จักรพรรดิอมตะ

บทที่11 จุดประสงค์ที่แท้จริง



บทที่11 จุดประสงค์ที่แท้จริง

บทที่11 จุดประสงค์ที่แท้จริง

“คุณชายโจว คิดเงินได้หรือยัง ? ”

พนักงานสาวสวยเร่ง จนทำให้โจวไท่มีสีหน้าไม่ดีสักเท่าไหร่

คิดเงิน เงินมันไม่พอจะจ่ายน่ะสิ !

“เดี๋ยวก่อน” ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดพูดออกมาเบาๆ พลางมองไป ทางประธาน แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “ประธาน ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอน นั้นคุณบอกว่าไวน์แกรนจ์สองขวดนี้ให้พวกเราฟรีหนิ ! ”

“อือ เคยพูดไปแล้ว”

“บอกว่าให้พวกเราแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงมารวมอยู่ในบิลล่ะ”

โจวไท่เองก็รีบใช้โอกาสนี้ ก่อนจะตัดสินใจ ทำหน้าเย็นชาพลาง พูด : “ประธานของตึกชิงหยุนจะกลับคำพูดไม่ได้นะ บอกว่าจะ ให้เหล้าฟรี ตอนนี้จะมาเก็บเงิน นี่มันไม่ใช่ว่าโกงพวกเราเหรอ ? ”
หานหยุนเทาเองก็พูดเสริม : “นั่นสิ พวกเราไม่ได้โง่นะ มีใคร ไม่รู้บ้างว่าแกรนจ์นั้นราคาแพงขนาดไหน ถ้าไม่ใช่ประธานให้ พวกเรา พวกเราไม่มีทางเอาหรอก”

“ใช่ พวกเราไม่ถูกหลอกง่ายๆ หรอกนะ

ประธานมีสีหน้าดูไม่ค่อยดี ตอนนั้นตัวเองจะให้เพื่อเป็นการ ชดเชยจริง ไม่ได้ให้พวกเขา แต่ให้……

พลางแอบมองโล่เฉิน ก็พบว่าเขาไม่ได้มีปฏิเสธ ประธานพยัก หน้าพลางพูด : “งั้นก็โอเค เสี่ยวเหม่ย ลบค่าไวน์แกรนจ์ออก ! ”

“ได้เลย ประธาน

พนักงานสาวสวยคิดเงินใหม่ ก่อนจะส่งบิลมาให้ : “ทั้งหมด หมื่น อยากจะรูดบัตรหรือใช้เงินสด ? ”

“รูดบัตร ! ”

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ โจวไท่ไม่อยากจะเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น นาน พลางจูงมือผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดเดินออกจากตึกซิงหยุนอ ย่างรวดเร็ว
ตอนแรกโล่เฉินอยากจะไปที่ตึกซิงหยุนเพื่อหาฟานหงชาง แต่ ตอนนี้เหมือนกับว่าฟานหงชางไม่อยู่ เขาก็เลยตามหานหมู่เย็นไป ที่KTVเรอัลมาดริด

ระหว่างนั้นเอง โล่เฉินรู้สึกไม่ชอบมาพากล

โจวไท่เหมือนกับคิดอะไรไม่ดีกับตัวเอง อาจจะไม่ดีกับหานหมู่ เยน เขาเลยจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด

KTVเรอัลมาดริด

นี่คือคาราโอเกะที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเจียง คน ที่มาใช้บริการนั้นเป็นคนมีเงินทั้งนั้น การบริการก็ดี มันเป็นความ ต้องการของเหล่าคุณหนูคุณชาย

“พี่ไท่ ! ”

“เสี่ยวหยู”

โจวไท่เดินนำเข้าไปในห้องรับรองหรูหรา ในนั้นมีชายหญิงอยู่ มากมาย

ชายที่นั่งอยู่คนแรกเรียกหวังหยู่ ตระกูลหวังเป็นตระกูลอันดับ สองของเมืองเทียนสวย มีอำนาจมากกว่าตระกูลหานนิดหน่อย แต่ก็อ่อนกว่าตระกูลโจวหน่อย

ในแวดวงของตระกูลอันดับสองนั้น โจวไทถือเป็นหัวหน้าอันดับ ต้นๆ เลย

“หานหยุนเทา หานหยุนซี……

หวังหยู่เห็นถึงข้างหลัง ก็มองไปที่โล่เฉิน เลยอดไม่ได้ที่จะขำ ขึ้นมา : โย่ว นั่นไม่ใช่หญิงที่มีชื่อเสียงของเมืองเจียงของพวก เราหรือเปล่าน่ะ ลมอะไรพัดมาล่ะ !

“หวังหยู่ คุณอย่ามีเรื่องนะ

หานหมู่เยนพูดเสียงเย็นชา

หวังหยู่หัวเราะอย่างสวยงาม ไม่ได้พูดอะไรต่อไป

ตอนนี้เมืองเจียงรู้กันหมดแล้วว่าหานหมู่เยนกับบริษัทเฉิงหยู่ ทำสัญญาร่วมงานกัน ในอนาคตตระกูลหานก็ต้องได้เป็นตระกูล ที่ได้เป็นอันดับสองอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดว่ามีความ สัมพันธ์ดีๆ กับบริษัทเฉิงหยู่ มาทำโปรเจคแบบนี้ การจะมาโจมตี ตระกูลอันดับหนึ่งเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้

งานที่ใหญ่ที่สุด มาจากทานหมู่เยน
จากวันนั้น หานหมู่เยนอาจจะเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดของตระกูล หาน ตระกูลหวังไม่มีทางแข็งแกร่งได้เหมือนกับตระกูลโจว สําหรับทานหมู่เยน หวังหย่คิดว่าไม่มีเรื่องด้วยจะดีเสียกว่า

“ทุกคนมาสนุกกันเถอะ วันนี้ฉันจะเลี้ยงเอง”

หวังหยู่หัวเราะขึ้น ก่อนจะทักทาย

ทุกคนต่างนั่งลง โล่เฉินกับหานหมู่เยนนั่งลงตรงมุมของโซฟา

คุณชายหลายๆ คนต่างโบกแท่งไฟ ดื่มเหล้า คุณหนูร่ำรวยสอง คนเริ่มร้องเพลง แต่ทักษะการร้องเพลงนั้นไม่น่าชื่นชมสักเท่า ไหร่เพราะเหมือนกับ “เสียงเห่าหอน

“พี่ไท่ ได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนที่ภาคตะวันตกเมืองมีคนก่อเรื่องที่ หน้างาน ตอนนี้แก้ไขปัญหาได้หรือยัง ? ”

เมื่อดื่มมเหล้ากันครบ หวังหยู่ก็ถามขึ้นมา

“วางใจเถอะ เรื่องมันเล็ก แก้ไขได้หมดแล้ว”

หวังหยู่ตกใจเบาๆ พลางถามต่อ : “จริงเหรอ ! พี่ไท่ ฉันได้ยินว่าคนที่ก่อเรื่องคือนักเลงหัวไม้ของภาคตะวันตกเมือง ใน ตอนแรกครอบครัวของฉันก็ถูกนักเลงหัวไม้กวาดทรัพย์สินไป เยอะมาก ลุงโจวจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ?”

“นักเลงหัวไม้ ? เหอะๆ ไม่มีอะไรมากหรอก ! ”

โจวไท่ทำปากอย่างไม่แยแส ด้วยใบหน้าทระนง “พ่อของฉันไป หาพี่เป้าแล้ว พี่เป้าออกหน้าเอง พวกนักเลงหัวไม้เล็กๆ นั้นตกใจ หันไปใหญ่ ไม่ใช่แค่สัญญาว่าจะไม่มาก่อเรื่องแล้ว แต่จะกลายมา เป็นมิตรที่ดี หลังจากนั้นทุกคนไปภาคตะวันตกเมืองแล้วเกิดเรื่อง อะไรก็บอกฉันหน่อย ฉันโทรแค่ครั้งเดียวก็จัดการได้แล้ว”

“พี่ไท่ คุณนี่เก่งจริงๆ เลย ! ”

“นั่นไม่ได้หมายความว่า หลังจากนี้พวกเราจะสามารถไปที่ภาค ตะวันตกเมืองอย่างอาจหาญได้แล้วล่ะสิ!

“แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

คนวัยหนุ่มสาวนั้นอยากจะลอง แถมยังวางแผนว่าพรุ่งนี้จะไป ภาคตะวันตกเมืองเพื่อเดินเล่นสักหน่อย

หวังหยู่ขมวดคิ้ว พลางพูดพึมพำ : “พี่เป้าเหรอ ? ทำไมถึงได้ค้นขนาดนั้น เหมือนกับว่าฉันเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย ! ”

“หงเหลยถิง”

“ต๊ะ ? ” หวังหยู่ตกใจไป

โจวไท่วางแก้วเหล้าลง ก่อนจะค่อยๆ พูด : “พี่เป้าเป็นมือขวา คนสำคัญของหงเหลยถึง ถึงขนาดว่าหงเหลยถิงเป็นใคร ไม่ต้อง ให้ฉันพูดอะไรมาก ! ”

เห้อ !

ทุกคนต่างถอนหายใจอย่างเย็นชา

ที่เมืองเจียง คุณสามารถไม่รู้จักชื่อของผู้ช่วยของรัฐบาล แต่คำ ว่าหงเหลยถึงสามคำนี้ ไม่รู้ไม่ได้

เขาเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในเมืองเจียง ชื่อ “ท่านหง” อำนาจทั่ว ทั้งเมืองเจียง จะดีจะเลวอย่างไร ก็ยังมีอำนาจคานไปทั่วทั้งเมือง แถมยังเป็นข้าราชการระดับสูง เลยต้องไว้หน้าหงเหลยถิงด้วย

“ไม่น่าล่ะ !”
หวังหยู่ตบหน้าอกของตัวเองเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยความตกใจ : “ท่านหงเป็นหัวหน้าใหญ่ของเมืองเจียง ในฐานะที่พี่เป้าเป็น มือขวาคนสําคัญของเขา เจ้าของของครอบครัวระดับหนึ่งนั้นยัง ต้องเกรงใจเขา นักเลงหัวไม้เล็กๆ ของภาคตะวันตกเมือง ใครจะ กล้ามาทำอะไรต่อหน้าพี่เป้า ! ”

ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดมองโจวไปด้วยแววตาที่ยิ่งลึกซึ้งเข้าไป ใหญ่ เธอกอดแขนของโจวไท่ ก่อนจะยิ้มพลางถาม : “พี่ไท ทำไมพวกคุณถึงดึงดันความสัมพันธ์อะไรกับพี่เป้าล่ะ เขาเป็น ถึงคนใหญ่คนโตเลยนะ มีการช่วยเหลือของพี่เป้า ไม่แน่ว่า ครอบครัวของพวกคุณอาจจะต่อแถวกันเข้ามาหาครอบครัวระดับ หนึ่งแบบนี้ก็ได้”

ตระกูลระดับหนึ่ง

คุณหนูคุณชายที่อยู่ตรงนั้นต่างใจสั่นไหว

ถึงแม้ว่าระดับหนึ่งและระดับสองต่างกันเพียงก้าวเดียว แต่กลับ ห่างกันราวฟ้ากับเหว มันไม่ใช่ระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ คุณหนู คุณชายของตระกูลระดับหนึ่งพวกนั้น ไม่ชายตามองพวกเขาด้วย ซ้ำ แถมยังดูถูกอีกต่างหาก

ใครๆ ก็อยากจะเป็นหนึ่งในตระกูลระดับหนึ่งทั้งนั้น

“อันที่จริง พ่อของฉันเคยกินข้าวกับท่านหง รู้จักกับท่านหงแถมทั้งสองคนก็พูดคุยกันอย่างดี และยังมีการให้เบอร์ติดต่อ ด้วย”

คำพูดนี้ ทำให้หวังหมู่และคนอื่นๆ ม่านตาหดลง

รู้จักกับหงเหลยถิง แถมยังมีเบอร์ติดต่ออีก ความหมายนี้ไม่พูดก็ ต้องรู้

“พี่ไท่ ฉันขอชนแก้วให้คุณสักแก้ว ! ”

หวังหยู่เป็นคนเด่นแล้ว ต้องเชิดหน้าชูตาสักหน่อย

“พี่ไท่ ฉันเองก็ต้องชนแก้วให้คุณ ! ”

“ฉันด้วย”

พวกคุณหนูต่างเข้าไปหาโจวไท่ ขนาดหานหยุนซีเองก็ไม่เว้น ผู้ หญิงที่แต่งหน้าจัดเองก็เหมือนเจอคู่แข่งตัวฉะกาด เลยต้องกอด โจวไท่เอาไว้

“หานหมู่เยน คุณนิ่งอยู่ทำไมเล่า รีบรินเหล้าแล้วชนกันเถอะ แล้วก็คุณ โล่เฉิน อึ้งอะไรอยู่ จะรอให้คนอื่นเชิญคุณเหรอ ! ”
จู่ๆ หานหยุนเทาก็พูดขึ้น

สายตาทุกคนมองไปทางมุมนั้น

หานหมู่เยนกระเด้งตัวขึ้น คำพูดของโจวไท่เมื่อครู่นั้นเธอได้ยิน ชัดเจน เพื่อให้ตระกูลโจวกับหงเหลยถึงมีความสัมพันธ์กัน นี่มัน ไม่ง่ายเลย

เกรงว่าอีกไม่นาน ตระกูลโจวอาจจะได้เข้าไปเป็นหนึ่งในตระกูล ระดับหนึ่ง

“รีบเข้ามา ! ” หานหยุนเทาเรียกอีกครั้ง

หานหมู่เยนขบริมฝีปาก ตอนที่เธอกำลังจะลุกขึ้นมานั้น โล่เฉิน เร็วกว่าเธอมาก เลยรีบหยิบแก้วเหล้าทั้งสองขึ้นมา

“หานหมู่เยนแพ้เหล้าน่ะ ฉันดื่มแทนเธอก็แล้วกัน”

หวังหยู่ช่างสังเกต ก็พบว่าโจวไท่นั้นมีสีหน้าไม่ค่อยดี เลยรีบด่า ออกไป : “คุณเป็นใคร ให้หานหมู่เย็นดื่ม ! ”

“พี่ไท่เป็นใคร ถึงจะให้คนไร้ประโยชน์อย่างคุณเข้ามาชนแก้ว แทนได้เหรอ ? ”
หานหยุนซีมีสีหน้าหยอกล้อ พลางพูด : “คุณมาเทเหล้าให้

ไทเถอะ ! ”

ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดทำหน้าออดอ้อน “เดี๋ยวอีกไม่นานพี่ไท่ก็ จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแล้ว พอถึงตอนนั้นจะมาประจบก็ไม่มี โอกาสแล้ว หานหมู่เยน คุณไม่ไว้หน้าพี่ไท่เลยหรือไง ! ”

ท่ามกลางการบังคับของคนหลายๆ คน โล่เฉินเลยโกรธขึ้นมา

บรรยากาศมันยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนที่มันตึงเครียดเป็นอย่างมาก โจวไท่ก็หัวเราะออกมา พลาง โบกมือแล้วพูดขึ้น : “ช่างมันเถอะ แค่เหล้าแก้วเดียว หานหมู่เย็น ไม่อยากจะดื่ม ฉันเองก็ไม่บังคับ

“ขอบคุณมาก” หานหมู่เยนพูดขึ้น ก่อนจะดึงโล่เฉินนั่งลง

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก”

โจวไท่ยิ้มตาเป็นสระอิ จากนั้นจึงพูด : “หานหมู่เยน อันที่จริง ฉันมีเรื่องหนึ่ง อยากจะคุยกับคุณ”
หานหมู่เยนพลางถาม : “เรื่องอะไร ?

“ตระกูลหานเป็นที่ที่เอาไว้ออกแบบและลงมือทำ การร่วมมือ ของคุณกับบริษัทเฉิงหยู่นั้น ตระกูลหานเป็นคนออกแบบหรือว่า ลงมือทำล่ะ ? *

“การออกแบบกับการลงมือนั้นให้พวกเราเป็นคนจัดการ

“ความรู้สึกไม่เลวเลย ! ”

โจวไทปรบมือ ก่อนจะหัวเราะออกมา : “หานหมู่เยน โปรเจคนี้ มันใหญ่มากเลย พวกคุณตระกูลหานมีกำลังจำกัด การออกแบบ นั้นสามารถทำให้ตระกูลหานพอใจได้ ความหมายของฉันมันง่าย มาก เอาการทำการก่อสร้างมาให้ตระกูลโจวของฉันทำเถอะ ! ”

เพียงแวบเดียว โล่เฉินก็มีแววตาเย็นเฉียบ พลางแอบขำในใจ

ชายคนนี้ พูดอ้อมโลกมาตั้งนาน ที่แท้ก็เพื่อการนี้เองเหรอ !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ