Revenge แผนร้ายกับความรัก

ตอนที่14 ซ่อนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว



ตอนที่14 ซ่อนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“ตระกูลลู่ได้สมบัติของบริษัทตระกูลหลินไป สถานะของตัวเองก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาก็เลยมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานประมูลใน ครั้งนี้”

กู้เป่ยเฉิงกอดเธอไว้และกระซิบที่ข้างหูของ หลินปิงชิง คนนอกที่เห็นภาพตรงนี้ก็นึกว่าเขาพูดคำ หวานกับหลินปิงชิง

แต่ว่า เขารู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอกของ เขากำลังสั่น

“ถ้าดูตามสถานะของพวกเขาตอนนี้แล้ว ถ้า อยากจะเข้าสู่วงจรสังคมแบบนี้ก็ต้องทุ่มเทเลือดเนื้อ สักหน่อย บริจาคสิ่งของและเข้าร่วมประมูลในเวลา เดียวกัน ก็จะสามารถได้รับชื่อเสียงที่ดีมากขึ้น มากมาย”

สีหน้าของกู้เป่ยเฉิงเย็นชา ที่เขามาร่วมงานการ ประมูลการกุศลครั้งนี้ก็เพราะว่าเขาได้ข่าวนี้แหละ

หลินปิงชิงยังมีการต่อต้านเขาอยู่บ้าง ถือว่าไม่ ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เขาก็เลยคิดว่าตัวเองควรจะ เพิ่มความเกลียดชังของหลินปิงชิงที่มีต่อลู่หรงเซินให้ มากกว่านี้ เธอจะได้รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง

หลินปิงชิงกำหนังสือภาพในมือแน่น เธอกัดริม ฝีปากจนเลือดไหลออกมา

“ช่วยประมูลมาให้ฉันหน่อยได้มั้ย ขอร้องล่ะ” เธอมองหน้ากู้เป่ยเฉิง สายตาเต็มไปด้วยความวิงวอน ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอมองหน้ากู้ เป่ยเฉิง แสดงให้เห็นถึงความไม่สบายใจอย่างมาก

เหมือนกับลูกแมวที่กลัวการถูกทอดทิ้ง ต่างหูคู่นี้มันเป็นมรดกของแม่เธอ เธอถูกลู่หรง

เซินกดขี่และประทุษร้าย “จนตาย” ของๆพ่อเธอก็ไม่ ได้กลับมาสักอย่างหนึ่ง เธอไม่สามารถทนเห็นของ พวกนี้ไปตกอยู่ในมือคนอื่นได้

พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอนั้น กู้ เป่ยเฉิงก็รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

“ได้”

***

“หรงเซิน ประธานกู้อยู่ตรงนั้น พวกเราเข้าไป หาเขาหน่อยมั้ย?”

ยูนหยู่เฉินมองดูคนสองคนที่นั่งชิดกันอยู่ แล้วก็ พูดกับลู่หรงเซินที่อยู่ข้างๆ ลู่หรงเซินสวมชุดสูทสีดำ เสื้อผ้าที่เข้ารูปทำให้

ร่างกายของเขาดูผอมเล็กน้อย

ตอนนี้เขาดูไม่มีชีวิตชีวาเท่าไหร่นัก ในช่วง เวลานี้เขายอมทุบขาตัวเองเพื่อเรื่องของจางเส่หยิง แต่ว่ากู้เป่ยเฉิงกลับเก็บเรื่องนี้เงียบสนิท ทำให้เขาไม่มี ทางที่จะขุดเรื่องของจางเส่หยิงออกมาได้อีก

วันนี้ก็ได้ยินว่ามีชื่อกู้เป่ยเฉิงอยู่ในรายชื่อแขก ด้วย ก็เลยพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มางานนี้ หวังว่าจะได้เจอกู้เป่ยเฉิงอีกครั้งแล้วก็ขอร้องเขา

ลู่หรงเซินพยักหน้า “ไปกันเถอะ”

ยูนหยู่เฉินคล้องแขนลู่หรงเซิน แล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าไปพร้อมกัน

“ประธานกู้ ผมขอคุยอะไรกับคุณหน่อยได้มั้ย ครับ?”

ลู่หรงเซินเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากู้เป่ยเฉิงแล้ว พูดออกมาอย่างจริงใจ

พอมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา หลินปิงชิงก็รู้สึก สั่นไปทั้งตัว ความเกลียดชังในหัวใจปะทุออกมา

เธอเกือบจะหันหลังไปและตบลู่หรงเซิน ถามว่า ทำไมเขาถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้

แต่ว่ากู้เป่ยเฉิงก็กอดเธอไว้แน่น มือหน้าของ เขาออกแรงอย่างชัดเจน เหมือนจะเตือนเธอ ทำให้ หลินปิงชิงควบคุมความโกรธและเกลียดของตัวเองไว้ ได้

“มีอะไรหรอ?” กู้เป่ยเฉิงมองหน้าลู่หรงเซินอ

ย่างเย็นชา

สายตาของเขาเหลือบไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ลู่หรงเซินแว๊บนึง ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เย็นชาขึ้น อีก

ผู้หญิงคนนี้ ก็คือคนที่ร่วมมือกับลู่หรงเซินเพื่อ ฆ่าหลินปิงชิง

สายตาที่แหลมคมของกู้เป่ยเฉิงทำให้ยูนหยู่เฉิ นรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง เธอหดตัวอย่าง

ไม่รู้ตัว

ลู่หรงเซินยังคงมีหน้าตาจริงใจเหมือนเดิม

“ประธานกู้ ผมอยากจะมาขอโทษคุณซวู่ต่อหน้า หน่อยน่ะครับ”
จากมุมมองของเขา เขาสามารถมองเห็นแผ่น หลังของซวู่จิ้งหยีได้ ร่างกายเธอผอมมาก ชุดราตรีสี ขาวจึงเหมาะกับรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอมาก

รูปร่างของเธอไม่เหมือนกับหลินปิงชิ่ง ถึงแม้ว่า หลินปิงชิงจะไม่อ้วน แต่ว่าเธอไม่มีวันผอมแบบนี้ และ อีกอย่างผิวของคุณซวี่ยังขาวกว่าหลินปิงชิงเยอะ

“คุณลู่ ฉันคิดว่าเรื่องนี้ชั้นศาลก็ได้ตัดสินอย่าง ชัดเจนแล้วนะคะ ถ้าเกิดว่าคุณมีความคิดเห็นอะไร ก็ เอาขึ้นฟ้องได้

หลินปิงชิงพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ไว้ให้มากที่สุด แล้วน้ำเสียงที่แหบแห้งของเธอก็พูด ออกมาอย่างเยือกเย็นจนถึงกระดูก

แรงที่มือของกู้เป่ยเฉิงเบาลงเล็กน้อย แล้วหลิน ปิงชิงที่ได้อิสระก็ค่อยๆหันหน้ามาช้าๆ

“ปิง….ปิงชิง!

ยูนหยู่เฉินอุทานออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ ได้ ขาของเธอหมดแรง หน้าซีดไปหมด

ลู่หรงเซินมองใบหน้านั้นอย่างชัดเจน ความ ตกใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ความรู้สึก สบายใจก่อนหน้านี้ของเขาถูกแทนที่ด้วยความหนาว จัดทันที

เหมือน!

เหมือนมากจริงๆ!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหน้าซวู่จิ้งหยีกับตา ของตัวเอง ใบหน้าของเธอเหมือนกับถูกแกะสลักออก มาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับหลินปิงชิงเลย
มิน่าล่ะจางเส้หยิงถึงได้ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้และปะทะกับเธอในวันนั้น ถ้าเกิดว่าเป็นเขา เขา ก็คงจะควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน!

หลินปิงชิงจ้องหน้ายูนหยู่เฉิน สายตาเย็นชา จนถึงกระดูก

ตอนนี้ทั้งสองคนนี้กำลังกลัวอยู่งั้นหรอ?

ตอนแรกที่ทั้งสองคนบังคับให้เธอเซ็นต์สัญญา การหย่า ทำไมถึงไม่กลัวแบบนี้บ้างล่ะ? ตอนที่ทั้งสองคนจะเอาชีวิตของเธอ ทำไมไม่

กลัวแบบนี้มั่งล่ะ!

“คุณจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ”

ตาของหลินปิงชิงแดงก่ำ เธอกัดฟันแน่นแล้ว พูดออกมา

กู้เป่ยเฉิงมองท่าทางของหลินปิงชิงในตอนนี้ แล้วรู้สึกปวดใจ อยู่ดีๆก็รู้เสียใจที่พาเธอมาในวันนี้ ด้วย

แต่ว่าหลังจากคืนนี้ หลินปิงชิงก็จะไม่มีวันหัน หลังกลับอีกแล้ว

เขายื่นมือไปดึงหลินปิงชิงมากอดไว้ในอ้อมอก แล้วก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “เรื่องนั้นทำร้ายคู่หมั้น ผมอย่างแรง ไม่มีวันที่จะเจรจากันได้ ถ้าเกิดว่าพวก คุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ผมยื่นฟ้องใหม่ก็ได้ แต่กลัว ว่าการตัดสินครั้งใหม่นี้จะไม่เหมือนกับครั้งแรกอีก แล้ว”

น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มของหลินปิงชิง แต่ว่า เธอพยายามกัดปากแน่นเพื่อไม่ให้มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา

ลู่หรงเซินใจสั่น แล้วก็รีบพูดออกมา “ขอโทษ ด้วยครับ!”

ในฐานะโจทก์กู้เป่ยเฉิงสามารถอุทธรณ์ได้เช่น กัน แต่ว่าเขาต้องขอเพิ่มโทษแน่นอน!

ลู่หรงเซินลากแขนยูนหยู่เฉินออกมา แต่ว่ายู นหยู่เฉินยังพูดพึมพัมออกมาไม่หยุด

“ไม่ใช่สิ…เธอ เธอต้องเป็นปิงชิงแน่ๆ”

เธอสะบัดแขนของลู่หรงเซินออกแล้วก็เดินมา ตรงหน้าของหลินปิงชิง แล้วก็ยื่นมือออกมาพยายาม จะเปิดผมของหลินปิงชิง แต่ว่ากลับโดนกู้เป่ยเฉิงบีบ ข้อมือของเธอไว้

ยูนหยู่เฉินรู้สึกเจ็บปวดเหมือนข้อมือของตัวเอง กำลังจะหัก แต่ว่าตอนนี้ความกลัวที่มากมายทำให้เธอ รู้สึกเหมือนจะจมน้ำตาย ทำให้เธอไม่สนใจสิ่งอื่นๆ

“ปิงชิง ! เธอคือปิงชิงใช่มั้ย? ไม่มีวันที่จะมีคน

ที่หน้าตาเหมือนกันได้ขนาดนี้ ปิงชิงเธอยังไม่ตายใช่

มั้ย!”

“อย่าพูดอะไรมั่วๆ”ลู่หรงเซ็นตำหนิยูนหมู่เฉิน

ถ้าเกิดว่าคนๆนี้คือหลินปิงชิงจริงๆ กู้เป่ยเฉิง ทำไมจะต้องสนใจเธอขนาดนั้นด้วย?

“ประธานกู้ เดี๋ยวผมจะพาเธอออกไปเดี๋ยวนี้ ครับ”

เขารีบพูดออกมาอย่างร้อนรน แล้วก็ออกแรง ลากแขนของยูนหมู่เฉินออกมา สายตาเต็มไปด้วย ความโกรธ
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่ายูนหยู่เฉินนั้นฉลาดมาก แต่ว่าตอนนี้ดูกลับกันเลย!

ยูนหยู่เฉินใจลอย ท่าทางของลู่หรงเซินตอนนั้น ทำให้ยูนหยู่เฉินนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น ภาพ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของหลินปิงชิงลอยขึ้นมาใน หัวของเธอ

เธอกลัวมากจริงๆ เธอไม่กล้าไปยั่วให้ลู่หรงเซิน โกรธ เพราะว่าเธอรู้สึกว่าลู่หรงเซินจะเอาชีวิตเธอไป เมื่อไหร่ก็ได้เหมือนกัน!

แต่ว่าพอเห็นใบหน้าที่เหมือนกับใบหน้าของ หลินปิงชิงอย่างกับแกะ เธอก็รู้สึกไม่ปกติ แล้วก็ ตะโกนออกไป “ฉันมีหลักฐาน!”

ใบหน้านั้นดูเหมือนกันมากจริงๆ เธอไม่เชื่อว่า ในโลกใบนี้จะมีคนที่หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้อยู่ด้วย

หัวใจของยูนหยู่เฉินเต้นแรงมาก เธอชี้หน้า หลินปิงชิงแล้วพูดว่า “หูของหลินปิงชิงมีไฟสีแดง! อยู่ หลังหูขวา! เอาหูมาให้ฉันดูหน่อย!”

ลู่หรงเซินอึ้งไป เขาปล่อยแขนของยูนหมู่เฉิน แล้วก็มองคนที่อยู่ในอกของกู้เป่ยเฉิง

ไม่ผิด เขารู้ว่าหลินปิงชิงมีไฝ คนตรงหน้าคือ

หลินปิงชิงจริงหรือไม่ มองแว๊บเดียวก็รู้แล้ว

แต่ว่าเขาไม่กล้าพูดออกไป เพราะว่าเขาไม่มี คุณสมบัติอะไรให้กู้เป่ยเฉิงต้องมาพิสูจน์กับเขา

หลินปิงชิงร่างกายค้างแข็ง ตอนนั้นเองเธอรู้สึก

เครียดขึ้นมา

ตำแหน่งของไฝนั้นมันหลบซ่อนมาก ปกติผมก็จะปิดไว้ เพราะฉะนั้นจะมีเพียงแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่

สังเกตเห็น แม้แต่ตัวเธอเองยังลืมไปเลยว่าตัวเองมีไฟ นั้นอยู่

แต่ว่ายูนหยู่เฉินโตมากับเธอ รู้จักเธอดีน้อยกว่า พ่อแม่ของเธอนิดเดียวเอง ขนาดเรื่องไฝยังรู้เลย!

สัมผัสที่เฉียบแหลมปรากฏขึ้นในดวงตาขอ งกู้เป่ยเฉิง เขามองหน้าลู่หรงเซินและยูนหยู่เฉินด้วย สายตาที่เยือกเย็น “พวกคุณใส่ร้ายคู่หมั้นของผมในที่ สาธารณะ ผมจะให้พวกคุณรับผิดชอบ”

ลู่หรงเซินเหมือนกับอยู่ในถ้ำนี้แข็ง ยูนหยู่เฉินก็ หดตัวอย่างไม่ทันรู้ตัว

“เพราะว่าหลินปิงชิงหน้าเหมือนกับคู่หมั้นของ คุณมาก ตอนนี้ให้โอกาสพวกเราหน่อย ให้พวกเราได้ รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือใครกันแน่”

หลินปิงชิงมองหน้ากู้เป่ยเฉิงอย่างเกรงกลัว อ้า ปากกว้างเพื่อที่ต้องการจะหยุดเขา

ไม่ได้ เธอลืมบอกกู้เป่ยเฉิงไปว่าเธอมีไฝนั้น

จริงๆ

ถ้าเกิดว่าตอนนี้ผมของเธอถูกเปิดออก เธอก็ไม่ สามารถซ่อนตัวตนของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว!

แต่ว่ากู้เป่ยเฉิงเหมือนกับว่าไม่เห็นท่าที ตึงเครียดของหลินปิงชิง เขากอดหลินปิงชิงแน่น ทำให้เธอขยับไปไหนไม่ได้

กู้เป่ยเฉิงขยับเส้นผมของหลินปิงชิงอย่างนุ่ม นวล ยูนหยู่เฉินกับลู่หรงเซินก็เบิกตาโพลงเพื่อจ้อง มองอย่างกังวล แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยื่นคอเข้ามา
ผมสีเข้มที่เหมือนกับม่านลึกลับ ถูกนิ้วมือที่นุ่ม นวลของเบบเฉิงสูบขึ้นมา

หลินปิงชิงแข็งทื่อไปทั้งตัว แล้วก็หลับตาลง อย่างหมดหวัง

จบแล้ว ซ่อนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ