป กับข้าหรอก ถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นภายในจวน ไม่จำเป็นต้อง ใช้ไม้แข็งที่โต้กับท่าทีที่แข็งนะ เงินจนไม่อยู่ คาดว่าตอนนี้ก็คง ไม่มีใครมายุ่งกับพวกเราแล้วล่ะ ส่วนคนอื่นพูดจะอย่างไร ก็ไม่ ต้องเก็บมาใส่ใจ!”

พูดจบ นางไม่รอให้หรูเอ๋อร์พูดอะไร ก็เดินออกประตูไปโดยไม่ หันกลับมา พ่อบ้านที่เคยทะเลาะกับนางหน้าประตูเมื่อวาน นอน ไม่หลับทั้งคืน พอเห็นคุณหนูรองออกมาแล้วในเวลานี้ จึงไม่กล้าขัดขวางไปโดยปริยาย ทำได้เพียงมองดูนางเดินออกไปอยู่ เงียบๆ

หลังจากนั้น เขาก็สั่งให้อีกคนหนึ่งไปรายงานท่านหวางเฟย ดู เหมือนว่าตอนนี้ เขาได้ยืนอยู่ข้างๆ ท่านหวางเฟยแล้วอย่างคาด ไม่ถึง และคาดว่าคุณหนูรองคงจะให้อภัยเขาไม่ลงแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ