ท่านอ๋อง ให้มันน้อยๆหน่อยเพคะ

บทที่ 13 องค์ชายรัชทายาท



บทที่ 13 องค์ชายรัชทายาท

เมืองชื่อเฉิงมีความเจริญรุ่งเรือง จันทรามีหอหยกตึกสูง เป็นการพูดถึงฉงโหลว ร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในราชวงศ์เทียน

ผู้คนที่มาสถานที่เหล่านี้ ปกติจะเป็นคนที่ไม่ร่ำรวยที่มีฐานะ สูงส่ง และไม่มีใครสามารถแตะต้องได้

แน่นอนว่าที่นี่ก็มีชั้นธรรมดาๆด้วย ภายในนั้นจะมีอาหารตาม สั่งเป็นหลัก ซึ่งอาหารธรรมดาๆ แต่รสชาติอร่อย ก็มีอยู่ที่นี่ ประชาชนธรรมดาเหล่านั้น เมื่อมีเงินบ้างแล้ว ก็จะแวะมารับ ประทานสักครั้ง

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉงโหลวแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมมาก อันที่ จริงแล้วพวกเขาไม่เคยรังเกียจลูกค้าเลย ไม่ว่าจะเป็นคนจนก็ดี คนรวยก็ดี พวกเขามักจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค

ด้วยเหตุนี้ ฉงโหลวในเมืองชื่อเฉิงนั้น แม้แต่ในราชวงศ์ เทียนหรงก็ยังมีชื่อเสียงที่ไม่ธรรมดา เมื่อก่อนเป็นชื่อก็ชอบมารับ ประทานอาหารในนี้ แต่เพื่อชื่อเสียงของตัวเองแล้ว ที่ผ่านมานาง จึงไม่เคยออกมาเที่ยวชมฉงโหลวที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งนี้เลย

แต่ไหนแต่ไรมา ฉงโหลวที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งนี้ก็มีเสียง ผู้คนดังโกลาหลเต็มไปหมด ผู้คนจากมากมายหลากหลายที่ต่าง ก็หลั่งไหลมาที่นี่ ช่างคึกคักและมีชีวิตชีวามาก อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นอย่างนี้นี่เอง จึงมีบรรยากาศของร้านอาหารบนโลกมนุษย์อยู่บ้าง

“เมื่อสักครู่นี้ ยวนกำลังคิดอยู่ว่า คุณหนูรองคงไม่ได้ลืมคำมั่น สัญญาที่ให้ไว้กับสวนในวันนี้หรอกนะ หรือว่า เกิดอะไรขึ้นกับ คุณหนูรอง นางถึงไม่สามารถออกมาได้?”

ในระหว่างที่เป็นชื่อกำลังถอนหายใจอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงที่ อ่อนโยนและทำให้คนรู้สึกจิตใจสั่นไหวนั้นของทรงเชิงยวนก็ดัง ขึ้นข้างๆหู หัวใจของนางเหมือนถูกยั่วยด้วยบางสิ่งไปชั่วขณะ หนึ่ง

“ถวายบังคมซื่อจื่อเพคะ!”

นางรีบทำความเคารพอย่างสุภาพมาก เพื่อปกปิดความไม่ สบายใจของเธอเมื่อสักครู่นี้

“คุณหนูรองไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้ก็ได้ ถ้าหากเจ้ามากพิธีกับข้า

ไม่ใช่ว่ายวนจะต้องแสดงความเคารพคุณหนูรองด้วยอย่างนั้น

หรือ?”

เงินซื่อตกตะลึง แล้วก็หัวเราะขึ้นมา

“ซื่อจื่อเกรงใจแล้วเพคะ!”

ทรงเชิงยวนก็หัวเราะขึ้นมาเช่นเดียวกัน เขามองเป็นชื่อตาไม่ กะพริบ แล้วพูดอย่างจริงจังขึ้นมาว่า “คุณหนูรอง วันนี้ ในเมื่อ เจ้ากับข้ามีนัดรับประทานอาหารด้วยกันแล้ว เช่นนั้นก็อย่ามัวพูด เรื่องอื่นเลย ไม่สู้พวกเราขึ้นไปข้างบน กินไปพูดไป ไม่ดีกว่า หรือ?”
“ก็ดีนะ!”

เงิน อพยักหน้าไปมา อยู่บนถนนใหญ่นี้ และยังอยู่ที่หน้าประ ฉงโหลว ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองก็เคยพบเจอคนหลายคน มาก่อน ถูกคนอื่นพบเจอมาแล้ว และถูกผู้คนตั้งใจพูดให้เสีย หายอีก คาดว่าต่อไปจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายขึ้นมาอีก แน่นอน

พอทั้งสองคนเพิ่งจะเดินเข้ามาในฉงโหลวและฮุ่ยเซียนโหลว เสี่ยวเอ้อ ที่มีสายตาแหลมคมก็รีบมาต้อนรับพวกเขาทันที

“เชิญหรงซื่อจื่อ!”

เป็นชื่อชำเลืองมอง ดูเหมือนว่า ทรงชื่อจื่อผู้นี้จะเป็นลูกค้า ประจำของที่นี่ล่ะสิ!

“วันนี้คุณหนูรองออกมาข้างนอกไม่ได้พาใครมาด้วย?”

หรงเชิงยวนกับเงินชื่อเดินเคียงข้างกันขึ้นไปบนตึก บนตึกมี ห้องเด่นหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องสำหรับคนในจานอ๋องหรงเฉพาะ สามารถเข้าไปได้หลังจากที่คนจวนอ๋องรหรงมาถึงแล้ว

เดิมทีเป็นชื่อยังคงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเมื่อได้ ยืนทรงเชิงยวนถาม นางก็เลยต้องรีบหันหน้ามาแล้วพูดกับเขาว่า “ใช่เพคะ วันนี้เป็นชื่อมาคนเดียว ไม่มีบ่าวตามมาด้วยเพคะ!”

“เอ๊ะ?”

น้ำเสียงของทรงเชิงยวนมีความแปลกใจเล็กน้อย
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเพคะ?”

“เปล่า…ไม่มีปัญหาอะไร ยวนเพียงแต่กำลังคิดว่า คุณหนูรอง เป็นคุณหนูที่เกิดจากภรรยาหลวงที่สูงศักดิ์และสง่างามแห่งจวน อ๋องหัว ทำไมถึงได้ถูกปฏิบัติเช่นนี้ได้ ถ้าอ๋องหัวรู้เข้า จะไม่ เสียใจมากหรอกหรือ!”

พอพูดถึงท่านพ่อ สีหน้าของเป็นชื่อก็เปลี่ยนไปทันที

นางไม่ได้เจอหน้าพ่อมานานมากแล้ว เกรงว่าหลังจากที่จวน อ๋องหัวจะประสบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายครั้งใหญ่จากในชาติที่ แล้ว ตระกูลเงินถูกตัดหัวทั้งตระกูล และนางเป็นชื่อก็ถูกขังอยู่ใน เรือนจํา ที่มืดมิดไร้แสงตะวันแห่งนั้น นางก็จะไม่ได้เจอเขาอีก เลย

“ท่านพ่ออยู่ที่ชายแดน เดิมทีก็มีหลายเรื่องให้จัดการอยู่แล้ว เรื่องภายในจวนนี้ ไม่ต้องไปทำให้เขาต้องเป็นกังวลหรอก อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆภายในครอบครัว ผู้ หญิงภายในบ้านไม่กี่คน เป็นชื่อไม่ถึงกับจัดการไม่ได้หรอก เพคะ!”

ในครั้งนี้ นางจะต้องแก้แค้นให้ได้อย่างแน่นอน! แล้วก็ นางจะต้องปกป้องท่านพ่อและจานอ๋องหัวให้ได้

เมื่อเห็นนางพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ ทรงเชิงยวนก็อดไม่ได้ที่ จะชำเลืองมองนาง ท่าทางของผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้ว่าทำไม มันทำให้ เขาเชื่อถือและเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง เขาเชื่อจริงๆว่านางสามารถ ทําให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีได้
อีกอย่าง ในเมือง อเฉิงแห่งนี้ไม่ใช่ยังมีเขาอีกคน? เขาทรง เชิงยวนอยู่ที่นี่ทั้งคน จะถึงขั้นอยากปกป้องใครก็ปกป้องไม่ได้ เชียวหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อคนผู้นั้นแล้ว เขาก็ต้องปกป้องนางอย่าง แน่นอน

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากคุณหนูรองมีเรื่องอะไรที่ยวน สามารถช่วยได้ ก็เรียกยวนได้เสมอนะ ยวนจะเรียกตอนไหนก็มา ตอนนั้นอย่างแน่นอน!!

เขาพูดคำพูดนี้ออกมา ตามด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นนั้นของเขา ใบหน้าที่งดงามราวกับหยก ยังมีท่าทางที่สง่างามไม่เป็นสอง รองใครนั้น ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเป็นชื่อที่มองไป ไม่ สามารถหวนกลับคืนมาได้

ปีศาจร้ายปีศาจร้าย!

อย่างไรก็ตาม นางยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่มาก ไม่ ว่าจะในชาติก่อนหน้าหรือในปัจจุบัน ทรงเชิงยวนล้วน ให้การ ช่วยเหลือครอบครัวของพวกนางเสมอ แต่ทว่า แม้ว่าพวกเขาทั้ง สองตระกูลจะเป็นตระกูลสูงศักดิ์ในราชวงศ์เทียนหรงนี้ก็ตาม ใน ความทรงจำก่อนหน้านี้ของนาง สองตระกูลนี้กลับไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกันเลย

ในขณะที่นางกำลังคิดแบบนี้อยู่ ก็มีเสียงยั่วเย้าเสียงหนึ่งดัง ขึ้นมาตรงหน้า

“นี่คงไม่ใช่หรงซื่อจื่อหรอกกระมัง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในฉงโหลวแห่งนี้ได้?”

พอจ้องมองดู ใบหน้าที่นางจะไม่อาจลืมเลือนได้ในชีวิตนี้ ก็

ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

หัวใจของเงินซื่อสั่นสะท้าน

ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าหรูหรา ลักษณะท่าทางไม่ธรรมดา หน้าตา เคร่งขรึมเด็ดเดี่ยวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาททรง

จานหรอก ?

ลูกท่านหลานเธอที่เพิ่งจะพูดคำพูดที่ค่อนข้างยั่วเย้าอยู่ข้างๆ นั่น คนที่ใช้มองมาบนร่างของเงินชื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์ อย่าง เริบเสืบสานในตอนนี้ ก็คือองค์ชายหกหรงเถิง และส่วน คนที่สวมชุดสีเขียว หน้าตาจืดชืดคนนั้น ก็คือองค์ชายเจ็ดหรงฉิง

“คิดไม่ถึงเลยว่า ที่หรงซื่อจื่อไม่ไปเที่ยวเล่นกับพวกเราตาม ปรกติ ข้ายังนึกว่ามีธุระสำคัญอะไร คิดไม่ถึงว่า เจ้าจะแอบมารับ ประทานอาหารกับสาวงามเช่นนี้

สายตาของทรงเก๋งตรงไปตรงมามากเกินไปจริงๆ สำหรับสาว งามแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เคยปล่อยให้ผ่านไปมาโดยตลอด

“แต่โชคเรื่องผู้หญิงของหรงซื่อจื่อนไม่เสื่อมคลายลงเลยจริงๆ สาวงามเช่นนี้ ยากที่จะพบเห็น ไม่ทราบว่าน้องสาวท่านนี้เป็น คนในตระกูลไหน? ทำไมขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย? หรือว่า…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ