Neighbor แค่แอบชอบ

Neighbor 02



Neighbor 02

เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ว ฉันก็ได้แต่ยืนมองเงาตัวเองใน กระจก เห็นดวงตาแดงๆของตัวเองเริ่มมีหยดน้ำตาไหลลงมา ฉัน รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ตัวเองร้องไห้ นี่ฉันชอบพี่คนถึงขนาดต้องมา แอบร้องไห้เลยเหรอ ไม่เอาน่า… เรื่องแค่นี้ฉันจะมาร้องไห้เป็น เด็กขี้แยไม่ได้นะ!

จ๊กๆ

“ฉันมันเพื่อนน้องสาว จําไว้ยัยขวัญ”

ฉันยกนิ้วชี้จิ้มขมับตัวเองสองสามที ยกหลังฝ่ามือเช็ดน้ำตาที่ หยดลงมาออกลวกๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อควบคุมสติของตัว เองแล้วพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากเบาๆ เฮ้อ… ค่อยรู้สึก ดีขึ้นมาหน่อย จะให้พี่คนมาเจอสภาพนี้ก็ไม่ได้ด้วยสิ ฉันกลับ บ้านเองน่าจะดีกว่าหรือเปล่านะ…

“แกเป็นอะไรหรือเปล่า ทําไมตาแดงๆ

พอฉันกลับมาจากห้องน้ำและเดินมาถึงอู่ตรงจุดเช็คสภาพรถ เพ้นท์ก็ถามฉันด้วยความสงสัยในเป็นห่วงหน่อยๆ ฉันรีบฉีกยิ้ม กว้างแล้วปรับสีหน้าของตัวเองให้ดูสดใสมากกว่าเดิมทันที
“เปล่าๆ แสบตานิดหน่อยน่ะ ฉันว่าจะกลับแล้วนะ”

“อ้าว ไหนพี่คนไปส่งไม่ใช่เหรอ แล้วแกจะกลับไงอะ” ฉัน เหลือบมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนซ่อมรถยนต์ราคาแพงคันเดิม แล้ว หันไปมองเพ้นท์เสียงอึกอีกอีกครั้งอย่างทำตัวไม่ถูก

“ดะ… เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่ก็ได้

“พี่บอกว่าจะไปส่งไง

จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็ดังมาจากทางด้านหลัง พอฉันหันไปมองก็ เห็นพี่คนกำลังยืนกอดอกมองมาทางฉันนิ่งๆ เขาคงจะได้ยินที่ฉัน คุยกับเพ้นท์สินะ ฉันอุส่าห์จะแอบกลับบ้าน โดยไม่บอกเขาสัก หน่อย ให้ตายสิ

“ขวัญกลับเองได้ พี่คนไปทำงานเถอะค่ะ”

“รอแปปนึง เดี๋ยวพี่ไปส่ง

“แต่พี่คินคะ !!

ฉันกำลังจะปฏิเสธ แต่พี่คืนกลับหันหลังและเดินไปเก็บอะไหล่ รถยนต์ที่เขาถืออยู่ จากนั้นเขาก็เดินไปล้างมือที่เปื้อนคราบ น้ำมันเครื่อง ก่อนร่างสูงใหญ่จะหยิบกุญแจรถยนต์คันหรูของเขา แล้วเดินมาทางฉันทันที

“จะให้กลับเองได้ไง มันอันตราย”
ฝ่ามือใหญ่วางลงมาบนหัวของฉัน แล้วลูบไปมาเบาๆ สอง สามที ความอบอุ่นจากมือของพี่ดินฉันยังคงรู้สึกได้ถึงแม้ว่าร่าง สูงจะเดินไปที่รถยนต์ของเขาแล้วก็ตาม…

“ฉันไปก่อนนะเพ้นท์

พอรู้ตัวว่ามองพี่คนนานเกินไปฉันก็รีบหันมาบอกเพ้นท์ที่ยืน อยู่ข้างๆ เพ้นท์มองฉันกับพี่ดินเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้ถามออกมาและได้แต่พยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้ ฉันแทน

“โอเค แล้วเจอกัน ถึงบ้านแล้วไลน์บอกฉันด้วยนะ

“โอเคๆ ไปล่ะ”

ฉันยิ้มกว้างแล้วโบกมือลาเพ้นท์ จากนั้นก็รีบเดินตามร่างสูง ใหญ่เข้าไปนั่งในรถยนต์ของเขาอย่างรวดเร็ว เพราะพี่คนกำลัง นั่งรออยู่ที่นั่งคนขับเรียบร้อยแล้วน่ะสิ บ้าชะมัดเลย ทำไมเขา ต้องทำเป็นใจดีและไปส่งฉันที่บ้านแบบนี้ด้วยเนี่ย…

ตลอดเวลาที่ร่างสูงใหญ่ขับรถมาส่งฉันที่บ้าน ความเงียบ เข้าครอบง่าเราสองคน ฉันได้แต่นั่งหันหน้ามองข้างทางผ่าน กระจกรถด้านข้างของตัวเองด้วยความรู้สึกหน่วงในอกเล็กน้อย ให้ตายสิ ฉันไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย

“ขวัญ”

จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถก็ดังขึ้น ฉันสะดุ้งและ หันไปมองทางร่างสูงใหญ่ที่ยังคงตั้งใจขับรถด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามเขาเสียงเบาอุบอิบอย่างทำตัวไม่ถูก

“คะ”

“เป็นอะไรรึเปล่า พี่เห็นสีหน้าไม่ค่อยดี

“พี่คนขับรถอยู่เห็นด้วยเหรอคะ”

ฉันพูดติดตลกพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างฝืดเคือง เล็กน้อย แต่พี่ดินกลับหันมามองฉันด้วยสายตาคมดุดันแวบหนึ่ง แล้วเขาก็หันกลับไปขับรถต่อ

“ที่จริงพี่เห็นตั้งแต่ยืนคุยกับเพ้นท์แล้ว แต่ไม่ได้ถาม

“เหรอคะ”

ฉันหยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มบางแทน นี่พี่คนสังเกตเห็น ด้วยอย่างงั้นเหรอ ฉันนึกว่ามีแต่เพ้นท์ที่เห็นว่าฉันมีสีหน้าหงอยๆ คนเดียวซะอีก
“แล้วตกลงเป็นเราอะไรรึเปล่า”

“ขวัญไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่รู้สึกง่วงๆ” ฉันฝืนยิ้มอีกครั้ง แล้วหันไปมองทางข้างหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ

หลังจากที่พี่ดินตอบรับในลำคอแกร่งเบาๆ เราสองคนต่างคน ต่างเงียบและไม่ได้พูดอะไรกันอีกตลอดทาง มีเพียงเสียงเพลงที่ สากลเปิดคลออยู่ภายในรถยนต์ที่ทำให้บรรยากาศระหว่างเรา ไม่ดูแปลกจนเกินไป ฉันเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แล้วสูดหายใจเอา อากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติของตัวเอง บ้าจริง… ฉันจะฟุ้งซ่านอีกทำไมกันล่ะ

ปีง

“ขอบคุณมากนะคะพี่คน

ฉันปิดประตูรถยนต์คันหรูแล้วบอกพี่ดินทางกระจกรถที่เลื่อน ลงมา เขาพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางส่งมาให้ จากนั้นพี่คนก็ขับ รถออกไปหลังจากที่เขาเห็นว่าฉันเดินเข้าบ้านของตัวเอง เรียบร้อยแล้ว

ตุบ!

พอเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ฉันก็โยนกระเป๋าสะพายไป บนโซฟาข้างเตียง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มนิ่มตัวเองอย่าง เหนื่อยหน่าย และยังคงรู้สึกหน่วงๆ ในอกไม่หาย ถ้าเป็นแบบนี้ก็ นอนไม่หลับสักทีน่ะสิ ฉันพลิกตัวไปมาสักพักก็หยิบโทรศัพท์มือถือและส่ง ข้อความไลน์บอกเพ้นท์ว่าถึงบ้านแล้ว แต่อาการหน่วงในอกมันก็ ไม่หายอยู่ดีจนฉันต้องโทรไปหาพี่เจด้วยความรวดเร็ว

[ฮัลโหล]

“พี่เจ นอนยัง”

ทันทีทีพี่เจกครับ ฉันก็รีบถามเขาด้วยความรวดเร็ว แล้วพลิก ตัวมานอนมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอยหน่อยๆ ก่อนที่เจาะ ตอบกลับมาดวยน้ำเสียงปนสงสัย

ยัง แกมีอะไรเหรอ โทรมาดึกๆ ดื่น ๆ

“ไม่มีอะไรหรอก” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วบอกพี่เจ เสียงอุบอิบ

(ฉันว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เสียงเป็นหมาหงอยขนาดนี้

“รู้อีก” ฉันหน้ามุ่ย และพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปาก แรงๆ จนพี่เจต้องเอ่ยถามน้ำเสียงดูจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม

(จะบอกได้ยังว่าแกเป็นอะไร

“นกอีกแล้วว่ะพี่เจ ไม่อยากเป็นแบบนี้เลยอะ!”
(โอ๊ย เสียงดังทําไม หูฉันจะแตก!

ฉันระบายออกมาเสียงดัง และพอได้ยินเสียงพี่เจโวยวาย ฉัน ถึงได้สติและกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่อุบอิบพร้อมกับยกหลังมือ ขึ้นมาปาดหยดน้ำตาของตัวเองที่ไหลลงมาเบาๆ มันอัดอั้นมา นานจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วเนี่ย

“ไม่อยากชอบเลยว่ะ ทำไงจะเลิกชอบคนๆ นึงได้อะพี่เจ

(เฮ้อ… มันเป็นยังไง ไหนเล่ามาซิ

พี่เจถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วถามฉันด้วยความเป็น ห่วง จนฉันต้องเม้มริมฝีปากแล้วตัดสินใจเล่าเรื่องของพี่คนให้ เขาฟังแค่คร่าวๆ โดยไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก และกว่าที่ ฉันจะเล่าให้พี่เจฟังจบก็ พอมองดูนาฬิกาอีกทีตอนนี้ก็ปาไปเกือบ สองชั่วโมงแล้ว

“ขวัญอยากเลิกชอบเขานะ แต่มันก็ทำไม่ได้สักที”

(จากที่ฉันฟังแกจนหูชามาเกือบสองชั่วโมงเนี่ย แกก็เอาแต่บ่น ว่าจะเลิกชอบๆ อยู่นั่นแหละ

“ก็จะให้ทำไงอะ มันหน่วงในอกเวลาเจอเขานี่นา”

(แล้วเพ้นท์มันเรื่องนี้รู้มั้ย
“ยังไม่ได้บอกเลย แต่วันนี้เหมือนเพ้นท์จะสงสัยอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวขวัญบอกมันเองดีกว่า”

และที่ฉันยังไม่ได้บอกเพ้นท์ก็เพราะว่าช่วงนี้เห็นมันดูยุ่งๆ นะ ไหนมันจะต้องไปทำงาน และไหนจะต้องเรียนอีกเลย ฉันเลยไม่มี เวลาบอกกับเพ้นท์เรื่องนี้สักทีน่ะสิ แต่ฉันก็จะบอกมันอยู่แล้วล่ะ นะ

(เออก็ดี แต่ถ้าแกอยากจะเลิกชอบจริงๆ น่ะนะ ฉันว่าหาผู้ มาดามใจสี]

“บ้าเหรอ ไม่ได้หาง่ายๆ เหมือนพี่เจนะ”

พอพูดแล้วก็น่าหงุดหงิดพี่เจเหมือนกัน เขาชอบมีคนเข้ามาจีบ อยู่บ่อยๆ ตอนนี้ฉันเลยกลายเป็นเจ้าแม่นกไปเลยน่ะสิ ให้ตาย เถอะ ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งขุ่นเคืองตัวเองอยู่เหมือนกัน

(ลืมไป ถึงแกจะสวยแต่ครองตำแหน่งพญานกอยู่

“พี่เจ” พี่เจหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่น่าหมั่นไส้จนฉันต้องเบ้ปาก ใส่โทรศัพท์มือถือของตัวเองทันที

(ฉันล้อเล่นหรอกน่า แกก็ลองอยู่ใกล้ๆ เขามากขึ้น เพื่อเจอ กันบ่อยมันจะชินจนเลิกชอบไปเอง

ฉันขมวดคิ้วมันด้วยความมึนงง พี่เจมันไปเอาความคิดนี้มาจากไหนมาจากไหนอะ ให้ฉันอยู่ใกล้คนที่ชอบแล้ว จะเลิกชอบไปเองเนี่ยนะ บ้าชะมัดเลย!

“มันจะไปเลิกชอบได้ไง

[เชื่อฉัน ลองทําก็ไม่เสียหาย

“แล้วถ้ามันชอบยิ่งกว่าเดิมล่ะ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเจ็บนะ

(แกบอกว่าเขาเจ้าชู้ใช่มั้ย เห็นแกเป็นแค่น้องสาวใช่ปะ “ก็ใช่ ทําไมอะ”

ฉันพยักหน้าหมึกหงักทั้งๆ ที่ในใจมันเจ็บแปลบขึ้นมานิดๆ กับ คำพูดของพี่เจ แต่เพราะสงสัยทำให้ฉันถามเขาออกไปอีกครั้ง ด้วยความอยากรู้ทันที

แกก็ทำให้เขาไม่เห็นแกเป็นแค่น้องสาว แล้วรวบหัวรวบหาง

เลยสี]

เดี๋ยวนะ… นี่ฉันมาปรึกษาถูกคนใช่ไหมเนี่ย ทำไมมันเป็นแบบ นี้ไปได้อะ!

“มันจะดีเหรอ อะไรของพี่เนี่ย [ดี! เชื่อฉัน ฉันไม่เคยนก

“แล้วถ้าเกิดขวัญนกอีกล่ะ” ฉันถามพี่เจเสียงเบาลง ล้อมกับปากด้วยความรู้สึกหดหูหน่อยๆ

(แกก็เป็นแม่พญานกเลยไ

“โธ่พี่!” ฉันโวยวายทันทีที่ได้ยินเรื่องนกๆ อีกแล้ว พี่เจจะให้ ฉันนกไปตลอดชาติเลยหรือไงกัน ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะจะบอก

(อย่าเพิ่งคิดแง่ลบ อ่อยบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน

“พี่ทำบ่อยใช่มั้ย” ฉันถามพี่เจอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ฉันโทรไป ปรึกษาถูกคนจริงๆ ใช่ไหมอะ

บ่อยอยู่งั้นจะได้ผู้เหรอ ยอมแล้วจ้าแม่

“ไม่เคยอ่อย ทําไม่เนียนหรอก”

(อย่ามาแอ๊บ ฉันเคยเห็นแกตอนเมายังแอบอ่อยผู้ชายในผับ เลย]

“ได้ผลแน่นะ ถ้านกอีกฉันคงต้องอยู่ห่างพี่เขาไว้จริงๆ นั่น แหละ คงดีที่สุดแล้ว”

พี่เจทำน้ำเสียงหมั่นใส้ส่งมาให้ ฉันเลยได้แต่ยักไหล่และ ขมวดคิ้ว ก่อนจะถามกลับไปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จากนั้นฉันก็ ถอนหายใจออกมาแรงๆ เพื่อคลายความกังวลและหน่วงๆ ใน อกข้างซ้ายของตัวเอง

เออ เป็นยังไงก็บอกฉันได้นะ
“ขอบคุณมากนะพี่เจ ดึกแล้วขวัญไม่กวนละ

(เพิ่งรู้เหรอ นี่ฉันตาจะปิดแล้วเหอะ

“ชิ กับน้องกับนุ้ง”

ฉันหัวเราะเบาๆ พอกดวางสายจากพี่เจแล้ว ฉันก็วางโทรศัพท์ มือถือของตัวเองไปเอาไว้บนโต๊ะที่อยู่ตรงข้างเตียง หันหน้าไป มองทางหน้าต่างห้องนอนอย่างเหม่อลอย ตอนนี้คนที่อยู่ข้าง บ้านฉันจะทำอะไรอยู่นะ แต่คนอย่างเขาคงไปอยู่คอนโดอีกตาม เคยนั่นแหละ ก็เขาชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่านี่นา เอ๊ะ… แล้วนี่ฉันมานอนคิดถึงพี่คนอีกแล้วงั้นเหรอ ให้ตายยัยขวัญ

@ห้างสรรพสินค้า D

ฉันโทรนัดพี่เจให้มาเจอกันที่ร้านอาหารภายในห้างฯ เพราะ วันนี้ฉันไม่รู้จะทำอะไรน่ะสิ พออยู่บ้านเฉยๆ ฉันก็พลอยจะคิดถึง แต่พี่คินตลอดเลย บ้าที่สุด!

“ฉันกับแกอยู่ด้วยกันบ่อยจนผู้ชายฉันจะหายหมดแล้วนะ” พี่ เจหันมามองบน ใส่ฉันระหว่างกำลังเดินซื้อของ ฉันเบ้ปากเล็ก น้อย และยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านทันที

“ก็ขวัญไม่รู้จะมากับใครหนิ เพ้นท์มันก็ต้องทำงาน มีแต่พี่นั่น แหละว่างตลอด
“รู้ได้ไงว่าฉันว่าง ฉันอาจจะมีนัดกับผู้ที่ได้

“พี่จะทิ้งให้ขวัญอยู่เหงาๆ คนเดียวจริง” ฉันหันไปมองพี่เจ ตาปริบๆ จนพี่เจถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเหนื่อย หน่าย

“ไม่ต้องมาทำหน้าตาแบบนั้น ฉันไม่สงสาร

“เชอะ!” ฉันสะบัดหน้าหนีพี่เจอย่างหมั่นไส้ทันที ที่กับน้องไม่ เคยจะสงสารหรอก ให้ตายสิ

“เอ๊ะ….นั่นใช่พี่คนที่แกส่งรูปมาให้ฉันดูเมื่อคืนปะ หน้าเหมือ มอะ”

ฉันหันขวับไปมองตามนิ้วชี้ของพี่เจด้วยความรวดเร็วจนคอ แทบเคล็ด และพอเห็นว่าเป็นคนที่กำลังเดินเลือกซื้อของกับผู้ หญิงท่าทางน่ารักที่เกาะท่อนแขนแข็งแรงของเขาและคอยดึงให้ เดินตามเธอไป ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของฉันกระตุกวูบลงไปอยู่ ที่ตาตุ่ม ฉันกัดริมฝีปากล่างแน่นทันที ให้ตายเถอะ… บ้าชะมัด

เลย

“น่าจะใช่”

“อย่าทำหน้าหงอยแบบนั้น เมื่อกี้ยังเถียงกับฉันหน้าระรื่นอยู่ ลย”

พี่เจผลักหัวฉันเบาๆ หนึ่งที ฉันเลยได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไป ให้เขา แล้วสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติของตัวเองอีกครั้ง

“เห็นแค่นี้ขวัญยังเจ็บเลยอะ อย่าว่าแต่อยู่ใกล้เขาบ่อยๆ เลย

“อย่าไปยอมแพ้สิ แกชอบมาตั้งนานนม

“ไม่อยากยอมแพ้หรอก แต่พี่ดินมากับผู้หญิงนะพี่เจ

ฉันหันไปพูดเสียงหนัก ใส่พี่เจทันที เหอะ ฉันก็รู้อยู่หรอกนะว่า พี่คนน่ะเจ้าชู้ แต่พอมาเจอกับตาตัวเองแบบนี้มันกลับรู้สึกเจ็บ กว่าที่คิดซะอีก บ้าจริง

“แล้วไง อาจจะไม่ใช่แฟนก็ได้ ไหนแกบอกพี่คนของแกเจ้าชู้

ไง”

“แต่ว่า…”

“เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ไปเลย

“พะ..พี่เจ เดี๋ยวสิ”

พี่เจพูจบก็จับข้อมือบางแล้วลากให้ฉันเดินไปทางพี่กินด้วย ความรวดเร็ว แม้ว่าฉันจะพยายามดึงข้อมือของตัวเองออกขนาด ไหน แต่ก็สู้แรงควายของพี่เจไม่ได้อยู่ดี เกรอะไรแรงเยอะชะมัด เลย!

“ขวัญ”
เสียงทุ้มเข้มตั้งขึ้น ฉันถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอดังอีก แล้ว ค่อยๆ หันไปยิ้มกว้างให้พี่คน ส่วนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ถึง กับมองมาทางฉันด้วยความมึนงงปนสงสัยทันที

“พี่ดินสวัสดีค่ะ เอ่อ… นี่พี่เจ พี่ที่มหาลัยขวัญน่ะค่ะ”

สายตาคมดุตันมองลงมายังข้อมือบางของฉันนิ่งๆ เพราะพี่เจ ยังคงจับเอาไว้แน่น ฉันเลยค่อยๆ ดึงข้อมือของตัวเองออกจาก มือพี่เจเบาๆ แล้วส่งยิ้มไปให้ร่างสูงใหญ่ แต่พี่เจกลับยังไม่ยอม ปล่อยข้อมือของฉันซะได้ อะไรของของพี่เจเนี่ย!

“สวัสดีครับ”

ฉันเลิกคิ้วข้างหนึ่งและหันขวับไปมองทางพี่เจด้วยความงุนงง พี่เจจะทำเสียงเข้มเพื่ออะไรอ่ะ ฉันตกอกตกใจหมด เพิ่งจะเคย ได้ยินพี่เจใช้เสียงแบบนี้ ฉันเกือบหลุดขำไปแล้วถ้าไม่ติดว่า กำลังซึมจากการที่ต้องมาเห็นพี่คนกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้นะ

“ใครคะพี่คิน”

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่คนมองมาทางฉันกับพี่เจ แล้วเธอก็เงย หน้าขึ้นไปถามร่างสูงใหญ่เสียงสดใส แถมยังยิ้มกว้างส่งไปให้ เขาอีกต่างหาก
“ขวัญน่ะ เพื่อนน้องสาวพี่” ร่างสูงใหญ่จ้องมองใบหน้าของฉัน แล้วสักพักเขาก็เอ่ยบอกผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาด้วยน้ำเสียงทุ้ม เรียบนิ่ง ทำไมฉันถึงเจ็บอีกแล้วล่ะ ให้ตายสิ

“อ๋อ เหรอคะ ฉันซือเพียวนะคะ” เพียวส่งยิ้มสดใสมาให้ฉันกับ พี่เจ ฉันเลยส่งยิ้มอย่างฝืดเคืองหน่อยๆ กลับไปให้เธอเป็นการ ทักทาย

“แล้วนี่ขวัญมาทำอะไรที่นี่

พี่คนหันมาถามฉันอีกครั้ง แต่สายตาคมดุดันเหลือบมองมายัง ข้อมือของฉันที่พี่เจยังคงจับเอาไว้อยู่ ว่าแต่พี่เจจะจับข้อมือฉันอีก นานปะ พอจะสะบัดออกเขาก็จับแน่นขึ้นแถมยังถลึงตาใส่ฉันอีก ต่างหาก อะไรของพี่เจเนี่ย!

“เอ่อ… มาซื้อของน่ะค่ะ

“ขวัญ ไหนหิวไง ไปหาอะไรกินกันมั้ย

ฉันหันขวับมองหน้ามองพี่เจด้วยความงุนงงหนักกว่าเดิม เลิก คิ้วและถลึงตาใส่เขาอย่างไม่เข้าใจด้วยความรวดเร็ว แล้วพี่เจาะ มาพูดเสียงเข้มมาดแมนเกินเบอร์กับฉันทำไมอะ

“อะไรอ่ะพี่เจ ขวัญยังไม่ได้..

พริบ!
“ตามๆ ฉันไปเถอะน่า

พี่เจบีบข้อมือฉันเบาๆ อย่างปรามๆ แล้วเขาก็ก้มลงมากระซิบ ใกล้ใบหูของฉันด้วยความรีบร้อน ฉันเลยได้แต่พยักหน้าหงิก หนักถึงจะยังไม่เข้าใจที่พี่เจพูดเท่าไหร่ก็เถอะ

“เอ่อ กะ….ก็ได้ค่ะ”

“พี่จะไปหาอะไรกินพอดี ไปด้วยกันมั้ยขวัญ เจมาด้วยก็ได้นะ”

จู่ๆ พี่คนก็ถามฉันเสียงเข้มต่ำลงเล็กน้อย แล้วเขาก็หันไปถาม พี่เจที่ยืนข้างๆ ฉันนิ่งๆ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนพี่คนกำลังอารมณ์ไม่ ดีเลยอะ เขาไปหัวเสียอะไรมาหรือเปล่านะ

“ครับ”

หมับ!

“พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย”

พอเดินกับเพียวเดินห่างจากฉันกับพี่เจไปไกลพอสมควร ฉัน ก็หันไปดึงแขนพี่เจและถามเขาด้วยความสงสัยปนมึนงงกับเหตุ การณืเมื่อกี้ทันที

“อ่อยขั้นแรกไงล่ะ” พี่เจยิ้มกว้าง แล้วยักคิ้วให้ฉันสองสามที อย่างมีเลศนัย
“อ่อยอะไร นี่มันอ่อยตรงไหน

“เอ้า ฉันอุตส่าห์ทำตัวเหมือนเป็นแฟนแกเลยนะ ยังจะซื้ออีก

“แฟน!?” ฉันเบิกตาโพรง และอุทานออกมาเสียงดังโดยไม่รู้ ตัวจนพี่เจรีบเอามือมาปิดปากฉันไว้ด้วยความรวดเร็ว

“ซูว อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวแผนฉันก็แตกหมด

“แผนบ้าไรพี่เจ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ฉันดึงมือพี่เจออก แล้ว มองเขาคิ้วขมวดมุ่น ฉันไม่เข้าใจกับแผนอ่อยบ้าบอของพี่เจเลย ให้ตายเถอะ

“ฉันจะแกล้งเหมือนคบกับแกไง แล้วคอยดูว่าพี่คนของแกจะมี ท่าทางแบบไหน

“แล้วถ้าเขาไม่ได้มีท่าทางแบบที่พี่คิดล่ะ

“เขาก็คงไม่สนใจแกจริงๆ อย่างที่แกคิดนั่นแหละ”

คำพูดของพี่เจบาดลึกลงไปในจิตใจของฉันจนมันหน่วงและ ดิ่งลงเหวโดยไม่รู้ตัว ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่าง เซ็งๆ แล้วเหลือบมองไปทางพี่กินกับเพียวที่เดินคุยกันพร้อมกับ หัวเราะอย่างสนุกสนาน

“งั้นพี่ไม่ต้องทำแผนอ่อยอะไรนี่แล้วแหละ ก็ดูด พี่คนดูไม่สนใจขวัญจริงๆ”
ฉันเหลือบมองไปทางพี่กินกับเพียวที่เดินคุย หัวเราะกันอย่าง มีความสุขด้านหน้าห่างออกไปไกลพอสมควร

“บอกว่าอย่าเพิ่งคิดแบบนั้นไง เขาไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนกัน นั่นก็คือแกยังมีหวังไงล่ะ”

4. ฉันเงียบและม่มีอารมณ์จะพูดอะไรออกมา พอลองมองไป ทางร่างสูงใหญ่ที่เดินห่างจากฉันกับพี่เจอีกครั้ง ฉันก็ได้แต่ถอน หายใจแล้วถอนหายใจอีก มันจะมีหวังแน่เหรอ…

“เถอะน่า ทำตามที่ฉันบอกก็พอ เข้าใจปะ

พี่เจเอามือมาลูบหัวเพื่อปลอบใจฉันเหมือนเป็นลูกหมาหลง ทาง ฉันพยักหน้าหงิกหงักกลับไปให้เขา แล้วหันไปมองทางที่ดิน แต่คราวนี้เราสองคนกลับสบสายตากันโดยบังเอิญ ฉันชะงักไป เล็กน้อยก่อนจะหันมามองพี่เจและกลบเกลื่อนอาการประหม่า ของตัวเอง เมื่อกี้เหมือนพี่คนจะส่งสายตาคมดุดันจ้องฉันอย่าง ไม่ค่อยพอใจด้วยอ่ะ บ้าน่า… คงไม่ใช่หรอกมั้ง เขาจะทำแบบนั้น ทําไมกันล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ