Neighbor แค่แอบชอบ

Neighbor 01



Neighbor 01

@สนามแข่งรถXX

บรัน บรันนน!

เสียงท่อรถยนต์ดังไปทั่วบริเวณสนามแข่งรถพร้อมกับเสียง เชียร์ที่ดังไม่แพ้กัน ฉันกับยัยแคทยืนแหกปากส่งเสียงเชียร์ให้ กับรถยนต์หรูที่เข้าเส้นชัยเป็นคันแรก วันนี้มีแข่งหลายรายการ มากจนไม่รู้จะเชียร์ใครเลยอะ

“นี่ขวัญ ฉันว่ารถคันสีแดงต้องชนะแน่เลย”

“แกแน่ใจได้ไง”

แคทตะโกนบอกฉันแข่งกับเสียงเครื่องยนต์และเสียงเชียร์ที่ ดังสนั่นอย่างตื่นเต้น ฉันก็ตะโกนตอบกลับไปเหมือนกัน พรุ่งนี้ เสียงฉันจะหายหรือเปล่าก็ไม่รู้ แสบคอไปหมดแล้วเนี่ย

“ฉันมาทีไรก็เห็นชนะตลอดอะ แถมเจ้าของรถยังหล่ออีกต่าง หาก

“รู้ดีจังเลยนะ”

ฉันแอบเบ้ปาก ใส่แคทเบาๆ อย่างหมั่นไส้ ยัยแคทเลยหัวเราะ เสียงดัง และยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ จากนั้นก็หันไป รถยนต์ราคาแพงตรงข้ามสนามแข่งอีกครั้ง

“แกไม่รู้จักพี่เดย์เหรอ เห็นว่าเป็นเพื่อนที่ดินด้วยนะ ถึงฉันจะ ไม่เคยได้คุยกับเขาเท่าไหร่ก็เถอะ แต่บอกไว้เลยว่าหล่อมาก

“เหมือนจะเคยได้ยินชื่อจากสนามบ้างอะ แต่ไม่รู้จักหรอก

“ฉันปลื้ม เดย์มากบอกเลย พี่ไนซ์ด้วย สองคนนี้เป็นเพื่อน กลุ่มเดียวกันแต่ฉันเห็นเขาสองคนแข่งกันบ่อย

“เป็นเพื่อนกันจะแข่งกันเพื่อไรวะ” ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยและ หันไปถามยัยแคทด้วยความสงสัย

“จะไปรู้เหรอ แต่วันนี้พี่ไนซ์คงไม่มาฉันถึงไม่เห็นเขาลงแข่ง เลย”

“แล้วนี่แกโทรบอกพี่คนหรือยังเนี่ย”

ฉันที่เพิ่งนึกขึ้นได้เลยถามแคท มันทำหน้าตกใจแล้วรีบหยิบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าถือออกมากดโทรหาใครสักคน แต่ฉัน คิดว่ายัยแคทน่าจะโทรหาพี่คนนั่นแหละ มันชอบขี้ลืมตลอดเลย ให้ตายสิ

“ฮัลโหล คิน แคทถึงแล้วนะ ห้ะ!? ไม่ค่อยได้ยินเลยว่าไรนะ แปปนะ” แคทหันมาขมุบขมิบปากบอกฉันว่าเดี๋ยวมา ฉันเลยพยักหน้าหงิกหงักส่งกลับไปให้มัน คงจะไปหาที่เงียบๆ คุยล่ะมั้ง

เสียงเชียร์ยังคงดังต่อเนื่องและดังมากขึ้นเมื่อรถหรูคันสีแดง เพลิงเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกตามที่ยัยแคทบอกจริงๆ ผู้ชายหล่อ เหลา สูงหุ่นดี ผมสีเทาควันบุหรี่ลงออกมาจากรถยนต์ราคาแพง ของเขาเพื่อมารับกุญแจรถคันที่เดิมพันไว้ เสียงกรี๊ดจากผู้หญิงก็ ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณสนาม ทำให้ฉันต้องอุดหูไว้ทันที พี่เดย์คน ที่ยัยแคทปลื้มนี่ก็สมคำล่ำลืออย่างที่มันบอกจริงๆ นั่นแหละ

ฉันนึกไปถึงวันที่มาหาเพ้นท์ที่อู่ในสนามแข่ง วันนั้นฉันไม่คิด ว่าจะได้เจอพี่คินด้วยซ้ำ และตกใจอยู่เหมือนกันที่เจอเขา แต่พอ พี่คนทักฉันก็ไม่ทำตัวไม่ถูกทันที เหมือนมันไม่อยากจะรู้สึกชอบ เขามากขึ้นไปกว่านี้แล้ว ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ฉัน ไม่อยากจะชอบแต่ก็ชอบไปแล้วไง เฮ้อ…

“เธอๆ”

ฉันหันไปตามเสียงเรียกจากด้านข้างก็เจอกับผู้ชายหน้าตาดี กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้ฉันยิ้มบางกลับไปแล้วเอ่ยถามเขาด้วย ความสงสัยเล็กน้อย เขาเรียกฉันงั้นเหรอ?
“มีอะไรเหรอคะ”

“เห็นเธอน่ารักดี เลยอยากรู้จักนะ ผมชื่อสามนะ”

“เอ่อ.. ค่ะ”

ฉันไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป ก็เขาเล่นพูดกันตรงๆ แบบนี้เลยเห รอ แต่สามดูเป็นคนดีแถมหน้าตาก็เหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไรอีก ต่างหาก ตัวสูง หุ่นก็ดูมีกล้ามเนื้อสมส่วนดี เอิ่ม… แล้วนี่ฉันจะ มาสแกนเขาเพื่อ

“เธอชื่ออะไรเหรอ”

“ชื่อขวัญค่ะ” ฉันตอบไปพร้อมกับส่งยิ้มบางไปให้สามอีกครั้ง อย่างทำตัวไม่ถูก ดูแล้วเขาคงไม่มาทำอะไรไม่ดีหรอก…มั้งนะ

“งั้นผมขอไลน์หน่อยได้มั้ย

“ไม่ได้”

ฉันยังไม่ทันจะได้อ้าปากบอกสามด้วยซ้ำ เสียงเข้มก็พูด แทรกขึ้นมาซะก่อน พอเห็นว่าเป็นใครฉันก็ชะงักไปเล็กน้อย และ ทำตัวไม่ถูกมากกว่าเดิม ให้ตาย ฉันว่าสามสูงแล้วนะพี่คนที่ยืน อยู่ด้านหลังเขายังสูงกว่าอีกงั้นเหรอ

“คุณเป็นใคร”
สามถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วหันไปถามพี่คนด้วยความ สงสัย ถึงแม้เสียงรอบข้างจะดังมากก็ตาม แต่ฉันก็ได้ยินเสียงที่ พวกเขากำลังคุยกันอยู่ดี แล้วนี่พี่คนมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงน่ะ แล้ว ยัยแคบหายหัวไปไหนเนี่ย!

“จะอยากรู้ไปทำไมวะ

ร่างสูงใหญ่เอ่ยบอกสามเสียงติดจะหงุดหงิด คิ้วเข้มขมวดมุ่น จนแทบจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว จากนั้นพี่คนก็หันมามองหน้าฉัน ดุๆ ฉันกลืนน้ำลายลงคอดังอีกอย่างฝืดเคืองและเหลือบสายตา ไปมองทางสามก่อนจะตอบคำถามของเขาเพื่อกลบเกลื่อน อาการประหม่าของตัวเองแทน แล้วฉันผิดอะไร ทำไมพี่ดินตั้ง ด้วย!

“พี่คนเป็นพี่ชายเพื่อนขวัญเอง”

“งั้นเหรอครับ” สามพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แล้วหันไปมอง ทางร่างสูงใหญ่อีกครั้ง ส่วนพี่คนก็ยังคงทำสีหน้าหงุดหงิดอย่าง ไม่ค่อยพอใจใส่สามไม่เลิก

“พี่คินแล้วแคทคะล่ะ”

ฉันกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง และพอตั้งสติของตัวเอง ได้อีกครั้ง ฉันก็หันไปถามพี่คนอย่างสงสัยทันที ว่าแต่…นี่เขาไป หัวเสียเรื่องอะไรมาอะ
“ไปเข้าห้องน้ำ ขวัญมากับพี่หน่อย

“เอ่อ… ค่ะ”

ฉันอีกอักเล็กน้อย สักพักพี่คนก็เอ่ยบอกฉันด้วยเสียงเข้ม ดุดันที่ติดจะหงุดหงิดหน่อยๆ แล้วเขาหันกลับไปมองทางสาม อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพี่คนจะเดินออกไปทางที่ไม่ค่อยมีคน และเสียงไม่ดังมากด้วยความรวดเร็ว สามที่ยืนมองฉันสลับกับพี่ ดินไปมาอย่างสงสัยไม่หาย ฉันเลยหันไปส่งยิ้มแห้งๆ ให้เขา จากนั้นก็รีบเดินตามตามร่างสูงใหญ่ไปติดๆ

“รู้จักกันมาก่อนงั้นเหรอ”

“อะไรเหรอคะ”

จู่ๆ พี่คนก็ถามฉันด้วยน้ำเสียงเข้มเรียบนิ่ง จนฉันต้องถาม เขากลับอย่างไม่ไม่ค่อยเข้าใจ พี่คนเป็นอะไรของเขาน่ะ เขาไป หัวเสียเรื่องอะไรมาล่ะเนี่ย

“ก็ไอ้คนเมื่อกี้ไง”

“อ๋อ เปล่าหรอกค่ะ เขาแค่มาถามเฉยๆ”

“มันจีบเหรอ” ฉันซะงักไปเล็กน้อย แต่สักพักก็ยิ้มบางแล้วส่าย หน้าเบาๆ กลับไปให้เขาทันที

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ท่าทางเข้าก็คงไม่ได้มาทําอะไรไม่ดีหรอก” ฉันตอบพี่ดินยิ้มๆ

“รู้ได้ไง ขวัญรู้จักผู้ชายน้อยไป “ก็เขาแค่มาถามเฉยๆ นี่คะ ไม่เห็นดูอันตรายเลย”

พี่คนส่งสายตาคนดๆ มาให้ฉันอีกครั้ง ฉันขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วร่างสูงใหญ่ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะมอง ใบหน้าของฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จนฉันต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้ อย่างประหม่าในทำตัวไม่ถูกไปหมด ให้ตายเถอะ พี่คนกำลัง ฉันอยู่จริงๆ สินะ อะไรเล่า เขาจะมาดฉันทำไมกันล่ะ…

“พี่บอกยังจะเถียงอีก

“แล้วพี่คนจะมาดขวัญทำไมอะ แทนที่จะไปดูน้องสาวตัวเอง นี่ แคทยังไม่กลับมาเลยนะคะ

“พี่ไล่มันกลับบ้านละ

“อะไรนะ! แล้วขวัญจะกลับยังไงอะ วันนี้ขวัญมากับยัยแคทนะ พี่คิน”

ฉันเบิกตาโพรงแล้วถามพี่คนตาปริบๆ เสียงดังอีกอักด้วย ความรวดเร็ว ไหนเขาบอกว่ายัยแคทไปเข้าห้องน้ำไง นี่พี่คน โกหกฉันอย่างงั้นเหรอ!

“ค่อยกลับพร้อมพี่ เดี๋ยวไปส่ง”
ร่างสูงใหญ่เอ่ยบอกน้ำเสียงทุ้มเข้มที่ฟังดูอ่อนโยนลง ฉัน กะพริบตาปริบๆ สมกับสายตาคมอย่างมึนงงหน่อยๆ ก่อนจะ ถามพี่คนเสียงเบาอุบอิบอีกครั้ง

“แล้วขวัญต้องอยู่รอพี่คนตรงนี้คนเดียวเหรอคะ”

“ไปรอที่อูดิ เพ้นท์ก็อยู่”

พี่คนเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ฉัน พยักหน้าหงิกหงักกลับไปให้เขา แต่ก็ยังคงมึนงงไม่หาย ทำไม ฉันต้องไปนั่งรอเขาที่อู่ด้วยอะ ถึงแม้จะอยากไปคุยกับเพ้นท์ เถอะนะ ให้ตาย ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจพี่ดินอยู่ดีนั่นแหละ แต่จะทำ ยังไงได้ล่ะ ฉันไม่ได้ขับรถมาเองด้วย แถมยัยแคทก็โดนไล่กลับ บ้านไปแล้วอีกต่างหาก ฉันเลยต้องเดินตามเขามาที่อู่ตรงจุดเช็ค สภาพรถเนี่ยแหละ

และเมื่อฉันเดินมาถึงจุดเช็ครถก็เจอกับคนเยอะแยะกำลัง ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งช่างก็ซ่อมโน่นนี่เต็มไปหมด ฉัน เหลือบเห็นเพ้นท์ที่เดินถือขวดนมาทางนี้พอดี เลยโบกมือทัก พร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้มันด้วยความรวดเร็ว

“เพ้นท์ๆ”
“อ้าว… แกมาไง” เพ้นท์ชะงักแล้วหันมามองทางฉันด้วยความ สงสัย ก่อนที่มันจะเดินมาหาและมองฉันกับพี่คนที่เพิ่งเดินเข้าไป เช็ครถยนต์สลับกันไปมาทันที

“มารอพี่คนนะ พอดีเพื่อนฉันมันกลับบ้านก่อนกินเลยจะไป ส่ง”

“เหรอ แล้วแกกับพี่ดินไปสนิทกันตอนไหนเนี่ย

เพ้นท์พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัยอีก ครั้ง ฉันกลืนน้ำลายลงคออีกใหญ่ ก่อนจะตอบมันเสียงเบากว่า ปกติ ทำไมฉันต้องรู้สึกแปลกๆ และประหม่าเวลาจะพูดเรื่องเกี่ยว กับพี่คนด้วยล่ะเนี่ย ให้ตายเถอะ ฉันนี่บ้าชะมัด

“ฉันก็เคยบอกไปแล้วไง ว่าพี่คนเป็นเพื่อนข้างบ้านฉันน่ะ” “อ่อ โอเค งั้นแกไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะ ฉันเอาไปให้พี่เซน แปปนึง”

ฉันพยักหน้าหงิกหงักและเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงที่เพ้นท์บอก พอ มองดูเพ้นท์กับพี่เซนคุยกันแล้วฉันรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างสอง คนนั้นมันยังไงๆอยู่นะ ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วดูน่ารักดี แถมพี่ เซนยังดูมีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้เพ้นท์ด้วยสิ…
“เพื่อนเพ้นท์เหรอครับ ชื่ออะไรเหรอ ผมชื่อเตนะ”

ฉันสะดุ้งเล็กน้อย และหันไปมองผู้ชายหน้าตาดีที่เดินเข้ามา ถามด้วยท่าทางยิ้มๆ อย่างเป็นมิตร ฉันยิ้มกว้างพร้อมกับพยัก หน้าเบาๆ ส่งกลับไปให้เต

“ใช่ค่ะ ชื่อขวัญค่ะ”

เตดูเป็นผู้ชายขี้เล่น แต่งตัวดูดี หน้าตาดี หุ่นก็ดี แต่เท่าที่ สังเกตคนที่อู่นี้นี่งานพรีเมียมสุดๆเลยอะ พี่เซนที่ยืนคุยกับเพ้นท์ นี่ก็หล่อมากเท่ไปอีก พี่คนที่กำลังซ่อมรถยนต์คันหรูนั่นก็ไม่ต้อง พูดถึง เขาเป็นคนที่ฉันชอบยังไงก็ต้องหล่อสุดอยู่แล้ว โอ๊ย… พอ ฉันคิดแล้วก็อยากจะทิ้งหัวตัวเองแรงๆ สักที ฉังต้องบ้าไปแล้ว แน่ๆ

“ขวัญเป็นดาวคณะด้วยใช่ปะ เห็นเพ้นท์มันเคยบอก

ฉันหันไปมองเตที่เดินมานั่งคุยอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ และพอตั้งสติของตัวเองได้เลยยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้เขาเล็กน้อย สงสัยฉันคงจะมองแต่พี่คนแล้วคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวอยู่แน่ๆ เลย ให้ตายสิ

“แค่เคยน่ะ แต่ตอนนี้รุ่นน้องรับตำแหน่งไปแล้ว”

ป้าบ!

“แกไปยุ่มย่ามอะไรกับเพื่อนฉันไอ้เด

ฉันหัวเราะเบาๆ เมื่อเพ้นท์เดินมาตีแขนเตไปหนึ่งที่ สองคนนี้ คงสนิทกันมากแน่ๆ เพ้นท์ก็เข้ากับคนง่ายซะด้วยสิ ถึงภายนอก มันจะดูเป็นคนแข็งๆ ก็เถอะ แต่พอได้คุยหรือรู้จักกับเพ้นท์จะรู้ ว่าที่จริงมันเป็นคนไม่คิดมากและเข้าไปคนอื่นง่ายจริงๆ

“โอ๊ย อะไรของแกวะไอ้เพ้นท์ ฉันเจ็บนะโว้ย”

“อย่าเว่อร์ไม่ได้ตีแรงหรอก” เตจับแขนของตัวเองแล้ว โวยวายใส่เพ้นท์อย่างไม่จริงจังเท่าไหร่จนเพ้นท์ถึงกับถอน หายใจออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ

“ฉันก็แค่มาคุยเป็นเพื่อนขวัญเอง เห็นแกมัวแต่ไปดูแลพี่เซน

จนลืมเพื่อน”

“เดี๋ยวก็ตปากซะหรอก”

“ไปทํางานดีกว่า แกต้องติดเชื้อมาจากพี่เซนแน่ๆไอ้เพ้นท์” เพ้นท์ทำมือจะตีปากเตจริงๆ เตเลยรีบลุกหนีด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะรีบสบัดตูดเดินไปเช็ครถหรูอีกคันต่อทันที

“ไอ้เตนปากแบบนี้ตลอด
“เพ้นท์เอาน็อต ให้หน่อย

เพ้นท์ส่ายหน้าขาๆ กับท่าทางของเต แล้วเสียงพี่เซนที่เรียก เพ้นท์ก็ดังขึ้น ฉันเลยพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้างส่งให้เพื่อที่มัน จะได้ไปทำงานของตัวเองต่อ และไม่ต้องมาคอยดูแลหรือคอย เป็นห่วงที่ฉันนั่งอยู่คนเดียวแบบนี้

“แกไปทำงานต่อเถอะ ฉันนั่งรอพี่ดินอยู่ตรงนี้คนเดียวได้น่า

“โอเค ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนแก

“ไม่เป็นไรๆ ฉันเข้าใจว่าแกต้องทำงาน

เพ้นท์พยักหน้าแล้วยิ้มบาง จากนั้นมันก็เดินเอาของไปให้พี่ เซนทันที ฉันเลยต้องนั่งรอพี่คนต่อไป และหันไปมองดูคนในอู่ที่ ทำงานกันด้วยความชำนาญจนน่าทึ่งไปเรื่อยเปื่อย พวกเขาทุก คนทํางานกันเร็วชะมัดเลย ถอดล้อรถยนต์แค่ไม่นาทีเอง….

“ขวัญ”

ฉันหันไปมองตามเสียงเข้มของพี่คนทันที และเห็นว่าเขา กำลังนอนอยู่ใต้ท้องรถยนต์ราคาแพงกันใกล้ๆ กับตรงที่ฉันนั่ง อยู่พอดี ฉันเลยเดินเข้าไปนั่งยองๆ ข้างๆ แล้วถามพี่คนด้วย ความสงสัย
“คะ? พี่คนมีอะไรเหรอ”

“หยิบประแจอันนั้นให้พี่หน่อย

ฉันเหลือบมองไปตามนิ้วเรียวยาวของพี่คนที่ชี้ไปทางกล่อง เครื่องมือช่างที่วางอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ฉันเลยพยักหน้าหงิก หงักกลับไปให้เขาอย่างเข้าใจ จากนั้นฉันก็เดินไปหยิบประแจ ไซส์ท ดิน ก่อนจะเดินเอามันมาให้เขาทันที

“นี่ค่ะ”

“โอเค ดีมาก”

พี่ดินสไลด์ตัวออกจากใต้ท้องรถยนต์ราคาแพง แล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นเขาก็เดินมาเปิดฝากระโปงรถคันเดิมเพื่อเช็คอะไรบาง อย่าง ฉันกะพริบตาปริบๆ มองดูเครื่องยนต์ที่พี่คนกำลังเช็ค อย่างอยากรู้อยากเห็นไปหมด

“มันซ่อมยากมั้ยคะรถเนี่ย”

“ไม่ยากหรอก อยากลองดูมั้ยล่ะ” ฉันยิ้มกว้างแล้วพยักหน้า หมึกหงักให้พี่คนอย่างตื่นเต้นปนสนใจด้วยความรวดเร็ว

“แต่ขวัญไม่เคยซ่อมรถมาก่อนเลยนะ”

“เดี๋ยวพี่สอน”
เสียงเข้มเอ่ยบอกจบ ร่างสูงใหญ่ก็เดินมายืนซ้อนด้านหลัง ของฉัน เขาจับมือฉันให้หมุนนั่นหมุน พร้อมกับอธิบายไปด้วย ว่ามันคืออะไรและต้องดูตรงไหนบ้าง แต่ตอนนี้ความรู้พวกนั้นมัน ไม่ได้เข้าหูของฉันเลยสักนิดเดียว ฉันได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเอง ที่เต้นแรงตุบตับไม่เป็นจังหวะ ยิ่งลมหายใจอุ่นร้อนของพี่คน สัมผัสผะแผ่วอยู่บริเวณข้างผิวแก้มใส ฉันก็ยิ่งสติหลุดเข้าไป ใหญ่ บ้าจริง…

“พี่คนโว้ย นั่นเพื่อนไอ้เพ้นท์นะโว้ย”

เสียงเตดังมาจากทางด้านหลังของเราสองคน ฉันชะงักและยืน นิ่งตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที ใบหน้าก็ร้อนผ่าวและรู้สึกอายแปลกๆ จนเลิ่กลั่กไปหมดแล้ว

“อะไรของมึงไอ้เต ขวัญเป็นเพื่อนน้องสาวก

“ไว้ใจได้ที่ไหน เสือยังไงก็เสือเว้ยพี่คน

ฉันเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น ก้มลงมองไปยังเครื่องยนต์ตรง หน้าอีกครั้ง เพื่อหลบสายตาคมดุดันที่จ้องมองมา ความรู้สึกเจ็บ แปลบเกิดขึ้นหน่อยๆ จนฉันต้องสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอด เฮือกใหญ่ ให้ตายเถอะ ฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย!

“เดี๋ยวมึงจะโดนทึบไอ้เต

“แค่น้องสาวแน่เหรอ”
“เออ…น้องสาวศิวะ”

คำพูดของร่างสูงใหญ่ที่ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึก เจ็บในใจจนไม่รู้จะทำตัวแบบไหน และได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ที่ เดิม แล้งมือบางที่วางอยู่บนรถยนต์ราคาแพงก็บีบแน่นโดยที่ฉัน ไม่รู้ตัว

“ลืมไป พี่คนมันต้องเล็กๆ สะบึมๆ

“มึงมานี่ซิไอ้เต”

พี่คนเดินไปล็อคคอเตแล้วตบหัวแรงๆ ไปหนึ่งที จากนั้นเขาก็ หันมามองทางฉันด้วยสายตาคมดุดันเล็กน้อย ฉันสูดหายใจ ลึกๆ เพื่อรวบรวมสติของตัวเองอีกครั้ง

“เดี๋ยวขวัญมานะคะ”

หมับ!

“จะไปไหน”

“ไปเข้าห้องน้ำคะ”

ฝ่ามือใหญ่จับข้อมือบางของฉันเอาไว้หลวมๆก่อนที่ฉันจะเดิน ออกไปทางห้องน้ำ พี่คนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มที่ดูอ่อนโยน ลง ฉันดึงข้อมือของตัวเองออกเบาๆ พอตั้งสติได้ฉันก็หันไปบอก พี่คินแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูฝืดเคืองเต็มที่ และเมื่อฉันพูดจบก็รีบเดินไปมาทางห้องน้ำ

ฉันกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่น หัวใจมันเหมือนถูกบีบ จนเจ็บไปหมด ฉันมันก็เป็นได้แค่เพื่อนน้องสาวสำหรับพี่คน เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากรู้สึกชอบเขามากไปกว่านี้อีกแล้ว ฉันไม่น่าไปชอบพี่คนเลย…ไม่น่ามาอยู่ใกล้ชิดเขาไปมากกว่านี้ เลย ให้ตายสิ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ