การแต่งงานคือสายฝน: ภรรยาสุดรักของ ประธานาธิบดี

บทที่ 25 อย่าบอกผมนะ ว่าคุณไม่ต้องการ?



บทที่ 25 อย่าบอกผมนะ ว่าคุณไม่ต้องการ?

“มณีจันทร์ พอได้แล้ว” คุณตาบอกกับคุณยายแล้วมอง ไปที่ภัครด้วยสีหน้าเคร่งครึมไม่เปลี่ยน “คุณยายเขาหาสะใภ้ มาให้แก ลองไปดูสิว่าชอบคเปล่า”

“อะไรนะครับ?” ภัครเงียบ รังศีความเคร่งครีมในตัวของ

เขายิ่งกว่าของคุณตาเมื่อสักครู่อีก “ให้ผมกลับมาเพื่อจับคู่

เนี่ยนะ?”

“ไม่ได้จับคู่ แต่เด็กคนนี้ช่วยชีวิตย่าไว้เมื่อตอนกลางวัน เธอบอกว่าให้ตอบแทน ย่าคิดดูสักพักก็เลยว่าให้หลานเอา ตัวเข้าแลกเป็นการตอบแทนดีที่สุด” คุณยายหัวเราะอย่างมี ความสุข

ภัครหัวเราะหึๆในลำคอ “นอกจากผม ย่าอย่าลืมนะครับ ว่ายังมีคุณปู่ด้วย”

คุณย่าตบเข้าไปที่ไหล่ของภัครอย่างแรง “เจ้าเด็กนี่ คุณปู่ของแกมีย่าแล้วนี่ไง ใครบอกให้แกยังโสดถึงทุกวันนี้ ล่ะ”

ภัครตอบหน้านิ่ง “ผมไม่ใช่หาไม่ได้ แต่ผมยังไม่อยากมี คืนนี้ผมยังมีงานต่อ ผมไปก่อนนะ”

ขณะที่ภัครกำลังหมุนตัวกลับ

“คุณตาคะ คุณยายคะ อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ” เอมมิ กาตะโกนมาจากในบ้าน

ภัครนิ่งไป เดินเลี่ยงคุณย่าของเขามาที่ประตู เธอใส่ผ้ากันเปื้อนยืนอยู่บนโต๊ะอาหาร กำลังตั้งใจวาง ตะเกียบ แสงสีส้มอ่อนในห้องอาหารสาดเข้าที่ตัวเอมมิกา ทำให้เธอดูอ่อนโยนและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น

ตอนนี้สีหน้าของภัครเปลี่ยนไปเป็นสีรุ้งเลยก็ว่าได้ จาก

นั้นเดินเข้าไปหาเอมมิกา

เอมมิกามองไปที่ประตู เธอนิ่งไปเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เป็นภัคร

อย่าบอกนะว่า คุณภัครเป็นหลานของคุณยายคนนั้น

เอมมิกาตกใจถอยหนีไปหนึ่งก้าว

คุณย่าเมื่อเห็นความผิดปกติของหลานชายเลยขยิบตา ให้คุณปู่พร้อมบอก “งานนี้สนุกแน่”

“อย่าไปยุ่งกับหลานเลย” คุณปู่จับมือคุณย่าแล้วเดิน เข้าไปพร้อมกัน ภัครไม่ได้พูดอะไรกับเอมมิกา เขาลากเก้าอี้ออกเพื่อที่

จะนั่ง ตอนนี้ภัครนิ่งมากเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงของเขา

เอมมิกาเมื่อเห็นว่าภัครทำเป็นไม่รู้จักเธอมาก่อน เมื่อ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน เธอเลยรีบเดินกลับเข้า ห้องครัวเพื่อที่จะไปตักข้าว

เอาไงดีเอมมิกา ฉันควรจะไปหรือไปดี? ถ้าไปก็กลัวคุณยายจะทำร้าย ไม่ไปก็กลัวตาภัครจะทำ อะไรอีก

เอมมิกาหลังจากที่ตักข้าวให้ทุกคนแล้ว ไม่กล้ามองหน้า ภัครเลย

“หนูเอม ทานข้าวด้วยกันสิจ๊ะ อีกหน่อยเราก็เป็น ครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของหนูนะ” คุณยายบอกกับเอมมิกาอย่างใจดี

“ไม่ทานแล้วค่ะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ถ้ายังไม่กลับบ้านอีก คนที่บ้านเป็นห่วงแน่ๆเลยค่ะ” เอมมิกาถอดผ้ากันเปื้อนออก

“มีโทรศัพท์ไม่ใช่หรอ? โทรหาคนที่บ้านสิ อีกอย่างที่ นี่อยู่ตั้งไกลจากตัวเมือง หนูจะโทรเรียกคนมารับก็ต้องใช้ เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง กินข้าวด้วยกันเถอะ เดี๋ยวกินเสร็จ หลานย่าก็เข้าเมืองเหมือนกัน เขาไปส่งเธอได้นะ อีกอย่างหนู ไปไปมามาแบบนี้ทุกวันก็เหนื่อย ถ้าอยู่ที่นี่ได้ก็พักที่นี่เลยจะ ได้สะดวก’ คุณย่าพูดดักทางทั้งหมดของเอมมิกา

เอมมิกาจะกลับตอนนี้ ก็กลับไม่ได้อยู่ดี เพราะมันดู โจ่งแจ้งน่าเกลียดเกินไป

“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ” เอมมิกาเอาผ้ากันเปื้อนพาดที่เก้าอี้ แล้วนั่งตรงข้ามภัครทำเป็นยิ้มแล้วคุยกับเขา “ท่านประธาน คะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จคุณก็จะกลับเลยใช่ไหมคะ?”

ภัครที่เห็นเธอกำลังยิ้มอยู่เลยตอบกลับไป “ใช่” “งั้นขับรถดีๆนะคะ ตอนนี้ก็มือมากแล้ว บนเขามีแต่ทาง เลี้ยวโค้ง คืนนี้ฉันจะพักที่นี่เองค่ะ ฮ่าๆ” เอมมิกา มแห้งๆ ก้ม หน้าหยิบตะเกียบขึ้นมา

ภัคร :

ตอนนี้คุณย่าอารมณ์ดีมาก ท่านกินผักกาดไปหนึ่งคำ สักพักอารมณ์ก็ไม่ดีอีก มองไปทางคุณปู่ “ตาแก่”

คุณปู่รู้ดีว่าคุณย่าคิดยังไง เขากินผักกาดไปหนึ่งคำ แล้ว ไม่สนใจคุณย่า

คุณย่ารู้สึกเสียใจ แม่ครัวที่หามาเองจะไม่อร่อยยังไงก็ ต้องกินเข้าไป

เอมมิกาพอจะเดาสถานการณ์ออก ”จืดไปหรอคะ? อายุ มากแล้วไม่ควรกินเค็มมากนะคะ กินของที่ต้มเปื่อยก็พอแล้ว ค่ะ ใช่ไหมคะ อีกอย่างคุณย่าทานหมูตุ๋นน้ำแดงนี่สิคะ หนูใส่ น้ำตาลเข้าไปเยอะเลย คุณย่าน้ำตาลในเลือดต่ำใช่ไหมคะ?”

“ละเอียดอ่อนดีจัง” คุณย่ากินหมูตุ๋นน้ำแดงไปหนึ่งคำ

“ทำไมถึงเผ็ดล้ะ?” คุณปู่ถาม

“หนูดูวิธีทำมาจากในเน็ต ตอนที่คุณแม่หนูทำท่านก็ ใส่พริกนิดนึงนะคะ มีอะไรรึเปล่าคะ? ใส่พริกไม่ได้หรอคะ? แหะๆ ” เอมมิกายิ้มแห้งๆ “หนูบอกแล้วนี่คะว่าหนูทำอาหารไม่ อร่อย”

ภัครมองไปทางเอมมิกา แววตาของเขาตระหนักถึงความ รู้สึกน้อยใจของเอมมิกา พูดเสียงต่ำ “กินข้าวของเธอไป”

“ค่ะ” เอมมิกาก็เหลือแต่ภัครนี่แหละที่ไม่วิจารณ์อาหาร

ที่เธอทํา

แถมภัครยังกินไปเอยะด้วย

เอมมิกาลองชิมฝีมือตนเองไปหนึ่งคำ ก็ยังโอเคนี่ ทำครั้งแรกออกมาได้แบบนี้ ก็ไม่ง่ายเลยนะ

คุณย่าที่พิถีพิถันด้านอาหารถึงกับกินไปครึ่งถ้วย อันที่ จริงมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

สิ่งที่ทำให้คุณย่ากินเยอะก็คืออารมณ์ที่ตอนนี้ดีมากเลย

หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ เอมมิกาอาสาล้างจานเอง

เธอได้ยินเสียงปิดประตู หันกลับไปดู ภัครก็ยืนอยู่ข้าง หลังเธอแล้ว ตอนนี้สติของเอมมิกาหลุดไปแล้ว “คุณบอกว่า กินเสร็จแล้วจะกลับเลยไม่ใช่หรอคะ?”

เขาล็อคประตู

เอมมิกาตกใจ อยากจถอยหนี แต่เธอก็อยู่ติดขอบที่ล้าง

จานแล้ว ภัครเดินเข้าไปหาเอมมิกา แล้วจับมือทั้งสองข้างของเธอ ไว้ติดขอบอ่างล้างจาน ประชิดตัวไว้ให้เอมมิกาอยู่ระหว่าง หน้าอกแผงใหญ่ของเขากับอ่างล้างจาน มองลึกเข้าไปในดู ตาเอมมิกา “ทางบนเขาเลี้ยวลด ดึกแล้วมันอันตราย นี่ไม่ใช่ ” คำใบ้ของเธอเพื่อบอกให้ฉันอยู่ต่อหรอ?

ทุกคำที่ภัครพูดออกมาลมนั้นอยู่ตรงหน้าของเอมมิกา

ตอนนี้ระหว่างเขากับเธออยู่ใกล้ชิดกันมา

เธอผลักอกภัครออกไป

อุณหภูมิในตัวภัครสูงมาก แม้จะมีเสื้อสูทกั้นไว้ แต่เอมมิ กาก็สัมผัสได้ พอนึกถึงจูบเมื่อตอนกลางวันแล้ว เอมมิกายิ่ง อึดอัดใจ “คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่าง นั้น”

“ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นแล้วมาเข้าหาคุณย่ามา ทำอาหารให้ทำไม ไม่ได้คิดแบบนั้น คุณจะให้ผมเอาตัวเข้า แลกเพื่อเป็นการขอบคุณ ไม่คิดแบบนั้นแล้วจะวนเวียนอยู่ รอบตัวผมทำไม อย่าบอกผม ว่าคุณไม่อยากนอนกับผม” ภัค รพูดแบบตรงไปตรงมา แววตาของเขามองที่ตาของเอมมิกา เหมือนทั้งสองกำลังใช้สายตาคุยกัน

ถึงยังไงเอมมิกาก็ยังเป็นผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์ ถึงแม้เธอ จะดูเข้าถึงง่าย เป็นคนลุยๆ ไม่ค่อยมียางอายเท่าไหร่ แต่นี่ ก็ทำให้เธอเขินจนแดงไปถึงหู ตอนนี้ใจของเธอเต้นเร็วมาก เธอกลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน ปรับเสียงตัวเองให้ต่ำลง “ใครจะอยากนอนกับคุณ ไม่มีอะไรดีสักหน่อย” เอมมิกาต้องการที่จะปฏิเสธภัครจริงๆ

ด้วยเสียงที่หวานโดยธรรมชาติ แล้วโตในสังคมแบบนี้ อีก คำพูดของเธอเลยเป็นเหมือนการพูดแบ๊วๆแทน

ภัครมองเอมมิกาหน้านิ่ง เขากำลังมองเอมมิกาอย่าง พิจารณา เหมือนมีไฟบางอย่างกำลังร้อนรุ่มในตัว

ภัครก้มหัวลง ใช้ปากของเขาประกบไปยังปากของเอมมิ กา

เอมมิการู้สึกเหมือนตัวเองโดนไฟช็อตที่ปาก มันชาไป หมด จนเธอต้องถอยหนี

ภัครยังไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดอีกหรอ?

“คุณภัคร อย่า……” คำพูดของเธอถูกลืนหายเข้าไป ภัครเอามือมาดันหลังเอมมิกา เพื่อที่จะไม่ให้เธอถอยหนี แล้ว ใช้ปากปิดปากเธอไว้ บดขยี้เข้าไปในปากของเธอ ตอนนี้ ลิ้นของทั้งสองฝ่ายกำลังแลกกันอยู่ ตอนนี้เอมมิกาแทบจะ หายใจไม่ออกเพราะถูกภัครดูดเอาอากาศไปจนหมด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ