กลรักซาตาน

บทที่7 โลกกลม



บทที่7 โลกกลม

หลายวันต่อมา

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งบรรพตกับเกษมและดวงใจกำลังนั่งรอ ลูกๆ ของตัวเองอยู่ที่โต๊ะ วันนี้ลูกของทั้งสามคนรับปากว่าจะมา ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน หลังจากที่เลื่อนนัดกันมาหลาย ครั้งแล้ว นั่งรอสักพักภูมิก็เดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับไหว้สวัสดีทุก คน แล้วนั่งลงข้างๆบรรพต สักพักน้ำก็เดินเข้ามาติดๆ พอเธอเห็น ว่ามีภูมินั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยก็ตกใจ

“คุณ !”

“เธอ!” ภูมิก็ตกใจไม่ต่างกัน

“อ้าว! รู้จักกันแล้วเหรอ” เกษมแปลกใจ

“ครับ” ภูมิรับคำเขาไม่คิดเลยว่าหญิงสาวจะเป็นลูกสาวของเพื่อน พ่ออะไรมันจะบังเอิญเหมาะเจาะขนาดนั้น ภูมิคิดในใจ

“จริงๆ ทั้งสองคนเคยเจอกันแล้วล่ะ โทษทีนะที่ไม่ได้บอก บรรพตเอ่ยขึ้น

“งั้นเหรอ รู้จักกันแล้วก็ดี” เกษมเอ่ยขึ้น
“นํา สวัสดีคุณลุงเขาก่อนสิลูก” ดวงใจเอ่ยขึ้น

“สวัสดีค่ะ คุณลุง” น้ำพนมมือไหว้

“นั่งลงก่อนสิหนูน้ำ”

“ค่ะ” ยอมนั่งลงแต่โดยดี เธอไม่เจอชายหนุ่มที่คอนโดแล้วตั้ง หลายวัน ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันที่นี่แถมยังเป็นลูกชายเพื่อนพ่อ เธออีก โลกมันช่างกลมจริงๆ เลย น้ำคิดในใจ

“อาหารมาพอดีเลย ทานไปคุยกันไปเลยก็แล้วกันนะ” บรรพต หันไปมองหน้าลูกชายและน้ำสลับกันไปมา

“ว่าแต่ภูมิกับน้ำรู้จักกันได้ยังไง” เกษมหันไปถามลูกสาว

“พอดีไปเจอกันที่งานศพพ่อพิมพ์เขาน่ะค่ะ”

“แล้วเรายังพักคอนโดที่เดียวกันด้วยครับ ห้องอยู่ติดกันเลย” ภูมิ ยกยิ้มมุมปาก น้ำได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่ถลึงตาใส่ชายหนุ่ม

“อ้าว จริงเหรอ ดีเลยจะได้ทำความรู้จักกันอย่างเต็มที่” บรรพต เอ่ยขึ้น
“หมายความว่ายังไงคะ” นำถามกลับ

“ก็ถ้าหนูยังไม่มีใคร ลุงอยากจะให้หนูคบกับลูกชายลุงจะได้ ไหมล่ะ”

“คุณพ่อ” ภูมิหันไปมองหน้าพ่อตัวเองไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของ เขาจะพูดแบบนี้ออกมา

“ไม่ได้หรอกค่ะ หนูมีแฟนแล้ว” ตัดสินใจโกหกออกไป

ทุกคนบนโต๊ะพอได้ยินอย่างนั้นต่างก็หันไปมองน้ำเป็นตา เดียวกันด้วยความตกใจ จนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาของทุก คนเอง

“คือเราพึ่งจะคุยกันเองค่ะ” น้ำยังคงโกหกต่อไป

“จริงเหรอลูก” ดวงใจถามลูกสาว

“จริงค่ะ”

“ไม่เป็นไร แล้วช่วงนี้หนูมีงานหรือเปล่า ลุงอยากจะให้มาช่วย งานพี่ภูมิเขาสักหน่อย” บรรพตเอ่ยขึ้น

“จริงสิ ช่วงนี้ลูกไม่ค่อยมีงานเลยไม่ใช่เหรอ” เกษมเอ่ยขึ้น
“เอ่อคือ”

“ดีเลยครับ ผมยังไม่มีเลขาประจำตัวเลย” ภูมิเอ่ยแทรกขึ้น

“งั้นก็ตกลงตามนั้นนะบรรพตตัดบท

“หนูคงเป็นเลขาใครไม่ได้หรอกค่ะ พอดีหนูเป็นช่างภาพ”

“บริษัทเรากำลังจะโปรโมตสินค้าตัวใหม่พอดีเลย ถ้าได้หนูน้ำมา ถ่ายภาพโปรโมตให้ก็คงจะดีนะ” บรรพตหันไปทางลูกชาย

“ผมว่าก็ดีนะครับ” ภูมิหันไปยักคิ้วให้น้ำ

“น้ำว่าไงลูก อยากทำไหม” ดวงใจหันไปถามลูกสาว

“น้ำว่าอย่าดีกว่าค่ะ ให้คนอื่นทำเถอะ ส่วนน้ำก็มีงานของตัวเอง อยู่แล้วด้วย” น้ำปฏิเสธทันควัน

“เอาเถอะไม่เป็นไร ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็โทรมาหาลุงได้ตลอด เลยนะ นี่นามบัตรของลุง” บรรพตยื่นนามไปให้หญิงสาว

“ขอบคุณค่ะ” น้ำรับนามบัตรมาถือไว้พร้อมกับส่งยิ้มให้บรรพต

“รีบทานกันเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียก่อน” เกษมเอ่ยขึ้น

น้ำขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ลุกขึ้นเดินออกไปทันที ”

พอน้าเสร็จธุระก็เดินออกมาจากห้องนํ้า ก็เจอภูมิยืนดักหน้าเธอ ไว้อยู่ น้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ จะเดิน เลี่ยงไปอีกทางชายหนุ่มก็เดินมาขวางทางเอาไว้อีก

“นี่คุณจะมาขวางทางฉันทำไม” น้ำแว้ดใส่ภูมิ

” ทำไมรังเกียจฉันมาก ถึงกับต้องโกหกผู้ใหญ่ว่าตัวเองมีแฟน เลยเหรอ” ภูมิต้องใบหน้าเนียน

“ฉันจะมีหรือไม่มีมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ถ้าฉันรู้ว่าเพื่อนคุณ พ่อเป็นคุณลงพ่อของคุณนะ ฉันไม่มาให้เสียเวลาหรอก”

“แต่ก็มาแล้วไง ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเพื่อนคุณพ่อจะมีเธอเป็น ลูกสาว อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนี้”

“หลีกทางได้แล้ว ฉันจะออกไป”

“จะรีบไปไหน” พูดพลางกระชากแขนเรียวจนร่างบางเซเข้ามาปะทะกับแผงอกกว้างกํายำเต็มๆ มือหนาจึงโอบเอวบางแนบชิด

กับตัวไว้แน่น

“คุณปล่อยฉันนะ! จะทำอะไร!” พยายามดิ้นขัดขืน

“ในเมื่อเกลียดมาก ก็มาอยู่ใกล้ๆ หน่อยเป็นไง ” ภูมิยิ้มหัวเราะที่ ได้แกล้งหญิงสาว

“นี่คุณฉันบอกให้ปล่อยไง! ‘

“เรียกฉันว่าพี่ภูมิหน่อยสิ ฉันถึงจะยอมปล่อย”

“ไม่!” เอ่ยเสียงแข็ง

“แน่ใจ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าเนียนจนใกล้กันแค่ลม

หายใจ

“คุณอย่านะ”

ทำไม จะจูบกันอีกสักครั้งคงจะไม่เป็นไรมั้ง” ”

“คุณอย่านะ ปล่อย!”
“ก็ทำตามที่ฉันบอกสิ ฉันถึงจะยอมปล่อย”

“หึ ฝันไปเถอะ” ยกเท้าขึ้นหมายจะเหยียบเท้าชายหนุ่ม แต่ภูมิ กลับรู้ทันเสียก่อน จึงรวบร่างบางเข้ามากอดไว้แน่นกว่าเดิม

“คิดจะทำร้ายร่างกายฉันเหรอ เสียใจด้วยนะที่ไม่สำเร็จ” ก้มหน้า ลงพูดข้างๆแก้มเนียน

“บอกมา คุณจะให้ฉันทำอะไร” น้ำยอมจำนน แต่อย่าให้ถึงที่เธอ บ้างก็แล้วกัน

“เรียกฉันว่าพี่ ฉันถึงจะยอมปล่อย”

“พี่ภูมิ ปล่อยน้ำไปเถอะนะ” น้ำทำน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับส่ง สายตาใสซื่อไปให้ชายหนุ่ม

“หึ เธอนี่มันมารยาใช้ได้นี่” พูดจบก็ก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีปาก บางทันที

“อื้อ” น้ำตื้นขัดขืนเพราะถูกจู่โจมไม่ทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากหนา จูบบดขยี้ริมฝีปากบางจนพอใจไม่นานก็ผละออกให้ร่างบางเป็น อิสระ
“คุณนี่มัน!” เงื้อมมือขึ้นมาหมายจะตบหน้าชายหนุ่ม

“คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะตบ ตบแลกจูบมาเลยฉันพร้อมแล้ว” ภูมิทำ แก้มป่องเอียงไปเข้าไปหาน้ำใกล้ๆ

“ไอ้บ้า!” น้ำโมโหจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าชายหนุ่ม ได้แค่ กระฟัดกระเฟียดเดินออกไปเสียดื้อๆ

“หี” ภูมิยิ้มอารมณ์ดีแล้วเดินตามหลังร่างบางไปติดๆ

น้ำกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่ด้วยความโมโหแต่ก็พยายาม เก็บอาการไว้ข้างใน เธออยากจะเอาไม้หน้าสามฟาดเข้าไปที่หัว ของชายหนุ่มให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ส่วนภูมิที่ตามมาทีหลังก็ นั่งยิ้มหน้าตายอยู่อย่างไม่รู้สึกสาอะไร มันยิ่งทำให้น้ำยิ่งเกลียด ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังทานข้าวเสร็จทุกคนก็นั่งคุยกัน ไปสักพัก จนจะแยกย้ายกันกลับ ดวงใจจึงหันไปถามเรื่องรถของ ลูกสาวที่เสีย

“น้ำแล้วรถของลูกเอาไปซ่อมหรือยังลูก”ดวงใจเอ่ยขึ้น

“ยังค่ะ”

“แล้วหนูมายังไงล่ะลูก”
“น่านั่งแท็ก มาค่ะ”

“กลับกับพี่เขาไหมหนู พี่เขาก็จะไปนอนที่คอนโดอยู่แล้วใช่ไหม คืนนี้” บรรพตกันไปหาลูกชาย

“ครับ ผมจะกลับคอนโดพอดีเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับเองได้อีกอย่างหนูโทรบอกให้แฟนมารับ แล้วค่ะ”

“งั้นก็ตามใจหนูก็แล้วกันนะ” บรรพตเอ่ยขึ้นด้วยความผิดหวัง

น้ำไปส่งพ่อกับแม่ที่รถรอจนรถแล่นลับตาไปเธอจึงไปยืนรอ แท็กซี่อยู่ตรงหน้าร้านอาหาร แต่อยู่ๆภูมิก็โปล่มายืนอยู่ข้างๆ เธอ หน้าตาเฉย เธอนึกว่าเขากลับไปแล้วเสียอีก

“ไหนล่ะแฟนของเธอ หรือว่ามีแฟนเป็นแท็กซี่” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“คุณหยุดยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม”

“คงไม่ได้หรอก พ่อกับแม่ของเธอเขาฝากให้ฉันพาเธอไปส่ง ถึงทีคอนโด ท่านคงจะไม่เชื่อสินะว่าเธอมีแฟนแล้ว”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าพ่อกับแม่ฉันจะไว้ใจคุณให้ไปส่งฉัน”

“ไม่เชื่อก็ลองโทรไปถามดู

“ไม่เสียเวลา”

น้ำเห็นแท็กซี่คันหนึ่งแล่นมาพอดี เธอจึงรีบโบกให้จอด กำลังจะ บอกจุดหมายปลายให้คนขับรถภูมิก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน

“ไม่ไปครับ”

“นี่คุณมันจะมากไปแล้วนะ ฉันไปค่ะ”

“ยังไงครับ ตกลงจะไปหรือไม่ไป” คนขับรถแท็กซี่ถามกลับ

“ไม่ไปครับ พี่ไปเถอะอย่ามาเสียเวลากับคนบ้าเลย นี่ครับค่าเสีย เวลา” ภูมิยื่นแบงค์พันไปให้คนขับรถหนึ่งใบ

“ฉันไม่ได้บ้านะ!” น้ำเริ่มโวยวายเสียงดัง

“ขอบคุณครับ คุณนี่ใจดีจังเลย ผมไปก่อนล่ะ” ขับรถแล่นผ่าน หน้าน้ำไปทันที
ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ คุณจะแกล้งฉันไปถึงไหน” พูดจบก็เดิน ” ไปตามฟุตบาทข้างทางด้วยความโมโห

“เดี๋ยวจะไปไหน” ชายหนุ่มเดินตามหลังร่างบางไปติดๆ

” ร่างบางเดินไปเงียบๆ

“ให้ฉันไปส่งเถอะนะมืดค่ำอย่างนี้มันอันตราย”

“ฉันกลับเองได้ คุณจะตามฉันมาอีกทำไม”

“เธอจะเดินกลับแบบนี้น่ะเหรอ”

“ใช่คุณจะทําไม”

“วันพรุ่งนี้คงจะถึงหรอกนะ มากลับกับฉัน” จับดึงแขนเรียวเอาไว้

“ปล่อย! ฉันไม่มีทางกลับกับคุณอย่างเด็ดขาด” สะบัดแขนออก จากมือหนาแรงๆ จนหลุด

“ก็ได้ตามใจเธอก็แล้วกัน” พูดจบชายหนุ่มก็เดินกลับที่รถของตัว เองทันที
น้ำหยุดเดินแล้วยืนรอแท็กซี่ท่ามกลางความมืดอยู่ข้างทาง เพียงลำพัง แต่ยังคงมีรถรามากมายผ่านหน้าไปมาไม่ขาดสาย ถ้ารถของเธอไม่เสียป่านนี้เธอก็คงจะกลับถึงห้องแล้ว แต่ไม่มี อะไรจะโชคร้ายเท่าที่มาเจอภูมิที่นี้อีกแล้ว แถมยังคอยมาแกล้ง เธออีก ผู้ชายอะไรรังแกเอาเปรียบผู้หญิงเฮงซวยที่สุด น้ำคิดใน ใจด้วยสีหน้าบึ้งตึง

ปีดๆ เสียงแตรรถคันหรูของภูมิแล่นมาจอดตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับลดกระจกลง น้ำจึงรีบหันหน้าหนีเมินไปทางอื่น ไม่ สนใจคนตรงหน้าทำเหมือนเป็นอากาศไม่มีตัวตน

“ขึ้นมาสิ จะได้กลับกันสักที”

“ได้ดื้อนักใช่ไหม” พูดพลางเปิดประตูลงจากรถตรงเข้าไปช้อน อุ้มร่างบางขึ้นด้วยความรวดเร็ว

“ว้าย! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! ” หญิงสาวสะดุ้งตกใจ

“ในเมื่อไม่ยอมขึ้นรถดีๆ ก็ต้องทำแบบนี้แหละ” พูดพลางยัดร่าง บางเข้าไปข้างในรถแล้วปิดประตูลง จากนั้นก็รีบเข้าไปนั่งด้านคน ขับพร้อมกับกดล็อคประตูกะจกทั้งหมดภายในทันที ร่างบางได้ แต่นั่งหน้างออยู่เงียบๆ เพราะเธอทำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งนึกก็ยิ่ง หงุดหงิดโมโหคนข้างๆที่กำลังขับรถไปอย่างอารมณ์ดี

ระหว่างทางกลับคอนโดนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกหาแม่ ตัวเอง รอสายสักพักดวงใจก็รับสาย

“ฮัลโหลค่ะ แม่” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“ว่าไงลูกกลับถึงคอนโดหรือยัง”

“กำลังนั่งรถกลับค่ะ”

“ทำไมถึงช้ายังเลยลูก ภูมิเขาขับรถช้าเหรอ”

“แม่เป็นคนบอกให้เขาไปส่งน้ำเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ แม่เห็นว่ามันมืดค่ำแล้ว อีกอย่างพี่เขาก็พักอยู่ที่เดียวกับ ลูก ไปกับพี่เขานั้นแหละปลอดภัยดีแล้วลูก”

“ปลอดภัยตายแหละ” น้ำคิดในใจ

น้ำได้ยินที่แม่พูดไหมลูก”

“ค่ะ น้ำฟังอยู่ ”
“ส่วนเรื่องงานคุณลุงเขานักน้ำหนากับแม่ว่าอยากให้ลูกไป ช่วยงานที่บริษัท ถ้าลูกไม่มีงานก็ไปทำเถอะนะ”

” ขอคิดดูก่อนก็แล้วกันค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”

“ฉันบอกแล้ว ว่าแม่เธอให้ฉันพากลับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

” น้ำนิ่งเงียบ

“แล้วตกลงจะไปเป็นเลขาส่วนตัวให้ฉันไหม”

“หึ ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ” น้ำหันไปมองค้อนชายหนุ่ม

“ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้าหรอก ชาตินี่แหละเธอเป็นแน่ เผลอๆ อาจจะเป็นมากกว่าเลขาเสียด้วยซ้ำ” ภูมิยกยิ้มมุมปาก

“ฉันว่าเราต่างคนต่างอยู่เถอะ ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับคุณ”

“ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งหรอก ถ้าผู้ใหญ่เขาไม่ต้องการ”

“แล้วทำไมต้องทำตามผู้ใหญ่ด้วย ถ้าฉันรู้ว่าจะต้องไปเจอคุณ ฉันไม่ไปให้เสียเวลาหรอก”

“เธอรู้ไหมปากของเธอมันน่าจูบมาก”

“ฉันเกลียดคุณ!” น้ำหันไปพูดใส่หน้าชายหนุ่มเสียงดัง

“หึ เกลียดไปให้ตลอดก็แล้วกัน” คอยดูเถอะเขาจะทำให้เธอ กลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ร่วมเตียงกับเขาสักวัน

ไม่นานรถคันหรูก็แล่นเข้าไปจอดในลานจอดรถของคอนโด นำ จึงรีบลุกลงจากรถตรงไปยังห้องตัวเองด้วยความเร่งรีบ ภูมิเห็น อย่างนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าบนหัวเราะกับท่าทางของหญิงสาวที่ กลัวเขาเหลือเกิน จะว่าไปเขาไม่ได้หัวเราะอารมณ์ดีอย่างนี้มา นานแล้วเหมือนกัน สลัดความคิดทิ้งแล้วเดินเข้าไปพักผ่อนยัง ห้องตัวเองทันที

เช้าวันใหม่น้ำกำลังยืนแปรงฟันอยู่ตรงหน้ากระจกในห้องน้ำ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเธอจึงรีบบ้วนปากแล้วเดินไปเปิด ประตูทั้งที่ยังคงแปลกใจอยู่ว่าใครมาหาเธอแต่เช้า พอเปิดประตู ออกเธอก็ต้องตกใจที่คนๆ นั้นเป็นภูมิคนที่เธอเกลียดขี้หน้าที่สุด ในตอนนี้ กำลังจะปิดประตูลงก็ถูกชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาใน ห้องเสียก่อน

“คุณออกไปเลยนะ! เข้ามาหาไม!”
“ตกลงเธอจะไปทำงานกับฉันไหม เช้านี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อม กับตาสำรวจไปทั่วร่างบางไปเพลินๆ เพราะเธอสวมใส่แค่เสื้อ กล้ามกับกางเกงขาสั้นที่เผยให้เห็นต้นขาเรียวขาวเนียนล่อตาล่อ ใจเขาอยู่

“ไม่!” ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องไปทำงานกับเขาแม้แต่ข้อ เดียว

“แน่ใจ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องไปทำอยู่ดี”

“หมายความว่ายังไง”

“เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ ฉันชอบมากเลยนะ ที่เธอใส่ชุดนี้ ฉันไป ล่ะ”

พอน้ำได้ยินอย่างนั้นก็ก้มหน้าลงสำรวจตัวเองทันทีก็เห็นว่าตัว เองแต่งตัวล่อแหลมกำลังจะหันไปต่อว่าชายหนุ่มเขาก็เดินออก ไปจากห้องเสียก่อนแล้ว

“คนบ้า!” ได้แต่ต่อว่าเขาลับหลังเท่านั้น

พอภูมิไปถึงที่บริษัทก็จัดการต่อสายไปหาใครบางคนเพื่อจัดการ เรื่องบางอย่างให้ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างสบาย อารมณ์ นึกถึงใบเนียนของน้ำที่แสดงความชิงชังต่อเขาออกมาอย่างชัดเจน แถมยังพูดเต็มปากเต็มคำว่าเกลียดเขา เสียเต็มประดา คอยดูเถอะเขาจะทำให้เธอตกเป็นของเขาให้ได้ใน เร็ววันยกยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์

หลังจากที่นํ้จัดการตัวเองเสร็จก็มานั่งนึกว่าตัวเองจะไปหางาน จากที่ไหน ระหว่างที่กำลังคิดก็ทานขนมปังลองท้องไปด้วย สัก พักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอจึงรีบรับทันทีที่เห็นเบอร์ของคนคุ้น เคย

“ฮัลโหลค่ะ พี่นุช”

น้ำพี่มีงานมาให้ทำจะ

“พอดีเลย น้ำกำลังว่างงานอยู่คะ ว่าแต่งานถ่ายยังไงแบบไหนเห รอคะ” ร่างบางยิ้มกว้างดีใจ

“เป็นงานถ่ายโปรโมตสินค้าจ้ะ เริ่มงานวันพรุ่งนี้เลย น้ำสนใจ

ไหม”

“ตกลงค่ะ น้ำรับงานนี้”

“มีอีกอย่าง ที่พี่ยังไม่ได้บอกน้ำ คือพี่จะต้องไปส่งน้ำด้วยตัวเอง ที่บริษัทลูกค้าเลยจ้ะ”
“ค่ะ น้ายังไงก็ได้อยู่แล้วค่ะ”

“จ้ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ”

ทางด้านเข็มกำลังทำอาหารเช้าระหว่างที่รอคริสตื่นนอนอยู่ใน ครัว เธอเลือกที่จะทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ โดยมี ไส้กรอก เบคอน แฮมและไข่ดาว โดยมีแม่บ้านประจําบ้านอีกหนึ่งคนช่วยเป็น ลูกมือด้วย คริส แอบยืนมองอยู่ตรงประตูเห็นเข็มมัววุ่นอยู่กับ อาหารตรงหน้าก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ตั้งแต่ที่มีเธอเข้ามามัน ทําให้เขารู้สึกมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ขึ้นมาอย่างไม่น่า เชื่อ

“ทำอะไรทาน ทำไมหอมจังเลย” ร่างหนาเดินเข้าสวมกอดร่าง

บาง

“หลายอย่างเลยคะ จะทานเลยไหมคะ”เข็มหันไปถามชายหนุ่ม

“ครับ กำลังหิวอยู่พอดี” ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง

“นั่งลงสิคะ เดี๋ยวเข็มชงกาแฟให้
“ครับ” ร่างหนานั่งลงทันที

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังนั่งทานอาหารเช้าไปด้วยรอยยิ้มและ เสียงหัวเราะหยอกเย้ากันอยู่โทรศัพท์มือถือของคริสก็สั่นขึ้น เพราะมีสายเข้ามาเขาจึงรีบหยิบขึ้นมาแล้วเดินออกไปรับข้าง นอกทันที

“ฮัลโหลคุณโทรมาทำไมแต่เช้า” เสียงทุ้มกรอกเสียงใส่ปลาย

สาย

“ฉันคิดถึงคุณค่ะ”

“หึ ผมว่าไปบอกผู้ชายของคุณเถอะ ไม่ต้องมามารยา”

“อะไรกันคะ ลูซี่คิดถึงก็เลยโทรหาไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย อีกอย่างทางนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยเห็นใจกันหน่อยสิคะ

“มีอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ ” ชายหนุ่มถอนหายใจเอือมระอา

“โอนเงินให้หน่อยนะคะ ที่รัก”

“ผมพึ่งจะโอนให้คุณไปเมื่อหลายวันก่อนเองนะ ใช้หมดแล้วเห

รอ”
“หมดแล้วค่ะ พอดีลูซี่ช้อปปิ้งเพลินไปหน่อย

“ก็ได้เท่าเดิมนะ”

“ขอบคุณค่ะ น่ารักที่สุดเลย แล้วอย่าให้คุณพ่อรู้เรื่องอย่างเด็ด ขาดนะคะ ว่าลูซี่มาขอเงินคุณและเรื่องอื่นๆด้วย”

“หมดธุระแล้วใช่ไหม จะได้วางสายสักที ”

“ค่ะ ไว้ลูซี่จะโทรหาใหม่ รักคุณนะ”

หลังวางสายไปคริสก็เดินเข้าไปนั่งทานมื้อเช้าต่อเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น เข็มอยากจะถามเขาว่าคุยกับใครก็กลัวจะเป็นการ ละลาบละล้วงเขาจนเกินไป จะว่าไปเธอก็รู้เรื่องของชายหนุ่มอยู่ มากพอสมควรเพราะเขาเป็นคนบอกเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อ แม่ที่อยู่ต่างประเทศและเรื่องธุระกิจ ส่วนเรื่องสาวๆ ที่เขาซื้อควง ไปวันๆ เขาก็เลิกไปแล้วตั้งแต่ที่เขาตามจีบเธอ

“วันนี้จะเข้าร้านไหม” เสียงทุ้มถามขึ้น

“เข้าสิคะ”

“เดี๋ยวผมไปส่งนะ”
“ค่ะ”

หลังทานมื้อเช้าเสร็จคริสกับเข็มก็พากันขึ้นห้องไปเปลี่ยน เสื้อผ้าเพื่อที่จะไปทำงานต่อ ระหว่างที่คริสกำลังสำรวจตัวเองอยู่ ตรงหน้ากระจกเข็มก็เดินเข้าสวมกอดทางด้านหลังชายหนุ่มด้วย ความรักใคร่

“มีอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“เข็มขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”

“ถามมาสิ”

“เมื่อกี้คุณคุยโทรศัพท์กับใครเหรอคะ”ตัดสินใจถามสิ่งที่คาใจ

“ก็แค่เรื่องงานปกติ คุณมีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ” พูดพลางเดินไปหยิบกระเป๋าถือของตัวเอง

“ถ้าคุณจะสงสัยว่าผมมีคนอื่นเลิกคิดไปได้เลย ว่าไม่มีทาง” คริส พูดพลางเดินเข้าไปสวมกอดร่างบางไว้แน่น

“ค่ะ เข็มเชื่อคุณ” หันไปหอมแก้มสากทีหนึ่ง
“เสร็จแล้วใช่ไหม ไปกันเถอะ”

“ค่ะ”

ทั้งคู่เดินจับจูงมือกันไปขึ้นรถไม่นานก็ไปถึงที่ห้างคริสจึงเดินไป ส่งเข็มถึงข้างในร้าน น้ำที่มารอเข็มอยู่ก่อนแล้วเห็นก็แอบตกใจ ที่คริสกับเข็มหอมแก้มกันไม่อายใครต่อใครเลยอยู่ตรงหน้าร้าน จากนั้นคริสก็เดินออกไป เข็มเดินมาเจอน้ำที่ยืนมองอยู่ก็ตกใจไม่ ต่างกันเพราะเหมือนตัวเองกำลังโดยจับผิดอยู่

“ฉันตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า” น้ำถามขึ้น

“ฉันกับคุณคริสเราเป็นแฟนกันแล้ว”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เมื่อสองสามวันที่แล้วเอง”

“เธอตกลงไปเป็นแฟนกับเขาทำไมเข็ม เธอก็รู้ว่า”

“หยุดเลยน้ำ ฟังฉันก่อน ” เข็มเอ่ยแทรกขึ้น

“อะไร”
“เธอก็เห็นว่าคุณคริสเขาตามจีบฉันมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว เธอจะไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ยังไงกัน ฉันไม่ใช่ก้อนหินนะ”

“ฉันรู้ว่าเธอก็ชอบเขาอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วแหละ ขอให้เขารัก เธอคนเดียวก็แล้วกัน เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้” น้ำยอม เออออไปตามเพื่อน

“ขอบใจจ้ะ ว่าแต่มาหาฉันแต่เช้าเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า”

“ก็นิดหน่อย”

“เล่ามาเลยนะ เรื่องอะไร”

“ก็ได้”

น้ำตัดสินใจเล่าเรื่องภูมิให้เข็มฟังทั้งหมดด้วยความโกรธเคือง ชายหนุ่ม พอเข็มได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็อึ้งไปชั่วครู่ แต่สุดท้าย เธอก็หัวเราะใส่เพื่อนเสียงดัง เพราะน้ำถูกภูมิเอาเปรียบอยู่ทุก ครั้งไป

“เข็มเธอจะตลกอะไรนักหนา” น้ำมองค้อนเพื่อน

“ฉันว่าที่เธอเจอคุณภูมิเขาบ่อยๆ เขาอาจจะเป็นเนื้อคู่ของเธอ ก็ได้นะ แถมผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวก็เห็นดีเห็นงามด้วยอีก”

“เนื้อคู่ที่ไหน เนื้องอกน่ะสิไม่ว่า”

“เอาน่าโดนจูบจนปากจะเปื่อยหมดแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้วล่ะ เขาคงจะชอบเธอนั้นแหละเขาถึงทำแบบนั้น”

“แต่ฉันเกลียดเขา ”

“ระวังนะเกลียดอะไรมักจะได้แบบนั้น”

“ฉันล่ะเกลียดสุภาษิต จริงๆ เลย”

“ถ้าเธอไม่อยากเจอก็พยายามอยู่ห่างๆ เขาไว้แล้วกัน”เข็ม แนะนํา

“อืม มันคงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ”

น้ำอยู่คุยกับเข็มสักพักก็ออกจากร้านไปเดินช้อปปิ้งต่อเพื่อคลาย ความตึงเครียด นึกถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าเมื่อไหร่เธอก็อดที่จะโมโห ขึ้นมาไม่ได้ เธอไม่คิดเลยว่าภูมิจะถือวิสาสะเข้ามาในห้องของ เธอ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างหน้าตาเฉยแถมยังใช้สายตา ลวนลามไปตามร่างกายเธออีก พอคิดมาถึงตรงนี้เธอก็สลัดความ คิดทิ้งแล้วหันมาสนใจกับสิ่งของตรงหน้าแทน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ