การแต่งงานคือสายฝน: ภรรยาสุดรักของ ประธานาธิบดี

บทที่ 11 ท่านประธานคะ ฉันยังบริสุทธิ์



บทที่ 11 ท่านประธานคะ ฉันยังบริสุทธิ์

บาร์เทนเตอร์ ทำสีหน้าตกใจมองไปยังกรีม

“ฉันเป็นคนชงแก้วนี้ เธอพูดถูก ฉันใช้เหล้าดีในการชงทั้งนั้น” ตอบกลับด้วย

น้ำเสียงเย็นชา

ภาคภูมิมองไปยังภัครด้วยความตกใจ

ภัครเป็นคนนิ่งมาก นิ่งเหมือนภูเขาน้ำแข็ง เขามักจะไม่ค่อยแสดงสีหน้าอะไรออกมา

“เฮียรอง พี่สองเธอหรอ? ดื่มยังรู้เลยว่าใส่อะไรเข้าไปบ้าง”

“เปล่า” ภัครตอบ แล้วมองไปทางเอมมิกา

“เธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยัง?” ภาคภูมิถาม

แววตาสดใสของเอมมิกา ยิ้มตอบกลับไป “ฉันแชอยู่ในถังเหล้าจนโต”

“เธอชอบพูดโม้นะ เหล้าพวกนี้ราคาสูงมาก หรอ? ฮียิ้มเยาะ ยื่นแก้ว เหล้าให้เธอ พร้อมบังคับให้ตอบ “บอกมาข้างในนี้มีอะไรบ้าง”

สั่งให้บอก แล้วเธอต้องบอกงั้นหรอ?

งั้นก็แทบไม่ให้หน้ากันเลยนะสิ

“เธอก็คิดว่าฉันพูดโม้ไปละกันนะ” เอมมิกาตอบกลับหน้าตาเฉย กระพริบตาขวาด้วย ความขี้เล่น “ฉันไปห้องน้ำเปปนึง”

ทำเอาภรีมโกรธจนหน้าเขียวหน้าแดง

ทำแบบนี้เหมือนตัวเองเป็นเด็กเรียกร้องความสนใจ ภรีมโมโหมาก วางแก้วเหล้าลง บนโต๊ะเสียงดัง

ณ ห้องน้ำ

เอมมิกาล้างหน้าด้วยน้ำเย็น

สปายทัส 90 มันแรงมาก ตอนนี้เอมมิกาเริ่มมีน เธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่ ได้ ต้องรีบออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นฉันเมาแล้วบ้าแน่นอน เอมมิกาบอกกับตัวเอง

เอมมิกากลัวตัวเองเมาแล้วทำตัวแปลกๆ เพราะเธอเคยมีความหลังกับเรื่องนี้ เลยจะ

รีบกลับ

ภัครผลักประตูเข้ามา “เป็นอะไรไหม”

เอมมิกาพยักหน้า “ขอโทษนะคะ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ ”

“เธอไม่ควรดื่มแก้ว” ภัครบอกพร้อมกับพยุงตัวเธอขึ้นมา

เอมมิกาผลักมือเขาออก ตาของเธอเริ่มแดง เธอไม่พูดอะไรเอาแต่ยิ้มแล้วเดินไปข้าง

หน้า

บนโลกนี้มีหลายอย่างที่ไม่ควร ถึงแม้ว่าเธอไม่ใช่คนผิด แต่เรื่องก็เกิดแล้ว มันเลย กลายเป็นความผิดของเธอ ไม่เป็นไร แค่ไปจากที่นี่ทุกอย่างก็จบ

ไม่รู้ว่าเดินไปไกลเท่าไหร่แล้ว ในสมองของเธอเห็นคนมากมาย ภาพเก่าๆกลับมา ฉายอีกครั้ง ทำให้ความอ่อนแอที่สุดในตัวเธอเผยออกมา มันช่างหนาวเหลือเกินเธอสั่นไป ทั้งตัว

ภัครเดินตามเธอไป เขาคิดหลายนาที ก่อนจะพยุงเธอขึ้นมา “บ้านเธออยู่ไหน ฉันให้

พชรไปส่ง”

เอมมิกาลืมตาขึ้น “ฉันไม่มีบ้าน”

เธอพูดอะไรผิดไป ถุย ฉันพูดผิด ฉันมีบ้าน ฉันมีพ่อ แม่ และก็พี่สาว แต่สภาพฉัน แบบนี้เข้าบ้านไม่ได้ คุณภัครช่วยเปิดห้องให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

เอมมิการู้สึกทำไมถึงเป็นแบบนี้ แค่พูดยังติดอ่างเลย เธอได้ได้แค่หัวเราะ “ฮีๆ

ฮีๆๆ

ผู้จัดการที่มองดูกล้องวงจรปิดอยู่ รีบวิ่งเข้ามาถาม “คุณภัครครับ มีอะไรให้ผมช่วย

ไหมครับ”

ภัครมองไปทางที่ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าในตอนนี้ “เปิดห้องสวีทให้ผมห้อง หนึ่งครับ”

ผู้จัดการเดิน เอมมิกาขาอ่อน เธอรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนสำรี ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงจับ ไหล่ภัคร “ฉันไม่มีกระดูกแล้ว”

ภัคร:

ภัครขมวดคิ้ว พร้อมกับอุ้มเธอขึ้นมา เดินไปทางลิฟท์

เอมมิกามองไปยังหน้าที่เย็นชา ภาพมันซ้อนกับผู้ชายในความทรงจำของเธอ คำบาง คำที่ตอนนั้นเธอไม่ได้บอกออกไป “นี่ ฉันเป็นคนช่วยนายออกมา แถมหัวยังแตกอีก ไม่ใช่ ”

“เธอเมาแล้ว”

“ยังไงก็ไม่มีใครเชื่อฉัน” เธอซบตัวลงที่อกของภัคร “คนพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรฉัน ฉันยัง”

ภัครยืนตัวแข็ง ลงมองเธอ

เธอทำปาก หลับตาลง น้ำตาไหลออกมา เสียงเบาออกจากปากเธอ”นายไม่เคยเชื่อ

ภัครมองไปทางอื่น เดินเข้าลิฟท์ไป พร้อมมองไปข้างหน้า แล้วมองเธออีกครั้งด้วย

ความไวแสง

เอมมิกายังคงหลับตาอยู่ ขนตาของเธอยาวสลวยมีรอยตอนนี้ทุกอย่าง เงียบ ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจ

ผู้จัดการมองไปยังเอมมิกาที่อยู่ในอ้อมกอดของภัครด้วยความอมยิ้ม

ผู้หญิงคนนี้โชคดีจัง เขาไม่เคยเห็นท่านประธานพาผู้หญิงคนในมาที่นี่

ผู้จัดการพร้อมกับเปิดประตู เสียบการ์ดไว้ที่กำแพงแล้วปิดประตูอย่างรู้ว่าควร

ทำอย่างไร

ภัครวางเธอลงบนเตียง

เอมมิกาค่อยๆลืมตาขึ้น จับมือของภัครแน่น มองไปยังภัครด้วยความลึกซึ้ง มือชี้ไปที่

คิ้วของภัคร

ฉัน” ภัครจับมือเธอไว้ ไม่ให้ขยับ

เอมมิกาดูออกว่าภัครกำลังปฏิเสธ “ฉันเดาออกตั้งนานแล้ว นายรังเกียจฉัน แบบนี้ก็ดี

ภัครมองเธอที่หัวเราะเหมือนคนไร้เดียงสา ค่อยๆก้มหน้าลงประทับจูบไปยังปากของ

เอมมิกา

ริมฝีปากของเอมมิมานุ่มมาก ทั้งหวานและยังมีกลิ่นของเหล้าเมื่อสักครู่อีก มันเป็น

รสชาติที่ภัครชอบ

ใจของภัครอัดแน่น เขาขมวดคิ้ว คิดว่าตัวเองน่าจะบ้าไปแล้ว ที่จูบผู้หญิงคนนี้ รีบ

ผละออก

เธอหลับไปแล้ว

ภัครยิ่งมีนเข้าไปใหญ่

จูบของเขามันไม่น่าดึงดูดเลยหรอ? ถึงหลับลงได้?

ภัครเอื้อมมือไปหมผ้าให้กับเอมมิกา แล้วไปอาบน้ำ

เช้าตรู่

เอมมิกายังคงหลับตาแล้วลุกขึ้นนั่ง ขยี้ผมตัวเองเบาๆจนหยุ่ง ปวดหัวจัง จากนั้นเธอ ค่อยๆลืมตาขึ้น เธอถึงกับตกใจ

เฮ้ย นี่มันไม่ใชห้องนอนของเธอ

เมื่อวานเธอเมามาก จำได้แค่เวียนหัว แล้วนั่งพักบนพื้น ส่วนที่เหลือเธอจำไม่ได้เลย

เธอรีบเปิดผ้าห่มดู โชคดีที่เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ครับ บนตัวก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ไม่น่ามีใครทำอะไรเธอ

เอมมิกาเปิดประตูออกไป เห็นภัครนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขาสวมสูทสีดำ อ่านหนังสือ พร้อมกับดื่มกาแฟ ทำไมถึงได้ดูออร่าขนาดนี้

ภัครเป็นคนพาเธอมานี่เอว เอมมิกาค่อยวางใจลง คนอย่างตานีรักสะอาดจะตาย แม้แต่เส้นผมยังไม่ให้แตะต้อง

เลย

“เอ่อ อะไรหน่อยสิ เมื่อคืนฉันเมาแล้วได้พูดอะไรแปลกๆออกมาไหม” เอมมิกา ถามด้วยความระวัง

ภัครมองไปทางเธอ “ดื่มซุปแก้แฮงค์ก่อน”

“ได้ งั้นฉันไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน” เธอเดินเข้ามาในห้องน้ำ มองหน้าตัวเองใน กระจกแล้วตกใจ

ผมของฟูเหมือนรังนก หน้าที่แต่งไว้ก็หลุดจนมองเห็นใต้ตาคล้ำ

เธอรีบล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปนั่งตรงข้ามกับภัคร หยิบขนมปังบนโต๊ะขึ้นมากิน “เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้นายตกใจ”

“กินเสร็จฉันจะให้พชรขับรถไปส่งเธอ”ภัครบอก

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานอีก” เอมมิกาพูดพร้อมกับฉีกขนมปังเข้าปาก

ภัครขมวดคิ้ว “เธอทำงานทั้งตอนเช้ากับกลางคืนเลยหรอ?”

“มันขึ้นอยู่กับลูกค้า ลูกค้าบางคนก็ว่างเฉพาะตอนกลางคืน เพราะบางทีตอนกลาง คืนมันทำงานง่ายกว่า” เอมมิกาอธิบาย

“ตอนกลางคืนทำง่ายกว่า?” แววตาของภัครเย็นชาอีกครั้ง เขาหัวเราะในลำคอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ