Chapter 16 : ออกค่ายฯ สุดหรรษา (เสียที่ไหน)
ไบรอันคนที่อยู่ต่อหน้าฉันต่างกับไบรอันคนที่อยู่ต่อหน้า แม่ฉันอย่างกับคนละคน
แม่ออกอาการปลื้มเขาอย่างปิดไม่มิด รอยยิ้มประดับบน ใบหน้าสวยตลอดเวลาตั้งแต่เห็นหน้าเขาตอนที่มารับฉัน หน้าบ้าน ส่วนไบรอันน่ะเหรอ ฉันถือว่าเขาเป็นคนที่เข้า กับผู้ใหญ่ได้ดีคนหนึ่งเลยล่ะ ไม่งั้นแม่ฉันจะหลงนิสัยเขา ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกอย่างนี้เหรอ
“ไปอยู่ที่โน่นอย่าดื้อนะลูก อย่าไปสร้างปัญหานะรู้มั้ย”
“แม่เห็นเมลล์เป็นคนยังไงเนี่ย – -“ฉันว่าอย่างงอนๆ
“กลางค่ำกลางคืนก็อย่าออกไปไหนคนเดียวนะ ดึกๆก็ อย่าลืมห่มผ้าด้วยล่ะลูกเดี่ยวจะไม่สบายเอา”แม่กำชับ อีกครั้ง สายตาที่มองมายังฉันบ่งบอกว่าคนเป็นแม่ห่วงลูก สาวมากๆ
“รับทราบค่า แม่ไม่ต้องห่วงหรอก รับรองเมลล์ไม่ดื้อ ไม่ สร้างปัญหา แล้วก็จะห่มผ้าหนาๆไม่เอาหวัดมาปล่อยแม่
“ดีมากจ้ะ^^”
ฉันเดินไปกอดแม่แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะผละ ออกมา เมลล์ไปแล้วนะ
“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่ฝากดูแลน้องด้วยนะจ๊ะไป รฮัน ^^”ประโยคหลังแม่หันไปบอกไบรอันอย่างอารมณ์
商
เห็นคนหน้าตาดีหน่อยไม่ได้นะแม่ (-_-)
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลให้อย่างดี”
ไบรอันรับคำเสียงนุ่ม แม้ประโยคนี้เขาจะพูดไปตาม มารยาทก็เถอะ แต่ฉันว่าเขาเหมือนจะแฝงประสงค์อะไร บางอย่าง ดูจากสายตามีเลศนัยที่เขาหันมามองฉันสิ
ฉันยกมือไหว้และโบกมือลาแม่แล้วขึ้นรถไปนั่งยังที่นั่ง ข้างคนขับ ไบรอันยกมือไหว้ลาแม่ฉันแล้วจึงตามมานั่ง ประจำที่คนขับ ไม่นานรถก็เคลื่อนที่ออกไปจากหน้าบ้าน ฉัน
“ไหนล่ะมือถือฉัน”ฉันรีบทวงของทันที
ไบรอันล้วงเอามือถือฉันจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ยื่นให้ อย่างน้อยฉันก็รู้ว่าเขาเป็นคนรักษาคนพูดล่ะนะ
ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นภายในรถ ไบรอันมองไปยังถนน เบื้องหน้าโดยไม่พูดอะไร ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่มอง ออกไปยังหน้าต่างข้างกาย
เธอหน้าไม่เหมือนแม่เลยนะ”
ไบรอันพูดขึ้นทำลายความเงียบเมื่อต่างคนต่างก็มาพูด อะไรกันอยู่นาน เราหันมามองหน้ากันแว๊บหนึ่งก่อนที่ไป รอันจะหันกลับไปมองยังท้องถนนต่อ
“ฉันหน้าเหมือนพ่อ
“ถึงว่า แม่ออกจะสวย แต่ลูกสาว…
ไบรอันละคำพูดไว้ในฐานที่เข้าใจ เอ๊ะ! เหมือนเขาจะว่า ฉันไม่สวยรึเปล่า แต่ช่างเถอะ ฉันไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่
“ฉันมั่นใจว่าฉันก็สวยระดับหนึ่ง”
นี่ขนาดไม่ใส่ใจนะ เอาเถอะๆ ฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็ ต้องคิดว่าตัวเองหน้าตาดีในแบบของตัวเองทั้งนั้น =_=;
“หึๆๆ เธอนี่หลงตัวเองเป็นบ้า”ไบรอันขำพรืดกับคำพูด ของฉัน “แล้วครอบครัวเธอทำงานอะไรกันบ้างล่ะ”
“แม่เคยเป็นครูแต่ตอนนี้ลาออกมาเป็นแม่บ้านแล้ว พี่ ชายก็เป็นหมอ ส่วนฉันก็กำลังเรียนหมออยู่
“แล้วพอเธอละ
คำถามของไบรอันทำให้ฉันถึงกับชะงักไปนิดหน่อยก่อน จะรีบตอบเพื่อไม่ให้เขาผิดสังเกต
“พ่อก็เป็นหมอ”
“ท่านคงไปเข้าเวรสินะ ถึงไม่เห็นมาส่งเธอเลย”
คำพูดของเขาเหมือนเข็มเล็กๆ ที่กำลังทิ่มแทงใจฉัน อย่างช้าๆ
“ท่านจากพวกเราไปนานแล้ว…”ฉันตอบเสียงเบา ความ รู้สึกหลากหลายอัดแน่นจนฉันรู้สึกบีบคั้นหัวใจไปหมด
ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ไบรอันคงรู้ตัวว่าตัวเอง เผลอถามอะไรที่ไม่ควรออกไป แต่ฉันก็ไม่ได้โกรธเขา หรอกนะ ก็เขาไม่รู้นี่นา
“ฉันขอโทษที่พูดไปแบบนั้น”
ในที่สุดเสียงทุ้มนุ่มหูจากคนข้างๆก็เอ่ยขึ้นทำลายความ เงียบ ใบรอันหันมามองหน้าฉันบ่อยๆเพื่อดูอาการฉัน อย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นไรหรอก นายไม่รู้สึกหน่อย ฉันตอบโดยที่ยัง มองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อซ่อนใบหน้าที่เผยความรู้สึก ออกมาชัดเจนว่าฉันค่อนข้างรู้สึกแย่
บริเวณหน้าตึกคณะบริหารธุรกิจ…
ที่หน้าตึกคณะบริหารฯตอนนี้เต็มไปด้วยชาวค่ายอาสา ที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงพร้อมเดินทาง หน้าตาของแต่ละ คนแสดงออกมากว่าง่วงเอาการและไม่อยากลุกจากเตียง แต่พอมาเจอเพื่อนหลายๆคน หน้าตาก็ยิ้มแย้มกันดี จะว่า ไปฉันก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อย (^^);
ฉันนั่งที่เก้าอี้ยาวใต้ต้นไม้ โดยมีสัมภาระของฉันและไบ รอันวางไว้อยู่ใกล้ๆ เรียกง่ายๆว่านั่งเฝ้าของนั่นเอง=_= ส่วนไบรอันก็แยกไปช่วยพี่มดดำจัดการเรื่องลงทะเบียน รายงานตัว
เราตกเป็นเป้าสายตามาก ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไบรอันถือ เป็นคนดังคนหนึ่งของมหา’ลัยนี้ แล้วการที่ฉันมาพร้อมกับ เขาก็ไม่พ้นเรื่องซุบซิบนินทา เฮ้อออ~ เอาเถอะ ฉันชิ้นแล้วละกับการถูกนินทาเพราะอิตาไบรอัน แต่มันก็อด ไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกอึดอัดกับสายตาหลายๆคู่ที่มองมา
“หวัดดี เสียงทักทายอย่างร่าเริงดังขึ้นใกล้ๆ พอหัน ไปดูฉันต้องเบิกตาโพลงด้วยความดีใจที่เห็นเขา
“สายฟ้า!! มาได้ไง นายก็มาออกค่ายอาสานี้ด้วยเห รอิฉันถามเขาน้ำเสียงตื่นเต้น
โชคชะตาไมใจร้ายกับฉันเกินไปที่ยังส่งเพื่อนมาให้ฉัน เพื่อจะได้ไม่เหงา
“ใช่แล้วล่ะ ฉันเป็นเด็กทุนน่ะ เลยออกค่ายเก็บชั่วโมง กิจกรรม ก็อย่างว่าแหละ ฉันมันเป็นบ้านนอก ที่บ้านไม่ ค่อยมีตังค์ แต่โชคดีที่ฉันหัวดีอยู่บ้างเลยสอบชิงทุนมา เรียนที่นี่ได้น่ะ”
“งั้นเหรอ มานั่งก่อนสิ”ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเชิญ เพื่อนให้มานั่งข้างกายซึ่งยังว่างอยู่
สายฟ้าเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างๆฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขา มีเพียงแค่กระเป๋าใบใหญ่มาแค่ใบเดียว ฉันว่าผู้ชายไม่มี ของใช้ส่วนตัวเยอะเหมือนของผู้หญิง เขาเลยไม่ได้ขน อะไรไปมากเหมือนฉัน (ส่วนใหญ่เป็นของกิน) มันน่า อิจฉาก็ตรงนี้แหละ
“ไม่ยักรู้ว่าเธอก็ไปออกค่ายนี้ด้วยเหมือนกัน”
“อ๋อ พอดีมีเหตุให้ต้องไปนิดหน่อยนะ=[]=;”
“เมื่อวานฉันเห็นเธอเข้าประชุมด้วย พอเลิกประชุมว่าจะ เข้าไปทักซะหน่อย แต่สีหน้าเธอเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจเลย ไม่กล้าเข้าไปทัก
“เฮ้ย ทักได้ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“ฮ่าๆๆ งั้นคราวหน้าถ้าเจอเธอที่ไหนฉันจะเข้าไปทักเลย แล้วกัน”สายฟ้าจ้องหน้าฉันยิ้มๆ เขาเงียบไปสักพักแล้ว พูดขึ้น “ฉันดีใจนะที่รู้ว่าเธอก็ไปออกค่ายด้วย”
“ฉันก็ดีใจที่เจอนาย นายรู้มั้ยว่าฉันไม่มีเพื่อนไปที่นั่น เลย”
“มัวแต่คุยกันจนไม่สนใจเลยรึไงว่าคนอื่นเขาขนของ ไปเก็บใต้ท้องรถหมดแล้ว”เสียงเข้มๆของใครบางคนดัง ขึ้นใกล้ๆ น้ำเสียงเขาบอกอย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์ ดวงตาคมคู่สวยจ้องหน้าฉันเขม็งอย่างไม่พอใจ
นี่เขาไปโกรธอะไรมาเนี่ย ประจำเดือนไม่มารึไง เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฉันล่ะตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ
สายฟ้าเอากระเป๋าของตัวเองไปไว้ใต้ท้องรถแล้วเดิน กลับมาช่วยฉัน สัมภาระของฉันมีเพียงแต่กระเป๋าเป้แบบ สะพายสองใบ ส่วนกล่องของบริจาคฉันก็เอาไปรวมกับ คนอื่นก่อนแล้ว
“ฉันจัดการเอง
ในขณะที่สายฟ้าเอื้อมมือมาจะช่วยฉันยกกระเป๋า ไบ รอ้นกลับคว้ากระเป๋าของฉันใบนั้นไปไว้ในมือแล้วบอก สายฟ้าเสียงเย็น ฉันได้แต่ยืนมองหน้าพวกเขาสลับกันไป มาเพราะความงงเริ่มเข้ามารับประทาน
“ไบรอัน คุณอยู่นี่เอง โรสตามหาคุณแทบแย่”
เสียงแหลมแสบแก้วหูของยัยพี่โรสดังเข้ามาก่อนตัวเป็น เครื่องระงับศึกทางสายตาได้เป็นอย่างดี เจ้าของเสียง เดินเข้ามากอดแขนไบรอันไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง
“โรสรอคุณที่บ้านตั้งนาน ทำไมคุณไม่เห็นไปรับโรสเลย ล่ะ”โรสพูดท่าทางกระแหนะกระแหน
แหม น่าหมั่นไส้จริง!
ไม่อยากจะเชื่อว่าลุคคุณหนูอย่างยัยพี่โรสจะไปบุกป่า ฝ่าดงกับเขาด้วยฉันมองสาวเปรี้ยวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรด ปลายเท้า โรสสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ลายสวยสะดุดตาแบบฟิตเปรียะแนบเนื้อกับรองเท้าส้นเข็มสูงสี่นิ้ว
เหอะ! คิดได้ไง นี่ชุดออกค่ายของเธอเรอะ นี่ถ้าไม่บ้าก็ ปัญญาอ่อนล่ะ =_=)
“ผมไม่ได้บอกคุณว่าผมจะไปรับ”ไบรอันกรอกตาขึ้น ลงอย่างรำคาญ พลางแกะมือของโรสออก “ผมขอเตือน อะไรคุณอย่างหนึ่งนะว่าให้ไปเปลี่ยนรองเท้าซะ”
“ทำไมล่ะคะ สวยดีออก คู่นี้มีคู่เดียวในโลกนะคะเนี่ ย ^O^”โรสพูดอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับยิ้มหน้าบาน นำ เสนอสินค้าแบรนด์เนมเต็มที่
“ก็ตามใจคุณ
“โรสให้คนใช้เอาของไปเก็บให้แล้ว แล้วไหนกระเป๋า ของคุณล่ะคะ เดี๋ยวโรสจะเอาไปเก็บให้ นี่เหรอ”โรสพูด เองเออเองเสร็จสรรพก็คว้ากระเป๋าของฉันที่ไบรอันถือ อยู่ไปโดยไม่รอให้เขาได้พูดอะไร
“นั่นกระเป๋าฉัน ฉันรีบบอก
ได้ยินอย่างนั้นโรสก็รีบปล่อยกระเป๋าของฉันลงพื้น อย่างรวดเร็วราวกับรังเกียจมันมาก
“นี่! เธอปล่อยกระเป๋าฉันลงพื้นแบบนั้นได้ไง ไม่กลัวข้าว ของของคนอื่นเสียหายเลยเหรอ ฉันว่ายัยนางร้ายหน้า สาบเสียงเข็ม
“ช่วยไม่ได้ โรสเบ้ปากใส่ฉันแบบไม่แคร์
สายฟ้าเดินเข้ามาใกล้ฉันเพื่อจะห้ามเพราะกลัวว่าฉัน จะเข้าไปตบโรสล่ะมั้ง ก็น่าหมั่นไส้ซะขนาดนั้นนี่ แต่ฉัน ไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลังแบบนั้นหรอกนะ
“ตอนแรกฉันก็เห็นว่าเธอดูเหมือนเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง เลยนะแต่ตอนนี้เธอทำให้ฉันรู้แล้วล่ะว่าฉันคิดผิด”
“นี่แกหมายความว่ายังไงยะ”โรสหน้าตึงขึ้นทันที
“เธอคงจะใช้ต่อมไร้ท่อทำงานแทนสมองจริงๆ ถึงไม่รู้ ว่าการจะไปออกค่ายในที่ๆแบบนั้นเนี่ยควรจะแต่งตัว ยังไง”ฉันเหยียดยิ้มเย้ยหยันให้ดูร้ายที่สุด แล้วมองโรส ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเพื่อยั่วโมโห “แต่งตัวแบบนี้แต่งไป ให้ต้นไม้ในป่าดูรึไง”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด ยัยเด็กบ้าน ปากดีนักนะ!”โรสเสื้อ มือขึ้นทําท่าจะตบฉาดเข้ามาที่หน้าฉัน แต่คิดเหรอว่าฉัน จะกลัว
“โรส ถ้าคุณอยากมีเรื่องทะเลาะวิวาทแบบนี้คุณก็กลับ บ้านไปเลยไป ไบรอันชั้นเสียงใส่หญิงสาวข้างกาย แล้ว เหมือนว่าเธอจะกลัวเขาอยู่มากเหมือนกันจึงยอมสลัดมือ ลง ถึงแม้จะไม่พอใจมากก็ตาม
ฉันคว้ากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาถือไว้ สายฟ้าเห็นอย่าง นั้นเลยเข้ามาช่วยด้วยฉันเดินกระแทกไหล่โรสไปทางรถ ทัวรที่จอดอยู่เพื่อเอาสัมภาระไปเก็บ บนรถทัวร์ทั้งสอง คันมีคนขึ้นไปจับจองที่นั่งกันและมันก็ใกล้เต็มหมดแล้ว
*ไบรอันคะ เราไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ นี่ก็ใกล้เวลาจะออก เดินทางแล้วด้วย”โรสว่า แล้วลากแขนไบรอันขึ้นรถไป เขาก็ยอมเดินตามไปโดยดี อาจจะเพราะไม่อยากให้เกิด ปัญหาอะไรอีก
ฉันเดินนำสายฟ้าไปขึ้นรถอีกคันหนึ่ง แยกกันไปคนละ คันกับยัยฟีโรสก็ดี ฉันจะได้นั่งสงบๆหน่อย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ