จักรพรรดิอมตะ

บทที่9 ประเมินคนต่ำเกินไป



บทที่9 ประเมินคนต่ำเกินไป

บทที่9 ประเมินคนต่ำเกินไป

โล่เฉินกับเลี้ยงหยวนแยกกัน ก่อนจะเดินไปที่ร้านBMW4Sที่ ใกล้ที่สุด

จะไปที่บริษัทเพื่อรับหานหมู่เยน เลยไม่สามารถขับรถโตโยต้า คราวน์คันเก่าๆ ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเลย

ตระกูลหานต่างขับเบนซ์ออดี้กัน โล่เฉินเองก็ไม่มีทางให้หานห ยู่เยนเสียหน้าแน่นอน

เมื่อมาที่ประตูของร้าน4S โล่เฉินก็จอดรถไฟฟ้าเอาไว้ ก่อนจะ สาวเท้าก้าวเท้าเข้าไป

“ร้านรับคนมาใหม่เหรอ ? ”

“ไม่ได้ยินเหรอ หรือว่าจะมาซื้อBMW ? “

“อย่ามาล้อเล่นหน่า คุณดูเขาเหมือนกับพวกข้างถนน รวมๆ แล้ว มีไม่ถึงสองร้อยด้วยซ้ำ อยู่ในมาตรฐานของพวกคนจนๆ จะขี่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาซื้อBMWได้อย่างไร !

ที่หน้าประตู พนักงานขายพูดคุยกัน พลางหยอกล้อคนด้วยคำพูดน่ารังเกียจอยู่ข้างๆ

โล่เฉินไม่ได้สนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปแต่ก็ไม่มีใครออกมาต้อนรับ เขา เขาเขบเดินเข้าไปด้านในสุด

ด้านหน้านั้นมีแต่รถถูกๆ ประมาณสองแสนกว่าๆ เท่านั้น มันไม่ เหมาะสมกับฐานะของหานหมู่เย็นในตอนนี้

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็ไม่ควรต่ำกว่าห้าแสน

“คุณผู้ชาย คุณมาซื้อรถหรือเปล่า ? ” ในตอนนั้นเอง มีพนักงาน ที่ผิวพรรณดีใส่แว่นสีดำ ท่าที่ดูสง่างามเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม อ่อนโยนพร้อมกับยิ้มหวาน

“เสี่ยวหลิว คุณอยากจะได้การประเมินดีๆ ใช่ไหมล่ะ ใครๆ ก็

ซื้อBMWได้เหรอ ! ”

“ไอเด็กน้อยนี่ มีตาไม่มีแววเลย”

“กลับมาๆ น่าจะเป็นแค่พวกคนขายของออนไลน์ที่เข้ามาถ่าย รูปน่ะ แต่ว่าร้านนี้มีกฏอยู่นะ ถ่ายรูปครั้งหนึ่งสองร้อย ถ่ายเสร็จ แล้วอย่างลืมจ่ายเงินล่ะ !!

โล่เฉินขมวดคิ้วเบาๆ เขามองไปทางพนักงานที่ผิวพรรณดีพลางถาม : “คันนี้ราคาเท่าไหร่เหรอ ?”

พนักงานที่ผิวพรรณดีอธิบายด้วยความมีมารยาท “คุณผู้ชาย คันนี้คือBMWซีรี่ย์5 เป็นรุ่นธุรกิจที่ออกใหม่ของ540Li ตอนนี้ สนนราคาอยู่ที่หกแสนสี่หมื่น แต่ว่าตอนนี้ร้านของพวกเรามีโปร โมชั่น สุดพิเศษ ลดเหลือหกแสนเท่านั้น แถมยังได้เป็นสมาชิกวี ไอพีของร้านพวกเรา จะได้เช็กระยะฟรีตลอดหนึ่งปีอีกด้วย”

“ดีเลยหนิ”

ชั้นธุรกิจเหรอ มันเหมาะสมกับฐานะของหานหมู่เยน ที่ตอนนี้ เธอเป็นถึงผู้รับผิดชอบของโครงการใหญ่เลยล่ะ

โล่เฉินพยักหน้าพลางพูด : “งั้นก็เอาคันนี้เลย เช็กบิล”

“ต๊ะ ? ” พนักงานที่ผิวพรรณดึงงเป็นไก่ตาแตก อันที่จริงเขาเอง ก็ไม่ได้หวังอะไร เพราะคิดว่าโล่เฉินแค่มาดูเฉยๆ

แต่เมื่อเห็นบัตรที่โล่เฉินหยิบออกมานั้น เธอก็ตื่นเต้นร้อนรนขึ้น

มา

ถึงแม้ว่า540คันนี้มันจะดูหรูหราเป็นอย่างมาก แต่ราคานั้นมัน ทำให้ทำตัวไม่ถูกไปหน่อย คนปกติซื้อไม่ไหว แต่คนรวยก็ไม่อยากจะซื้อ ดังนั้นพนักงานขายเลยไม่รู้จะทำอย่างไร

ขายออกจากเขาไป ก็ถือว่าได้ค่าคอมอีกเป็นหมื่นเลยล่ะ

พนักงานขายเองก็ที่เพิ่งจะดูถูกโล่เฉินไปก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เช่นกัน เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าโล่เฉินจะมาซื้อรถจริงๆ แถมยัง ซื้อ540Liราคาหกแสนอีกด้วย

ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็รู้เสียดายเป็นอย่างมาก

“อือ ? ”

โล่เฉินควานในกระเป๋าอยู่นาน ถึงจะรู้ว่าไม่ได้เอาบัตรเครดิตมา ตอนนี้ที่ตึกชิงหยุนแล้วเจอกับฟานหงชาง ส่งบัตรให้แล้วใบ หนึ่ง แถมยังบอกว่าในบัตรมีเงินสองร้อยกว่าล้าน แต่โล่เฉินกลับ ลืมหยิบมา

“คุณผู้ชาย เป็นอะไรไป ? ”

“ขอโทษจริงๆ ฉันลืมเอาบัตรมา พรุ่งนี้ค่อยมาก็แล้วกัน ฉันจอง คันนี้เอาไว้ก่อนนะ”
พนักงานที่ผิวพรรณดีผลบสายตาลง เหมือนกับว่าเป็นการบอก ลาเลยล่ะ แต่เขายังคงยิ้มอย่างยินดี : “ไม่เป็นไร ยินดีต้อนรับ คุณผู้ชายมาใหม่

“ฮ่าๆ ตลกชะมัด ! ”

ทำได้เหมือนจริงๆ เกือบจะตกใจเชื่อแล้วจริงๆ !

“เสี่ยวหลิว คราวหลังอย่าเข้าไปต้อนรับใครก็ได้นะ เสียเวลาคุณ หมด เสียอารมณ์จริงๆ เลย”

เมื่อเดินไปที่ประตู โล่เฉินก็หยุดเดินพลางกวาดตามอง

ในตอนนั้นบรรยากาศเงียบสงัด พนักงานขายหลายคนต่างเหงื่อ ตก ใจเต้นเร็วเหมือนรัวกลองเลยล่ะ

นั้นมันแววตาแบบไหนกันนะ ?

ทั้งเยือกเย็น และน่ากลัว

จนโล่เฉินขี่จักรยานไฟฟ้าลับสายตาไป พวกเขาถึงจะดึงสติกลับ มาได้ ก่อนจะรู้ว่าเสื้อผ้านั้นเปียกไปหมดแล้ว

“ให้ตายเถอะ ประหม่าไปหมดแล้ว !
โล่เฉินรีบไปที่ตึกซิงหยุน เตรียมจะไปหาฟานหงชางเพื่อมอบ หมายงานของบริษัทเฉิงหยู่สักหน่อย เลยหยิบบัตรเตาดิดไปด้วย ที่บังเอิญก็คือ ที่หน้าตึกชิงหยุนนั้นก็เจอทานหมู่เยนพอดี

“โล่เฉิน ! ”

“หานหมู่เยน คุณมาที่นี่ได้อย่างไร ? ” โล่เฉินกวาดตามอง นอก จากหานหมู่เยนแล้ว ก็ยังมีหานหยุนเทา หานหยุนซีและคนหนุ่ม สาวของตระกูลหาน

นอกจากนี้ ยังมีชายหญิงที่ไม่รู้จักอีก ดูเหมือนคุณหนูคุณชายผู้ ร่ำรวยกันทั้งนั้น

“ฉันไม่ได้จะมาคุยเรื่องการร่วมงานเหรอ หานหยุนเทาบอก อยากจะฉลองเสียหน่อย ทางคุณย่าก็อนุญาตแล้ว พวกเราเลยมา ที่ตึกชิงหยุน”

หานหมู่เยนอธิบายพลางเดินเข้ามา ก่อนจะส่งสายตาให้โล่เฉิน พลางกระซิบ : “คุณรีบกลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้น…..

“คนนี้คือโล่เฉินที่โด่งดังใช่ไหม ! ”
ชายแปลกหน้าร่างผอมเดินเข้ามา ยิ้มเบาๆ พลางพูด : “จะกลับ ไปทำไม ไหนๆ ก็ได้เจอกันแล้วก็กินข้าวด้วยกันสักหน่อย ฉันกับ หานหยุนเทาจะเลี้ยงเอง

“การได้เชิญคุณโล่มากินข้าวด้วย ถือเป็นเกียรติของฉัน”

ชายที่พูดอยู่นั้นชื่อโจวไท่ เป็นคุณชายของตระกูลร่ารวยใน เมืองเจียง หานหยุนเทาพยายามประจบเขา เพื่อกลางเป็นพวก พ้องของโจวไท่

อันที่จริงการกินข้าวครั้งนี้ ก็เป็นความต้องการของโจวไท่

“พี่ไทบอกว่าอยากจะกินข้าวด้วยกัน มันถือเป็นเกียรติของคุณนะ ยังอึ้งอะไรอยู่ รีบเดินตามมา “หานหยุนเทา มหา ก่อนจะเดิน นํากับโจวไห่เข้าไปที่ตึกชิงหยุน

หานหยู่เยนขมวดคิ้วเบาๆ “คุณไม่อยากไปก็กลับไปได้

โล่เฉินหัวเราะ เขารู้ว่าหานหมู่เยนนั้นหวังดี เพื่อไม่ให้เขาถูก หัวเราะเยาะ แต่ตอนแรกเขามาที่ตึกชิงหยุนเพื่อหาฟานหงชาง เลยไม่ได้ไปง่ายๆ แบบนั้น

“ไม่เป็นไร มีคนเชิญกินข้าว ไม่กินไม่ได้
ทานหมู่เย็นยิ้มอ่อน “งั้นก็ได้ เดี๋ยวคุณพูดน้อยๆ หน่อย ถ้าเกิด พวกเขาเยาะเย้ยคุณ ก็คิดเสียว่าหมาเห่าก็แล้วกัน

เมื่อมาที่ห้องรับรองเบอร์สอง โจวไก่หานหยุนเทาและคนอื่นๆ กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ยังไม่ทันรอให้โล่เฉินนั่งลง โจวไทก็พูดเหน็บแนม : “คุณโล่ ช่วงนี้ได้เลื่อนตำแหน่งไปถึงไหนแล้วล่ะ ? ”

“เลื่อนขั้นอะไรกันล่ะเป็นแค่พ่อบ้านเท่านั้นเอง ! “หานหน มองด้วยความไม่แยแส

“เป็นพ่อบ้านก็ดีแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีผู้ชายดูแลบ้านแล้ว

ทุกคนในที่นั้นต่างหัวเราะกันขึ้นมา

หานหมู่เยนสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอรู้ว่าโล่เฉินไม่มีทางจะไม่ โดนดูถูก แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเร็วขนาดนี้

“อ้ยหยา ฉันคิดขึ้นได้แล้ว ! ”

จู่ๆ หญิงที่แต่งหน้าเข้มคนหนึ่งก็ชี้ไปที่โล่เฉินพลางพูดขึ้นว่า “ฉันว่าทำไมคุณถึงได้คุ้นหน้านัก เมื่อวานคุณมาส่งของให้ฉันใช่ ไหม ! ”
“คนส่งของงั้นเหรอ ? ”

ทุกๆ คนต่างอึ้งไป ก่อนจะมีรอยยิ้มที่เห็นชัดขึ้นบนใบหน้า

หญิงที่พูดอยู่เองก็เป็นคุณหนูของตระกูลร่ำรวย มากพอๆ กับ ตระกูลหาน เธอมักจะอิจฉาหน้าตาอันสะสวยของหานหมู่เยนอยู่ บ่อยๆ ครั้งนี้ได้ดูถูกโล่เฉิน อันที่จริงก็เพื่อหานหมู่เยนโดยเฉพาะ

“ที่แท้ก็เป็นคนส่งของหรอกเหรอ คุณโล่อย่าอายไปเลย”

“ไม่เลวเลย ส่งของส่งอาหารนั้นเป็นอาชีพที่สุจริต บริการเพื่อ ประชาชน แข็งแกร่งมากกว่าพวกเราที่นั่งทำงานอยู่ในห้อง ทํางานอีก”

โล่เฉินมีสีหน้าเย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย : “คุณน่า จะนําคนผิดนะ !”

หานหมู่เยนเองก็ทนไม่ไหว เพราะความโกรธมันปะทุขึ้น : “ส่งของแล้วมันสะอาดขนาดนั้นเลยเหรอ ? แววตาของคุณไม่มี ประโยชน์ก็ไม่ต้องใช้ อย่าทำให้คนเกลียดเลย ! *

“นี่ ! ” ผู้หญิงโกรธจนหน้าแดง
โจวไทรีบแทรกขึ้น “พอแล้วๆ ถือว่าเข้าใจผิดกัน จำคนผิดก็เป็น เรื่องปกติ

“ฉันไม่อยากได้ยินอะไรที่มันไม่น่าฟัง ไม่อย่างนั้นฉันจะไปแล้ว

นะ!”

หานหยู่เยนจริงจังเป็นอย่างมาก ฟังแล้วทำให้โล่เฉินรู้สึกอุ่นใจ

ขึ้น

หานหยุนเทามีสีหน้านิ่งลง ก่อนจะพูดเสียงต่ำ : “หานหมู่เยน คุณอย่ามาปล่อยตัวเกินไป อย่าคิดว่าร่วมงานกันแล้วจะไม่สนใจ ใคร พี่ไท่เชิญมากินข้าว คุณไม่ไว้หน้าได้เหรอ ! ”

“ชิชะ บางคนเสียสละสักหน่อยก็ทําตัวใหญ่โต คิดว่าตัวเองเป็น คนใหญ่คนโตไปซะแล้ว เดี๋ยวฉันต้องกลับไปบอกย่าเสียหน่อย หานหยุนซีโทษปูนนี่ด้วยความโกรธอยู่ด้านข้าง

โจวไล่ยิ้มมุมปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร

ในใจของหานหมู่เยนนั้นหงุดหงิด ตระกูลหานกับตระกูลโจวร่วม งานกันนิดหน่อย ถ้าเกิดว่าหาเรื่องกับโจวไท่ ก็จะเกิดความเสีย หายกับตระกูลหานได้

“ไม่เป็นไร”
เพื่อไม่ให้หานหมู่เยนลำบากใจ โล่เฉินเลยตบหลังมือเธอเบาๆ

เมื่อเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ โล่เฉินทั้งสองก็เหมือนถูกทิ้งอย่าง โดดเดี่ยว

ทุกคนต่างมีวงเป็นของตัวเอง

โจวไท่ หานหยุนเทาและคนอื่นๆ ต่างคุยกันอย่างฉะฉาน ทานห ยู่เยนกับโล่เฉินไม่ได้สนใจเลย เหมือนกับตั้งใจจะให้ทั้งสองคน ทำตัวไม่ถูก ให้พวกเขาประหม่าไป

“พนักงาน เสิร์ฟอาหาร” เมื่อถึงเวลา โจวไท่ก็ตะโกนไป

เมื่ออาหารมาครบ ทุกๆ คนก็กินกัน อย่างรื่นเริง

ระหว่างการกินข้าว

พนักงานหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเดินเข้ามา, พลางถาม : “คุณ ผู้ชาย ยังต้องการบริการอะไรอีกไหม ? “

“ไม่เป็นไร คุณไปเถอะ เดี๋ยวต้องการอะไรแล้วจะเรียก” โจวไท่ โบกมือ
“โอเค คุณผู้ชาย”

พนักงานสาวสวยโน้มตัว ตอนที่กำลังหันตัวไป เธอกวาดตาไป เห็นโล่เฉิน จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้น จากนั้นก็เรียกขึ้นมา : “คุณ คุณมาที่นี่ได้อย่างไร ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ