Chapter 18 : อยากอยู่ใกล้เธอ…
[Brian’s Part::]
หลับอย่างนี้ก็ดูไม่มีพิษสงอะไร….
ผมคิดกับตัวเองขณะที่มองคนตัวเล็กข้างกายซึ่งกำลัง หลับตาพริ้มซบไหล่ผมอยู่ ผมไล่มองตั้งแต่หน้าผากมน ลงไปยังดวงตากลมโตที่มีแผงขนตางอนยาว จมูกโด่ง เชิดกั้นขึ้นนิดๆ และไล่ลงไปยังริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่น่า มอง…ริมฝีปากที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมันสักครั้ง
เมลล์หลับไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่กว่ายัยเด็กนี่จะหลับก็ พักใหญ่เหมือนกัน ผมเห็นเมลล์หลับสนิทก็เลยแอบเอน หัวเธอให้มาซบไหล่ผมเพื่อให้นอนสบาย ผมเอื้อมมือไป ดึงเสื้อเจ็กเก็ตของผมที่ถอดไปห่มให้เมลล์ขึ้นนิดหน่อย แต่แล้วยัยตัวดีก็ทำผมชะงักไปเมื่อร่างบางข้างกายเอื้อม มากอดแขนผมแน่นเพื่อหาไออุ่น
ดีแล้วล่ะที่ยัยนี่หลับไม่รู้เรื่อง เธอจะได้ไม่รู้ว่าทำให้ผม ใจเต้นแรงไม่น้อยเลย…
ตลอดทางที่ผมนั่งมากันโรส ยัยนั่นก็พูดนั่นพูดนี่จนผม รําคาญเลยทําเป็นแกล้งหลับซะ พอรถทัวร์จอดให้พักผม ก็ชิ่งหนีตอนที่โรสลงไปเข้าห้องน้ำ
ผมลืมบอกไปสินะว่าที่โรสไปออกค่ายครั้งนี้ด้วยเพราะอะไร ก็เพราะผมไปยังไงล่ะ = = ; เมื่อปีที่แล้วผมแอบ หนีเธอมาออกค่ายโดยที่ไม่ให้เจ้าตัวรู้ พอโรสรู้ทีหลังก็ โวยวายใหญ่เลย แต่ผมก็ไม่แคร์หรอก พอมาปีนี้โรสจึงไม่ พลาดโอกาสที่จะตามมาสร้างความรำคาญให้ผม แต่ผม จะทำอะไรเธอได้ ถ้าไม่เห็นแก่คุณแม่ที่ขอไว้ถ้าเธอไม่ได้ เป็นลูกสาวของเพื่อนรักท่านล่ะก็ อย่าหวังเลยว่าจะได้มา อยู่ใกล้ผมแบบนี้ =_=
ทุกคนคงสังสัยกันใช่มั้ยว่าอย่างผม ไอ้ดีแซมและไอ้คอ ปเตอร์มีจิตสาธารณะอะไรแบบนี้กับเขาด้วยเหรอ สาเหตุ มาจากการที่ไอ้ดีแชมเป็นหลานรักของท่านอธิการบดี ของมหา’ลัยเรา ท่านอยากให้ไอ้ดีแซมไปออกค่ายดีเด่น อย่างค่ายอาสาค่ายนี้ด้วย แต่จากนิสัยไอ้ดีแซมแล้วมัน ไม่ยอมมานําบากคนเดียวแน่นอนมันเลยลากพวกผมไป เป็นคณะผู้ดูแลค่ายด้วยกันยังไงล่ะ
บอกตรงๆนะว่าตอนแรกที่ผมรู้เรื่องก็เคืองมันเหมือน กัน ปีแรกเราสามคนเลยไม่ไปออกค่ายอะไรกับเขา แต่ พอไปปีที่แล้วพวกผมก็เริ่มเปลี่ยนทัศนะคติที่มีต่อค่ายไป โดยปริยาย ผมว่าถ้าผมมีโอกาสก็อยากจะมาออกค่ายนี้ ด้วยเหมือนกันไม่ว่าผมจะเรียนจบไปแล้วก็ตาม ยังไงผมก็ อยากให้มีค่ายดีๆแบบนี้อยู่คู่มหา’ลัยของเราไปนานๆ
แต่วันนี้เมลล์ทำผมหงุดหงิดบ่อยมาก แม้ว่าจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ผมต้องสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆเมลล์ก็สะดุ้งตื่นนั่งตัวตรง เธอ หายใจแรงเหมือนวิ่งมาหลายกิโลเมตร
“เป็นอะไร ผมหันไปถามอย่างเป็นห่วง แต่ที่ทำให้ผม ตกใจมากกว่านั้นคือใบหน้าเนียนเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหล ออกมาเป็นทาง
“เปล่าๆ ไม่เป็นไร”เมลล์รีบปฏิเสธปากคอสั่นพร้อมกับ เช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว
“ฝันร้ายเหรอ”
เมลล์เงียบไป ดวงตากลมโตก้มมองมือที่เต็มไป ด้วยเหงื่อนิ่งๆ ก่อนที่เสียงใสจะพูดออกมาเสียงเบา “ก็…ทำนองนั้น”
“มันก็แค่ฝัน เธออย่าเก็บไปคิดเลย”ผมพูดปลอบคนตัว เล็กเท่าที่คนอย่างผมจะคิดออก ผมเป็นคนปลอบคนไม่ ค่อยเก่ง
“ถ้ามันเป็นแค่ฝันก็ดีน่ะสิ”เมลล์พูดเสียงเศร้า แต่ผมไม่รู้ ว่าเธอรู้สึกยังไงเพราะดวงตากลมโตกำลังมองออกไป นอกหน้าต่าง
“หมายความว่าไง”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรหรอก
อีกครั้งที่เมลล์ไม่ยอมบอกผมว่าเธอมีเรื่องอะไรในใจ ผมรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกแย่จึงไม่ได้ถามอะไรออกไป
อีกเดี่ยวก็คงจะถึงที่หมาย ปล่อยให้เมลล์คิดอะไรเงียบๆ คนเดียวน่าจะดีกว่า
[End Brian’s Part::]
ตั้งแต่สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายฉันก็ไม่หลับอีกเลยจนเดิน ทางมาถึงที่หมาย…..
เพราะไบรอันหนียัยพี่โรสมาอยู่กับฉัน นางเลยวีนฉัน ยกใหญ่ แต่เมื่อเธอโดนไบรอันตำหนิเรื่องพฤติกรรม ความขี้วีนขี้เหวี่ยงของเธอ เจ้าตัวจึงยอมสงบศึกลง แต่ก็ ยังไม่วายส่งคำด่าทอมาทางสายตาซึ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ เห็นมันเพราะไม่อยากเสวนาด้วย
เนื่องจากทางขึ้นหมู่บ้านเรียกได้ว่าเป็นทางวิบาก รถทัวร์ ไม่สามารถขึ้นไปได้ตามที่พี่มดดำได้บอกไว้ก่อนแล้ว พวกเราทุกคนจึงลงจากรถมาสูดอากาศบริสุทธิ์บริเวณ รอบๆที่รถจอด บริเวณนี้มีแต่แมกไม้สีเขียวขจีสบายตา อ้าาาาาา~ ฉันชอบบรรยากาศแบบนี้จัง เย็นสบายมากๆเลยล่ะ
ฉันเดินถือกล่องข้าวไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ ไกลและยังไม่มีใครนั่ง ฉันก้าวฉับๆลงไปนั่งตรงนั้นอย่าง สบายใจ
ได้ทานข้าวเช้าซะที ฉันหิวมากๆ เลยล่ะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ