บทที่ 24 ภัครนายเอาตัวเข้าแลกเถอะ ฮ่าๆๆ
“เธอเป็นอะไรอีกแล้ว? ทำไมถึงถูกคนอื่นช่วยไว้” คุณ ตาถามคุณยาย
คุณยายรู้ว่าตัวเองงานเข้าแน่ๆ เลยหัวฮิๆตอบไป “คือ ฉันตั้งใจเป็นลมเพื่อที่จะดูว่ามีใครคิดจะช่วยไหม ดูสินี่ไงฉัน หาหลานสะใภ้มาได้เลย เดี๋ยวฉันจะให้หนูเขาทำมื้อค่ำ คุณ โทรเรียกตาภัครกลับมานะ”
คุณตาขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงสูง “มณีจันทร์ เธอแอบหนี ออกไปแล้วเป็นลมใช่ไหม คราวหน้าถ้าหนีออกไปอีก ผมจะตี เท้าคุณให้หักเลย”
เอมมิกาเมื่อได้ยินคำพูดของคุณตาเลยหันไปมอง
คุณยายมณีจันทร์รู้สึกอาย เลยฟาดไปที่แขนคุณตาที หนึ่ง แล้วเดินเข้าห้องไป
“เจ้านายน้อยกลับมาแล้ว ” เจ้านกแก้วพูดขึ้น
คุณยายเดินไปหยิบเมล็ดทานตะวันมาป้อนให้นกแก้ว
แล้วสอน”ซื้อสายล่อฟ้า”
นกแก้วไม่นิ่งไป ขยับหัวไปมา แล้วมองที่เมล็ดทานตะวัน ในมือของคุณยาย
“ซื้อสายล่อฟ้า สายล่อฟ้า “คุณยายสอนอีกครั้ง
“มณีจันทร์ มณี จุ๊บหน่อย จุ๊บๆ” เจ้านกแก้วพูด
คณยาย เอมมิกา:
คุณตากระแอมเบาๆ แล้วมองไปหน้าเอมมิกา “เข้าไป ข้างในเถอะ ผักอยู่ในครัว ฟันของตาไม่ดีต้มให้เปื่อยๆหน่อย นะ
“คือ” เอมมิกามองหน้าคุณตาแล้วเดินเข้าห้องครัวอย่าง กังวล “คือ……หนูทำอาหารไม่อร่อยนะคะ”
คุณตามองเอมมิกาแวบหนึ่ง คิดว่าเธอแค่ท่อมตน จึงไม่
ได้พูดอะไร
คุณตามองหน้าคุณยาย “‘คราวหลังอย่าหนีไปไหนอีกนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง”
คุณยายทำเสียงอ่อน เอามาทาบที่ปากแล้วบอก “ฉันได้ ข่าวว่า ตาภัครเปิดห้องที่โรงแรมนั้นตอนกลางวันแสกๆ คุณ ไม่รู้สึกว่ามันแปลกๆหรอ? ฉันเลยจะไปดู”
“แล้วคุณเห็นอะไรบ้าง?
“แหะๆ” คุณยายทำตัวไม่ถูก “ก็ ฉันยังไม่ทันได้เห็น อะไรก็เป็นลมไปเสียก่อนแล้ว”
“ทำอะไรไม่คิด บางทีตาภัครอาจจะมีแฟนอยู่แล้วก็ได้ แล้วเธอมาพาใคร อธิบาย ก็ไม่รู้มาที่บ้านแบบนี้มันไม่สมควร” คุณตา
“ใครก็ไม่รู้ได้ยังไงคะ เธอเป็นทนายความ ฉันเป็นคน โทรหาประวิทย์ถึงจะได้แม่หนูคนนี้มาทำดูแล” คุณยาย อธิบาย
คุณตาทำตาโตใส่ “ผมว่าคุณใช้ชีวิตอิสระมากเกินไป คุณมองไม่ออกหรอว่าประวิทย์มันคิดยังไง? กล้าไปยุ่งกับคน อย่างประวิทย์ คุณนี่มันใจกล้าจริงๆ”
คุณยายเริ่มโมโห ตะคอกกลับไป “ด่าด่าด่า วันๆก็เอาแต่
ด่าฉัน ฉันจะขอหย่ากับคุณ”
เอมมิกาเดินเข้ามาในห้องครัว คุณตาเองก็ตามเธอเข้า
เอมมิกาจับตะหลิว เดินวนไปมาในห้องครัว คอก็ชะเง้อ
มองไม่หยุด
หรือว่าจะหย่ากันจริงๆ?
“มณีจันทร์ มณี จุ๊บหนึ่งที จุ๊บๆ” เสียงเจ้านกแก้วดังขึ้น
“อา อา อา เอวของฉัน……” เจ้านกแก้วยงคงพูดไม่
มา
หยุด
“พู่” เอมมิกาพ่นหัวเราะออกมา เธอมองไปที่บนโต๊ะมี เนื้อหมูกับมะเขือเทศ โอเค ฉันดีใจเร็วเกินไป
เธอเข้ากูเกิ้ลเพื่อหาวิธีการทำอาหาร
ไม่นาน ไม่รู้ว่าคุณตาใช้ไม้เด็ดอะไรทั้งสองก็คืนดีกัน คณยายมองเขม็ง โทรศัพท์ของคุณตา “ตาภัครว่ายังไงบ้าง คืนนี้จะกลับมาไหม?”
“เขาบอกคืนนี้ต้องไปงานเลี้ยง” คุณตาตอบ
“งานเลี้ยงสําคัญหรือลูกสะใภ้สําคัญ เงินที่หลานหาได้ ใช้กี่ชาติก็ไม่หมดหรอก ต้องรีบหาเมียแล้วก็ลูกมาช่วยใช้ เงิน พวกนั้นมันเอาเข้าโลงศพไม่ได้หรอกนะ เอามานี่ฉันคุยเอง” คุณยายแย่งโทรศัพท์มาจากมาคุณตา แล้วโทรออก
เย็น ภัครอารมณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ผู้จัดการหลาย แผนกซวยไปตามๆกัน พชรเองก็ไม่ต่างหรือว่าคุณภัครไม่ พอใจอะไร
แต่ไม่น่านี่ เอมมิกาเป็นมืออาชีพเลยนะ จะทำให้บอสไม่ พอใจได้ยังไง
พชรไม่กล้าถาม เลยหยิบชาแก้วใหม่มาให้บอสของเขา
โทรศัพท์ของภัครดังขึ้น คนที่โทรมาคือคุณตา เขารับ
“ตาภัคร ย่าอยู่ได้อีกไม่นานแล้วนะ คืนนี้หลานจะไม่
กลับมาจริงหรอ?” คุณยายถามไป
ภัครหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท “คืนนี้ต้องไปกิน เลี้ยงกับใคร?”
“คืนนี้เจ้านายต้องไปสองที่ครับ มีพบนายยกสมาคมการ ค้า กับท่านประธานของโทรทัศน์เพื่อความบันเทิงครับ”
สาย “สมาคมการค้านายไปแทนฉันแล้วกัน ส่วนอีกทีให้ หัวหน้าแผนกไปแทน” ภัครมอบหมายงานให้แต่ละคน
“ครับ”
หลังจากที่สั่งงานเรียบร้อง เขายังคงเสียงเรียบแล้วตอบ กลับคุณย่า “ผมมีประชุมต่อ จถึงบ้านก่อนสองทุ่มนะครับ เดี๋ยวกลับไปทานมื้อค่ำด้วย แค่นี้นะครับ”
ย่าก็ว่าหลานย่าน่ารักที่สุด เดี่ยวหลานกลับมาย่ามีของ ขวัญชิ้นใหญ่จะมอบให้” คุณย่าหัวเราะอย่างมีความสุขแล้ว วางสายไปพูดกลับคุณตาแทน “คุณว่า เราใช้วิธีคลุมถุงชนนี้ ดีไหม”
คุณตาตอบ “นี่มันไม่ใช่สมัยเราแล้วนะ เด็กหนุ่มสมัยนี้ บางคนนอนด้วยกันคืนเดียวเช้าวันที่สองก็ไม่ติดต่อหากันอีก เลยเยอะแยะ ผมว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลหรอก”
“แล้วควรทำยังไงดีคะ?” คุณยายมองไปทางเอมมิกาที่ กำลังวุ่นอยู่ในครัว ”คุณดูสิคะเธอทั้งสวย จิตใจก็ดี แถมยังมี อารมณ์ขันด้วย เดี๋ยวตาภัครกลับมาทำให้หนูเขาตกใจแล้ว หนีไป จะทำยังไงดีคะ?
“เด็กสมัยนี้เขาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอก หลานของคุณ หล่อขนาดนี้ เธอไม่หนีไปไหนหรอก ผมกลัวว่าหลานเราจะไม่ ชอบแม่หนูนี่มากกลัว” คุณตาเตือนคุณยาย
“ไม่ได้ ฉันต้องลงมือทำอะไรสักอย่างก่อน” คุณยาย เดินเข้าไปในห้องครัวอมยิ้มไปหาเอมมกา “หนจ๊ะช่วงนี้ยาย สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเลย หนูต้องอยู่ดูแลยายประมาณหนึ่ง เดือน อย่าผิดคำพูดนะ เพราะยายคุยกับเจ้านายหนูแล้ว”
สิ่งที่เอมมิกาอยากถามคือ สรุปใครช่วยใครไว้
“คุณยายคะ หนูดูแลคนไม่ค่อยเก่ง ขนาดปลาที่หนู เลี้ยงไม่ถึงเดินก็ตายแล้ว กระต่ายที่หนูเลี้ยงไม่ถึงอาทิตย์ก็ ตายเหมือนกันนะคะ” เอมมิกาพูดเพื่อต้องการปฏิเสธอย่าง รักษาน้ำใจ
“ไม่เป็นไร บ้านยายไม่เลี้ยงปลา ไม่เลี้ยงกระต่าย” คุณ ยายยิ้มแล้วตอบ
เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นนะคะ ดูท่าคุณยายคนนี้ความคิด ต้องล้ำคนทั่วไปแน่ๆ
“หนูต้องทํางานนะคะ ที่ทำงานก็ยุ่งมาก หนูว่าหนูไม่มี เวลามาดูแลคุณยายหรอกคะ แหะๆ” เอมมิกาพูดตรงขึ้น
คุณยายมณีจันทร์เริ่มเข้าใจความหมายของเอมมิกา แล้ว เธอชักสีหน้าลง ‘ ‘หนูต้องดูแลยายหนึ่งเดือน ถ้าครบยาย จะให้เธอเป็นรองผู้อ่านวยการเลย ถ้าไม่ยอมยายจะให้คุณ ประวิทย์สั่งเก็บหนู”
เอมมิกา : “.…………..
คุณตา :
ผมว่าคนที่จะทําให้หนูคนนี้กลัวจนหนีไปไม่ใช่หลานแล้ว แหละ แต่เป็นภรรยาผมเอง
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” เอมมิกายิ้มแห้งๆ ทั้งที่ในใจอยากจะร้องไห้
ฉันก็ว่า ไม่มีขนมที่จะตกลงมาจากบนฟ้าให้กินหรอก มีก็
แต่ลูกเห็บ
“คุณยายคุยกับเจ้านายหนูแล้ว หนูว่าหนูไม่ไปทำงาน เดือนหนึ่งก็ไม่มีปัญหาค่ะ” เอมมิกาเปลี่ยนใจ
คุณยายยิ้มทันทัน “ดีมากจ๊ะ หนูทำอาหารไปเถอะ ตั้งใจ
ทํานะ”
ทุ่มครึ่ง คุณยายได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้า รีบเดินไปที่ ประตู พอไปถึงก็จับมือภัครไว้แน่น “ตาหนู คืนนี้หลานห้ามไป ไหนนะ ย่ารับหลานสะใภ้มาอยู่นี่แล้ว เธอบอกว่าจะให้แกเอา ตัวเข้าแลกเพื่อเป็นการขอบคุณ ย่าตอบตกลงไปแล้ว”
ภัคร:
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ