King of Fighter

บทที่8บริษัทชิ่งอัน



บทที่8บริษัทชิ่งอัน

แต่ก็ในตอนที่เขากำลังวางแผนอีกขั้นนั้น ทันใดนั้นก็พบว่าหาง ตาของซูจึงมีน้ำตาใสใสไหลออกมา

เฉินหยางอดตะลึงไม่ได้

ในขณะนั้นเอง ก็เหมือนน้ำกะละมังหนึ่งสาดเข้ามาที่หัว

ซูฉิงพูดออกมาเสียงแผ่ว “พ่อ แม่ ขอโทษ เป็นที่ฉันไม่กตัญญู เป็นฉันที่ไม่เชื่อฟังพวกคุณ สมน้ำหน้าฉัน สมน้ำหน้าทั้งหมด

เฉินหยางเองก็เข้าใจว่าความลำบากในใจของซูฉิงเยอะมาก แค่ไหน

เธอเข้มแข็งเพื่อปกป้องความอ่อนแอของตัวเอง แต่ในใจกลับ

มีความอ่อนแออยู่

เฉินหยางถอนหายใจเบาๆ เขาหมุนตัวออกไปใช้กาน้ำร้อน ต้มน้ำ จากนั้นก็หากะละมังล้างหน้าและผ้าขนหนูของซูฉิง

รอให้น้ำร้อนได้อุณหภูมิดีแล้วจากนั้น เฉินหยางก็ล้างหน้าให้ ซูฉิงอย่างละเอียด จากนั้นก็ล้างเท้าให้ซูฉิง เมื่อทำเสร็จทุกอย่าง แล้ว เฉินหยางก็หาผ้าห่มบางๆ มาห่มให้ จากนั้นก็เปิดพัดลม

หลังจากนั้น เฉินหยางก็เก็บกวาดอาหารพวกนั้น หลังจากนั้น ถึงค่อยจะปิดไฟลงแล้วออกไป

ออกมาจากห้องของซูฉิง เฉินหยางก็ทนไม่ไหวถอนหายใจออกมา แม่งเอ๊ย เฉินหยางนะเฉินหยาง นายเป็นสัตว์ป่ามาโดย ตลอด วันนี้เสแสร้งเป็นกระต่ายอะไรล่ะ! โอกาสดีขนาดนี้ พลาด ไปแล้วยังมีอีกกี่ครั้ง

คิดไปคิดมา เฉินหยางยังคงกลับไปห้องที่ตัวเองเช่าตามตรง

หลังจากที่เฉินหยางกลับไปแล้ว ซูจึงลืมตาขึ้นบนเตียง ก่อนหน้านี้เธอดื่มเข้าไปเยอะจริงๆ แต่ดื่มเยอะแล้วก็ไม่ใช่ว่า ไม่มีสติ เธอแต่ไม่อยากกดทับความรู้สึกตัวเองอีก

เฉินหยางล้างหน้าล้างเท่าให้เธอ ดังนั้น ในตอนที่ทำทุกอย่าง นั้น ในใจของเธอรู้ดี

ในใจของซูฉิงรู้สึกมีความอบอุ่น รู้สึกว่าเฉินหยางเป็นเด็ก หนุ่มที่ดีมากคนหนึ่ง

เช้าวันต่อมา

ตอนที่ซูฉิงล้างหน้าล้างตานั้น เฉินหยางก็ถือโถน้ำชาไปล้าง หน้าล้างตา

พี่ฉิง “อรุณสวัสดิ์!” เฉินหยางฉีกยิ้ม พูดขึ้นอย่างเบิกบาน ซูฉิงเห็นเฉินหยางยิ้มอย่างอบอุ่น ในตอนนั้นก็รู้สึกว่าอารมณ์ ดีขึ้นมา ก็ยิ้มตาม พูดขึ้น “อรุณสวัสดิ์ ! ”

เฉินหยางพูดต่อ “อีกสักพักผมจะไปส่งคุณทำงาน”

ซูฉิงตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นลังเลสองจิตสองใจ “นี่มันก็ดี เกินไปแล้ว งั้นรถของเจ้านายของพวกนาย ก็มารับส่งฉันได้
เฉินหยางพูดขึ้น “เจ้านายของพวกเราเป็นคนดีนะ ไม่ต้องเกร็ง ยังไงก็เป็นทางผ่าน

ซูจึงได้ยินดังนั้นก็ไม่ทนอีกต่อไป

พาซูฉิงไปส่งทำงานถึงร้านโทรศัพท์มือถือของเฉินหยางก็ดัง ขึ้นมา

เฉินหยางสูดดมกลิ่นหอมของซูฉิงที่ทิ้งเอาไว้ภายในรถ ใน ตอนที่กำลังรู้สึกสบายใจอยู่นั้น เขารับโทรศัพท์อย่างไม่ได้คิด อะไร ทางนั้นก็เป็นเสียงของถังชิงชิงที่กำลังกดความโมโหลอย ออกมาทันที “ตอนนี้กี่โมงแล้ว? นายอยู่ไหน?”

เฉินหยางชายตามองเวลาบนGPSนำทาง ตอนนี้กลับเป็น เวลาแปดโมงครึ่งแล้ว

เขานึกถึงหลินชิงเสว่ว่าให้ตัวเขาไปรับตอนเจ็ดโมงขึ้นมาทันที “ผมไปเดี๋ยวนี้แหละ” เฉินหยางพูดจบก็วางสายทันที ทางถังชิงชิง ในเวลานั้นก็โมโหจนกือบตาย นายคนนี้ แม่ง โคตรแน่เลย

ในตอนที่เฉินหยางมาถึงวิลล่าหลิ่วเย้ก็เก้าโมงเช้าแล้ว เขาก็ มองเห็นหลินชิงเสวีและถังชิงชิงจากด้านนอกของเขตวิลล่า ใบหน้าสวยของทั้งสองสาวเต็มไปด้วยสีหน้าเย็นชา

เฉินหยางรีบลงจากรถ เปิดประตูรถอย่างว่าง่าย แล้วพูดขึ้น “หัวหน้าทั้งสองรีบขึ้นรถ
หลินชิงเสว่และถังชิงชิง นรถ

เฉินหยางก็ขึ้นรถตาม แล้วเคลื่อนรถออก

“ในรถคันนี้มีกลิ่นหอมของผู้หญิง” ถังซิงซิงไล่ต้อนถาม “เช้าๆ แบบนี้นาย ไปทำอะไรมา?

เฉินหยางหัวเราะห์ ขับรถไปพลางพูดไปพลาง “ชิงชิง จมูก ของเธอดีจริงๆ เลย ราวกับหมาอย่างนั้น

ทันใดนั้นเองถังชิงชิงก็โมโหจนจมูกแทบจะเบี้ยว พูดอย่าง อารมณ์ไม่ดี “จมูกนายถึงเหมือนจมูกหมา บ้านนายจมูกเหมือน หมาทั้งหมด”

เฉินหยางหัวเราะชอบใจ พูดขึ้น “ได้ได้ได้ ผมเป็นหมาน้อย ผมเป็นหมาน้อย

“คุณอย่าคิดว่าทําตลกกลบเกลื่อนมาใช้หลอกได้ นายอธิบาย มาดีๆ กลิ่นหอมนมาได้อย่างไร? นี่เป็นรถส่วนรวมนายรู้ไหม?” ถังชิงชิงเองก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย หลักแล้วก็เป็นเพราะตอน เข้ารอเฉินหยางไอ้เลวมาสองชั่วโมงเต็ม ดังนั้นรู้สึกโมโหมาก

เฉินหยางพูดขึ้น “อ่อ ผมไปส่งเพื่อนบ้านข้างๆ ไปทำงาน

“นายทำผิดไปหรือเปล่า? ” ถังชิงชิงพูดอย่างโมโห

เฉินหยางพูดขึ้น เพื่อนบ้านผมสวยมากๆ ใหญ่กว่าคุณด้วย” ถังชิงชิงแทบกระอักเลือด

แล้วในตอนนั้นเอง หลินชิงเสวก็อ้าปากขึ้น หลินชิงเสวีเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “เฉินหยางนายเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ฉันไม่ขออย่างอื่น กับนาย ฉันแค่หวังว่าอย่างน้อยนายแค่จิตสำนึกเกี่ยวกับเวลา

ที่จริงแล้วประโยคนี้ของหลินชิงเสวกว้างมากๆ ความหมายก็ คือ นายเอารถฉันไปส่งคนอื่น ได้ แต่ว่านายต้องไม่ทำให้ฉันเสีย เวลาทําธุระของฉัน

เฉินหยางพูดต่อทันที “ตกลงครับ ประธานหลิน ผมจะ พยายามนะ คุณควรจะยิ้มมากกว่านี้ ทำหน้าหงิกบ่อยๆ แก่ไว

หลินชิงเสาหันหัวออกไปมองด้านนอก ไม่สนใจเฉินหยางอีก

ต่อไป

เฉินหยางประจบไม่ได้ผล ก็เงียบไป

หลินชิงเสว่และถังชิงชิงสบตากันครู่หนึ่ง รู้สึกว่าจะทำร้าย ศักดิ์ศรีของเฉินหยางไปบ้าง

ในตอนที่หลินชิงเสว่กำลังจะอ้าปากปลอบใจเฉินหยาง

ในตอนนั้นใครจะรู้ว่า ทันใดนั้นเฉินหยางก็ฮัมเพลงขึ้นมา อะไรลูบขาคุณ น้ำเยอะจังอะไรพวกนั้น

หลินชิงเสว่และถังชิงชิงก็ตกตะลึง เชี่ย นายคนนี้คือของแปลก ชั้นหนึ่งที่มาจากไหนนะ! ยิ่งไปกว่านั้น เฉินหยางก็ฮัมจนเข้า กระดูกไปแล้ว สาวน้อยนทั้งสองก็ฟังจนหน้าแดงไปถึงกกหู

เฉินหยางเห็นสีหน้าของผู้หญิงทั้งสองคนไม่ค่อยดีนัก ก็รีบพูด ขึ้น “หัวหน้าทั้งสอง พวกคุณไม่ชอบฟังเพลงนี้เหรอ? งั้นผมเปลี่ยนเพลงดีไหม?”

หลินชิงเสว่และถังชิงชิงพูด โดยพร้อมเพรียงกัน “หุบปาก เฉินหยาง ในใจ ไม่มีอะไรก็หยอกล้อสองสาว ก็นับว่ายัง สนุกอยู่บ้าง

ในตอนนั้น ในอาคารศูนย์กลางที่เมืองพิงไห่ ภายในห้องทํางานสุดหรูชั้นสิบแปด

ฉีเจียวเจียวอยู่ในอ้อมกอดของคนตาเดียวอย่างเกร็งๆ มือคน ตาเดียวลูบไล้ไปตามขาขาวๆ ของเจียวเจียว ไม่นานก็ทำให้ เจียวเจียวคนนี้ร้องครางไม่หยุด

ฉีเจียวเจียวตกลงแล้วเป็นใครกันแน่?

โดยภายนอกเธอเป็นหัวหน้าผู้จัดการของบริษัทซึ่งอัน แท้จริง แล้วเป็นหญิงชู้ของบริษัทชิ่งอันท่านประธานใหญ่ตั้งซึ่งอัน

บริษัทซึ่งอันที่เมืองบึงไห่นั้นมีชื่อเสียงมาก ดาราบุกเบิกธุรกิจ

ธุรกิจด้านล่างต่างๆ ก็มีผ่านตา และยิ่งไปกว่านั้นที่คนนอกไม่รู้ ก็คือ สั่งซึ่งกันและเมืองบึงให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอ๋อง หลงที่เป็นคิงมาเฟีย

และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่หลายๆ บริษัทไม่กล้าหือกับสังซึ่งอัน สั่งซิ่งอันให้คนตาเดียวก่อตั้งบริษัทยามก็คืออาวุธอย่างหนึ่งของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ