บทที่9ตัวตลกเฉินหยาง
ฉีเจียวเจียวเป็นผู้หญิงปลิ้นปล้อน เธอมีเล่ห์เหลี่ยมมากๆ รู้ว่าพึ่ง พึงสั่งซึ่งอันได้ไม่นาน ดังนั้นตัวเธอเองก็ใช้เงินของสังซึ่งอันเปิด ร้านอาหารยุโรปเงียบๆ ตั้งนานแล้ว นอกจากนั้น เธอก็ยังช่วยสัง ซึ่งอันหาเงิน เพื่อมาสะท้อนให้เห็นคุณค่าของตัวเอง
นี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่เธอเล็งถึงบริษัทYD
ยิ่งไปกว่านั้น เจียวเจียวก็ยั่วคนตาเดียวอีก แม้ว่าคนตาเดียว จะเป็นลูกน้องของสังซิ่งอัน แต่ว่าสั่งซึ่งอันก็ยังต้องพึ่งคนตาเดียว ให้หน้ากับคนตาเดียว เพราะฝีมือของคนตาเดียวดีมากๆ ยังมี พี่ๆ น้องๆ อีกกลุ่ม ทุกๆ คนต่างเก่งมากๆ
ในตอนนั้นเอง ฉีเจียวเจียวจับมือซุกซนของคนตาเดียว พูดขึ้น “พี่ตาเดียว ยามน้อยคนนั้นตกลงแล้วประวัติความเป็นมาคือ อะไร? ”
คนตาเดียวได้ยินดังนั้น สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาพูด ต่อ “ฉันให้คนไปเช็คแล้ว เด็กนั่นชื่อเฉินหยาง สี่เดือนก่อนหน้านี้ กลับมาจากแอฟริกา จากนั้นก็มาเป็นยามอยู่ที่บริษัทYD”
“กลับมาจากแอฟริกา?” ฉีเจียวเจียวพูดขึ้น “ดูมีประวัติความ เป็นมา ฝีมือแบบเขาทำไมถึงต้องมาเป็นยามที่บริษัทYD?”
คนตาเดียวพูดขึ้น “เฮอะ ฉันยังเช็คได้อีกเรื่องหนึ่ง หลินชิงเสว่ มีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง แต่ว่าเพราะพลาดฆ่าคนหนีออกนอกประเทศไปนานแล้ว สามารถให้มือดีอย่างเฉินหยางมาเป็นยามได้ ฉันว่า เกินครึ่งมีเกี่ยวข้องกับพี่ชายของหลินชิงเสว่ เห็นได้ชัดว่าเฉิน หยางเพื่อปกป้องหลินชิงเสา โดยเฉพาะ
ไม่พูดไม่ได้ คนตาเดียว ฉลาดมากๆ เดาความเป็นมาได้จาก ข่าวกรองเพียงเล็กน้อยได้ทันที
ฉีเจียวเจียวพูดขึ้น “เฉินหยางคนนี้ทำอะไรอยู่ที่แอฟริกา?”
คนตาเดียวพูดขึ้น “ฉันรู้สึกได้ถึงแรงสังหารที่ซ่อนอยู่ในตัว เขา แรงสังหารนี้สะสมไปด้วยการฆ่าคนที่นับไม่ถ้วน ฉันว่าเขา อยู่ที่แอฟริกาเกินครึ่งก็คือกองทหารรับจ้างหรือนักฆ่า
ฉีเจียวเจียวอดตกใจอย่างแรงไม่ได้ พูดขึ้น “พูดแบบนี้ นาย คนนี้คือพวกเดนตาย! ขั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร? บริษัท YDนี้ธุรกิจสำเร็จ ส่วนตัวพวกเราหาเงินได้เกือบห้าพันล้าน ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้แก่นั่นจะต้องชมพวกเราว่าทำดีแน่นอน หรือว่า จะปล่อยไปแบบนี้?”
สายตาของคนตาเดียวเกลี้ยงเกลาขึ้นมาแวบหนึ่ง พูดขึ้น “แน่นอนว่าไม่สามารถปล่อยไปแบบนี้ นี่คือเมืองบึงไห่ เฉินหยาง เขาก็แค่ตัวคนเดียว แม้ว่าเขาเป็นมังกร เมื่อมาถึงที่ของเรา ก็ ต้องเล่นงาน”
ฉีเจียวเจียวพูดขึ้น “ก็ใช่ พี่ตาเดียว นายพี่ๆ น้องๆ เยอะขนาด นี้ ไม่ไหวจริงๆ ก็เรียกพี่ๆ น้องๆ นายมาช่วย ศิษย์พี่ของนาย ไม่ใช่อรหันต์ที่ไม่ขยับอะไรนั่นเหรอ?”
คนตาเดียวพูดขึ้น “ไม่ถึงตาจนก็ไม่จำเป็น ฉันไม่อยากทำให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องพวกนั้นตกใจ โดยเฉพาะศิษย์พี่ของฉัน”
ฉีเจียวเจียวไม่เข้าใจ พูดขึ้น “ทำไม?”
คนตาเตียวอดไม่ได้ถอนหายใจเบาๆ พูดขึ้น “เจียวเจียวคุณ ต้องรู้ ชื่อเสียงของคนเรานำพาความสะดวกสบายมาให้ได้ แต่ก็ สามารถกลายเป็นการผูกมัดเขากับตัวคนอย่างหนัก ฉันอยู่ที่เมือ งวิ่งไม่เป็นราชาแห่งผู้รักษาความปลอดภัย หากแค่เฉินหยางคน เดียวฉันยังจัดการไม่ได้ไปขอให้พวกเขาช่วย เผยแพร่ออกไป ก็ ทําร้ายชื่อเสียงของฉันอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าระหว่าง ศิษย์พี่ศิษย์น้องขอครั้งหนึ่งก็เป็นน้ำใจที่ยิ่งใหญ่
“แต่พี่ตาเดียว เมื่อวานพวกเราไปขายขี้หน้าที่หลินชิงเสวนั่น เกินพอแล้ว เหตุการณ์แบบนั้นต้องเอาคืนให้ได้” ฉีเจียวเจียวพูด ขึ้น
ในตาของคนตาเดียวเต็มไปด้วยความอัปยศอย่างรุนแรง เป็นความอัปยศอดสูที่สุดของเขา “เรื่องนี้ ฉันจัดคนไปตักเตือน คนของบริษัท YDแล้ว ไม่ต้องไปพูดมั่วซั่วข้างนอก ไม่อย่างนั้น พูดเรื่องนี้ออกไป ก็ไม่มีคนเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฉันไปขอศิษย์พี่ ศิษย์น้องของฉัน กลับทำให้เห็นชัดเจนว่าฉันไม่มีความสามารถ
ฉีเจียวเจียวอดร้อนรนขึ้นมาไม่ได้ พูดขึ้น “งั้นนายว่าควรจะทำ อย่างไร?”
เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น พูดขึ้น “เจียวเจียว ตอนนี้ฐานะพวก เราไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่ใช่นักเลงอันธพาล หลายๆ เรื่องก็ไม่ได้ จําเป็นต้องใช้กำลังตัดสิน เฉินหยางคนนี้พื้นเพก็ไม่ได้สะอาดพวกเราสามารถไปยืมกำลังของตำรวจได้
“นายหมายความว่า?” ฉีเขียวเจียวตาแพรวพราวขึ้นมา
คนตาเดียวพูดขึ้น “จัดการให้อันธพาลไม่กี่คนไปท้าทายกับ เฉินหยางได้ เฉินหยางก็แค่ต้องลงมือตีคน ก็ให้อันธพาลพวกนั้น แจ้งตำรวจ พวกเราค่อยให้เงินกับหัวหน้าหวงของพรรคตะวันตก หัวหน้าหวงก็จะรู้ได้เองว่าควรทำอะไร สรุปแล้ว พอถึงตอนนั้น หากเฉินหยางต่อต้าน งั้นจากนั้นก็คือออกหมายจับ หากไม่ต่อ ต้าน งั้นก็ต้องยอมจำคุก
ฉีเจียวเจียวได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ดีใจขึ้นมา เธอขยับปาก เข้าไปใกล้แก้มของคนตาเดียวแล้วกดจูบลงหนักๆ ครั้งหนึ่ง ก็ทิ้ง รอยลิปสติกสีแดงบนแก้มของคนตาเดียวทันที
“พี่ตาเดียว นายกำลังและความรู้ครบทุกด้านเลยจริงๆ ! ” ฉี
เจียวเจียวพูดชมอย่างสุดกำลัง
คนตาเดียวหัวเราะห์ จากนั้นก็เริ่มลูบไล้เจียวเจียว ทั้งสอง คนก็ทำศึกใหญ่บนโซฟายกหนึ่ง
เฉินหยางเล่นสนุกเต็มที่ไปทั้งช่วงเช้า ก่อนหน้านั้นตอนเป็น ยาม เขาก็คือคนว่าง ตอนนี้เขาเป็นคนขับรถของเจ้านาย ก็ยิ่ง ไม่มีคนใช้สอยเขา
นายกลิ้งไปมาในห้องทำงานหลายๆ ห้อง พูดหยอกล้อกับ พวกโสเภณีมีความสุขมากๆ แม้ว่าเฉินหยางจะลามกไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนรังเกียจ มีบางครั้งก็ล้อเล่นเป็นสีสัน พวก หญิงที่แต่งงานแล้วกลับมุทะลุมากกว่าเขา
อย่างเช่นเขานั่งที่ของคนที่ชื่อว่าพี่เป็น
พี่เล่นพูดขึ้น “ลุกออกไปเร็ว พี่จะนั่งแล้ว
เฉินหยางตบต้นขาทีหนึ่ง พูดขึ้น “ที่นั่งอ่อนสำเร็จรูป พี่เย็น คุณนั่งสิ”
กลุ่มผู้หญิงพากันหัวเราะเสียงดัง งั้นก็รู้เลยว่าพี่เป็นพูดขึ้น อย่างเฉยชามากๆ “พอแล้ว กูไม่นั่งที่นั่งอ่อนของนายหรอก สัก พักที่นั่งอ่อนก็เปลี่ยนเป็นที่นั่งแข่ง ที่นั่งแข็งก็เปลี่ยนเป็นที่นั่ง เสียบ อยากจะไปก็ไปไม่ได้แล้ว”
เฉินหยางตกตะลึงไปชั่วขณะ ผ่านไปสักพักถึงจะดึงสติกลับมา ได้ “พี่เย่น คุณมันผู้หญิง โรคจิต”
พวกสาวน้อยต่างพากันหน้าแดง หญิงที่แต่งงานแล้วก็หัวเราะ
ชอบใจ
ในช่วงเช้าที่ผ่านไปอย่างมีความสุข
ในตอนกลางวันนั้น หลินชิงเสาและถังซิงซิงอยากไปกินขนม ของสตาร์บัค ดื่มกาแฟนิดหน่อย
ผู้หญิงน่ะ แม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แค่ไหน ในใจก็ยังมีรสนิยม และฝันหวานที่โรแมนติก
ให้พูดอีกก็คือ รายจ่ายเล็กน้อยแค่นี้สำหรับหลินชิงเสาและถัง ชิงชิงแล้วก็ไม่นับอะไร
เฉินหยางที่เป็นคนขับรถ ก็ต้องรับชอบรับส่งแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ก็ถือโอกาสกินไปด้วยอีกมื้อ
เมื่อออกจากประตูใหญ่ของตึก เฉินหยางก็รีบต้อนรับทันที
“โอ้โห ประธานอ่า วันนี้คุณสวยจริงๆ” เฉินหยางเอ่ยชมแล้ว ยิ้มตาปิด
หลินชิงเสวี่ยังไม่ได้พูดอะไร ถังชิงชิงก็พูดมาก่อน “นายมีคำ ใหม่ๆ บ้างไม่ได้เลยหรือไง พลิกไปพลิกมาก็เป็นประโยคไม่กี่ ประโยคนี้”
เฉินหยางหัวเราะหึหึ พูดขึ้น “ชิงชิง คุณก็คืออิจฉาสินะ! ก็ ประธานสวยจริงๆ นี้ คุณเห็นว่าผมไม่ได้ชมคุณ คุณ คุณ นมก็ เล็ก คนยังดูอีก แบบนี้อนาคตหาคนแต่งยากนะ!”
ถังชิงชิงเท้าเอวพูดด้วยความโมโห “ไอ้เฉินหยาง กูเล็กตรง ไหน?” พูดจบก็หยุดยืนตรง
ก็ยังทะนงองอาจอยู่บ้าง
พูดตามตรง นมของถังซิงซึ่งไม่นับว่าเล็ก
เฉินหยางพูดขึ้น “งั้นนี่ก็ดูไม่ออก ใครจะไปรู้ว่าข้างในคุณยัด หรือไม่ยัดนะ! ต้องจับดูถึงจะรู้ว่าจริงหรือปลอม”
“นายฝันไปเถอะ” ถังชิงชิงโมโหอึดอัดพูดขึ้น
แม้ว่าใบหน้าของหลินชิงเสาจะนิ่งตึง แต่ก็หัวเราะภายในใจ เฉินหยาง เป็นตัวตลกคนหนึ่งเลย!
“ประธานอ่า แต่ว่าผมรู้ว่าคุณไม่ได้ยัด” เฉินหยางพูดขึ้นอีก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ