บทที่2
เซ่เหวินตงรู้สึกเย็นในหัวใจ เขาไม่เคยโดนคนมากมาย อย่าง รังแกมาก่อน นํ้าตาเกือบไหลออกมา “หลี่ วง วัน นี้…….เช้าวันนี้ขอโทษด้วยนะ!”
“แม่มึงสิ!อย่ามัวพูดเรื่องอื่นเลย ล้วงเงินออกมาให้ก ก่อน”หลี่ล่วงถือว่าพวกเยอะ เลยพูดจาโอหังไม่น้อย
“เงินของผมซื้อข้าวกลางวันหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีแล้ว จริงๆ”
หลี่ล่วงหัวเราะร่า”ไม่มีใช่ไหม กูตีมึง มึงก็มีแล้ว”พูดจบก็ ถีบใส่ต้นขาเเหวินตง คนที่เหลือต่างก็เป็นเด็กเกเรของ ห้อง แบบไม่กลัวเรื่องจะใหญ่โต เห็นหลี่ส่วงลงมือแล้ว พวกเขาก็ไม่รอช้า รีบรุมเซ่เหวินตงทันที มีทั้งใช้มือชก และใช้เท้าถีบ หลี่ส่วงกระทืบไปด้วยพูดไปด้วย “ไอ้เหี้ย อย่ากระทืบหน้า เดี๋ยวมีแผลขึ้นมาจะยุ่ง”เซ่เหวินตงถูกอัด อยู่ข้างกำแพง สองมือยกขึ้นบังหัว เวลานี้เขาไม่รู้สึกถึง ความเจ็บตามร่างกายแล้ว เพราะเมื่อเทียบกับความเจ็บ ปวดของหัวใจ มันก็เบากว่ามากเลย เขาไม่ได้ยินเสียง ภายนอก ในหูมีแต่เสียง วง วง ส่งเข้ามา
“พอแล้ว!ไม่ต้องตีแล้ว”หลี่ส่วงเห็นพอสมควรแล้ว จึง ห้ามคนอื่นไว้ เขาไม่อยากตีสาหัสจนเกิดเรื่องใหญ่โต เข้าไปจับเส้นผมของเซ่เหวินตง หลี่ส่วงใช้มือตบหน้าเขา “ตอนมาเรียนพรุ่งนี้เอาเงินสิบหยวนมาให้กู ถ้ายังไม่เอามาพวกกูจะกระทืบมึงอีก รู้เปล่าว่ะ?”
ร่างกายเซ่เหวินตงพิงอยู่บนกำแพง เขาตัวงอ ก้ม หน้า น้ำตาก็ไหลลงผ่านแก้มของเขาร่วงสู่พื้น หลี่ล่วง ใช้แรงดึงเส้นผมของเขาแล้วพูดว่า “ไอ้สัตว์ กูพูดกับมึง อยู่ ไม่ได้ยินหรือไงว่ะ?”เซ่เหวินตงสภาพร่างกายและ จิตใจชาไปหมด ตอบหนึ่งคำว่า’หา!’หลี่ล่วงถึงพยักหน้า อย่างพอใจ แล้วออกไปพร้อมกับคนอื่น”เดี๋ยวไปทำอะไร ต่อ?”ไปเล่นเกมป่ะ!’ไม่น่าสน ไม่สู้ไปเล่นสนุกเกอร์ดี กว่า!”‘ไอ้เหี้ย มึงมีตังค์เหรอ?”พวกหลี่ล่วงพูดคุยกันอย่าง สนุกสนามพร้อมกับเดินออกนอกรั้วโรงเรียน
เวลานี้ร่างกายของเซ่เหวินตงที่พิงกำแพงไว้ค่อยๆลื่น ไหลลงมา จากนั้นนั่งกอดเข่าร้องไห้ ตอนนี้เขารู้สึกว่ามี ชีวิตต่อไปอย่างไร้ความหมาย เรียนดีแล้วยังไง?ยังไม่ใช่ ถูกรังแกอีกเหรอ!ทำไม?เขาใช้หมัดชกหัวของตัวเอง เขา เกลียดที่ตัวเองอ่อนแอเกินไป เกลียดที่ตัวเองไม่สู้กับพวก เขา เกลียดที่ตัวเองไม่กล้าบอกพ่อแม่เรื่องโดนรังแกที่ โรงเรียน
ผ่านไปนานทีเดียว กว่าอารมณ์ของเขาจะสงบ เซ่เหวิน ตงยืนขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าที่ยับไม่เป็นท่า แล้วเดินออกจาก โรงเรียน พอดีกับเวลานี้นอกด้านมีฝนตกลงมา เซ่เหวินตง เดินอยู่บนถนนอย่างเชื่องช้า เขารู้สึกขอบคุณฟ้าที่ทำให้ ฝนตกตอนนี้ อย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นไม่เห็นน้ำตาของตัว เอง ตนแค่อยากใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป แค่นี้ก็ยากมากเห รอ?ทำไมคนอื่นเข้าเรียนได้อย่างสบายใจแต่ตนกลับต้องขวัญหนีดีฝ่อ หากนี่คือบทลงโทษของ สวรรค์ต่อคนอ่อนแอ ถ้างั้นเขาตัดสินใจในเวลานี้ว่าตน ต้องเข้มแข็ง ไม่ให้ใครรังแกได้อีก วันนี้ ด้านนอกมีฝน โปรยปราย เซเหวินตงไม่มีวันลืมเลือนเลย เพราะวันนี้ เป็นวันเริ่มต้นเปลี่ยนชีวิตของเขา
เซ่เหวินตงไม่รู้ว่าตัวเองเดินมานานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุด ก็ถึงบ้านสักที เมื่อเปิดประตูทั้งพ่อและแม่ของเหวินตงก็ อยู่ สองทั้งเห็นบาดแผลบนหน้าของลูกชายก็รีบถาม “เห วินตง หน้าลูกเป็นอะไร?”
ศักดิ์ศรีของเซ่เหวินตงทำให้เขาพูดไม่ออกว่าโดนคนอื่น รุมตี พูดกลบเกลื่อนว่า “ด้านนอกฝนตก ไม่ระวังเลยล้ม
แม่ถามด้วยความเป็นห่วง”ไม่เป็นไรใช่ไหมเหวินตง?ไป ตรวจที่โรงพยาบาลไหม?”
“แม่ ผมไม่เป็นอะไร ไม่ต้องสนใจผม!”เซ่เหวินตงกลับ เข้าห้องนอนของตัวเองแล้วปิดประตู ตอนนี้สภาพจิตใจ ของเขาปั่นป่วนมาก ไม่อยากพบหน้าใคร
พ่อของเซ่เหวินตงเคาะประตู“เหวินตง งั้นลูกกินข้าว เสร็จค่อยเข้าห้องสิ”
“พ่อ ผมกินจากด้านนอกมาแล้ว”ในห้องส่งเสียงเหลือทนมา พ่อของเซ่เหวินตงหันไปมองภรรยาของตัวเอง พลางพูดว่า “ผมรู้สึกว่าพวกเรากับลูกห่างเหินกันตามวัย มากเกินไปแล้ว ตอนนี้เหวินตงไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเอง ให้พวกเราฟังเลย”
“ใช่ ลูกคนนี้…”
สี่ทุ่มกว่า เซ่เหวินตงได้ยินพ่อแม่เข้าห้องนอนกันหมด แล้ว ดังนั้นเขาจึงออกจากห้อง ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้ ขาวสะอาด จากนั้นก็ไประเบียงบ้านค้นหากล่องเครื่องใช้ ในครัวเรือนออกมา แล้วเอามีดคัตเตอร์กลับเข้าห้องนอน ตัวเอง
ในห้องนอนตัวเอง เซ่เหวินตงถอดเสื้อท่อนบนออกหมด ยืนเปลือกกายอยู่หน้ากระจก ในมือถือมีดคัตเตอร์ มองดู ตัวเองในกระจก เซ่เหวินตงส่งเสียงเย็นแข็งออกมา “เซ่เห วินตง นายจำไว้ นับจากวันนี้ ไม่มีใครรังแกนายได้อีก!”
จากนั้นก็เลื่อนใบมีดของมีดคัตเตอร์ออกมา ยื่นมือขวา ออกมา แล้วเฉือนลงฝ่ามือของตัวเอง ใบมีดคมแหลม เฉือนโดนฝ่ามือ เกิดแผลลึกสามนิ้ว เลือดสดไหลทะลัก ออกมาชั่วพริบตา เซ่เหวินตงกัดฟันไม่ให้ตัวเองร้องออก มา มองใบหน้าบิดเบี้ยวของตัวเองตรงกระจก พลาง กัดฟันพูดว่า “เซ่เหวินตง หากนายทนความเจ็บปวด อย่างนี้ไม่ได้ แล้วนายจะมีความหวังไม่ให้คนอื่นรังแกได้ อย่างไร?”ความปวดบนฝ่ามือแผ่เข้าไปทุกส่วนของร่างกาย ปากเปล่งเสียงร้องแบบไม่รู้ตัว
อาจเป็นเพราะเจ็บมากหรือเลือดไหลเยอะมาก เซ่เหวิน ตงรู้สึกเวียนหัว แต่มือยังคงจับมีดคัตเตอร์ไว้แน่น พ่อแม่ เซ่เหวินตงได้ยินเสียงเหมือนไม่สบาย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จึงเปิดประตูห้องของเซ่เหวินตงออก จากนั้นทั้งสองก็ต้อง ตกใจเมื่อเห็นภาพนี้ เห็นมือของเซ่เหวินตง เห็นพื้นเต็มไป ด้วยเลือด แล้วเห็นลูกเปลือยกายนอนอยู่บนพื้น ในปาก เปล่งเสียงบางเบาออกมา
พ่อของเซ่เหวินตงรีบเอาผ้าห่มคลุมตัวลูกชาย ก่อนจะ เดินออกไปด้านนอก แม่ของเขาก็ตามอยู่ด้านหลัง ทั้ง สองวิ่งไปยังโรงพยาบาล
หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง เซ่เหวินตงถือกระเป๋าไปโรงเรียน ตามปกติ เพียงแต่มือขวามีพันผ้าแผลสีขาว
เข้ามาถึงห้องเรียน เขาไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็น ของเพื่อนร่วมชั้น นั่งอยู่ที่นั่งเงียบๆ เพื่อนๆรู้สึกว่าไม่เห็น เซ่เหวินตงหนึ่งอาทิตย์ รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนเดิม แต่ก็พูด ไม่ถูกว่าไม่เหมือนเดิมตรงไหน มันเป็นเพียงความรู้สึกที่ แปลกพิลึกอย่างหนึ่ง
มองเพื่อนร่วมโต๊ะ สวีน่าถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย เซ่ เหวินตง ได้ข่าวว่าหลายวันก่อนนายไม่สบายเข้าโรง พยาบาลเหรอ อาการหนักมากไหม?”
“ไม่มีอะไร” เซ่เหวินตงยิ้มบางๆ แค่ไม่ระวังบาดมือตัว
เอง”
หวีน่ามองผ้าพันแผลในมือเซ่เหวินตง พลางพยักหน้า ด้วยความเข้าใจ จากนั้นพูดอย่างโกรธเคือง “โตขนาดนี้ แล้ว นายยังไม่ระวังอย่างนี้อีก!”
เซเหวินตงหัวเราะคิกคัก โอเค ครั้งหน้าผมจะระวัง”เห็น รอยยิ้มเต็มใบหน้าของเซ่เหวินตง สวีน่าก็รู้สึกเขาไม่ เหมือนเดิมนิดๆจริงๆ อย่างน้อยก็ร่าเริงขึ้นเยอะ
“เรื่องอะไรน่าขำอย่างนี้?เซ่เหวินตง นายไม่ใช่หลบกู เลยหนีไปแอบในโรงพยาบาลหรอกนะ ฮ่าๆ!”หลี่ล่วงเผย รอยยิ้มร้ายกาจเดินมายังเซ่เหวินตง
สวีน่าเห็นหลี่ส่วงรังแกเซ่เหวินตงก็โมโห พูดเสียงดัง ว่า”หลี่ส่วง นายโรคจิตหรือเปล่า?ไม่เห็นเซ่เหวินตงบาด เจ็บหรือไง?”
“โธ่ๆๆ เขาเป็นแฟนเธอเหรอ เธอช่วยเขาอย่างนี้ พวก เธอมีอะไรกันแล้วหรือเปล่า?”
สวีน่าโกรธจนหน้าแดงระเรื่อ “นาย…นายหน้าไม่อาย”เซ่ เหวินตงดึงสวีน่า พลางพูดว่า“ช่างเถอะ ถือซะว่าเขา ผายลมอยู่!ถือสาเขาทำไม?”สวีน่าหัวเราะคิกคัก’มองหลี่ ส่วงอย่างซุกซน
หลี่ล่วงคิดว่าตัวเองหูอื้อฟังผิด จ้องมองเซ่เหวินตงพลาง พูดว่า”ไอ้เหี้ย เมื่อกี้มึงพูดอะไรว่ะ?”
เซ่เหวินตงยืนขึ้น เดินไปหาหลีส่วงอกผายไหล่ผึ่ง เมื่อ ใบหน้าของหลี่ล่วงกับเขาห่างกันแค่ครึ่งนิ้วก็หยุดเดิน พูด ทีละคำว่า “เมื่อกี้ผมบอกว่านายผายลม!”
ทุกคนจ้องเซ่เหวินตงตาค้างอย่างเหลือเชื่อ หลี่ล่วงรู้สึก หัวของตัวเองเกิดเสียง ‘โครม’เหมือนภูเขาไฟระเบิด พูด ด้วยตาลุกเป็นไฟ”เซ่เหวินตง ไอ้เหี้ย อย่าคิดว่าตัวเอง นอนโรงพยาบาลไม่กี่วันแล้วจะเทห์นะ? มาตอแหลอะไร กับกูวะ!”พูดพร้อมกับชกไปที่หน้าของเซ่เหวินตง
มุมปากเซ่เหวินตงมีเลือดไหลออกมา ครั้งนี้เขาไม่ร้องไห้ แต่หัวเราะแทน มองหลี่ล่วงแล้วหัวเราะ’คิกคัก’ออกมา จากนั้นก็เอามือล้วงกระเป๋า ตอนที่หลี่ส่วงกับทุกคนคิดว่า เซ่เหวินตงสติฟั่นเฟือน เสียงหัวเราะก็หยุด เซ่เหวินตงชัก มือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋าออกมา หลี่ส่วงก็เห็นมีดหนึ่งเล่ม มีดคัตเตอร์ใหม่หนึ่งเล่ม
เซ่เหวินตงค่อยๆเลื่อนมีดคัตเตอร์ออก ห้องเรียนเงียบ สงบทันที มีเพียงเสียงมีดคัตเตอร์ ‘กะดะ!กะดะ!”
หลี่ล่วงระงับความกลัวในใจ เขาไม่เชื่อ เซ่เหวินตงที่ อาทิตย์ก่อนยังให้ตนกระทืบอยู่เลย ตอนนี้จะทำอะไรตนได้ “แม่งมังดี อย่าคิดว่ามึงเอามืดออกมาแล้วกูจะกลัว มึง กุ้งเน่าเสียยังคิดจะขึ้นโต๊ะเสิร์ฟอีก?ไม่ดูสารรูปตัวเอง เลย”เห็นเซ่เหวินตงไม่ขยับ ยิ่งแน่ใจว่าเขากำลังขู่ขวัญอยู่ หลี่ล่วงไปดันหัวของเซ่เหวินตง”เห็นนายแล้วรำคาญ รีบ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
เซ่เหวินตงรอให้เขาพูดจบ แล้วเอียงตัว จากนั้นใช้มีด ในมือเฉือนผ่านสายตาหลี่ล่วง หลี่ล่วงรู้สึกใบหน้าเย็นวูบ ต่อด้วยเกิดเสียงกรีดร้องของเพื่อนๆรอบกาย ของเหลวที่ มีรสชาติหวานปนเค็มไหลเข้าปากของหลี่ล่วง หลี่ล่วงยื่น มือไปจับหน้าของตัวเอง คืออะไร?เหนี่ยวๆ พอปล่อยมือ ลงก็เห็นเลือดสดเต็มมือ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ