ก้าวย่างสู่มาเฟียไลฟ์

บทที่14



บทที่14

คนเหล่านี้หลายที่ถูกพิชิตโดยความดุร้ายของเซ่เหวิน ตง แต่ก็มีหลายคนที่ยอมตอบรับเพราะทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่ฟังเซ่เหวินตงพูด รู้สึกอึดอัดและลังเลอยู่เล็ก น้อย เมื่อเซ่เหวินตงเห็น จึงพูดเสียงดังขึ้นมาว่า: “หลังจาก นี้ถ้าพวกนายเข้าแก๊งฉันแล้วก็ถือว่าเป็นคนของฉัน ถ้า ใครกล้ารังแกพวกนายฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่ ไม่ว่าจะเป็น ใครก็ตาม! วันนี้ถือเป็นตัวอย่าง ฉันเซ่เหวินตงพูดคำไหน คำนั้น!”

หลังจากคำพูดพวกนี้จบ คนเหล่านี้ไม่มีอะไรที่ต้อง กังวลอีก ทุกคนต่างก้มลงคำนับเซ่เหวินตงพร้อมกัน: “ผมยินยอมร่วมแก๊งกับพี่ตง ถ้าไม่ซื่อสัตย์ ขอให้ฟ้าดิน ลงโทษ!”

สีหน้าของเซ่เหวินตงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และพูดกับพี่ น้องแก๊งเดิมของตัวเองว่า: “ทุกคนดูให้ชัดเจน หลังจาก นี้คนเหล่านี้ก็คือพี่น้องร่วมแก๊งกับเรา ทุกคนต้องดูแลซึ่ง กันและกัน!” คนเหล่านี้เมื่อกี้ยังเป็นศัตรูชกต่อยกันอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นพี่น้องคนกันเองไปแล้ว ชะตากรรมของ พวกถูกผูกไว้ด้วยกันโดยคนคนเดียวกัน

หนึ่งในนั้นพูดกับเซ่เหวินตงว่า: “พี่ตง ผมรู้สึกว่าพี่เป็นคน มีฝีมือ แต่ ‘ลูกพี่เกา’ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป พี่ทำพวกเรา …ไม่ คือพวกเขา ลูกพี่เกาไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แน่
เซ่เหวินตงมองไปที่คนพูดแล้วถามขึ้นว่า “นายชื่อ อะไร?” “พี่ตง ผมชื่อจางหยียนเจียง อยู่มัธยมปีสองห้อง สอง”

เซ่เหวินตงพยักหน้า ถามเขาว่า: “นายเล่าให้ฉันฟัง หน่อยสิว่าที่โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้มีเรื่องอะไรบ้าง? พูดเฉพาะเรื่องสำคัญ”

จางหยียนเจียงคิดดูแล้วสักครู่จึงพูดขึ้นว่า: “โรงเรียน มัธยมที่หนึ่งแบ่งออกเป็นสองแก๊งด้วยกัน แก๊งที่หนึ่งคือ ‘ลูกพี่เกา’ เป็นหัวหน้า ส่วนอีกแก๊งหนึ่งคือสโมสรพี่น้อง มังกรดำที่หลิวจิ่งหลงเป็นคนก่อตั้งขึ้น…….…… เซเหวินดงพูด ขัดจังหวะเขาขึ้นมาแล้วถามขึ้นว่า: “หลิวจิ่งหลงคือใคร? แล้วสโมสรพี่น้องมังกรดำมันคืออะไรเหรอ?”

จางหยียนเจียงพูด: “หลิวจิ่งหลงเป็นนักเรียนมัธยมปีที่ สาม ทุกคนต่างเรียกเขาว่าพี่หลง และเขาก็คือลูกพี่ใหญ่ คนแรกในโรงเรียนมัธยมทีหนึ่งแห่งนี้ นักเรียนมัธยมปีที่ สามส่วนใหญ่จะเป็นคนของเขา แต่ไม่นานมานี้ หลังจาก ที่ลูกพี่เกาเข้ามา ได้พานักเลงแถวนี้เข้าร่วมแก๊ง ไม่นาน นักก็สร้างอำนาจของตัวเองขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน นับครั้งไม่ถ้วน ครั้งที่สุดยอดที่สุดก็คือที่โรงเรียนมัธยม ที่หนึ่งแห่งนี้มีคนทั้งหมดสองร้อยกว่าคนต่อสู้กัน ตายไป สามคน บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน……. เมื่อเล่าถึงตอนนี้จาง เหยียนเจียงเกิดความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
เซ่เหวินตงพูดขึ้นว่า: “โรงเรียนไม่สนใจอะไรเลยเหรอ?”

จางเหยียนเจียวหัวเราะประชดออกมา: “สนใจ? โรงเรียนไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก ครูใหญ่พูดว่า: คน พวกนี้เป็นเศษสวะของสังคม ตายไปหนึ่งคนก็ลดน้อยไป หนึ่งคน

หลี่ล่วงถามออกมาเสียงดังว่า: “โรงเรียนมีคนตายไม่ใช่ เรื่องเล็ก ตามหลักแล้วครูใหญ่ถ้าไม่ถูกจำคุกก็อาจถูก โยกย้ายได้?”

จางเหยียนเจียงพูดว่า: “ครูใหญ่มีคนหนุนหลัง ทั้งกรม การศึกษาและสำนักงานในเมืองมีคนของหนุนอยู่ เขาคือ ฮ่องเต้ของโรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้ พูดอะไรก็คืออะไร ได้ยินมาว่าครูผู้หญิงที่ยังสาวอยู่ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ ร่วมหลับนอนกับครูใหญ่มาแล้ว

หลี่ส่วงกะพริบตาปริบๆ รู้สึกตกใจ นี่มันโรงเรียนเหี้ย อะไรกัน?

เซ่เหวินตงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “ครูใหญ่จะเป็นอะไร ฉันไม่สน แค่ไม่มาหาเรื่องฉันเขาก็ยังคงเป็นฮ่องเต้ได้ ฉัน อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่เกากับสโมสรพี่น้อง มังกรดำตอนนี้เป็นยังไง?”
จางเหยียนเจียงพูดขึ้นว่า: “ก็มีความขัดแย้งกันบ้าง สอง วันตีกันสามวันพักผ่อน แต่เหตุการณ์ไม่ค่อยร้ายแรงเท่า ไหร่ ก็คือลูกน้องนักเรียนบางส่วนชกต่อยกัน ” หายใจสัก ครู่แล้วพูดต่อ: “ได้ยินมาว่าเป็นเพราะหลิวจิ่งหลงหลงรัก ลูกพี่เกา!”

เซ่เหวินตงตกตะลึงเล็กน้อย หลี่ล่วงรีบถามแทรกขึ้นว่า “ลูกพี่เกาคือผู้หญิงเหรอ?”

จางเหยียนเจียงพยักหน้า “ใช่แล้ว! อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิง นะ ดุดันมาก! ผู้ชายทั่วไปสามสี่คนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ ดูเหมือนยังเกี่ยวข้องกับแก๊งเขียวด้วย ได้ยินมาว่าเป็น แฟนของลูกพี่แก๊งเขียว ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน?”

หลีสวงฟังแล้วสับสน ตบลงไปที่หัวตัวเอง: “จะเป็นลม โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้ทำไมมันซับซ้อนจังเลย พี่ตง จัดการเองแล้วกัน เรื่องนี้ฉันไม่ไหวจริงๆ ”

จางเหยียนเจียงหัวเราะออกมา และพูดกับเซ่เหวินตงว่า: “พี่ตง พี่หูเป็นมือวางอันดับหนึ่งของลูกพี่เกา คิดไม่ถึงว่าพี่ จะล้มคว่ำเขาได้ในไม่กี่ที แต่ว่าถ้าเรื่องนี้ให้ลูกพี่เการู้ต้อง ไม่ยอมแน่ พี่ตงต้องระวังตัวหน่อย ”

เซ่เหวินตงก้มหน้าลงไม่พูดอะไร กำลังคิดอะไรในใจ หลังจากที่หลี่ล่วงได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจ: “กลัวเหี้ยอะไร? ทหารมานายพลช่วยบัง น้ำมาฉันช่วยบัง! ฉันไม่เชื่อผู้หญิงแค่คนเดียวร้ายกาจได้ขนาดไหน!

จางเหยียนเจียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ลูกพี่คิดว่าพวก ผมยินดีที่จะเป็นลูกน้องอยู่ใต้บังคับของผู้หญิงเหรอ? ล้วนถูกบังคับทั้งนั้น! ควรพูดยังไงดี? พูดได้คําเดียว ลูกพี่ เกาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป รอให้ได้เจอหน้ากันก็จะรู้เอง” จากนั้นเงยหน้าขึ้น เหมือนจะพูดกับหลี่ส่วงและเหมือน พูดกับตัวเอง: “เธอคือดอกไม้ที่สวยงามเย้ายวน แต่เป็น กุหลาบที่มีพิษ!”

สีหน้าของหลี่ วงมึนงงเล็กน้อย และตบลงไปที่ใบหน้า ของจางเหยียนเจียง: “เอ๊ย! ลูกพี่ นายตกหลุมรักลูกพี่เกา คนนั้นเหรอ?”

จางเหยียนเจียงส่ายหัว “คนแบบเธอไม่ใช่คนที่พวกเรา จะสามารถชื่นชอบได้หรอก”

หลี่ส่วงได้ยินแล้วยิ่งรู้สึกงง คำพูดนี้หมายความว่ายังไง? ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ! หัวสมองนายแปดสิบ เปอร์เซ็นต์คงเสียงานไปแล้ว

จู่ๆ เซ่เหวินตงก็พูดออกมาเรื่อยเปื่อย: “อยากให้เวลานั้น มาถึงเร็วๆจังเลย! ฉันรอวันนั้นอยู่!” หลังจากที่เซ่เหวินตงรู้ ถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่เกาและแก๊งเขียวแล้ว เลือด ในร่างกายสูบฉีดขึ้นมาทันที แก๊งเขียวเป็นหนึ่งในแก๊ง ใต้ดินของเมืองปนี้ กับแก๊งขวานซิ่งและแก๊งพี่น้องพันธมิตรฯ พวกเขาเรียกตัวเองว่าฮ่องเต้ใต้ดินแห่ง เมือง) ซึ่งคนเขตนี้ไม่ว่าใกล้หรือไกลต่างรู้อำนาจมืดของ สามแก๊งใหญ่นี้ ถ้ามีโอกาสที่จะได้เผชิญหน้ากับหนึ่งใน นั้นอย่างแก๊งเขียว ถึงแม้ในใจจะไม่รู้ก้นบึ้งของคู่ต่อสู้ แต่จิตใจที่ชื่นชอบเรื่องท้าทายของเซ่เหวินตงก่าลังร้อน ระอุขึ้นมา ความบ้าคลั่งของวัยรุ่นโหยหาความท้าทายที่ รุนแรงที่สุดในชีวิต

จางเหยียนเจียงตกตะลึงกับคำพูดของเซ่เหวินตง บน ท้องฟ้ามีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในสวนป่า ใบหน้าที่เป็น ประกายของเซ่เหวินตง ถูกเขาดึงดูดโดยไม่รู้ตัว จางเห ยียนเจียงแอบถอนหายใจเบาๆ: เขาเป็นผู้ชายแบบไหน กันแน่! หลังจากนี้ถ้าเดินตามเขาชีวิตในวันข้างหน้าอาจมี อะไรที่ไม่เหมือนเดิมก็เป็นได้

เวลานี้จางเหยียนเจียงเริ่มมีความรู้สึกอยากรู้จักเซ่เหวิน ตงขึ้นมา และเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป บุคคลนี้ซึ่งต่อมา ได้กลายเป็นผู้นำในบริษัทเหวินตงได้พิชิตใจเขาไปอย่าง สมบูรณ์แล้ว และในขณะเดียวกันหัวใจที่ชื่นชอบความ ท้าทายอยู่แล้วนั้นสุดท้ายก็ตามหาที่พึ่งพาในชีวิตได้ เสียที

จางเหยียนเจียงพูดกับเซ่เหวินตงว่า: “ลูกพี่เการ้ายกาจ มาก ถ้าต้องเผชิญกับเขาอย่างจัง ถึงแม้จะชนะแต่ก็ต้อง สูญเสียค่อนข้างเยอะเหมือนกัน หรือว่า…..….. เมื่อพูดถึง ตรงนี้ จางเหยียนเจียงหยุดชะงักขึ้นมา คิดในใจว่าตัวเอง เพิ่งมาเข้าแก๊งกับเซ่เหวินตง แถมยังหักหลังแก๊งเก่าเข้ามาอีก ไม่รู้ว่าเขาจะรับฟังข้อเสนอแนะของตัวเองหรือ

เปล่า

เห็นเซ่เหวินตงส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อได้ เลียริมฝีปาก แล้วพูดต่อ: “ถ้าหากเราสร้างความขัดแย้งระหว่างลูกพี่ เกาและหลิวจิ่งหลง พวกเราอาจจะได้รับข้อดีไม่น้อย อย่างน้อยไม่ต้องกังวลว่าจะมีศัตรูสองแก๊ง!”

เซ่เหวินตงได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย รู้สึกว่า นักเรียนตรงหน้าคนนี้สมองเก่งใช้ได้เลย คนคนนี้ถือว่า เขาดึงถูกคนแล้ว ตอนนี้คนที่เขาต้องการก็คือคนประเภท นี้แล่ะ ยิ้มให้กับจางเหยียนเจียงแล้วถามขึ้นว่า: นายบอก ว่าหลิวจิ่งหลงชื่นชอบลูกพี่เกาไม่ใช่เหรอ? แล้วจะทำยัง ไงให้พวกเขาขัดแย้งกันได้?”

จางเหยียนเจียงยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพูดอย่างมั่นใจ ว่า: “ผมอยู่ที่โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้มาจะสองปีแล้ว ผมพอรู้นิสัยของหลิวจิ่งหลงอยู่ คนคนนี้เป็นคนมีน้ำใจ และรักพี่น้องมาก มิฉะนั้นด้วยความสามารถของเขานั้น อยู่ในโรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้ไม่สามารถขยายเครือ ข่ายได้ใหญ่เท่านี้หรอก เป็นเพราะว่าตัวเขาเองเข้ากับ เพื่อนได้ง่าย และพร้อมช่วยเหลือเพื่อนตลอด จึงมีพรรค พวกอยู่กับเขาเยอะ ในนั้นมีเพื่อนสามสี่คนที่เป็นเพื่อนรัก ของเขาอยู่ ถ้าเราตีพวกเขาจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้ว ทำเหมือนว่าเป็นฝีมือของพี่เกา… จางเหยียนเจียงหยุด ชะงักสักครู่หันไปมองเซ่เหวินตงเห็นเขายังตั้งใจฟังอยู่ หายใจเข้าแล้วพูดต่อว่า: “ด้วยนิสัยของเขาแล้ว ไม่ว่าจะชื่นชอบลูกพี่เกาแค่นั้นก็คงไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ