King of Fighter

บทที่ 15 อรหันต์



บทที่ 15 อรหันต์

ตามหลักแล้ว หลังจากที่เฉินหยางไปขู่แบบนี้ คนตาเดียวจะต้อง อยู่นิ่งไปเท่านั้น เพราะความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ ในระดับเดียวแต่เฉินหยางคาดเดาพลาดสิ่งหนึ่งไป นั่นก็คือ สถานะของคนตาเดียว คนตาเดียวเป็นลูกศิษย์ของวัดส้านหลิน ยังมีศิษย์พี่ศิษย์น้องที่เก่งจำนวนมาก

คนตาเดียวเย่อหยิ่งจนเคยตัว มาวันนี้ถูกเฉินหยางข่มขู่อย่าง ต่อเนื่อง เวลานี้สำหรับ คนตาเดียวทนไม่ไหวอีกต่อไป เป็นความ อัปยศที่ยิ่งใหญ่

ดังนั้นหลังจากเฉินหยางออกไป คนตาเดียวก็โทรหาเบอร์ ศิษย์พี่ใหญ่อรหันต์ที่ไม่ขยับ

“ศิษย์ !” น้ำเสียงของคนตาเดียวสั่นเล็กน้อย

ปลายสายผู้ชายส่งเสียงเย็นชามา กล่าว มีเรื่องอะไร?”

“ศิษย์พี่ ผมมีเรื่องแล้ว” คนตาเดียวพูด

“เรื่องอะไร?” ชายยังคงเสียงเย็นชา

ศิษย์พี่คนนี้ อรหันต์ที่ไม่ขยับเหมือนเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ ความรู้สึกใดๆ แสดงออกเฉยชาตลอด คนตาเดียวมักคิดว่าศิษย์ พี่ใหญ่หยิ่งเกินไป ดังนั้นเขาจะไม่รบกวนศิษย์พี่ใหญ่จนกว่าเขา จะไม่มีทางเลือก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ศิษย์พี่ใหญ่มีความเก่งกาจอยู่อย่าง แน่นอน

คนตาเดียวหายใจเข้าลึก พูดเสียงต่ำ ที่เมืองวิ่งไห่ พบเจอ ยอดฝีมือคนหนึ่ง”

ผู้ชายพูดอย่างเย็นชาจีนแผ่นดินใหญ่นี้ซ่อนคนที่มีพรสวรรค์ ไว้มากมาย คนยอดฝีมือนับไม่ถ้วน หากนายไม่หาเรื่องก่อน มัน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย

คนตาเดียวพูด แต่ตอนนี้ผมถูกหาเรื่องแล้ว ตอนนี้เขากับผม กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด หากศิษย์พี่ไม่ช่วยผม ศิษย์น้องผมกลัวว่าจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ยาก อยากขอ เชิญศิษย์พี่ยื่นมือเข้ามาช่วย

ผู้ชายนั้นเงียบไป นานกว่าถามขึ้น”ยอดฝีมือคนนี้ชื่ออะไร? เก่งกาจถึงขั้นไหน?”

คนตาเดียวพูด”เขาชื่อเฉินหยาง กลับมาจากแอฟริกา อาจจะ เป็นทหารรับจ้างหรือนักฆ่ามาก่อน วันนี้…….

เขาพูดถึงทักษะของแก้วไวน์ปักในไม้ด้วยมือเปล่าที่เฉินหยาง เผยออกมา แน่นอน คนตาเดียวไม่ได้บอกว่าเฉินหยางกำลัง แต่พูดว่าเฉินหยางกดขี่ จะแย่งเอาสมบัติของตัวเอง

“ศิษย์พี่ ถ้าวันมะรืนผมไม่เอาเงินสามล้านให้เขา เขาก็จะฆ่า ผม” คนตาเดียว พูดกล่าว “ผมเป็นศิษย์เส้าหลินคนส่วนมากใน ย่านนี้รู้เรื่องนี้ ถ้าผมยอมแพ้จริงๆ เรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ก็จะ ทำให้เสียหน้าพวกเราเส้าหลิน ท่านว่าใช่ไหม?
“แก้วไวน์ปักไม้! ” อรหันต์ที่ไม่ขยับกล่าวยอดฝีมือจริงๆ ฉัน จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

จากนั้น อรหันต์ที่ไม่ขยับก็วางสาย

คนตาเดียวถอนหายใจโล่ง เรื่องนี้มีศิษย์พี่ออกโรง เขาทางนี้ ยังมีเครือข่ายมากมาย กำลังคน ฉะนั้นเขาไม่กลัวเฉินหยาง อย่างแน่นอน

สําหรับเรื่องที่ตัวเองโกหกนั้น เขาก็ไม่กลัวศิษย์พี่รู้ความจริง

ศิษย์พี่ก็มาแล้ว แม้รู้ว่าตัวเองโกหก ก็คงไม่อยู่เฉย

เฉินหยางกลับถึงบ้านเช่าห้าทุ่ม โมงพอดี เวลานี้ ซูฉิงก็หลับ

แล้ว

เฉินหยาง ไม่ผิดหวัง

เขาต่อซูจึงมีความรู้สึกพิเศษเสมอ

เช้าวันถัดมา เฉินหยางส่งนิ่งไปทำงานอีกครั้ง

มีรถค่อยรับส่งไปที่ทำงาน ซึ่งสะดวกมาก

แต่เดิมซูฉิงรู้สึกเป็นทุกข์ใจอยู่เสมอ เพราะเธอสวยมาก ทุก ครั้งที่ไปเบียดในรถบัสชอบเจอพวกคุกคาม ตอนนี้มีรถแล้ว เธอ

ผ่อนคลายขึ้นมาก

หลังจากส่งซูฉิงไปทำงานแล้ว เฉินหยางจึงกลับหัวรถไปรับถัง ชิงชิงและหลินชิงเสว่ที่เขตวิลล่าหลิ่วเย่

ไอ้บ้า สายอีกแล้ว
หลังจากขึ้นรถ ถังซิงซิงบนเฉินหยาง พูดว่า “นายตรงเวลา หน่อยไม่ได้รึไง?”

เฉินหยางหัวเราะฮ่าๆ

ถังชิงชิงพูดไปส่งเพื่อนบ้านสาวอีกแล้ว?”

เฉินหยางพูด เหอะๆ ชิงชิงคุณฉลาดมาก

ถังชิงชิงหึงเล็กน้อย พูดขึ้น ทำไมไม่เห็นนายรับส่งพวกเรา สาวสวยทั้งสองตรงเวลาแบบนั้นบ้างเลย?

เฉินหยางพูดแค่ว่า มันเป็นทางผ่านหน้า

หลินชิงเสว่เงียบอยู่นาน เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเฉินหยาง แล้ว แต่มันก็ดูไม่ดีที่จะวิจารณ์เฉินหยางมากเกินไป เพียงแค่ พูด”ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปชิงชิง เราขับรถตัวเองไปทำงานกัน

ถังชิงชิงพยักหน้า แล้วพูดได้!” เธอพูดขึ้นอย่างลำบากใจอีก

ครั้ง แต่คนตาเดียวกับเจียวเจียวทางนั้น?

เฉินหยางพูดขึ้นทันที “สบายใจได้ คนตาเดียวกับเจียวเจียว ไม่กล้ามาหาเรื่องแล้ว

“เพราะอะไร?” “ผู้หญิงสาวทั้งสองถามขึ้นพร้อมกัน

เฉินหยางขับรถพร้อมกับพูดไปด้วย “ออ คืออย่างงี้ เมื่อคืนผม ไปหาคนตาเดียวบอกเหตุผลกับเขามากมาย จนในที่สุดเขาก็ถูก ผมพูดสกิตใจ กลับตัวกลับใจ ร้องไห้และสัญญาว่าต่อจะไม่กล้า ทําอีกแล้ว”
ถังชิงชิงและหลินชิงเสาได้ยินก็เข้าใจขึ้นมาบ้าง แม้ว่าเงิน หยาง ชอบพูดพล่าม แต่พวกเธอก็ฟังออกว่าเฉินหยางเมื่อคืน ต้องไปตกลงบางอย่างเพื่อเอกฉันท์กับคนตาเดียว

หญิงสาวทั้งสองก็รู้สึกโล่งใจจริงๆ

ผ่านเรื่องของคนตาเดียวมา หลินชิงเสาและถังชิงชิงปฏิบัติต่อ เฉินหยางเป็นคนกันเอง และหลินชิงเสวก็ได้ให้บัตรเครดิตวงเงิน หนึ่งแสนกับเฉินหยาง ถือเป็นรางวัลของเฉินหยาง

เฉินหยางรับบัตรอย่างมีความสุข ในใจคิดหญิงสาวคนนี้ไม่

เลว เป็นเจ้านายที่ดี

แม้หลินชิงเสว่ จะเป็นคนง่ายๆ แต่ไม่ได้โง่ จะไม่รู้ได้ยังว่าเฉิน หยางเป็นสมบัติล้ำค่า ดังนั้นจึงทำดีกับเขาหน่อย ซื้อใจของเขา ไว้ และหลินชิงเสวียังให้รถBMWเพื่อให้เฉินหยางขับรถต่อไป ตอนเช้าไม่ต้องมารับพวกเธอไปทำงาน

และถ้าหากเฉินหยางมีธุระ เลิกงานไม่ต้องไปส่งก็ได้

ไม่ต้องพูดถึง หลินชิงเสวี่ยังใส่ใจเกี่ยวกับปัญหาที่พักของ เฉินหยาง หลินชิงเสว่พูด “ฉันมีบ้านเก่าหลังหนึ่งว่างอยู่ ถ้านาย ไม่รังเกียจ จะเข้าไปอยู่ก็ได้ เป็นสองห้องนอนสองห้องโถง ทําความสะอาดหน่อย ก็ไม่เลวเลยนะ”

ทันในนั้น เฉินหยางก็ตกใจ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้

สําหรับเฉินหยางแล้ว บ้านเอื้ออาทรถือเป็นสวรรค์ของเขา เขา อยากไปที่นั่น ตอนนี้ เขาปฏิเสธทันทีอย่างมีเหตุผล “ท่านประธาน ผมหวังว่าจะมีบ้านเป็นตัวเองอยู่ด้วยมือของผมเอง ผม เป็นลูกผู้ชายอกสามศอก ต้องมีแรงฮึดสู้หน่อย”

หลินชิงเสวตะลึงเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า”นายมีความคิดที่จะ ยืนหยัดด้วยตัวเองก็ไม่เลว งั้นก็แล้วไป ถ้าไม่บังคับนายแล้ว

ถังขิงขิงหัวเราะเยาะทันทีพูด”พอได้แล้วชิงเสว่ แรงฮึดสู้บ้า อะไรของเขา เขาก็แค่ไม่อยากจากหญิงสาวเพื่อนบ้านของเขาก็ เท่านั้นเอง”

เฉินหยาง ถูกถังชิงชิงรู้ทัน หัวเราะเหอะๆ ทันที

หลินชิงเสว เห็นเข้าก็เข้าใจในทันที อดไม่ได้ที่จะโกรธและ ตลก ในเวลาเดียวกัน สองสาวก็อดสงสัยไม่ได้ เพื่อนบ้านสาว ของไอ้เฉินหยาง หน้าตาเป็นยังไงกันแน่ ทำให้เขาห่วงหาขนาด

สองสาวคิดว่าตัวเองสวย แต่ไม่เห็นไอ้นี่ห่วงหาสักนิดเลย?

เฉินหยางได้มาแสนหนึ่ง มือก็เอิกเกริกทันที หลังเลิกงานเขา รีบไปรับซูฉิงอย่างมีความสุข ซูฉิงก็เคยชินกับการที่เฉินหยาง คอยรับส่ง

บนรถ เฉินหยางพูดขึ้น“พี่ฉิง คุณดูเราสองคนไปกินข้าวข้าง นอกด้วยกันทุกวัน อาหารไม่สะอาด และสิ้นเปลืองเงินมาก ฉะนั้นเราเช่าห้องเพิ่มอีกห้อง ทำเป็นห้องครัว คุณว่ายังไง?”

ทันใดนั้นซูนิ่งหวั่นไหว เช่าเพิ่มห้อง หากแก้ปัญหาการกินข้าวได้ มันก็คุ้มค่าดีนะ
แต่เดิมซูฉิงก็มักจะกินอะไรง่ายๆ จากข้างนอก ตอนนี้อยู่กับ เฉินหยางทุกวัน ค่าใช้จ่ายในการกินข้าวของทั้งสองก็เพิ่มขึ้น ทันที

“ก็ได้!” ซูฉิงพยักหน้าเห็นด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ