Chapter 6 : ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
“น้องคะ คนที่ลงแข่งเกมแรกเตรียมตัวเลยนะคะ “พี่ สตาฟฟ์ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกในขณะที่ทีมสีชมพู นั่งเตรียมตัวกันอยู่ในห้องพักนักกีฬา ใกล้ๆกันนั้นก็เป็น ทีมสีฟ้า
ร่างสูงคุ้นตานั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เผยขึ้นอย่างพยายามยั่วโทสะฉัน ดวงตาคมกริบจ้องฉัน ไม่วางตาเพื่อที่จะปั่นประสาทฉัน ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ เขาก็มองฉันตลอด ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มอารมณ์ ตัวเอง ถ้าฉันใช้อารมณ์ “แพ้” เท่านั้นที่ฉันได้รับเป็นการ ตอบแทน
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกเมลล์ มันก็เป็นแค่เกม ไม่ต้องไป เครียดกับมันมากเราเล่นเพื่อความสนุก”
ฉันละสายตาจากนัยน์ตาสีดำทรงเสน่ห์ของไบรอันไป มองสายฟ้าพร้อมกับยิ้มให้เขานิดๆ “ขอบคุณนะ”
ในขณะนั้นเองที่พิธีกรประกาศเรียกผู้เล่นเกมแรก…
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง
“สู้ๆ”สายฟ้าให้กำลังใจ
“สู้อยู่แล้ว **
ฉันเดินไปสมทบกับเพื่อนๆเพื่อที่จะเดินออกไปยังสนาม ส่วนคนที่ลงเล่นเกมอื่นให้นั่งรอแข่งเกมต่อไปในห้องนี้ บรรยากาศในการแข่งขันเกมข้างนอกจะมีการถ่ายทอด สดให้ดูในห้องนี้ด้วย
“ได้กำลังใจดีล่ะสีท่า
เสียงทุ้มคุ้นหูทักขึ้นไม่ไกลกัน ฉันเพียงแต่ปรายตามอง ไบรอันนิดๆเขาเดินมาขนาบข้างฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“แน่นอน เพราะวันนี้ฉันจะไม่มีทางแพ้นายแน่
“หึ มั่นใจจังนะ”
“ก็คอยดูแล้วกัน”
เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ผู้เข้าแข่งขันเกมยี่สิบกว่า คนเดินไปหยุดกลางสนามท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่ม พิธีกรจึงทำหน้าที่ของตัวเองต่อหลังจากที่เขาชูมือเป็น สัญญาณขอความสงบ
“เอาล่ะครับตอนนี้เราก็ได้เห็นโฉมหน้าผู้เข้าแข่งขันเกมแรกกันแล้วนะครับว้าวๆ ขนาดพวกเราไม่ได้แข่ง ยังตื่นเต้นเลยนะครับ ว่ามั้ยครับคุณโมเม พิธีกรหนุ่ม อารมณ์ดิพันไปถามพิธีกรหญิงสาวที่ยืนทำหน้าที่อยู่ข้าง
“ใช่แล้วค่ะคุณเติ้ล เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเกมแรกกันดีกว่าค่ะ”
รื้ดๆๆ ริ้วววววๆ
กรี๊ดดดดดดดด
เสียงกรี๊ดของกองเชียร์ดังขึ้นอย่างตื่นเต้น พิธีกรที่ชื่อ พี่เติ้ลต้องชูมือขอให้อยู่ในความเงียบอีกครั้งเพื่อที่จะได้ อธิบายเกมแรกกันสักที
“เกมแรกในงาน Family Games ครั้งที่ 8 นี้มีชื่อว่า ‘แบก
ราชินีเข้าฝั่ง””
แค่ชื่อเกมฉันก็แทบอยากกุมขมับ T___T
“เกมบ้าบออะไรวะเนี่ย”ไบรอันบ่นเบาๆ แต่มันก็เสียงดัง พอที่ฉันจะได้ยิน
“นายอยู่ที่นี่มาเกือบ 4 ปีแล้วนายก็น่าจะรู้ว่าเกมจะออกมาแนวไหน ถ้าจะปนแล้วนายจะลงเล่นเกมพวกนี้ ทำไมฉันพ้นไปแขวะเขา
ไบรอันทันกลับมาจ้องหน้าฉันด้วยใบหน้านิ่งเฉย ร่างสูง ก้มลงมาจ้องหน้าฉันในระยะประชิด ถ้าฉันไม่เดินถอย หลังหน้าเขาคงจะชนหน้าฉันแน่ๆ
“เธอลืมเดิมพันของเราแล้วเหรอ” ไบรอันถามเสียง เย็น ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันก็แอบกลัวเขานิดๆ แต่ถ้าฉัน แสดงออกไปว่าฉันรู้สึกยังไงเขาก็ต้องได้ใจและหาโอกาส เอาชนะฉันได้ง่ายๆน่ะสิ
“แต่นายก็อย่าลืมนะว่าเราแข่งกันเป็นทีม”
“ฉันรู้ และฉันก็จะพยายามพาทีมชนะให้ได้”เขาพูดเสียง หนักแน่น
“ฉันก็เหมือนกัน”
ไบรอันยืดตัวตรงเต็มความสูงแล้วหันไปสนใจฟังคำ อธิบายเกมจากพิธีกรต่อ
“จากตรงที่พวกเรายืนอยู่นี้พวกคุณจะเห็นเส้นชัยตรง โน้นใช่มั้ยครับ”พี่เติ้ลถามพร้อมกับชี้ไปที่เส้นชัยซึ่งมี คนสองคนถืออยู่ ระยะทางจากตรงนี้ก็ค่อนข้างไกลพอ สมควร”เอาล่ะครับ เรามาอธิบายกติกากันดีกว่านะครับคุณโมเม
“ค่ะ สำหรับกติกาในเกมนี้นะคะ เราจะให้ผู้เล่นผู้หญิง เป็นราชินี ส่วนฝ่ายชายก็เป็นทหารนะคะ เราจะให้ทหาร ของแต่ละทีมแบกราชินีของฝ่ายตรงข้ามวิ่งไปยังเส้นชัย ที่ซึ่งมีระยะทางจากตรงนี้ไป 100 เมตร แน่นอนว่าราชินี ขัดขืนได้ แต่เหล่าทหารห้ามทำเท้าราชินีโตนพื้นหรือ ทำราชินีหล่นก็ไม่ได้นะคะ ถ้าเหล่าทหารทำราชินีหล่น ลงพื้นก็ต้องมาเริ่มใหม่ที่จุดสตาร์ทค่ะ”
“ใช่แล้วล่ะครับคุณโมเม เมื่อเหล่าทหารอุ้มราชินีของ ตนเองเข้าเส้นชัยไปได้แล้ว พวกคุณอย่าเพิ่งปล่อยราชินี ลงนะครับ ส่วนราชินีก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขืนแล้วนะ ทหารทุก คนต้องอุ้มราชินีของตัวเองไว้จนกว่าทหารคนสุดท้ายของ ทีมคุณแบกราชินีของอีกฝ่ายเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ ถึงตอน นั้นทีมนั้นก็เป็นผู้ชนะไปนะครับ”
“ตอนนี้เชิญผู้เข้าแข่งขันเลือกคู่ของตัวเองได้เลยค่ะ”
พอสิ้นเสียงประกาศของพิธีกรหญิงเท่านั้นแหละความ โกลาหลก็เกิดขึ้นกลางสนามผู้ชายทีมสีชมพูยืนเก้ๆกังๆ ไม่กล้าที่จะเข้าไปหาพี่ผู้หญิงชองทีมสีฟ้ามันตรงกันข้าม กับพวกทีมสีฟ้าผู้ชายมากที่เข้ามาหาผู้หญิงทีมสีชมพู อย่างไม่รีรอเพื่อหาราชินีของตัวเอง
ฉันยืนเอ๋อท่ามกลางฝูงชนอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วก็มีผู้ชายสามคนเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกัน พวกเขาคง เห็นว่าฉันตัวเล็ก น้ำหนักคงจะน้อยตามตัว แบกง่ายอะไร เทือกๆนี้มั้งถึงพุ่งมาหาฉันอย่างน่ากลัวแบบนั้น แต่ฉันไม่ ยืนให้จับได้ง่ายๆหรอกนะ
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้วิ่งหนีไปไหน มือหนาของใครบาง คนก็คว้าต้นแขนฉันไว้แล้วกระชากเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว จนร่างฉันเซไปกระแทกกับอกเขาอย่างแรง
“ยัยนี่คู่ฉันแล้ว พวกนายไปหาคนอื่นดีกว่า”
ไบรอันนั่นเองที่เป็นคนจับฉันไว้ เขาหันไปบอกเพื่อน รวมทีมสามคนนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และพวกเขาก็เดิน ไปหาราชินีคนอื่นอย่างว่าง่าย
“นี่นายจะบีบแขนฉันแน่นไปไหนเนี่ย ฉันเจ็บนะ”ฉัน โวยวายแล้วพยายามจะแกะมือกาวของไบรอันออก
“เธอก็ยืนนิ่งๆสิจะได้ไม่เจ็บตัว”
“นี่นายคิดว่าฉันจะโง่ยอมให้นายแบกวิ่งเข้าเส้นชัยอย่าง ง่ายๆอย่างนั้นน่ะเหรอ เหอะ! ไม่มีทางซะหรอก”
“เธอก็คอยดูแล้วกันว่ามันจะง่ายมั้ย”ไบรอันบอกด้วยน้ำ เสียงท้าทายอยู่ในที
ยิ่งฉันตื้นและพยายามที่จะแกะมือเขาออก ไบรอันก็ยิ่ง บีบต้นแขนฉันแน่นขึ้นจนฉันเลิกพยายามแล้วจำใจยืน อยู่นิ่งๆตามคำสั่งเขา ผ่านไปไม่นานเหล่าทหารก็ได้ราชินี เป็นคู่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
“ในที่สุดทุกคนก็มีคู่กันแล้วนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญ จริงๆที่มีทหารกับราชินีครบคู่พอดี ไม่อย่างนั้นเหล่าสาว วายคงจิ้นกันน่าดูนะคะถ้าจะมีคู่ทหารกับทหารแบกกัน”
เสียงหัวเราะดังลั่นสนามเมื่อพิธีกรหญิงหยอดมุกข่าๆ
“เอาล่ะครับทุกคนเรามาฟังกติกาของเกมกันต่อดีกว่า ผมจะปล่อยตัวทหารของแต่ละทีมไปทีละคู่นะครับเมื่อ ได้ยินเสียงนกหวีดก็เริ่มได้”
ปรี๊ดดดดดดด!!
สิ้นเสียงนกหวีดเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นมาแทน ทั้งสองทีม ออกตัวกันแล้ว ฉันยืนเชียร์ทีมสีชมพูอย่างลุ้นสุดตัว เพื่อนร่วมทีมคนนั้นแบกพี่ผู้หญิงปี 4 รูปร่างสมส่วนขึ้น หลัง ถ้ามองเผินๆคงจะคิดว่าเขาวิ่งได้ฉลุยจนถึงเส้นชัย แน่ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อพี่ปี 4 ที่เป็นราชินีของ เขาพยศเต็มที่ เธอพยายามถ่วงน้ำหนักลงสะโพกและแอ่นตัวไปข้างหลังสุดฤทธิ์ (เขาจับมือเธอคล้องคอไว้อยู่) ผลเป็นไงน่ะเหรอ เขาก็เขาอ่อนแทบหงายหลังจนล้มกัน เบ้าทั้งคู่น่ะสิ เรียกเสียงฮาและเสียงโห่ร้องอย่างสนุก จากกองเชียร์ได้เป็นอย่างดี
หลากหลายสารพัดวิธีที่เหล่าทหารงัดมาใช้กับราชินี จอมพยศ ทหารต้องแข็งแรงจริงๆถึงจะพาราชินีของเขา เข้าฝั่งได้ ฉันได้แต่ยืนหัวเราะน้ำตาไหลเมื่อเห็นหลายๆคู่ วิ่งกลับมาตั้งหลักใหม่ยังจุดสตาร์ท
“อ๊ะ!”ฉันร้องขึ้นอย่างตกใจเพราะอยู่ๆคนข้างๆก็ก้มลง มาช้อนตัวฉันขึ้นสู่อ้อนแขนโดยไม่บอกกล่าว การกระทำ ของเขาเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับเขาได้มากโข เขาไม่ รู้รึไงกันนะว่าเขาจะนำความซวยมาให้ฉันน่ะ
เมื่อฉันเรียกสติกลับคืนมาได้ก็พยายามดิ้นเต็มที่ฉันดีด ขาสุดแรงหวังจะหลุดพ้นจากท่อนแขนแข็งแกร่งของเขา ถึงแม้ว่าไบรอันจะไม่ได้มีกล้ามแขนใหญ่โตเหมือนคน เล่นกล้ามแต่เขาก็แข็งแรงมากทีเดียว เขาคงจะดูแลตัว เองและออกกำลังกายเหมือนกันสินะ
สองขายาวๆของไบรอันก้าวเร็วๆจนแทบจะเป็นวิ่งเมื่อ ฉันดิ้นไม่หยุด
“หยุดดิ้นซะทีเถอะ เธอไม่กลัวตกรึไง”ไบรอันตะคอกใส่ อย่างหงุดหงิด
“นายคงไม่คิดว่าฉันจะอยู่เฉยๆให้นายอุ้มเข้าเส้นชัย หรอกนะ”
ไม่ว่าเปล่าฉันก็อ้าปากงับแขนเขาไปสุดแรง ขาที่ตื้นไป มาหลุดจากแขนเขาได้ข้างหนึ่ง นี่ถือเป็นโอกาสเตียวของ ฉันที่จะหนีจากเขาได้
ไบรอันร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด แต่ใครจะสน ฉัน ตัดสินใจทิ้งน้ำหนักลงไปที่ขาที่ห้อยต่องแต่งข้างนั้นแล้ว เบี่ยงตัวมาข้างๆ เพราะความเจ็บปวดที่ฉันฝากรอยเขี้ยว ไว้ที่แขนไบรอันจึงปล่อยฉันลงพื้นในที่สุด
“ยัยเด็กบ้าน!กัดมาได้ไงวะ”เขาสบถใส่หน้าฉันพร้อมกับ เลิกแขนเสื้อขึ้นดู โอ้ รอยฟันฉันปรากฏอยู่บนท่อนแขน เขาเป็นรอยสวยเชียว
ไบรอันกระชากข้อมือฉันกลับไปยังจุดสตาร์ทใหม่ด้วย โทสะไม่รอให้ฉันได้ตั้งตัว ร่างสูงก็กระชากฉันเข้าหาตัว แล้วก้มลงรวบต้นขาฉันและออกแรงแบกฉันขึ้นบ่าอย่าง รวดเร็ว สองขายาวๆของเขาเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง เพราะมือ ของไบรอันกดขาฉันไว้อยู่ฉันจึงดิ้นไม่ได้ จะเหลือก็แต่ สองมือเท่านั้นที่พอจะประทุษร้ายเขาได้บ้าง แต่ดูเหมือน มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
ฉันทุบหลังเขาไปพลางโวยวายไม่หยุด ไบรอันไม่สน เอาแต่วิ่งไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ลองเป็นแบบนี้ฉันก็แพ้เขาน่ะสิ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ