การแต่งงานคือสายฝน: ภรรยาสุดรักของ ประธานาธิบดี

บทที่ 13 เอมมิกา โอกาสของเธอมาแล้ว



บทที่ 13 เอมมิกา โอกาสของเธอมาแล้ว

เอมมิกาเดินไปพร้อมกับผู้จัดการจนถึงห้องคาราโอเกะ แล้วอยู่ในนี้คอยบริการลูกค้า เธอสังเกตุดูแล้วในห้องมีผู้ชายอยู่สองคน เธอจึงเลือกนั่งอยู่ข้างเอกภาพ แล้วยกแก้ว

ไวน์ขึ้น “ประธานเอกคะ แก้วค่ะ ขอให้วันนี้คุยเรื่องธุรกิจไปได้ด้วยดีนะคะ”

เอกภาพมองมาทางเอมมิกาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม

หลังจากดื่มไปหลายแก้ว

เอมมิกาได้ยินพวกเขาคุยกันเรื่องธุรกิจ

“ถ้าโปรเจคนี้ได้รับอนุมัติ พวกเราจะได้กำไรเป็นร้อยล้านเลยนะ เสียดายที่ท่าน ประธานของบริษัทนี้นัดเจออยากมาก” เอกภาพพูดพร้อมถอนหายใจ

“แบบนี้คู่แข่งก็เจอตัวประธานคนนี้ยากเหมือนกันนั่นแหละ แต่ว่าพวกเราก็มีโอกาส นะ” เพื่อนชายของเอกภาพปลอบใจ

ประตูถูกเปิดออก เอกภาพพอเห็นคนที่เดินเข้ามา รีบก้มหัวทำความเคารพ

ด้านเอมมิกาเองก็หันไปมองตามเอกภาพ แต่คนที่เธอเจอกลับเป็นภัคร โลกนี้ช่าง

กลมจริงๆ

ภัครสวมสูทสีน้ำเงิน ซึ่งเผยให้เห็นหุ่นที่ดี ตอนที่เดินเข้ามาเหมือนนำความ เย็นเข้ามาด้วยระหว่างที่เดินผ่านตัวเอมมิกา

ตัวถึงกับหนาวสั่น รู้สึกได้ถึงความเย็น

ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของคุณภัครกับภรรยายิ่งแย่ลงแน่ๆเลย ทำให้ทั้งตัวแผ่ออร่า ความไม่เป็นมิตรออกมาแบบนี้

ชวยชะมัด

วันแรกที่มาทำงานก็เจอกับคุณภัครคนนี้ หวังว่าเขาจะไม่บอกความจริงเรื่องที่กาเป็นทนายให้คนอื่นนะ ไม่งั้นการสะกดรอยตามที่ผ่านมาของเอมมิกาคงเป็นศูนย์

“ท่านประธานภัครครับ คาดไม่ถึงว่าคุณจะมีที่นี่ด้วยตนเอง โชคดีจริงๆครับ” เอกภาพพูดอกไปพร้อมยื่นมือไป

ภัครเป็นจัดเสื้อของตนเอง เขาไม่ยอมเอกภาพ แล้วนั่งลงบนโซฟา ไม่ แม้แต่จะมองเอกภาพเลย

เอกภาพทำตัวไม่ถูก ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วต้องยืนไว้เพื่อลงโทษ

เอมมิกาจําได้วาในข้อมูลของเธอเอกภาพก็รวยระดับร้อยล้าน ถือว่าเป็นชนชั้นสูงใน

ตลาด

คนมีคู่กับคนมีเงินความแตกต่างมันช่างมากมายนัก

พชรเปิดประตูเข้ามา เขามองไปทางเอมมิกา ทำสายตาแปลกๆ ปากก็ทำเป็นชี้ๆ

เอมมิกาโบกมือ ทักทายพชร

แต่พฤติกรรมของเขากับยิ่งแปลกไป

เอมมิกา ”

หรือเธอทำอะไรให้ใครไม่พอใจรึเปล่า?

เอกภาพจับมือทักทายพชรเพื่อแสดงความเป็นมิตร

ข้างหลังของพชรยังมีผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปี ดูเคร่งขรึม ยิ้มทักทายเอกภาพ ด้วยรอยยิ้มที่แข็งที่อ

เพื่อนของเอกภาพเดินออกไป

สาวๆในห้องต่างพอจะเดาออกว่าใครเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในห้องตอนนี้ เลยรีบกรู เข้าไปนั่งข้างประธานภัคร

เอมมิกาถึงกับหัวเราะ

ประธานภัครเป็นโรครักสะอาด วันนี้ดูท่าอารมณ์ก็ไม่ดี ผู้หญิงพวกนี้กรูไปนั่งด้วย หา

ที่ตายชัดๆ

ภัครมองไปทางเอมมิกาแล้วถามด้วยเสียงเรียบ “เธอหัวเราะอะไร?”

“เอ่อ…ฉันผิดเอง ไม่น่าหัวเราะเลย เอมมิกาทำเป็นยิ้มแล้วอธิบาย “ได้พบคุณอีก ครั้งเลยคิดว่าเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ ดีใจมากค่ะ” เสียงยินขาไม่เปลี่ยนของโคร “จริงหรอ?”

เอมมิการู้สึกว่าภัครดูแปลกๆ คงไม่เปิดโปงตัวตนว่าเธอเป็นทนายให้คนอื่นหรอกนะ

เธอจึงรีบรินเหล้า เพื่อพูดประจบ “ได้เจอท่านประธานถือเป็นโชคของฉัน ได้เจอท่าน สองรอบ ถือเป็นบุญของฉันค่ะ แก้วนี้ฉันดื่มให้คุณ”

เอมมิกาดื่มจนหมด

ภัครดูเหมือนไม่ค่อยพอใจกับค่าตอบของเอมมิกา ยกแก้วขึ้นมาเป็นท่าทางเท่านั้น

เอมมิกาโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เค้ายอมดื่มแสดงว่าต้องไม่บอกความจริงเรื่องที่เธอเป็น ทนายให้คนอื่นแน่

เพื่อนของภัครเดินเข้ามาพร้อมด้วยสาวสวยอีกแปดคน

ผู้หญิงทุกคนต่างนั่งรายล้อมผู้ชายในห้อง เผลอไม่นานห้องนี้ดูแคบไปทันที

ภัครยืนขึ้นหันไปทางพชรแล้วออกคำสั่ง “บอกผู้จัดการเปิดห้อง 501”

เขาเดินออกไปก่อน พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดที่รีบเดินตามไป

หลังจากที่พชรส่งข้อความไป เขาหันไปยิ้มให้กับเอกภาพ “ท่านประธานภัครเปิด ห้อง 501 แล้ว ขอให้ทุกคนย้ายไปห้องนั้นด้วยครับ”

“ว้าว ห้อง 501 นั่นมันห้องสุดพรีเมี่ยมเลยนะ ฉันยังไม่เคยเข้าไปเลย”

“ห้องนั้นถูกคนมีอำนาจจองระยะยาวไปแล้วไม่ใช่หรอ? หรือคนที่มีอำนาจคนนั้นก็ คือท่านประธานภัคร?”

“ครั้งที่แล้วฉันเห็นดาราหลายคนเข้าไปห้องนั้นนะ ครั้งนี้เราโชคดีมาก ฉันเดาว่าเหล้า ที่ถูกที่สุดในห้องนั้นต้องหลายหมื่นแน่นอน”

หญิงสาวกลุ่มนั้นคุยกันแล้วเดินตามพชรออกไป

เอมมิกาอยากจะตามเอกภาพ เลยไม่ยอมลุกขึ้นไปพร้อมกับหญิงสาวพวกนั้น

พชรหันหลังมากาม “ยังไม่รีบตามมาอีก ไม่แน่นอาจจะเป็นโอกาสของเธอนะ” โอกาสของฉันมาแล้วงั้นหรอ?

หรือว่าท่านประธานภัครคนนี้จะหย่ากับภรรยาแล้วจริงๆ

เอมมิกาลุกขึ้น แล้วเดินมาพชรไป

แต่เอ๊ะ คิดไปแล้ว มันไม่ถูกหนิ

เธอเป็นแค่ทนายฝึกงาน ประธานภัครใหญ่ขนาดนี้จะให้เธอทำคดีเขาได้ยังไง?

คนอย่างตานั่นหยิ่ง แล้วเรื่องมากขนาดนั้น

ถึงแม้ว่าบริษัทปรึกษากฎหมายที่เธอฝึกงานอยู่จะดังมากก็ตาม แต่ก็ไม่แน่ว่าเธอจะ ได้อยู่ที่นั่นต่อ เอมมิกาหันกลับไปมองทางเอกภาพ ฉันพยายามทำคดีของคนนี้ดีกว่า ถึงจะอยู่ที่

บริษัทต่อได้

เอกภาพหันไปคุยกับเอมมิกา “เมื่อกี้ เหมือนได้ข่าวว่าเธอรู้จักกับท่านประธานภัคร

หรอ?”

ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยของท่านประธานเคยเรียกฉันไปทำงานด้วย “เอมมิกาอธิบาย

“ท่านประธานภัครเป็นคนที่หาตัวยากมากเลยรู้ไหม ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอเขาสัก ครั้ง เธอโชคดีจริงๆ ” เอกภาพพูด จากนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเดินเลี้ยงไปคุยอีกที่

เอมมิกาเห็นเขาคุยโทรศัพท์ด้วยความระวัง

ถ้าเอกภาพมีชู้จริงๆ ยังไงก็ต้องติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นบ้างแหละ

ไม่แน่ถ้าเอมมิกาสามารถได้ข้อมูลการโทรศัพท์กับรายชื่อ เธอน่าจะสืบอะไรได้บ้าง เอมมิกาเดินเลี่ยงไปอีกทาง แล้วโทรไปหาลูกความ “คุณทราบรหัสปลดล็อค

โทรศัพท์ของสามีคุณไหมคระ?”

“หนึ่งปีพวกเราเจอกันไม่กี่ครั้งเองนะคะ จะไปรู้ได้ยังไง”

“ทุกสิบนาทีคุณส่งข้อความให้สามีคุณนะ ฉันจะแอบดูรหัสปลดล็อค ถ้าได้แล้ว จะแจ้งคุณอีกที” เอมมิกาพอเห็นเอกภาพเดินมาเลยรีบวางสาย ทั้งสองก็เดินขึ้นลิฟท์ไป ด้วยกัน

ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องทั่วไปประมาณ 5 เท่า ตกแต่งได้หรูหรา มีไฟสว่างเต็มห้อง บนฝา ผนังรายล้อมไปด้วยคริสตัล

ประธานภัครนั่งอยู่บนโซฟาสีทอง บนโซฟาปูทับด้วยพรมขนเสือ

เขาช่างเหมือนกับฮ่องเต้ รอบตัวเต็มไปด้วยหญิงสาว ที่พยายามโชว์นั้นนี่นั่น หญิง สาวเหล่านั้นแทบอยากจะเปลือยกายเข้าไปหาเขาด้วยซ้ำ

หน้าของเอมมิกาค่อยๆแดงฝาด โลกของคนรวยมันช่าง

เอมมิกานั่งข้างๆเอกภาพ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาดัง เธอพยายามเข้าใกล้ เพื่อที่ จะมองหน้าจอ

สายตาของภัครที่มองเอมมิกาตอนนี้เหมือนเป็นธนูที่กำลังยิงออกมา

ผู้หญิงคนอื่นต่างมารายล้อมที่ภัคร เธอตาเอมมิกา?

หรือว่าเอกภาพมันให้ทิปเยอะเท่าเขาภัครคิด

“เทเหล้า” ภัครสั่งด้วยความเคร่งขรึม

เอมมิกามัวแต่จดจ่อกับการปลดล็อครหัสของเอกภาพ ทำให้ไม่ได้ยินคำพูดของภัคร เธอรินเหล้าแล้วจับไปหนึ่งครั้ง สายตายังคงมองไปที่โทรศัพท์ของเอกภาพ

ตอนนี้แววตาของภัครยิ่งเย็นชามากขึ้น เขาเม้มปาก ทั้งตัวเริ่มแผ่รังสีด้วยอารมณ์ที่

ไม่ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ