Hello!! My Girl ถอยไป ถ้าไม่อยา...

Chapter 2 : เมลล์…มัยเด็กตัวแสบ



Chapter 2 : เมลล์…มัยเด็กตัวแสบ

กลุ่มพวกเขาทั้งกลุ่มหันมามองฉันอย่างสนใจ ก่อนจะหัน ไปมองทางไบรอันสลับกับมองฉันประมาณว่า ‘คู่กรณีมา เจอกันแบบนี้อะไรจะเกิดขึ้น

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ ฉันจะหนี!!

สายตาคมกริบจากเขาที่มองมาไม่ละสายตาทำให้ฉัน ขนลุกยังไงก็บอกไม่ถูก เมื่อเห็นว่าฉันอาการดีขึ้นลูกตาว จึงกลับไปนั่งทีเดิม

“นั่นพี่ไบรอันใช้รึเปล่า?”ลูกตาวยื่นหน้าเข้ามาถามทันที ที่กันสัมผัสเก้าอี้

“ใช่ ฉันว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีอ่ะ เรารีบไปกันเถอะ”ฉัน บอกอย่างลนลานก็อีตานั่นมองหน้าฉันตลอดเวลาเลย นี่นา ถึงฉันจะไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆ แต่ฉันก็รู้ได้จาก ความรู้สึกว่าเขามองอยู่นะ

“คนที่เธอไปทำเรื่องไว้นั่นน่ะเหรอ?”

“ใช่ คนนี้แหละ”

ลูกตาวหันกลับไปมองไบรอันอีกครั้งเมื่อได้รับคำยืนยัน จากฉันว่าเป็นเขา
“พี่ไบรอันมองมาทางนี้ไม่วางตาเลยอ่ะเมลล์

“ก็นั่นแหละ ฉันถึงบอกว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีไง เรารีบ ไปกันเถอะนะลูกดาว 0 “แต่ถ้าเราออกไปตอนนี้เราก็ ต้องเดินผ่านพี่เขานะ

“เราก็ทำเป็นมองไม่เห็นเขาสิ ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ ให้เขา ปั่นประสาทแบบนี้

ไม่รอช้าฉันรีบเก็บขนมต่างๆ ใส่ถุงตามเดิม ลูกตาวเห็น แบบนั้นจึงเข้ามาช่วยเก็บด้วยอีกแรง จริงอย่างที่ลูกตาว บอกว่าพวกเราต้องเดินผ่านเขา เพราะทางเข้าทางออก มีทางเดียว แถมอีกตานั่นก็ยังนั่งปั้นหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ ทางออกด้วย

ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง วันนั้น ไม่ใช่ว่าฉันไม่กลัวเขาที่บังอาจปาหนังสือใส่หลังเขาไป เต็มๆแบบนั้นนะ แต่ถ้าคุณโดนหักหน้าคุณจะโกรธไหมล่ะ แล้วตอนนั้นเขายังกล้าเหยียบดอกกุหลาบจากร้านแม่ฉัน อีกนะ (แม่ฉันมีธุรกิจเล็กๆคือเปิดร้านดอกไม้สด) เป็นใคร ก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นแหละ

ฉันเดินนำลูกตาวออกมาเพราะต้องการที่จะไปให้พ้นๆ หน้าเขาสักที แต่พอจะเดินผ่าน ไบรอันกลับยื่นขายาวๆ ของเขามาขัดขาฉัน ยังผลให้ร่างทั้งร่างของฉันล้มหน้า คะลํา โชคดีที่ลูกตาวมีสติเร็วพอที่จะดึงแขนฉันไว้ได้หุ้นก่อนที่ฉันจะล้มลงไปกองกับพื้นให้อายใครต่อใคร

หน่อย!! มันจะมากไปแล้วนะ!!

พอฉันทรงตัวได้และลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเท่านั้นแหละ โทสะที่สมอยู่ในอกก็ระเบิดออกมาทันที

“นี่นาย!”ฉันตะโกนออกไปอย่างโกรธจัดพร้อมกับชื้ หน้าคนทำอย่างเอาเรื่องไทยมุงเริ่มเดินเข้ามาดูเราอย่าง อยากรู้อยากเห็น

ไบรอันลุกจากเก้าอี้มาอย่างใจเย็น เขาเดินเข้ามาหาฉัน อย่างช้าๆ ด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าฉันแล้ว ถามเสียงเรียบ “มีอะไรเหรอ”

ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนของคนตรงหน้าทำให้ฉันถึงกับ เดือด ดูที่เขาถามสิ ‘มีอะไรเหรอ’ อย่างนั้นน่ะเหรอ เหอะ!!

“คิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วจะรังแกรุ่นน้องยังไงก็ได้อย่างนั้นน่ะ เหรอ?!!”

“ฉันทำอะไรเธอรึไง”

“นายขัดขาฉันจนเกือบล้มเมื่อกี้นี้ไง”
“แล้วยังไง”

ฉันถึงกับสะอึกกับคำพูดของเขา ลูกตาวได้แต่ยืนสติ แตกอย่างไม่รู้จะทำยังไงดีที่ฉันโกรธจนควบคุมอารมณ์ ไม่อยู่ขนาดนี้

เมื่อเห็นฉันยืนกำหมัดแน่นเพราะพูดอะไรไม่ออก รอย ยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา

ยิ้มให้มันได้นานๆก็แล้วกัน หี!!

ฉันมองไปรอบๆ เพื่อหาอาวุธมาเอาคืนเขา แล้วฉันก็ เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังกัดกินไอศกรีมรสชอค โกแลตอย่างเอร็ดอร่อยขณะชมการวิวาทเหมือนกับการ แสดงละคร นั่นทำให้ฉันกระตุกยิ้มขึ้นมาทันที

“แล้วยังไงน่ะเหรอ”ฉันทวนคำเขาซ้ำแล้วเดินไปแย่ง ไอศกรีมจากผู้ชายคนนั้นมาละเลงใส่เสื้อนิสิตสีขาวของ เขาอย่างไม่กลัวตาย โกรธจนหน้ามืดฉันก็ทำได้ทุกอย่าง นั่นแหละ

เสียงกรีดร้องจากสาวๆ ดังระงมไปทั่วอย่างคิดไม่ถึงว่า ฉันจะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดทำกับคนที่มีอิทธิพลอย่างไบ รอันได้ ลูกตาวที่เพิ่งได้สติรีบวิ่งมาดึงตัวฉันให้ออกห่างจากเขาโดยเร็ว

“ลูกตาวขอโทษแทนยัยเมลล์ด้วยนะคะพี่ไบรอัน ขอโทษนะคะ ( “จะไปขอโทษเขาทำไมลูกตาว”ฉันหันไป ดุเพื่อนที่ไปก้มหัวให้คนผิด

ไบรอันกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ เสื้อเขาตอนนี้เลอะ คราบชอคโกแลตไปทั้งแถบดวงตาคมมีเสน่ห์วาวโรจน์ ด้วยความโกรธอย่างไม่ปิดบัง เหอะ! มาถึงขนาดนี้แล้วฉัน จะไม่กลัวเขาอีกต่อไป

“เป็นไงล่ะ เย็นมั้ยคะพี่ไบรอัน หึ!”ฉันพูดแหย่ รอยยิ้ม แห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“ไม่เอาน่าเมลล์”ลูกตาวหันมาปรามฉัน “ต้องขอโทษ แทนเพื่อนด้วยนะคะ คราวหน้าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อีกแล้วค่ะ”

ลูกตาวไม่พูดเปล่าๆ สิ้นประโยคขอโทษเธอก็ลากฉัน ออกจากไทยมุงทันที ไม่รู้ว่ายัยเพื่อนคนนี้เอาแรงที่ไหน มาลากฉันออกมา เพราะปกติแล้วฉันจะแรงเยอะกว่าเธอ มาก ฉันถูกลากออกมา ปากก็บ่นไม่หยุดที่ยัยเพื่อนตัวดี ไปเข้าข้างคนผิด

ฉันหวังว่าคราวนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะที่เราจะได้ เจอกัน…
[Brian’s Part:]

“เฮ้อออ~”

ผมถอนหายใจครั้งที่ร้อยขณะที่ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน ไพ่ที่สุมอยู่ในอกไม่อาจระบายออกไปได้ ผมคิดว่าการ ถอนหายใจอาจจะช่วยได้…แต่ไม่เลย

ย้ยเด็กบ้านั่นหักหน้าผมครั้งที่สองแล้ว และมันก็ทำให้ ผมเจ็บใจมากกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันอีก ตอนแรกผมก็ จะไม่เอาคืนยัยนั่นแล้วล่ะผมก็ไม่รู้จะผูกใจเจ็บไปทำไม เพราะเราก็ไม่ได้เจอกันบ่อย หรืออาจจะไม่เจอเลย บางที ผมก็แอบคิดนะว่าเมลล์จงใจหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับผมซะ มากกว่า

วันนี้คงเป็นวันซวยของผมจริงๆที่เห็นเมลล์เข้าพอดี ตอน แรกผมก็ไม่เห็นเธอหรอกแต่เสียงไอที่เหมือนสำลักน้ำ ของใครบางคนมันเสียงดังมากจนผมยังคิดว่าใครบางคน ต้องการเรียกร้องความสนใจ แต่พอมองไปก็เห็นเธอนั่ง ไอน้ำหูน้ำตาไหลจากการที่พยายามจะหยุดสำลัก แต่ยิ่ง ทําก็ยิ่งเป็นหนักไปอีก
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวผมทันทีเมื่อเห็นใบหน้า สั้นๆนั่น ผมจงใจแกล้งปั่นประสาทเธอด้วยการมองเธอไม่ วางตา สงครามประสาทที่ผมสร้างขึ้นทำให้เจ้าตัวรู้สึกตัว ด้วยสัญชาตญาณ เธอจึงเดินหนีไป แต่ผมยังไม่สะใจเท่า ไหร่เลยจงใจยื่นเท้าไปขัดขาจนทำให้เมลล์เกือบล้มหน้า คะลํา แต่โชคยังดีที่เพื่อนเธอช่วยรั้งแขนไว้ได้ทัน การที่ ทำให้ยัยเด็กนั่นโมโหได้มันทำให้ผมพอใจมากเลยทีเดียว

แต่ใครจะคิดล่ะว่าเมลล์จะบ้ากว่าที่ผมคิด เธอเอาไอศก รีมชอคโกแลตมาป้ายเสื้อสีขาวของผมจนเลอะจนดูไม่ ได้ตอนแรกผมจะตอบโต้เธอไปบ้าง แต่พอเพื่อนเมลล์ ขอโทษผมเพราะรู้สึกผิดแทนเพื่อน ผมเลยได้แต่กัดฟัน ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้จนเธอลากเมลล์ออกไปไงล่ะ

โชคดีที่วันนี้ผมมีเรียนแค่ครึ่งวันเลยไม่ต้องขายขี้หน้า นาน (- -*)

ความจริงแล้วผมเป็นคนมีความอดทนสูงมากนะ แต่พอ มาเจอเมลล์ความอดทนผมทำไมมันช่างต่ำนัก หลายคน อาจจะมองว่าผมหยิ่ง แต่ความจริงแล้วผมก็แค่ไม่ชอบทัก ใครก่อนเท่านั้นเอง หรือถ้าไม่สนิทกันจริงๆผมก็ไม่ค่อย พูดอะไรมาก เอาเถอะ ใครจะมองผมยังไงก็ช่างเพราะผม ก็ไม่ค่อยแคร์สายตาใครสักเท่าไหร่

มันจะมีครั้งหน้าแน่ๆเมลล์ที่เราจะได้เจอกัน….และฉันคงไม่โดนเธอหักหน้าเป็นครั้งที่สามแน่!!

[::End:Brian’s Part::]

“กลับมาแล้วค่าาาาา~~0-”

ประโยคนี้ฉันตะโกนบอกเป็นประจำตั้งแต่เด็กจนโตเมื่อ กลับมาถึงบ้าน…

ทันทีที่เข้ามาในบ้านฉันก็ได้กลิ่นหอมๆของอาหารเย็น ลอยมาแตะจมูก แม่คงกำลังทำอาหารเย็นเหมือนอย่าง เช่นทุกวัน ฉันวางกระเป๋าเป้คู่กายไว้ที่โซฟาหน้าทีวีใน ห้องนั่งเล่นแล้วเดินเข้าครัวไป

“ทำไมเสียงเราดูเซ็งๆล่ะวันนี้แม่พูดอย่างรู้ทันขณะคน แกงในหม้อไปด้วย ฉันเดินเข้าไปกอดแม่จากด้านหลัง อย่างอ้อนๆ แม่ยังรู้เลยว่าฉันเซ็ง ขนาดแม่ได้ยินแค่เสียง ยังไม่ได้เห็นหน้าฉันนะเนี่ย

ฉันเงียบ มันเป็นการยอมรับกลายๆว่าฉันกำลังอยู่ใน สภาวะจิตใจที่กำลังเรียกว่าเซ็งสุดขีด ก็วันนี้ฉันไปก่อ เรื่องไว้อีกแล้ว และฉันก็โดนยัยเพื่อนตัวดีสวดยับไปเป็นที่เรียบร้อยT_T

“แสดงว่ามีเรื่องอะไรมาอีกแล้วใช่มั้ย”แม่แกะมือฉันออก ก่อนจะหันหน้ามาพูดกับฉันตรงๆ

แม่ฉันเป็นผู้หญิงร่างบางตัวเล็กๆเหมือนฉัน ใจดี สวย และมีคุณสมบัติดีๆหลายอย่างที่ผู้ชายคนอื่นเห็นแล้วต่าง ก็อยากจะมาขายขนมจีบให้ ส่วนพ่อฉันเสียได้ 5 ปีแล้ว จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะไปปฏิบัติหน้าที่ (พ่อฉัน เป็นแพทย์อาสาน่ะ) นั่นถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด ในครอบครัวเรา แม่ที่ทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษใน โรงเรียนชื่อดังลาออกทันทีเมื่อพี่แมกซ์เรียนจบตามคำขอ ร้องของเขา

พี่แมกซ์ไม่อยากให้แม่ทำงาน เขาจึงรับหน้าที่เป็นเสา หลักของครอบครัว ตอนแรกแม่ก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นแม่ บ้าน แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะอยู่เฉยๆมันก็เบื่อ แม่เลยเปิด ร้านขายดอกไม้สดเล็กๆ อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนเก่าฉัน ร้าน แม่ฉันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยล่ะ วันไหนที่ฉันมีเรียน ครึ่งวันหรือไม่มีเรียน ฉันก็จะไปอยู่ที่ร้านช่วยแม่ขาย ดอกไม้ร้านเราเปิดทุกวัน เริ่มเปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้า โมงเย็น

เพราะระดับการเรียนที่ดีเยี่ยมพี่แมกซ์จึงถูกอาจารย์ หมอที่คณะดึงไปเป็นอาจารย์และตอนนี้พี่แมกซ์ก็กำลัง ใช้ทุนอยู่ ตอนนี้ก็เข้าปีที่สามแล้วล่ะ พี่ชายฉันคนนี้ถึงจะ จบได้ไม่นานแต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องการผ่าตัดเคสยากๆและเขายังเป็นหมอที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้

นี่ฉันพาออกทะเลไปไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย…

“ก็ประมาณนั้น ฉันยอมรับแต่โดยดี แต่ยังไม่ทันที่จะได้ ตอบคำถามใดๆของแม่ที่ส่งมาทางสายตา เสียงรถยนต์ที่ เข้ามาจอดยังโรงจอดรถก็ดังเข้ามาขัดซะก่อน

พี่แมกซ์กลับมาแล้วสินะ…

อ้อ เพราะพี่ชายฉันยุ่งๆ เวลาเราก็ไม่ตรงกันฉันจึงกลับ บ้านเองทุกวัน จะมีบางวันที่ออกไปเรียนพร้อมกับเขาและ กลับบ้านพร้อมกัน แต่ก็น้อยครั้งได้ล่ะมั้ง ก็พี่ฉันเป็นหมอ นี่นา ต้องมีคนไข้เข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำอยู่แล้ว แถมเขายังเข้าเวรอีก

ฉันวิ่งไปหาร่างสูงที่กำลังก้าวลงจากรถพร้อมกับของใน มือ ฉันจึงเข้าไปช่วยเขาถือของเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ไงเรา”พี่แมกซ์ทักขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นเขาเอื้อม มือมาโยกหัวฉันไปมาอย่างเอ็นดูเหมือนฉันเป็นเด็กน้อย

“พี่แมกซ์ชอบทําเหมือนเมลล์เป็นเด็กอยู่เรื่อย เมลล์โต แล้วนะ”ฉันพูดอย่างงอนๆ
“เหรออออ ผู้เป็นพี่ลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อ “เราจะ โตสักแค่ไหนกันเชียว

“ตอนนี้เมลล์อายุสิบแปดแล้วนะ (-O-)”ฉันบอกขณะเดิน นำพี่ชายเข้าไปในครัวหลังจากที่เก็บข้าวของของเขาไว้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“สิบแปดแล้วควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นี่ยังไม่ถือว่าโต นะพี่ว่า”

ฉันชะงักมือที่กำลังช่วยแม่เตรียมอาหารนิดหน่อย ก่อน จะทำตัวให้เป็นปกติแล้วเดินเอาอาหารไปไว้ยังห้องรับ ประทานอาหาร

พี่แมกซ์พูดแบบนี้แสดงว่าต้องไปรู้อะไรมาแน่เลย…

“วันนี้เราไปก่อเรื่องอะไรมา

นั้น ฉันว่าแล้วเชียว T^T

เสียงพี่แมกซ์เข้มขึ้นเหมือนกำลังดุฉันอยู่ในที่ฉันนั่งลง ประจำที่พร้อมกับที่ร่างสูงวางอาหารที่ช่วยแม่ยกมาลงบน โต๊ะแล้วนั่งลงตรงข้ามกับฉัน จากนั้นไม่นานแม่ก็ตามมา นั่งประจำที่ตรงหัวโต๊ะ ท่านมองหน้าฉันอย่างต้องการฟัง คําตอบ
“ป๊ออ ก็เมลล์พยายามไม่โกรธแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้นี่ นา TOT”ฉันโพล่งขึ้นเพราะทนแรงกดดันจากมหาอำนาจ ในบ้านทั้งสองคนไม่ไหวเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้จึงถูก ถ่ายทอดออกไปอย่างไม่ปิดบัง ถึงฉันไม่เล่าพี่แมกซ์คงจะ รู้เรื่องมาบ้างแล้วล่ะไม่งั้นเขาไม่พูดแบบนั้นหรอก แต่อาจ จะอยากฟังเรื่องจริงจากปากฉันมากกว่าจากปากคนอื่น เลยมาคาดคั้นเอาความจริงจากฉันนี่ไงล่ะ

“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ

“นี่ต้องขอบคุณหนูลูกตาวนะ ไม่งั้นยัยตัวดีของแม่คงจะ สร้างเรื่องไว้เยอะกว่านี้แน่

“ง่ะ แม่ก็ (-^-)”

“ยังดีนะที่ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบโต้อะไรลูก”

“เมลล์ว่าตอนนั้นเขาคงโกรธจนทำอะไรไม่ถูก ครั้งหน้า คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ แต่ช่างเถอะค่ะ อย่าไปพูดถึง เขาเลยจะทำให้กินข้าวไม่อร่อยเปล่าๆ”ฉันบอก แล้วก้ม หน้าก้มตากินข้าวอย่างหิวโหย

ใช่แล้วล่ะ คราวหน้าเราคงไม่ได้เจอกันอีก เพราะฉันจะ พยายามหลีกเลี่ยงทุกทางที่จะเจอไบรอันอันนี้พูดเลย ชาตินี้เราอย่าเจอกันอีกเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ป๊อก!!

นิ้วเรียกยาวของคนตรงหน้าเอื้อมมาติดหน้าผากฉันจน เกิดเสียงดังป๊อก ฉันลูบหน้าผากตัวเองป่อยๆ ด้วยความ เจ็บปวดพลางมองหน้าผู้เป็นพี่ชายอย่างมีคำถาม

“อ๊ะ! เจ็บนะพี่แมกซ์

“อนาคตเราจะเป็นหมอแต่ยังอารมณ์ร้อน โมโหง่ายแบบ นี้เหรอ นิสัยเรานี่แก้ยังไงก็ไม่หายเลยนะตั้งแต่เด็กจน โต แม้น้ำเสียงของพี่แมกซ์จะไม่ได้ดุแต่ก็ทำให้ฉันนิ่งได้ เพราะอายุที่ห่างกันถึงเก้าปีเขาจึงเป็นเหมือนพ่อและพี่ ชายฉัน

“นั่นนะสิ”แม่รับผสมโรงอย่างเห็นดีเห็นงาม เห็นแบบนี้ ฉันจึงได้แน่นั่งฟังเงียบๆ

“ไหนบอกว่าเมลล์โตแล้ว แค่ข่มอารมณ์ตัวเองเมลล์ยัง ทำไม่ได้เลยพี่ถึงเห็นเมลล์เป็นเด็กไงล่ะ”

“แม่เห็นด้วยกับพี่นะลูก”

“แต่เมลล์อายุสิบแปดแล้ว โตแล้วจริงๆนะ(_ _)”ฉันเถียง เสียงอู้อี้
“ถ้าอยากให้กับแมเห็นว่าเมลล์โตแล้วเมลล์ที่ต้อง

พิสูจน์ให้เห็นว่าเมลล์ทำได้ รับปากทับที่ส

“เมลล์รับปาก”

“ถ้าพี่รู้ว่ามีครั้งต่อไปอีกล่ะก็ พี่จะไม่เตือนแล้วนะ พี่จะ ให้เมลล์คิดเอาเอง

“ดีมาก ยัยลูกแมว

เมื่อฉันรับปากพี่แมกซ์ก็เอื้อมมือมาโยกหัวฉันไปมาอย่าง เคยชิน และมันก็ตามมาพร้อมกับสายตาค้อนๆของฉันที่ ส่งไปให้เขาเป็นประจำเมื่อเขาทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ ชอบนะ แต่คือฉันอยากให้พี่ชายฉันมองว่าฉันโตแล้ว แค่ นั้นเอง…

เย็นวันนี้ก็เหมือนทุกวันที่เราทานข้าวพร้อมหน้ากัน มัน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนาน และ เรื่องเล่าประจำวันที่เกิดขึ้น มากมาย ถึงแม้เราจะมีกันแค่ สามคนแต่ความสุขที่มีก็ไม่ได้น้อยเลย…

ฉันจะพยายาม…ฉันจะไม่อารมณ์ร้อน…ฉันจะไม่โมโห ง่าย…ฉันจะมีความอดทนสูง…ฉันต้องทำให้ได้แต่…ตอนนี้หิวมากอ่ะ ขอกันก่อนนะคะทุกคน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ