Chapter 3 : Family Games กิจกรรมสร้าง ความสัมพันธ์รุ่นพี่-รุ่นน้อง
วันต่อมา…
“นี่เธอเคยคิดจะหยุดกินบ้างมั้ยเนี่ยเมลล์”
ฉันเงยหน้าจากชีทเรียนขึ้นมองใบหน้าสวยหวานของ เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า ในขณะที่ปากยังเคี้ยวขนมไป ด้วย
ตอนนี้เราสองคนกำลังนั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะ หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วและกำลังรอ เรียนวิชาในคาบบ่ายที่ตึกคณะบางวิชามีเนื้อหาค่อนข้าง เยอะ อาจารย์สอนในคาบได้ไม่หมดพวกเราจึงต้องเอามา อ่านเองแต่ถึงแม้อาจารย์จะสอนในคาบทันพวกเราก็อ่าน ทบทวนบทเรียนอยู่ตลอด
“การกินคือความสุขอย่างหนึ่งของฉัน ก็เหมือนที่เธอ ปลื้มพี่กล้วยเจ๋ง นั่นก็เป็นความสุขของเธอเมื่อได้เห็นหน้า เขาใช่มั้ยล่ะ”ฉันตอบแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ทําไมมาวกเข้าเรื่องฉันได้ล่ะเนี่ย-O-“
“พอพูดถึงชื่อพี่กล้วยเจ๋งหน่อยนี่เขินหน้าแดงเลยนะ ฮ่าๆๆ”
“เป็นอะไรกันล่ะ นี่ หยุดแซวเลยนะเมลล์นี่-///-“ยัยคุณ หนูส่งเสียงเข้มกลบเกลื่อนความเขิน แต่ไม่ทันแล้วล่ะ หน้าแดงๆนั่นมันฟ้องหมดแล้วว่ายัยนี่เขินจริงๆ
ในขณะที่ฉันกำลังหยอกเพื่อนรักอยู่นั้นเองก็มีรถสีแดง ลดสุดหรูวิ่งเข้ามาจอดบริเวณใกล้ๆ กัน ทุกสายตาจับ จ้องไปยังรถคันนั้น และตอนที่ผู้เป็นเจ้าของก้าวลงจาก รถมันช่างดึงดูดสายตาสุดๆ…
ส้นสูงห้านิ้วสีแดงแปร๊ดที่ดูก็รู้ว่าราคาคงจะแพงหูดับตับ ไหม้ก้าวลงมาเย้ยสายตาทุกคนเป็นอันดับแรก ตามมา ด้วยขาที่ยาวเรียวสวยเหมือนนางแบบระดับโลก หุ่นที่ดู ดีสุดๆอยู่ในชุดนิสิตฟิตเปรี๊ยะจนฉันกลัวว่าคนที่อยู่ใกล้ จะโดนกระดุมเสื้อหลุดกระเด็นโดนตา กระโปรงยาวเพียง คืบเศษๆ แต่ที่น่าดึงดูดใจที่สุดคงหนีไม่พ้นใบหน้าอันแสน เพอร์เฟ็กต์ ผมสีน้ำตาลแดงลอนใหญ่รับกับใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากได้รูปสวยถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพู จมูก โด่งเชิดกั้นขึ้นนิดๆ เธอมาพร้อมกับแว่นกันแดดสีชา
มันเหมือนภาพสโลมากตอนที่ผู้หญิงคนนั้นถอดแว่นตา ออกแล้วคาดผมไว้เผยให้เห็นดวงตาที่ถูกแต่งแต้มด้วย อายไลน์เนอร์ยิ่งทำให้ดวงตาเธอดูคมและโฉบเฉี่ยว น่ามองผู้หญิงคนนี้ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเธอไม่ สวย…
สองเท้าและสองขาเรียวยาวพาร่างบางเดินมาหยุดลงตรงหน้าพวกฉัน และรางสังหรณ์บางอย่างกระซิบบอก
ว่าฉันกำลังจะงานออกซะแล้ว
“เธอใช่มั้ยทีชื่อเมลล์ ผู้หญิงตรงหน้าชี้นิ้วเรียวๆที่เล็บ ถูกทาด้วยสีแดงสดมายังหน้าฉันอย่างไม่ค่อยมีมารยาท สักเท่าไหร่
“คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ…คะ?”ฉันลงหางเสียงเพราะ พิจารณาจากหนังหน้าแล้วเธอคงจะมีอายุมากกว่าฉัน แน่ๆ
“ฉันชื่อโรส ดาวคณะนิเทศ ปีสี่”
“โครถามคะ?”
“นี่เธอ!!”
คำถามฉันอาจจะฟังดูกวนๆจนคนฟังของขึ้น แต่ฉัน สาบานเลยว่าไม่ได้ตั้งใจกวน ก็ฉันไม่ได้ถามชื่อเธอซะ หน่อย(-.-)
“ช่างเถอะ ฉันพอจะรู้มาบ้างว่าเธอเป็นยังไง”ยัยคนสวย ควบคุมอารมณ์แล้วกลับมาพูดกับฉันดีๆ นัยน์ตาสีน้ำตาล ที่มองมาบ่งบอกมาก มากว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าฉันอย่าง แรง “ฉันเป็นแฟนไบรอัน”
“แล้วยังไงคะ
“ก็เมื่อวานเธอไปหาเรื่องแฟนฉัน ที่เธอคอยหาเรื่อง เขาเพราะเธอต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขา เธอ ต้องการยั่วเขาใช่มั้ย”
ฉันข้าพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่ได้เมื่อได้ยินแบบนั้นนี่ ไอ้รุ่นพี่บ้านั่นไปฟ้องแฟนให้มาเล่นงานฉันแทนงั้นเหรอ เพราะเขาเป็นผู้ชายเลยทำอะไรฉันไม่ได้งั้นสิ
“หัวเราะอะไรยะ มีอะไรตลกนักรีไง”ยัยพี่โรสขึ้นเสียง อย่างฉุนๆ
“ขอโทษนะคะพี่โรส ไม่ทราบว่าพี่ใช้สมองคิดหรือว่าเอา ต่อมไร้ท่อคิดกันแน่”ฉันลุกขึ้นพูดกับแขกไม่ได้รับเชิญ อย่างให้เกียรติ (ประชด) ถึงแม้ว่าฉันจะตัวเล็กกว่าคน ตรงหน้ามาก แต่อย่าคิดนะว่าคนอย่างเมลล์จะกลัวคน ที่ท่าทางแรงๆแบบนี้ แถมยังเป็นรุ่นพี่อีกขนาดลูกตาวที่ ทุกทีจะเป็นฝ่ายห้ามตอนนี้ยังนั่งขำกับประโยคของฉันที่ พ่นออกไปเมื่อกี้เลย
“หมายความว่ายังไงยะ?!!”
“การที่ฉันทำแบบนั้นกับเขาเรียกว่ายั่วเหรอคะ แสดงว่า พี่ก็ยั่วเขาเหมือนกันน่ะสิถึงได้เขามาเป็นแฟน”
“ยัยเด็กบ้า!!”
“กลับไปหาแฟนพี่เถอะ อ้อ แล้วฝากบอกเขาด้วยนะ ว่าไปเอากระโปรงมาใส่ซะถึงขนาดขี้ขลาดให้ผู้หญิงมา เคลียร์ปัญหาให้ เหอะ!”
“กรี๊ดดด!! นี่แกกล้าว่าไบรอันของฉันเหรอ”ยัยพี่โรส กระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ เธอวาดฝ่ามือขึ้นเตรียมจะตบ หน้าฉัน ลูกตาวเห็นว่าไม่ได้การจึงเตรียมลุกขึ้นมาห้าม แต่ก็ช้ากว่าฉันอยู่ดี
ฉันหยิบดินสอกดที่ถูกออกแบบให้เหมือนเข็มฉีดยาบน โต๊ะขึ้นมาแล้วเงื้อขึ้นทำท่าว่าจะแทงเธอถ้าเธอตบฉัน โรสเห็นอย่างนั้นจึงชะงักทันทีคงเพราะคิดว่าฉันถือเข็ม ฉีดยาจริงๆอยู่ล่ะมั้ง ก็มันเหมือนเข็มจริงๆนี่
“นะ…นี่แกกล้าเอาเข็มฉีดยามาเล่นเลยเหรอ”ยัยพี่โรส ลดมือลงพลางก้าวถอยหลังช้าๆ “ฝากไว้ก่อนเถอะ!!”ทิ้ง ท้ายไว้แค่นั้นเจ้าหล่อนก็รีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่าง รวดเร็ว
“ฉันเพิ่งอยู่ปีหนึ่งยังไม่ได้จับเข็มฉีดยาง่ายๆหรอก แค่ ดินสอกดก็กลัวเหรอ”ฉันตะโกนตามหลังรถแม้รู้ว่าเจ้าตัว จะไม่ได้ยินก็ตาม คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็หัวเราะขำๆ ตามกันไป
“เธอนี่แสบจริงๆ ฉันคิดว่าจะมีเรื่องอีกแล้วซะอีก”ลูกตาว ว่า สีหน้าเหมือนโล่งอกที่ไม่ต้องห้ามศึก
“ฉันก็หวังไว้ว่าฉันจะไม่ก่อเรื่องเพราะอารมณ์ร้อนของ ฉันให้ได้ตลอดไปนะ”ฉันบอกก่อนจะนั่งลงตามเดิม
ลูกตาวยิ้มให้ฉันอย่างให้กำลังใจ ฉันยิ้มให้เพื่อนรัก อย่างขอบคุณเช่นกัน…
สองวันต่อมา…
เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานของเพื่อนๆร่วมคณะดัง เข้ามาทักทายฉันกับลูกตาวทันทีที่เราเปิดประตูเข้าไป ในห้องเรียนในตอนเช้าที่แสนสดใส เพื่อนร่วมคณะฉันมี ด้วยกันทั้งหมดร้อยยี่สิบห้าคน (รวมฉันกับลูกตาวด้วย) ตั้งแต่เปิดเทอมมาถึงตอนนี้พวกเราก็เริ่มสนิทกับหมดทุก คนแล้วล่ะ
ฉันกับลูกตาวเดินไปนั่งยังโต๊ะที่ยังว่างอยู่กลางห้องเพื่อ รอเรียนวิชาแรกของวัน อีกตั้งสิบห้านาทีกว่าจะถึงเวลา เรียน ทุกคนจึงเหลือเวลาเม้าส์กันอีกเยอะแยะ ฉันพอจะ จับประเด็นจากเรื่องที่เพื่อนๆกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ออกชาติอยู่นั้นได้ว่าเป็นเรื่องอะไร มันเป็นเรื่อง ‘งาน Family Games’
งาน Family Games ไม่ใช่เอาครอบครัวมาแข่งขันเกม กันนะ Family ในที่นี้หมายถึงพี่น้องในมหาวิทยาลัย B แห่งนี้ที่เปรียบเสมือนครอบครัว งาน Family Gamesครั้ง นี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 แล้ว ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดอีกงาน หนึ่งของทางมหา’ลัยเรา ภายในงานก็จะมีการออกร้าน ต่างๆของแต่ละคณะ ทั้งงานแฮนด์เมด ของกิน ของ ประดับ งานวิชาการให้ความรู้ บลาๆๆ และไฮไลท์ของ งานอยู่ที่จะมีการแข่งขันเกมของปี 1 กับพี่ปี 4 โดยที่มีพี่ ปี 2 และปี 3เป็นคนคิดเกมและจัดเตรียมทุกอย่างให้เพื่อ เป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์พี่กับน้อง และถือว่าเป็น เกมสนุกๆส่งท้ายการเรียนปีสุดท้ายของรุ่นพี่ปีนี้
เกมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันนั้นมีหลากหลายเกม ไม่มีใคร รู้ว่าจะมีเกมอะไรบ้างเพราะพี่ปี่ 2 กับพี่ปี 3 ที่คิดเกมช่วย กันเหยียบไว้เป็นความลับอย่างถึงที่สุด มันสนุกตรงไม่รู้ ว่าเป็นเกมอะไรเนี่ยแหละฉันว่า จะพิสดารพันธุ์ลึกแค่ไหน เมื่อหลวมตัวเข้าไปลงเล่นแล้วก็ไม่สามารถที่จะถอนตัว ได้ไม่ว่ากรณีใด อ้อ มันเป็นเกมเน้นฮาไม่เน้นการใช้กำลัง อ่ะนะ
ในปีนี้จะมีทั้งสิ้น 12 เกม (ได้ยินเพื่อนๆพูดกันมาแบบ นี้) โดยแต่ละคณะจะส่งผู้เล่นชั้นปีละ 1 คนต่อ 1 เกม นั่น คือปี 1 จะมีตัวแทนเล่นเกมทั้งหมด 12 คนและปี 4 ก็เช่น เดียวกัน ซึ่งแต่ละเกมสามารถส่งผู้เล่นซ้ำได้ สรุปแล้ว 1 เกมจะมีผู้เล่นทั้งสิ้นยี่สิบกว่าคน (จากแต่ละคณะ) โดยจะ แบ่งเป็น 2 ทีม ปี 1 จะเป็นทีมเดียวกันและปี 4 ก็เป็นอีกทีมหนึ่ง
ฉันกับลูกสาวนั่งฟังเพื่อนคุยกันเงียบๆ เราคุยกันแล้ว ว่าเราอยากจะเป็นผู้ชมคอยนั่งเชียร์มากกว่า การตกเป็น เป้าสายตาของคนหลักพันไม่ใช่สิ่งที่ฉันชื่นชอบมากนัก (-_-) เพราะเกมนี้จะจัดกันที่สนามกีฬากลางของมหา’ลัยที่ สามารถจุคนได้นับหมื่น แน่นอนว่างานใหญ่ๆ แบบนี้คนดู ไม่น่าจะต่ำกว่าหลักพัน
“งานนี้ฉันว่าจะลงเล่นเกมอ่ะ เธอลงป่ะ”เพื่อนคนหนึ่งหัน ไปถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างตื่นเต้น
“ลงสีๆ เผื่อว่าจะได้เจอรุ่นพี่สามคนนั้นจากคณะบริหาร”
“อ๊ายยยย (/// “ฉันชอบเลขห้าอ่ะเธอ ฉันลงเล่นเกมที่ห้า
ดีกว่า”
“ฉันชอบเลขเก้า งั้นฉันขอลงเกมที่เก้าแล้วกัน”
หนุ่มๆพูดถึงเกมกันอย่างตื่นเต้น ส่วนสาวๆ กระดึ๊กระด๊า กันใหญ่เมื่อพูดถึงสามหนุ่มสุดฮอตจากคณะบริหาร พวก เธออาจจะโชคดีได้เล่นเกมกับพวกเขาก็ได้ ก็พวกนั้นอยู่ ปีสุดท้ายกันแล้วนี่นา อ้อ อย่าคิดกันนะว่าคนเป็นนิสิต แพทย์จะมีแต่เด็กคงแก่เรียน ใส่แว่นตาหนาเตอะ เฉิ่มๆ เชยๆดูย้ยพี่แนนสุดแสบนั่นเป็นตัวอย่างสิ นางค่อนข้างจะออกตัวแรงเลยทีเดียว
ในขณะนั้นเองใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง ใครคนนั้นเป็นคนที่ฉันเห็นแล้วต้องเบ้ปากให้อย่างหมั่น ไส้…อายุยืนจริงๆ พอนึกถึงก็มาให้เห็นหน้าถึงที่เลย(-_-)*
ร่างบางระหงเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าห้องเรียนพร้อม ด้วยลิ่วล้อทั้ง 2 นางข้างกาย พี่แนนยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ ไปทั้งห้องก่อนจะอธิบายถึงการมาที่นี่
“น้องๆ คะ พี่ขอเวลาสัก 5 นาที”เสียงพูดคุยของทุกคน เงียบลงทันที ยับพี่แนนจึงพูดต่อ “น้องๆ คงจะรู้กันมาบ้าง แล้วนะคะว่าอาทิตย์หน้าเราจะมีงาน Family Games ซึ่ง พี่ปี 2 และปี 3 ได้รับผิดชอบเรื่องเกมและซุ้มออกงาน ต่างๆ ที่พี่มาวันนี้เพราะต้องการรายชื่อผู้เล่นเกมทั้ง 12 เกม แต่ละเกมใครจะลงก็ให้เขียนชื่อให้ชัดเจนนะคะ”ยัย พี่แนนพูดจบเพื่อนคนหนึ่งของเธอก็เดินเอากระดาษกับ ปากกาที่เตรียมมาให้เพื่อนฉันที่นั่งอยู่หน้าสุดเพื่อลงชื่อ ไม่นานกระดาษแผ่นนั้นก็ถูกส่งต่อเพื่อให้คนเพื่อนคนอื่น ได้ลงชื่อบ้าง
“ว่าไงคะคุณน้องเมลล์ ไม่คิดจะลงเล่นเกมอะไรหน่อย เหรอ?”ยัย รหัสจีบปากจีบคอถามฉั อย่างมีจริตเมื่อเห็น ฉันส่งกระดาษรายชื่อให้เพื่อนที่นั่งถัดออกไปโดยไม่คิด แม้แต่จะอ่านรายละเอียดอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ไม่ล่ะค่ะพี่ พอดีอยากเป็นคนดูมากกว่า”ฉันตอบไปตาม
ยัยพี่แนนไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยักไหล่ขึ้นนิดๆ ประมาณ ว่า ‘ก็ตามใจเธอ’ แล้วหันไปพูดกับทุกคนอีกครั้งเมื่อลงชื่อ กันครบแล้วก่อนจะเดินออกห้องไปอย่างเชิดๆ
“พี่ขอบใจน้องๆทุกคนมากนะคะที่ให้ความร่วมมือ ขอให้ น้องๆ ชนะเกมและเอาถ้วยรางวัลมาประดับในตู้โชว์ของ เด็กปี 1 ให้ได้นะคะ อ้อ อีกสามวันไปเช็คดูรายชื่อที่บอร์ด หน้าตึกคณะกันด้วยนะสำหรับคนที่ลงเล่นเกม ถ้ามีราย ชื่อแล้วก็ไม่สามารถที่จะถอนตัวได้นะ พี่ไปละ บาย~”
“ให้ตายเถอะ หมอดัดจริตแบบนี้คนไข้คงจะพากันหมั่น ไส้กันทั้งโรงพยาบาล
เพื่อนๆ ถึงกับขำกันใหญ่กับประโยคที่ฉันพูดไล่หลัง พี่รหัสตัวเองไปด้วยความหมั่นไส้ระดับสิบไม่ใช่แค่ฉัน หรอกที่หมั่นไส้ยัยนั่นน่ะ(- -)*
อธิบายกันหน่อยดีกว่าว่าถ้วยรางวัลที่พี่แนนพูดถึง อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่างานนี้เป็นงานใหญ่ ผู้ชนะเกมจะได้ ถ้วยรางวัลเกียรติยศไประดับไว้ในตู้โชว์ของชั้นปีที่ชนะที่ ตึกอธิการบดี ซึ่งที่ผ่านมาปี 1 ได้ถ้วยรางวัลน้อยกว่าปี
ไม่ว่าเกมที่ออกมาจะแพ้หรือชนะยังไงพวกเราก็เป็นพี่ น้องร่วมสถาบันกันอยู่ดี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ