Neighbor แค่แอบชอบ

Neighbor 04



Neighbor 04

ระหว่างที่ฉันนั่งอยู่บนรถยนต์ราคาแพงของพี่ดิน ฉันก็ได้แต่ เงียบไม่พูดอะไรออกมา มีแต่เพียวนั่นแหละชวนพี่คนคุยตลอด ทาง ไหนเธอบ่นว่าปวดหัว และไม่สบายจะเป็นจะตายไม่ใช่หรือ ไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้พูดมากชะมัดเลย บ้าจริง

“ขอบคุณมากนะคะพี่ดิน วันหลังพาเพียวไปซื้อกระเป๋าด้วยนะ คะ” เพียวทําสีหน้าออดอ้อน ซึ่งพี่คนก็ทำเพียงพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับยิ้มบางไปให้เธอเล็กน้อย

“ขวัญมานั่งนี่สิ”

หลังจากที่เพียวเดินเข้าบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงใหญ่ ก็เรียกให้ฉันที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังย้ายไปนั่งตรงเบาะด้านหน้า ข้างคนขับ ฉันพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจก่อนจะย้ายนั่งตามที่พี่ คินบอก

“วันนี้พี่ดินกลับบ้านเหรอคะ”

และเพราะบรรยากาศมันเงียบจนฉันเริ่มจะอึดอัดขึ้นมา หน่อยๆ พอทำตัวไม่ค่อยถูกฉันเลยต้องหาอะไรมาชวนพี่คนคุย ไหนๆ ฉันก็ได้อยู่กับแค่สองต่อสองทั้งที่นี่นา…
“พี่มีธุระกับพ่อนิดหน่อย ขวัญจะเข้าไปหาแคทรึเปล่า”

“แคทก็อยู่บ้านเหรอคะ งั้นขวัญไปหาลัยแคทหน่อยก็ได้ค่ะ”

ฉันหันไปส่งยิ้มกว้างให้ร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ อย่างอารมณ์ดี เขาเหลือบสายตาคมดุดันมาทางมองฉันเล็กน้อย สักพักพี่คนก็หันกลับไปตั้งใจขับรถยนต์ของเขาต่อด้วยสีหน้า เรียบนิ่ง

“ขวัญ”

“คะ?”

จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นแล้วนิ่งเงียบไปจนฉันต้องขมวดคิ้วมัน มองเสี้ยวหน้าหล่อคมคายของพี่คนอย่างสงสัย เขาเรียกชื่อฉัน แล้วก็เงียบไปคืออะไรอะ และทำไมคนถึงขมวดคิ้วเข้มมั่น เหมือนกำลังหัวเสียแบบนั้นด้วยล่ะ

“พี่ว่าขวัญอย่าไปที่สนามแข่งบ่อยๆ ดีกว่า”

หลังจากเงียบอยู่สักพัก แล้วคำพูดของพี่คนก็ทำให้ฉันมึนงง ยิ่งกว่าเดิม ที่เขาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เป็นเพราะฉันกับยัย แคทจะไปที่สนามแข่งรถอย่างงั้นเหรอ
“ทําไมล่ะคะ”

“คนมันเยอะ อันตราย

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขวัญดูแลตัวเองได้”

ฉันบอกพร้อมกับส่งยิ้มไปให้พี่คน แต่เขากลับหันมาจ้องมอง ใบหน้าของฉันด้วยสายตาคมดุดันมากขึ้น แล้วพี่คนก็ถอน หายใจออกมาอย่างหงุดหงิด จนฉันเลิกลักทำตัวไม่ค่อยถูก

“พี่บอกอะไรทําไมชอบเถียง

“ไม่ได้เถียงนะคะ ขวัญไม่ใช่เด็กแล้ว ยังไงขวัญก็ดูแลตัวเอง

ได้ค่ะ”

ฉันยิ้มบางแล้วบอกพี่คนด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง แต่เขาก็ยัง คงดูอารมณ์ไม่ดีเหมือนเดิม คิ้วเข้มยังขมวดมุ่นเข้าหากันจนจะ ผูกเปียโบว์ได้อยู่แล้ว ฉันอีกอักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจถามเขา ออกไปเสียงเบาอุบอิบ เพราะเห็นว่าพี่คนดูหงุดหงิดแปลกๆ

“พี่คน. เป็นอะไรรึเปล่าคะ

“พี่ไม่ได้เป็นอะไร”

ถึงปากพี่ดินจะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไร แต่ฉันเห็นท่าทางของเขาที่หัวเสียแบบนี้ก็ยังคงสงสัยอยู่ที่นั่นแหละ อะไร ของ คินนะ เขาเป็นคนเดาใจยากชะมัดเลย

และพอพี่คนขับรถยนต์ราคาแพงมาถึงบ้านของเขา ยัยแคทที่ เห็นว่าฉันมาด้วยก็รีบลากตัวฉันไปที่ห้องครัวด้วยความรวดเร็ว ฉันยืนงงว่ามันจะลากฉันมาที่ห้องครัวทำไม บ้านมันก็มีพื้นที่ตั้ง เยอะตั้งแยะ แต่แคทมันนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ภายในห้องครัว มันก็ หันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นดีใจจนฉันขมวดคิ้วเล็ก น้อยด้วยความสงสัยทันที

“ฉันมีอะไรจะบอก”

“มีเรื่องอะไร แล้วทำไมต้องพาฉันมาคุยที่ห้องครัวด้วยเนี่ย

“ก็ห้องรับแขกพ่อคุยอยู่กับพี่คนน่ะสิ น่าจะเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยฉันเลยไม่อยากไปรบกวน

ฉันเหลือบมองไปทางห้องรับแขก แล้วพยักหน้าหงิกหงักอย่าง เข้าใจส่งไปให้ยัยแคท ถึงฉันจะยังงุนงงไม่หายว่าทำไมมันต้อง พาฉันมาคุยที่ห้องครัวก็เถอะ

“เหรอ แล้วตกลงที่แกตื่นเต้นนี่มันเรื่องอะไร

“วันนี้ไปสนามแข่งปะ
ฉันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับ ยิ้มกว้างส่งไปให้แคท คิดไว้แล้วล่ะว่ามันต้องคุยกับฉันเรื่องนี้ แต่ไม่เข้าใจยัยแคทจะตื่นเต้นทำไมในเมื่อฉันกับมันก็ไปที่สนาม แข่งรถกันออกจะบ่อย และไปฉันก็ไปด้วยเกือบทุกครั้งนั่นแหละ น่า

“แกไปฉันก็ไป”

“ดีมาก!!

“แต่เหมือนพี่คนจะไม่อยากให้เราไปที่นั่นเท่าไหร่นะ

ฉันบอกแคทไปตามตรง เพราะวันนี้พอพี่คนพูดเรื่องที่มันกับ ฉันจะไปสนามแข่งรถด้วยกันเขาดูอารมณ์เสียและหงุดหงิดยังไง ไม่รู้สึ หรือว่าฉันจะคิดไปเอง

“พี่คินก็พูดแบบนี้ตลอดแหละ แต่ฉันก็ไปอยู่ดี ไม่เห็นเป็นอะไร

เลย”

“แกจะไม่บอกพี่คนหน่อยเหรอ” “ไม่ต้องบอกก็ได้ ฉันโตแล้วนะยะ”

คำพูดของแคททำให้ฉันเห็นตัวเองเวลาพูดแบบนั้นกับพี่คน เลยอะ แต่ยัยแคทมันใส่แอคติ้งมากไปหน่อยจนฉันหลุดออก มา ให้ตายเถอะ
“โอเค งั้นเจอกันเวลาเดิมนะ” แคทพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้า ใจ แล้วมันก็เปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะหันมาพูด กับฉันอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ด้อารมณ์ดีแปลกๆ

“อาทิตย์นี้ฉันว่าจะจัดปาร์ตี้วันเกิดที่บ้านนะ แกก็มาด้วยนะ ปิดเทอมทั้งทีเอาให้สุดไปเลย

“พ่อกับแม่แกจะไม่ว่าเหรอ ถ้าจะจัดงานเสียงดังดึกดื่นที่บ้าน

ฉันถามด้วยความสงสัยและกังวลเล็กน้อย ยัยแคทยังแสบๆ อยู่ด้วย มันชอบทำอะไรตามใจตัวเองจนบางครั้งก็เหมือนเด็ก กว่าที่คิดน่ะนะ ฉันเลยต้องคอยเตือนตลอด

“พอดีพ่อกับแม่ฉันไปดูงานที่ต่างประเทศ น่าจะขึ้นเครื่องหก โมงเย็น หลังจากออกไปกินข้าวฉลองวันเกิดฉันเสร็จ และเวลา ดึกดื่นนี่แหละเวลาของเรา”

ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้งให้กับแววตาเจ้าเล่ห์ซนๆ ของยัยแคท แล้วก็ต้องหัวเราะไปกับมันทันทีที่แคทยักคิ้วส่งมา ให้อย่างไม่สะทกสะท้าน

“ก็ได้ เอาให้สุดไปเลย”

ฉันพยักหน้าหมึกหงักและคุยอยู่กับแคทอยู่นานหลายนาที แล้วสักพักฉันก็บอกมันว่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนซะหน่อย เพราะ วันนี้ใช้พลังงานไปเยอะในการเชือดเฉือนกับเพียวน่ะ ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่อยากออกไปไหนแล้ว ด้วย เดี๋ยวค่อยออกไปที่สนามแข่งรถพร้อมยัยแคทก็แล้วกัน…

“ขวัญ”

เสียงเข้มที่ตั้งอยู่ไม่ไกลทำให้ฉันต้องหันไปมองด้วยความ สงสัย และเมื่อเห็นว่าเป็นพี่ดินฉันก็ขมวดคิ้วมันด้วยความสงสัย ทันที เขามายืนทำอะไรที่สวนหน้าบ้านเนี่ย แดดแรงจะตาย ขนาดฉันเพิ่งเดินออกจากบ้านของเขาเมื่อกี้เหงื่อยังไหลไปตาม ขมับเลยเนี่ย

“คะ”

“วันนี้จะไปสนามแข่งกับแคทเหรอ”

ฉันชะงักไปเล็กน้อย พี่คนรู้ได้ยังไงน่ะ ฉันกับยัยแคทยังไม่ได้ บอกใครเลยนะ แล้วไหนจะสายตาคมดุดันที่จ้องมองมาอย่าง คาดคั้นรอฟังคำตอบนั่นอีก มันยิ่งทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกทุกทีเวลา โดนพี่คนจ้องมาแบบนี้ ให้ตายเถอะ

“ค่ะ”

ฉันตั้งสติและบอกร่างสูงใหญ่เสียงเบากว่าปกติ จากนั้นพี่คนก็ ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเขาก็เดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น เรื่อยๆ จนฉันชะงักไปเล็กน้อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“พี่บอกอะไรไม่เคยฟัง

“ขวัญรู้ค่ะว่าพี่คนเป็นห่วงยัยแคท แต่พวกเราก็โตแล้วนะคะ เดี๋ยวขวัญดูแลยัยแคทให้ค่ะ

ฉันบอกพี่ดินพร้อมกับยิ้มบางอย่างประหม่าหน่อยๆ สายตา คมดุดันจ้องมองใบหน้าของนิ่งๆ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเอ่ยเสียง ทุ้มต่ำที่ดูอ่อนโยนลง

“พี่ไม่ได้ห่วงแค่แคทคนเดียวหรอก”

จู่ๆ หัวใจของฉันก็เต้นตึกตักรุนแรงขึ้นมาเฉยเลย แค่คำพูดไม่ คำของพี่คนก็ทำให้ใจฉันเต้นแรงได้แล้วอย่างงั้นเหรอ ฉันคง เป็นเอามากสินะ บ้าชะมัด!

“ระ.. เหรอคะ”

หมับ!

“พี่ห่วงขวัญด้วย เพราะขวัญก็เหมือนน้องสาวของพี่อีกคน

ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา สัมผัสอบอุ่นจากมือของพี่ ดิน ทำให้ฉันมีความสุขและหัวใจพองโตมากกว่าเดิม แต่คำพูด ของเขากลับทำให้ฉันรู้สึกเจ็บไปพร้อมๆ กัน ให้ตายสิ

“พี่คนไม่ต้องห่วงขวัญหรอกค่ะ”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาคม แล้วฝืนยิ้มบางกลับไปให้เขา ทั้งๆ ที่ในใจของฉันมัยรู้สึกหน่วงจะตายอยู่แล้ว ทำไมฉันถึงต้อง ชอบคนเจ้าชู้แบบ คินด้วยก็ไม่รู้ บ้าจริง…

“อย่าดื้อมากได้มั้ย”

“ถะ… ไม่มีอะไรแล้วขวัญขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”

ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ฉันเม้มริมฝีปากแล้ว ขยับออกห่างหนีนิ้วเรียวยาวที่กำลังจะดึงแก้มฉันเหมือนที่เขา เคยทํา พี่ดินชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบาๆ พร้อม กับยิ้มบางส่งมาให้ฉันฝืนยิ้มกว้างแล้วเดินกลับมาที่บ้านของตัว เองด้วยความรวดเร็ว

“หัวใจก็เต้นแรงอยู่นั่นแหละ”

ฉันยกมือบางขึ้นมาทาบอกข้างอยู่ที่หน้าบ้าน ผ่านไปหลาย นาทีแล้วหัวใจของฉันมันยังคงเต้นแรงอยู่เลย ให้ตายเถอะ… แต่ พอฉันนึกถึงคำพูดของพี่คนอีกครั้งหัวใจของฉันมันก็กลับมารู้สึก ห่อเหี่ยวทันที ความรู้สึกมันสลับกันไปมาอยู่อย่างนี้จนฉันอยาก จะทิ้งหัวของตัวเองให้หายเป็นบ้าเป็นบอชะมัด

คอยดูเถอะถึงตอนนี้พี่คนจะเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวข้างบ้าน แต่สักวันฉันจะทำให้เขาคิดกับฉันเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง และทำให้เขารักฉันให้ได้เลยคอยดู เอ่อ… ถ้าฉันไม่ถอดใจยอมแพ้ไปซะก่อนน่ะนะ ทำไมแค่คิดก็รู้สึกไม่มี กำลังใจเลยอะ ฉันจะนกแล้วนกอีกไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย!

@สนามแข่งรถ XX

“ทำไมวันนี้คนเยอะแปลกๆ อะ

แคทหันมาถามฉันด้วยสีหน้าสงสัย ฉันมองไปรอบๆ สนาม แข่งก็เห็นคนมากมายทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังส่งเสียงเชียร์ ดังสนั่น วันนี้คนเยอะกว่าปกติอย่างที่ยัยแคทบอกจริงๆ นั่นแหละ

“นั่นดิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“อ๋อ ฉันรู้แล้วทำไมคนเยอะ

ฉันหันไปมองตามสายตาของแคทที่หันไปทางสนามแข่งด้าน ล่าง แล้วก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างรถยนต์ ราคาแพงบนสนาม วันนี้พี่คนลงแข่งด้วยงั้นเหรอ ส่วนใหญ่เขา จะไม่ลงแข่งแบบนี้นี่นา

“ทำไมคนถึงลงแข่งล่ะ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยจะหงุดหงิดอะไรมามั้ง พี่กินเวลา อารมณ์ไม่ดีจะลงแข่งแบบนี้แหละ

แคทยักไหล่เบาๆ แล้วหันไปส่งเสียงเชียร์พี่ชายตัวเองที่อยู่บนสนามแข่ง ฉันมองไปทางพี่คนที่กำลังเดินไปยังรถ หรูของเขา แต่ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเข้าไปใน เราสองคนก็สบ สายตากันโดยบังเอิญ พี่คนมองมาที่ฉันนิ่งจนฉันต้องเป็นฝ่าย หลบสายตาคมดุดันของเขาก่อน ให้ตายสิ เขาไปหงุดหงิดอะไร มาล่ะเนี่ย!

“พีคินชนะแน่เชื่อฉัน

ฉันไม่ได้สนใจคำพูดของแคทเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้สายตา ของฉันกำลังจับจ้องไปยังรถยนต์คันหรูสีเทาที่กำลังแข่งอยู่บน สนาม วันนี้พี่คนคงอารมณ์ไม่ดีจริงๆ สินะ ฉันไม่เคยเห็นเขาขับ รถน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย

“ขวัญ พี่คนชนะแล้ว แกเห็นปะ… เฮ้!”

“หะ..เห็นแล้วๆ”

ฉันกะพริบตาปริบๆ แล้วตั้งสติอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองแคทที่ กําลังโบกไม่โบกมืออยู่ตรงหน้า และส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้มัน นี่ฉัน เหม่ออะไรน่ะ ฉันเอาแต่จ้องพี่ดินจนไม่รู้ว่าแคทมันแทบจะเอามือ มาจิ้มตาอยู่แล้วเนี่ยนะ บ้าชะมัด

“อะไรอะ”

“มีอะไร ทำไมแกทำหน้าแบบนั้น
ฉันเลิกคิ้วข้างหนึ่งและถามแคทที่ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ ของตัวเอง แล้วมันก็ทำหน้ามุ่ยพร้อมกับดูเหมือนกำลังหงุดหงิด อะไรบางอย่างอยู่ข้างๆ

“ก็พี่คนไลน์มาบอกให้ฉันรีบกลับบ้านน่ะสิ ตลอดเลย ให้ตาย

“แกกลับบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่คนก็ดอีกหรอก วันนี้เขายิ่ง อารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย”

ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าแคททำท่าทางเหมือนเด็ก ชนที่ถูกดุ สงสัยมันคงโดนพี่คนดูอีกตามเคย ฉันเลยยักไหล่ พร้อมกับยิ้มกว้างส่งไปให้แคทเล็กน้อย

“แล้วแกล่ะ”

“ฉันว่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย” แคทถามฉันด้วยความเป็นห่วง หน่อยๆ ฉันยิ้มบางแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันไปมอง ที่สนามแข่งรถต่อ

“แต่ฉันว่าแกกลับพร้อมฉัน..

“เอาน่า ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันมาที่นี่บ่อยจะตาย

ฉันโบกมือไล่ยัยแคทอย่างไม่จริงจังนัก มันพยักหน้าหงหลัก อย่างเข้าใจแล้วเดินออกไปยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลทันที ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำไมจู่ๆ ฉันก็ รู้สึกเบื่อและยังไม่อยากกลับบ้านแบบนี้ด้วยเนี่ย ฉันนั่งดูการแข่งรถยนต์หรูในสนามต่ออีกหลายนาที โดยที่ ผู้คนรอบข้างดูสนุกสนานต่างจากฉันที่นั่งเหมือนหมาหงอยอยู่

คนเดียว และถอนหายใจกับตัวเองไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง อาจจะมากกว่า

สิบครั้งได้แล้วมั้ง ให้ตายเถอะ…

“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะครับ

ฉันหันขวับไปมองตามเสียงที่ดังอยู่ข้างๆ เขาเป็นใครแล้วมา นั่งข้างฉันตั้งแต่ตอนไหนกันล่ะเนี่ย ฉันไม่ตอบอะไรแล้วหันไปดู การแข่งรถบนสนามแข่งต่อ แต่ผู้ชายคนเดิมกลับยังคงส่งยิ้ม และขยับเข้ามานั่งใกล้ฉันมากกว่าเดิม

“ตอบหน่อยสิ”

“ขอทางหน่อยค่ะ

ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วเดินผ่านเขาออกมา ทันที อะไรของเขาเนี่ย ตอนนี้ฉันยิ่งไม่ค่อยมีอารมณ์จะพูดคุยกับ ใครเท่าไหร่หรอกนะ

หมับ!

ฉันขมวดคิ้วมันอย่างไม่ค่อยพอใจที่จู่ๆ เขาก็จับข้อบางของฉันเอาแน่น ฉันเริ่มหงุดหงิดกับผู้ชายคนนี้ แล้วนะ ถึงท่าทางของจะเหมือนไม่ใช่นิสัยฉันยังอยากกับใครหนี ยิ่งหงอยจนเซ็งแล้ว ด้วย ทำไมต้องเจอแบบอีกก็ไม่แล้วอย่างเขาไม่ สมควรจับเนื้อต้องฉันแบบด้วย เราได้รู้จักกันมาก่อน สักหน่อย บ้าจริง

“จะไหนล่ะ คุยกันก่อนสิ

“ปล่อยด้วยค่ะ

ฉันสบัดข้อมือออก แต่ผู้ชายคนกลับบีบมือบางของฉัน เอาไว้แน่นมากกว่าเดิม แล้วเขาลากฉันให้เดินตามเขาออกจากนั่งข้างสนามแข่ง ฉันตกใจและออกแต่ไม่สำเร็จ

“เลิกดิ้นแล้ว”

จะพาไปปล่อยนะ”

เขาลากฉันจนเกือบถึงทางเข้าห้องน้ำ ดิ้นแรงเพื่อให้ เขาปล่อยทันที เขาปลาย

คนสวย อย่าเสียงสิ
“อย่าเข้ามานะ!”

อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉันสิยะ! ฉันกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง เอาไว้แน่น หัวสมองก็คิดหาทางหนีเรื่องบ้าๆ ตอนนี้ไปด้วย แต่ ไม่ว่าจะคิดยังไงฉันก็คิดไม่ออก ทั้งๆ ที่ฉันก็พยายามสู้จนสุดแรง แล้วแท้ๆ ก็ยังคงสู้แรงผู้ชายอย่างเขาไม่ได้อยู่ดี ฉันรู้สึกกลัวและ รู้สึกว่าร่างกายของฉันกำลังสั่นเล็กน้อย ทำยังไงดียัยขวัญ คิดสิ

ผลัก! หมับ!

“ทําอะไร”

จู่ๆ ผู้ชายคนที่ลากฉันให้ตามเขาก็เซแล้วถอยห่างห่างออกไป ทันที จากนั้นร่างกายของฉันก็เข้าไปอยู่ในอ้อมของร่างสูงใหญ่ที่ อยู่ทางด้านหลังและกำลัง โอบกอดรอบเอวบางไว้แน่นทันที หัวใจของฉันเต้นตึกตักรุนแรงมากขึ้น เสียงทุ้มเข้มน่าฟังแสนคุ้น เคยแบบนี้ อ้อมแขนแข็งแรงที่อบอุ่นแบบนี้ และกลิ่นน้ำหอมผสม กับกลิ่นบุหรี่จางๆ จากเขา ฉันจำมันได้ดี…

“พีคิน”

ฉันหันไปเลยมองร่างสูงใหญ่ที่จ้องมองใบหน้าของฉันด้วย สีหน้า และแววตาคมดุดันจนฉันทำตัวไม่ถูก พอฉันจะขยับตัวหนี ออกจากท่อนแขนแข็งแรงของเขาก็ไม่กล้า เพราะพี่ดินกอดรอบเอวบางของฉันเอาไว้แน่น เหมือนเขากําลังหัวเสียอยู่น่ะสิ

“ยังไรด้วยวะ!”

ผู้ชายคนที่พี่คนผลักออกตะโกนโวยวายเสียงดัง พร้อมกับ สบ หยาบคายออกมาอย่างโมโห จนฉันที่เหลือบมองไปเห็น สายตาคมดุดันอย่างน่ากลัวของพี่คนถึงกลับต้องกลืนน้ำลาย ลงคออีกใหญ่อย่างประหม่า

“เมื่อกี้มึงทําอะไร”

เสียงทุ้มเข้มของพี่คนต่ำลงจนฉันยังรู้สึกหวาดหวั่น ผู้ชายคน นั้นซะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทำท่าทางหาเรื่องใส่ดินไม่เลิก ให้ตายเถอะ ทำไมฉันต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วยเนี่ย

“เรื่องของกู แล้วก็ส่งผู้หญิงมา

ไอ้ผู้ชายบ้านกำลังจะเดินมาถึงตัวฉันไปอีกครั้ง แต่พี่ดินกลับ ดันตัวฉันให้ไปยืนอยู่ด้านหลังของเขา จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็เดิน ไปกระชากคอเสื้อผู้ชายคนนั้นอย่างแรงจนฉันเบิกตาโพรงด้วย ความตกใจ

“กูไม่ให้

ฉันนิ่งอึ้งและยืนตัวแข็งทื่ออยู่ทันทีที่คินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มดุดัน หัวใจของฉันเต้นรัวเร็วมากกว่า เดิมซะอีก พี่ดินอย่าพูดเหมือนว่าเขากำลังเป็นห่วง หรือเลิกทำ แบบนี้กับฉันสักทีได้ไหม มันจะยิ่งทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองไป หมดแล้ว ไม่ดีกับหัวใจของฉันจริงๆ…

“แล้วมึงเป็นใคร แฟนรึไง”

พี่คินยืนนิ่งเงียบ และไม่ได้ตอบอะไรออกไป ไอ้บ้านั่นพอ เห็นเขาเงียบก็ยกยิ้มขึ้นแล้วพูจายั่วโมโหเขาอีกครั้ง

“ถ้าไม่ใช่แฟนยัยนั่นก็อย่ายุ่งศิวะ!”

ผลัก! ผัวะ!

“หุบปาก”

“อ๋ก! ไอ้เวร..”

ฉันเบิกตาโพรงและตกใจจนเกือบอุทานออกมาเสียงหลง อย่างตื่นตระหนก เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น และได้แต่ยืนมองพี่คน ต่อยผู้ชายคนนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูกไปหมด แต่พอฉันตั้งสติของ ตัวเองแล้วเห็นว่าถ้าเขายังคงต่อยไม่หยุดอยู่แบบนั้น ผู้ชายคนนี้ คงเจ็บปางตายแน่ๆ พี่คนคิดอะไรอยู่เนี่ย ให้ตายสิ

“พี่คินพอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเขาก็ตายก่อนหรอก”
ฉันรีบวิ่งไปจับท่อนแขนแข็งแรงของพี่ดินเอาไว้แน่นด้วยความ รวดเร็ว แต่ร่างกายของฉันก็แทบจะกระเด็นออกมาแทนซะได้ บ้า จริง คนอะไรแรงเยอะชะมัดเลย!

“อย่าเสือกมายุ่งกับผู้หญิงของกูอีก

ร่างสูงใหญ่เอ่ยเสียงเข้มใส่ผู้ชายที่เขาต่อยจนแทบยืนไม่ ได้จบ พี่คนก็หันมาจับข้อมือบางของฉันแล้วพาไปที่รถยนต์ราคา พงของเขาทันที ฉันมองแผ่นหลังกว้างของร่างสูงใหญ่ที่เดินอยู่ ด้านหน้าก้ได้แต่กัดริมฝีปากล่างไว้อย่างประหม่า

คำพูดที่พี่คนเยออกมาเมื่อกี้มันหมายความว่าอะไรกัน ฉันไม่ เข้าใจเลยทำไมเขาถึงต้องพูดแบบนั้นด้วย พี่คนพูดเหมือนฉัน เป็นผู้หญิงของเขา ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ฉันมันก็ เป็นแค่เพื่อนของน้องสาวสำหรับเขาไม่ใช่หรือไงล่ะ…

“พี่คินจะพาขวัญไปไหน”

ฉันถามขึ้นมาทันทีที่เราเดินมาถึงรถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ พี่ คนปล่อยข้อมือบางออกแล้วเขาก็หันมาจ้องมองใบหน้าของฉัน ด้วยสายตาคมดุดันมากขึ้นพร้อมกับคิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่าง หงุดหงิด

“ขึ้นรถเถอะ”
“แต่ว่าขวัญ…”

“พี่บอกให้ขึ้นรถ”

ฉันกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น ในใจมันรู้สึกสับสนไปหมด ฉัน ไม่รู้ว่าที่ดินทําอยู่มันคืออะไร ถ้าเขาเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคน หนึ่งก็อย่าทําเหมือนเขาแคร์ฉันมากนัก… เขาไม่ต้องทำเหมือน เป็นห่วงฉัน หรือไม่ต้องพูดคำพูดแบบเมื่อกี้กับฉันสิ

“พี่พูดแบบนั้นทําไม”

ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาคมของพี่คนนิ่งอย่างรอฟังคำตอบ จากปากของเขาชัดๆ พี่คนมองใบหน้าฉันอีกครั้ง แล้วเอ่ยถาม น้ำเสียงเข้มต่ำที่ดูอ่อนโยนลงกว่าเดิม

“พูดอะไร”

“ก็พูดว่าขวัญเป็นผู้หญิงของพี่ไง พี่พูดแบบนั้นทำไมคะ

ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งเงียบไปอยู่นานหลายนาที เขาสบสายตากับ ฉัน แววตาของพี่ดินดูสับสนเล็กน้อย แต่แล้วมันก็แปรเปลี่ยน เป็นสายตาคมดุดันเหมือนอย่างเคย ฉันเม้มริมฝีปาก และพูดใน สิ่งที่อยู่ในหัวของตัวเองออกมาเสียงแผ่วเบาอุบอิบจนฉันยังแทบไม่ได้ยิน ด้วยซ้ำ

“ถ้าพี่เห็นขวัญเป็นแค่น้องสาว พี่อย่าพูดแบบนั้นสิคะ

ฉันกำมือบางเอาไว้แน่นจนเจ็บไปหมด น้ำตามันเหมือนจะไหล ออกมาทุกครั้งที่คิดว่าพี่คนคงเห็นฉันเป็นเพียงแค่น้องสาว เขา ไม่ได้มองฉันในฐานะผู้หญิงของเขา หรือมากไปกว่านั้นเหมือน อย่างที่เขาเพิ่งพูดออกมาซะหน่อย มันเจ็บนะแต่ฉันก็พูดออกไป ไม่ได้อยู่ดีว่าฉันคิดยังไงกับเขาบ้าซะมัด…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ