ก้าวย่างสู่มาเฟียไลฟ์

บทที่12



บทที่12

“พุดทง”, หลิวถึงมึนงงไปสักพัก…… “นายนี่ร้ายจริงๆ ! ว่าผู้หญิงแบบนี้ได้ไง!” “เคอๆ ! ล้อเล่นเท่านั้นเอง!” “เคอๆ ~~คำพูดของพวกนายช่างมีความหมายเหลือเกิน!” เมื่อ ได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง ทําให้หลี่ล่วง หัวใจ เหมือนโดนมีดกรีด’ มองฟ้าแล้วถอนหายใจออกมา เฮ้อ ฉันเป็นบุคคลที่มีความสามารถ แต่น่าเสียดาย….. หันไป มองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ น่าเสียดายที่ฉันเกิดมาโชค ชะตาไม่ดี!

เวลานี้ครูประจำชั้นเดินขึ้นไปที่แท่นเคาร์เตอร์หน้าห้อง เคาะแท่นโต๊ะแล้วพูดขึ้นว่า “เงียบๆ ! ทุกคนเงียบ!” ใน ห้องเรียนเงียบสงัดขึ้นมา ครูประจำชั้นพอใจมาก พยัก หน้าแล้วพูดขึ้นว่า: “ตอนนี้ เรามาแนะนำตัวเองกันก่อน! จากนั้นหยิบชอล์กขึ้นมา เขียนลงไปในกระดานดำ ‘ซั่วๆ ‘ เหมือนมังกรหงส์ร้ายร่าเขียนหนังสือออกมาสามตัว จาก นั้นใช้ชอล์กชี้ไปที่ตัวหนังสือแล้วพูดขึ้นว่า: “นี่คือชื่อของ ฉัน!”

มีนักเรียนคนหนึ่งดูไม่ออกจึงลุกขึ้นถามว่า: “คุณครู ตัวหนังสือที่ครูเขียนผมไม่รู้จัก ครูอ่านรอบหนึ่งได้ไหม ครับ!”

สีหน้าครูเปลี่ยนไปทันที และโยนชอล์กในมือใส่หัวของ นักเรียนคนนั้น “นายคือหมูหรือไง! นายจบมัธยมต้นมา หรือเปล่า ตัวหนังสือนี้ก็ไม่รู้จัก! คุณภาพนักเรียนรุ่นนี้ ทำไมมันต่ำขนาดนี้?!” เมื่อเห็นสีหน้าของนักเรียนนั้นแดงก่าขึ้นมา จึงหยุดไปชั่วขณะแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันจะ บอกแกนะ! ตัวหนังสือสามตัวนี้อ่านว่า~เหลียงหย่งเลี่ยง! แกนั่งลงเลย”

หลี่ล่วงหันไปพูดเสียงเบากับเซ่เหวินตงว่า: “เหี้ย โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งนี้ไม่เหมือนที่อื่นจริงๆ คุณครูด่าแต่ นักเรียนได้! ยักษ์แม่งเอ๊ย หน้าตาก็กวนตีน”

เซ่เหวินตงหีออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “คนแบบนี้ที่ไหนก็มี ไม่ใช่แค่ที่โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้หรอก!”

“เว๊ย นายสองคนคุยอะไรกัน?” ครูประจำชั้นจ้องมองไป ที่เซ่เหวินตงกับหลี่ส่วง หลี่ล่วงหันกลับมามองเขา กลั้นไว้ ไม่พูดอะไรออกมา

ครูประจำชั้นหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมา จากนั้นพูดเสียง ดังขึ้นมาว่า: “เดี๋ยวครูจะเช็กชื่อ เรียกชื่อใครก็ให้ยกมือ ขึ้น เริ่มเลยนะ! ลู่เทา” “มาครับ!”

..หวางป๋อหย่วน!” “มาครับ!” “หลี่ส่วง” หลี่ล่วง ยกมือขึ้น ตอบมาครับแบบไม่แรง ครูประจำชั้นมองเขา ทีหนึ่ง แล้วเรียกชื่อต่อ: “เซ่เหวินตง………. เมื่อเรียกถึงชื่อ นี้ครูประจำชั้นหยุดลง หัวเราะเคอๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ชื่อนี้ แปลกมาก ครูจำได้ว่าตอนที่ตงเป่ยยังไม่ได้รับอิสรภาพ นั้นมีหัวหน้าโจรคนหนึ่งก็ชื่อเซ่เหวินตง!” เมื่อหลี่ล่วง ได้ยินโกรธจนปอดแทบระเบิดออกมา และเตรียมจะลุกขึ้นนั้นถูกเซ่เหวินตงดึงตัวไว้ก่อน

ครูประจำชั้นคนนั้นไม่ได้สนใจสายตาอาฆาตนับสิบ ที่อยู่ด้านล่างนั้น แล้วพูดต่อว่า: “ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของนาย ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ให้นาย?!

เซ่เหวินตงค่อยๆ ยืนขึ้น “ครูครับ การดูถูกชื่อของคนอื่น เป็นเรื่องที่ไร้มารยาทมาก ไม่รู้ว่าพ่อแม่ครูเคยสอนครู แบบนี้หรือเปล่า?”

“นายคิดว่านายเป็นใคร กล้าพูดจาแบบนี้กับฉัน!” ครู ประจำชั้นรู้สึกว่าศักดิ์ศรีถูกท้าทาย โมโหโกรธมากจึงร้อง ตะโกนเสียงดังขึ้นมา แกว่งมือไปมากลางอากาศ

เซ่เหวินตงมองชายวัยกลางคนที่แยกเคี้ยวกางเล็บต่อ หน้าเขาตาไม่กะพริบ อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ ตัว เซ่เหวินตงจึงชี้ไปที่หน้าเขาแล้วพูดขึ้นว่า “ในสายตา ของผมครูไม่ได้เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ! ทางที่ดีที่สุดอย่ามา หาเรื่องผมมิฉะนั้นครูจะรู้ถึงรสชาติของความขมขื่นมัน เป็นยังไง” พูดจบสะบัดกางเกงตัวเอง แล้วนั่งลงโต๊ะนั่งตัว เอง

“นาย…” ครูประจำชั้นเหมือนอยากพูดอะไร แต่เมื่อเห็น สายตาที่เหมือนสัตว์ดุร้ายนั้นแล้ว คำพูดที่ใกล้ถึงปากนั้น ก็กลืนมันลงไป เขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองกลัวเด็กใหม่ คนนี้ แต่ขาที่สั่นคู่นั้นกลับทรยศเขา
แอบเก็บชื่อของเซ่เหวินตงไว้ในใจ ยิ้มแหะๆ ออกมา แล้วเช็กชื่อต่อ หลี่ส่วงหันกลับมาถามเซ่เหวินตง: “พี่ตง เราจะไม่เอาเรื่องเหรอ?” เซ่เหวินตงหรี่ตาลง “คราวหลัง ยังมีโอกาสอีก!” แล้วหมอบลงไปที่โต๊ะเตรียมตัวนอน

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร เซ่เหวินตงรู้สึกว่าตัวเองชอบนอน เป็นพิเศษ เมื่อก่อนตีสี่ครึ่งก็ตื่นแล้ว แต่ตอนนี้นอนถึงหก โมงครึ่งก็ยังไม่อยากตื่น ถ้ามีคนมาขัดจังหวะเวลานอน เขาจะอารมณ์เสียหงุดหงิดเป็นพิเศษ

เมื่อครูประจำชั้นเช็กชื่อเสร็จ จึงเลือกหัวหน้าห้องเรียน แน่นอน ในห้องเรียนผลการเรียนของเซ่เหวินตงดีที่สุด แต่เนื่องจากเขาสร้างความประทับใจให้ครูประจำชั้น ไว้อย่าง ‘ลึกซึ้ง’ เหลือเกิน ดังนั้นจึงไม่ถูกเลือก แต่ครู ประจำชั้นไม่รู้หรอกว่า ผลสรุปเช่นนี้เป็นที่พึงพอใจของ เซ่เหวินตงมาก สุดท้ายหัวหน้าต่างๆ ของห้องเรียน ต่าง ไปขนหนังสือใหม่กันอย่างมี ‘ความสุข’ หลังจากที่แจก หนังสือใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ครูประจำชั้นจึงพูด ขึ้นว่า: “ตอนนี้โรงเรียนเลิกแล้ว จำไว้พรุ่งนี้เจ็ดนาฬิกา ต้องมาถึงโรงเรียน แปดโมงเริ่มเรียน ห้ามมีใครมาเรียน สายเด็ดขาด” หลังจากพูดจบก็เดินออกไปจากห้องเรียน และกำลังวางแผนในใจอยู่ว่าจะจัดการเซ่เหวินตงยังไงที่ ทําให้เขาขายหน้า

เซ่เหวินตงและหลี่ส่วงเดินออกมาจากห้องเรียน และพี่ น้องที่เรียนห้องเดียวกันกับพวกเขาก็เดินตามกันออกมา มองเห็นคนสามสี่คนยื่นรออยู่หน้าทางเดินของห้องเรียน ทุกคนล้วนใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยม ที่หนึ่ง เมื่อเห็นเซ่เหวินตงและหลี่ล่วง นักเรียนหนึ่งในนั้น ที่หน้าบวมอย่างกับหมูชี้ออกไป แล้วพูดกับคนที่ยืนอยู่ ด้านข้างว่า: “พี่หู่ พวกมันแล่ะ ไอโย่ว~~” มือ แรงเกินไป ทําให้ปวดไปทั่วร่างกาย

เซ่เหวินตงจ้องมองไป ที่แท้คือ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ที่ถูกหลี่ล่วง ต่อยเมื่อเช้านี้นี่เอง แอบชื่นชมเขาอยู่ในใจ ถูกหลี่ล่วง ต่อยหนักขนาดนั้นยังสามารถเดินได้อีก แสดงว่าชีวิต ‘แข็งแกร่ง’ จริงๆ หลังจากที่หลี่ล่วงมองชัดแล้วเป็นใคร เบ้ ปากเล็กน้อย “นายจะเอายังไงอีก ยังไม่ยอมแพ้เหรอ”

คนที่ถูก ‘ไอ้ตาเล็ก’ เรียกว่าพี่หู่นั้นเดินเข้ามาหา สำรวจ เกาส่วงแล้วพูดขึ้นว่า: “น้องชายนายเพิ่งมาใหม่ ก็ไม่ให้ เกียรติฉัน ตีคนของฉันอาการหนักขนาดนี้ฉันไม่จัดการ คงไม่ได้แล้ว” คนที่ชื่อพี่หูคนนี้ส่วนสูงร้อยแปดสิบเซ็นขึ้น ไป สูงใหญ่เอวกลม เงยหน้าขึ้น ก็เห็นตีนกาสามเส้นบน หน้าผาก ดูแล้วช่างเหมือนเสือจริงๆ

“แล้วนายจะเอายังไง?” เกาส่วงไม่กล้าท้าทายพี่หูคนนี้ ถ้าต่อสู้กับเขาตัวต่อตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก

พี่หู่พยักหน้า “เดี๋ยวเจอกันที่สวนป่าเล็กหลังสนาม มา จัดการเรื่องให้เรียบร้อยกัน ” พูดจบหันกลับแล้วเดินออก ไป ส่วน ‘ไอ้ตาเล็ก’ นั้นเดินกะโผลกกะเผลกตามอยู่ด้าน หลัง เดินไปแล้วสักพักยังหันกลับมาพูดกับเกาส่วงว่า: “ไอ้เหี้ย แกเตรียมเปลหามไว้รอเลย ใครไม่มาคน นั้นเป็นไอ้ลูกหมา!”

“แม่มึงเอ๊ยกไป , จะหาเพื่อนสามสีคนมา ‘เผา’ แก แก รอฉันได้เลย”

เวลานี้เกาเฉียงได้เดินมาสมทบด้วยอีกคน และถามเซ่เห วินตงว่า: “พี่ตง มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”

เซ่เหวินตงยังไม่ทันได้พูด หลี่ล่วงรีบพูดขึ้นมาว่า: “ไอ เหี้ยสองตัวที่เราจัดการตอนเช้าที่โรงจอดรถพวกมันหา คนมาช่วย และให้พวกเราไปเจอกันที่สวนป่าเล็กหลัง สนาม ‘เคลียร์ปัญหา’ ให้เรียบร้อย”

เกาเฉียงฟังจบ ดีใจแหะๆ ถูมือไปมาแล้วพูดขึ้นว่า: “พี่ตง พวกเราไม่ได้ชกต่อยเล่นใหญ่ขนาดนี้มานานแล้ว วันนี้ ต้อง ‘ออกกำลัง’ ดีๆสักครั้งล่ะ”

เซ่เหวินตงพยักหน้า ดูแล้วเป็นหัวหน้าแก๊งที่นี่ไม่มีเรื่อง ชกต่อยไม่ได้แล้ว เพราะที่นี่คือโรงเรียนมัธยมที่หนึ่ง เป็น ‘ศูนย์รวม’ ของเด็กไม่ดี “เกาเฉียง นายไปเรียกพี่น้องของ เรามา ฉันมาเตรียมการเอง!” เกาเฉียงตอบรับแล้ววิ่งออก ไป

สวนป่าเล็กของโรงเรียนมัธยมที่หนึ่ง อยู่ด้านหลังของ สนาม ด้านในเต็มไปด้วยหญ้า และขยะเต็มไปหมด ผู้บริหารโรงเรียนไม่มีทางมาที่นี่อยู่แล้ว ที่นี่จึงกลายเป็น แหล่งรวมตัวของเหล่านักเลง ชกต่อยกันตัวต่อตัว ต่อย กันเป็นหมู ชุมนุมกันต่างๆ ล้วนอยู่ที่นี่กันทั้งนั้น รอยเลือด ที่แห้งอยู่บนพื้นยังมีปรากฏให้เห็นอยู่จางๆ

เซ่เหวินตงและหลี่ส่วงเดินเข้าไปในสวนป่า ข้างหลังเดิน ตามด้วยพี่น้องสิบกว่าคน มองมาแต่ไกลก็เห็น ‘พี่หู’ พาพี่ น้องแก๊งหนึ่งยืนรออยู่แล้ว ในมือถือล้วงถือ ‘กระบอง’ ไว้ คนของทั้งสองแก๊งมายืนอยู่ตรงกลางสวนป่า สำรวจซึ่ง กันและกัน เซ่เหวินตงมองไปที่ ‘พี่หู’ แล้วพูดขึ้นก่อนว่า “นายเป็นมือวางอันดับที่เท่าไหร่ของมัธยมที่หนึ่งแห่งนี้เห รอ?”

พี่หูหัวเราะออกมา: “นายเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉัน?”

หลี่ส่วงช่วยเซ่เหวินตงจุดบุหรี่แล้วพูดขึ้นมาแล้วพูดว่า: “นี่คือพี่ตง ลูกพี่ใหญ่ของพวกเรา!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ