กุญแจดอกที่ 1 : การพบกันครั้งแรก
เคยเกลียดชังตนเองไหม…เกลียดชังจนขนาดที่ไม่อยากมีชีวิต อยู่
ในขณะที่คิดแบบนั้น…..ในขณะที่ถึงทางตันอย่างที่สุด
เด็กคนนั้นกลับกระโดดลงมายืนอยู่ตรงหน้า เด็กที่เย็นชาเสียจนน่ากลัวคนนั้นกลับจับดาบฆ่าปีศาจมากมาย แต่ทําไมไม่รู้…ปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดภายในตัวเธอกลับค่อยๆสงบ ลง…
ในยามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว แสงของดวงดาวพากันสาด ส่องอยู่บนน่านฟ้าสีนิลราวกับจะบอกดวงจันทร์ว่ายังมีพวกมันอยู่ เป็นเพื่อนในเวลากลางคืนที่ยาวนานและเงียบเหงา ทุกบ้านช่อง ได้ปิดประตูอย่างแน่นหนาในยามนิทราเพื่อป้องกันพวกขโมย และสัตว์กลางคืนที่หิวโหย แต่ที่สำคัญที่สุดคือป้องกันปีศาจที่ ออกล่าในยามราตรีกาล แม้จะมีพวกนักล่ามากมายออกล่าปีศาจ ทว่าพวกมันก็มีมากไม่หมดไม่สิ้น
ท่ามกลางความเงียบที่ไร้ผู้คนร่างเล็กของเด็กหญิงผมชมพู ยาวกำลังวิ่งไปบนหลังคาบ้านอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นมีท่าทาง คล่องแคล่วและว่องไวเหมือนกับว่าเจ้าตัวถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เสื้อหลายแห่งบนร่างฉีกขาดทำให้มองเห็นบาดแผลมากมายที่ ยังคงมีเลือดไหลออกมา
โลหิตสีแดงฉานเปรอะเปื้อนทั้งเสื้อผ้าและใบหน้าสวยของ เด็กน้อย มือข้างหนึ่งกุมแขนอีกข้างที่ยกไม่ขึ้นเอาไว้เนื่องจาก อาการบาดเจ็บ บนไหล่ เสื้อผ้าฉีกขาดเผยให้เห็นดอกกุหลาบ สีขาวดอกใหญ่ซึ่งบ่งบอกว่าเล็กน้อยคนนี้เป็นนักล่าที่ออกมา ทํางานในยามค่ำคืน
ดวงตาสีทองคำลุกโชนในความมืดมิดขณะปากเม้มแน่นจนเป็น เส้นตรงเพื่อข่มความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ เลือดสีแดงฉานยัง คงหยดไปตามทางที่เด็กน้อยวิ่งผ่านและเพราะเลือดที่ไหลไม่ หยุดถึงทําให้ปีศาจด้านหลังไล่ตามมาถูก
“อย่า…อย่าเพิ่งออกมา… ที่นี่ไม่ได้…” เสียงหวานครางออกมา ก่อนจะเร่งฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้นขณะดวงตาสีทองคำก็เร่งหาสถานที่ที่ ไม่มีบ้านเรือนเพื่อซ่อนตัว
ทรมาน….ทรมานมาก…ทรมานจนไม่อยากจะทนอีกต่อไป แต่ เธอทําแบบนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้น….อย่า…อย่าได้ออกมา ต่อให้ ต้องทรมานมากกว่านี้ก็อย่าได้ออกมาเด็ดขาด
เด็กน้อยหันไปมองด้านหลังทำให้เห็นร่างสีดำของอะไรบาง อย่างที่ตามเธอมาติดๆ ดวงตาสีแดงเลือดของมันวาววับขณะจับ จ้องเหยื่อที่วิ่งอยู่ด้านหน้า มันคือปีศาจที่รักการเข่นฆ่ายิ่งกว่าชีวิต
เด็กหญิงผมชมพูกัดฟันแน่น สิ่งที่อยู่ด้านหลังนั้นยังไม่น่ากลัว เท่ากับสิ่งที่แฝงอยู่ในร่างของเธอ ถ้าหากว่ามันหลุดออกมาได้ ทุกอย่างคงพังพินาศเป็นแน่
“อีกนิดเดียว….อย่าเพิ่งออกมา…อีกแค่นิดเดียว” เด็กหญิงกัดฟัน พูดเมื่อบางสิ่งบางอย่างกำลังปะทุอยู่ในร่าง มันดิ้นรนอยู่ข้างใน ร่ำร้องจะออกมาเพื่อขยี้ทุกอย่างที่ขวางหน้า
กร๊า … เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เด็กหญิงยิ่งเร่งฝีเท้า เพราะเสียงนั่นเป็นตัวกระตุ้นให้สิ่งที่อยู่ภายในร่างยิ่งดิ้นรนหนัก ขึ้น มันกำลังพยายามไขว้คว้าอิสรภาพที่เธอไม่ยินดีจะมอบให้
ฟุบ… เด็กหญิงผมชมพูกระโดดลงจากหลังคาบ้าน เจ้าตัว พยายามฝืนร่างกายเพื่อจะหาที่ซ่อนตัว แต่น่าเสียดายเพราะเธอ ไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะไปต่ออีกแล้ว ทว่าที่นี่ก็ยังไม่ใช่ที่ที่เธอ จะสามารถหยุดพักได้
เด็กหญิงค่อยๆลากสังขารของตนเองไปตามทางเดิน มือข้างที่ ยังยกขึ้นเกาะไปตามกำแพงด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือไม่มาก เสียงหอบเล็กๆเพราะความเหนื่อยผสมกับความทรมานยังคง ดังท่ามกลางความเงียบ แต่สุดท้ายเด็กหญิงก็ทรุดลงไปกองกับ พื้น ดวงตาสีทองคำทอดมองทางเบื้องหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน
เจ็บ…เจ็บไปทั้งตัว เจ็บจนแทบไม่รู้สึก ทว่าต่อให้ต้องเจ็บปวด มากกว่านี้แต่ได้โปรด…ได้โปรดอย่าได้ออกมา เด็กน้อยอ้อนวอน ทั้งน้ำตา อ้อนวอนอะไรก็ได้ที่สามารถพันธนาการปีศาจร้ายในตัว เธอเอาไว้ให้ลึกที่สุด ทั้งที่รู้ว่าคำอ้อนวอนนั้นไม่มีวันจะเป็นจริง ทั้งที่รู้ดีที่สุดว่าต่อให้นั่งอ้อนวอนจนสุดแรงมันก็ไม่มีวันเป็นได้
ตึง… เสียงลงฝีเท้าหนักๆดังมาติดๆก่อนร่างยักษ์สีดำน่า ขยะแขยงจะปรากฏอยู่ตรงหน้าเด็กน้อย ดวงตาสีแดงฉานดุจ โลหิตคู่นั้นเต็มไปด้วยความกระหายจากการไล่ล่าและกลิ่นเลือด มันค่อยๆย่างเท้าเข้าหาเด็กหญิงพร้อมแสยะเขี้ยวแหลมเล็กเต็ม ปาก
เด็กหญิงไม่ได้กลัวสิ่งที่อยู่ด้านหน้าเลยสักนิด สิ่งที่เธอกลัวคือ สิ่งที่อยู่ในร่างกายเธอมากกว่า ดวงตาสีทองฉายแววหมดหวัง ออกมา
จบแล้วสินะ ขอโทษท่านพ่อ….ลูกไม่น่าออกมาทำงานแรกก่อน เลย…ทั้งที่ท่านบอกให้รอก่อนแท้ๆ เด็กน้อยคิดพลางมองเล็บ แหลมคม จ่อตรงเข้ามาที่ใบหน้าราวกับตัดความหวังทั้งหมดของเธอลง
อึก… ร่างเล็กกระตุกด้วยความแรงเมื่อสิ่งที่อยู่ในร่างเรียกร้องจะ ออกมาให้ได้
อย่า…อย่าออกมา…ได้โปรด ต่อให้เธอต้องตาย ต่อให้ต้องเป็น อาหารให้ปีศาจตรงหน้า ก็อย่าได้ออกมา…
อึก.. เด็กน้อยกัดปากขณะที่เริ่มทนไม่ไหว ปีศาจภายในกำลัง ร้องจะออกมาและเธอก็ไม่สามารถจะยับยั้งมันได้อีกต่อไป…
ฟุบ!!
ขณะที่กำลังคิดจะตัดใจเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังมาจาก ด้านหลังของปีศาจ จิตสังหารแผ่กระจายอย่างรุนแรงกดดันทุก อย่างให้อยู่ภายใต้อำนาจของมัน จิตสังหารมากมายมหาศาล แบบนี้มีเพียงพวกนักล่าลำดับต้นเท่านั้นที่มีได้ คนที่มาเป็นใคร
ดวงตาสีทองคำของเด็กหญิงชะโงกไปมองผู้มาเยือนขณะที่ ปีศาจตรงหน้าผงะไปด้วยความหวาดกลัว ปีศาจมักมีสัญชาตญาณ ดี เพียงแค่แวบเดียวมันก็รู้ว่าใครไม่สมควรจะไปหาเรื่องด้วยมาก ที่สุด
ผู้มาใหม่ทำให้เด็กหญิงผมชมพูแปลกใจเพราะคนตรงหน้ายัง เป็นเพียงเด็กผู้ชายเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยขณะดวงตา คู่นั้นเย็นชาและเด็ดขาด แต่ลึกๆแล้วมันเก็บซ่อนความโหดเหี้ยม ไว้ได้อย่างมิดชิด ผมสีดำซอยสั้นกลืนไปกับรัตติกาลยามราตรี อันเงียบเชียบ สายลมยามดึกพัดพาขึ้นมาอย่างรุนแรงจนทำเอา ใบไม้ปลิวว่อน ช่างน่าแปลก จิตสังหารที่กระจายตัวอยู่นั้นไม่ได้ แค่สะกดการเคลื่อนไหวของปีศาจร้ายตรงหน้าแต่มันกลับทำให้ สิ่งที-นรนอยู่ในกายเธอสงบลงไปด้วย
คนตรงหน้าทำได้ยังไง ทั้งที่เธอพยายามแทบไม่คิดชีวิตเพื่อ สะกดมันเอาไว้ เธอแทบจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพันธนาการ มัน ทว่ามันไม่เคยได้ผล แต่คนตรงหน้ากลับทำได้…เพราะอะไร
เด็กชายก้าวเท้าเข้ามาอย่างใจเย็นก่อนเจ้าตัวจะชักดาบออก จากปลอกคมดาบสีเงินวาววับ สะท้อนแสงจันทร์ดคมกริบแต่ก็ งดงาม ทว่าเพียงแค่พริบตาเดียวที่เด็กชายตรงหน้ากวัดแกว่งมัน ทั้งเด็กหญิงและปีศาจก็ได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วความโหดเหี้ยมเป็น เช่นใด
เสียงกรีดร้องของปีศาจดังก้องอย่างน่าขนลุกท่ามกลางความ เงียบงันที่ว่างเปล่า เสียงคมดาบแหวกเนื้อดังลั่นยังคงมีให้ได้ยิน ไม่หยุด เลือดสีแดงฉานสาดกระจายย้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวาง หน้า ใบไม้สีนํ้าตาลแห้งที่ปลิวตามสายลมถูกย้อมไปด้วยเลือด สดๆที่ส่งกลิ่นเหม็นคาว
เด็กคนนี้เป็นนักล่าไม่ผิดแน่น เป็นนักล่าที่มีฝีมือเก่งกาจเทียบ ชั้นกับพวกนักล่าอันดับต้นเลยทีเดียว
แต่เห็นแล้วก็ช่างสมเพชนัก พวกเราเป็นนักล่าปีศาจทว่าในยาม ที่พวกเราออกล่ามันกลับไม่ต่างจากปีศาจเลย
เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของปีศาจตนนั้นดังและยาวนานที่สุด ก่อนจะเงียบไปเมื่อเด็กชายตัดสินใจแทงดาบเข้าที่ขั้วหัวใจเพื่อ ดับชีวิตของมัน ลมหายใจขาดห้วงไปทันทีบ่งบอกว่ามันไม่ได้มี ชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว
เด็กหญิงยังคงนิ่งมองการสังหารตรงหน้าไม่ได้ละไปไหน เธอ ไม่เคยกลัวการสังหารแม้จะเลือดเย็นแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่เธอ กลัวคือเลือด…เพราะเลือดสีแดงฉานในยามกลางคืนจะเป็นสิ่งที่ ปลุกปีศาจร้ายในตัวเธอ แต่ตอนนี้ทั้งๆที่เลือดกระจายอยู่ตรงหน้า ในยามราตรีแต่ปีศาจร้ายในร่างกลับไม่มีการดิ้นรนหรือร้องจะ ออกมาเลยสักนิด เด็กชายกวาดดวงตามามองเด็กหญิงก่อนจะ ก้าวเข้ามาหา
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” เสียงราบเรียบที่ลดความแข็งกร้าวเอ่ยถาม แต่ในน่าเสียงยังคงมีความห่างเหินจนไม่น่าเข้าใกล้
เด็กหญิงผมชมพูนิ่งไปนิดก่อนจะเอื้อมมือไปแตะเลือดสีแดง ฉานที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อในอะไรสักอย่าง ขนาด สัมผัสแบบนี้ปีศาจในร่างกายเธอก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่ท่าทางแบบนั้นทำเอาเด็กชายตีความหมายผิดไป
“เธอกลัวหรือ ฉันขอโทษนะ” เสียงนั้นเริ่มอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ ตัวเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหญิง เด็กชายนึกเสียใจขึ้นมาจริงๆ เขา ไม่น่าให้คนตรงหน้าเห็นตอนที่ตนเองสังหารปีศาจนั่นเลย
แต่ในวินาทีนั้นเด็กหญิงผมชมพูกลับเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสี ทองคำแปลกประหลาดแต่กลับสวยดีในความคิดเด็กชาย มัน ราวกับจะทอประกายในยามราตรีที่มืดมิด เหมือนหมู่ดาวไม่มีผิด
“เปล่า…ฉันไม่ได้กลัว” เด็กหญิงส่ายหน้าให้อย่างน่ารักก่อนจะ ยิ้มให้และมันทําเอาเด็กชายหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ เด็กหญิงคนนี้ น่ารักมาก เด็กชายอดคิดในใจไม่ได้ขณะพยายามซ่อนใบหน้า แดงก่ำของตนเองไว้ในเงามืด
“เธอบาดเจ็บนี่” เมื่อเห็นเด็กหญิงไม่ยอมลุกขึ้นมาเด็กชายก็ กวาดมองร่างเล็กตรงหน้า แล้วเขาก็เจอบาดแผลทั่วร่างเล็ก เด็กชายลงมือรักษาบาดแผลให้เด็กหญิงอย่างนุ่มนวลทั้งที่ ไม่เคยทําให้ใครมาก่อน ส่วนเด็กหญิงก็ได้แต่ยิ้มตอบอย่าง ก ขอบคุณด้วยใจจริง
มันเป็นการพบกันครั้งแรกของคนทั้งสองโดยที่เด็กน้อยก็ยังไม่รู้ เลยว่าในอนาคตอันใกล้พวกเขาก็ยังต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง และการเจอกันอีกครั้งมันจะทำให้พวกเขาแยก จากกันไม่ได้ไปตลอดชีวิต
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ