บทที่4 เฉินที่โศกเศร้าจนจะเป็นบ้า
จางซิน
เจ้า อยากตายหรือไง
ในตาของเจียงเยวที่หรี่ไว้นั้นเต็มไปด้วยความอยากจะฆ่าคน นั้น ซึ่งบรรยากาศนี้กระจายไปทั่วคลินิก ทำให้เหล่าอู่ที่อยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก
พอเหล่า เห็นอารมณ์ของเจียงเยวที่ใกล้จะระเบิดออกมา เขา
จึงรีบพูดว่า
“ลูกพี่ ผมไปจัดการมันเดี๋ยวนี้
“เดี่ยว”
เจียงเยว่ห้ามเหล่าอู่ที่กำลังจะเดินออกจากคลินิกไว้ แต่ความ คิดที่แสดงออกมาจากตานั้นก็ยังไม่ได้จางหายไป
“คนนี้เดี๋ยวผมไปจัดการเอง ตอนนี้นายหางานให้เงินก่อน แต่ให้ทำอย่างลับๆ ถ้าเฉินรู้ว่าผมเป็นคนเตรียมงานนี้ให้เธอ ไม่ยอมไปทำแน่เลย นายคงรู้นะ ว่าต้องทำยังไง
“ครับ ผมรู้”
เหล่าอู่หายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ในคลินิก เหลือแค่เจียงเยวกับเหมิงเหมิงสองคน
“เหมิงเหมิง หนูอยู่ไหน”มีเสียงที่โศกเศร้าส่งมาจากนอกประตู คลินิก
ทั้งสองคนหันไปมอง ก็เห็นโจวรั่วหยินที่ปล่อยผมอย่างโทรมๆ สีหน้าซีดๆ และบนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ปรากฏ ตัวที่หน้าประตู
หลังจากที่เฉินยี่เดินเข้าไปในคลินิก สายตาของโจวรั่วหยิน ค้างอยู่ที่รถโรลส์รอยซ์ จ้องสำรวจประมาณสิบนาทีถึงตามเข้าไป ในคลินิก
ตอนที่เธอยังเป็นคุณหญิงในตระกูลชั้นสูง เธอก็ไม่เคยนั่งรถ หรูขนาดนี้
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหมิงเหมิงหายไปในวินาทีที่เห็นแม่และ
ย่า
เธอรีบซ่อนถุงที่เต็มไปด้วยขวดที่จับไว้ในมือไว้หลังตนเอง แล้วเดินถอยหลังไปสองก้าว
“เด็กโง่นี่”
เฉินไม่พูดอะไร แล้วพุ่งเข้าไปตีก้นของเหมิงเหมิง
“แม่บอกแล้วใช่ไหม ถ้าแม่ยังไม่ได้ไปรับที่โรงเรียน ห้ามวิ่ง เล่นไปไหน ทำไมหนูไม่ฟังแม่เลย”
เหมิงเหมิงที่โดนตี กัดฟันไว้ไม่ร้องไห้ไม่งอแงเลย เพียงแต่พูดว่า”แม่หนูขอโทษๆ อยู่ตลอด
“เงินยี่ ผมเป็นคนพาเหมิงเหมิงมาเอง อย่าตีเด็กเลย”
เจียงเยวรีบเข้ามาห้าม บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเจ็บ ปวด
พอได้ยินเช่นนี้ เฉินหันมามองเจียงเยวทันที ในตาคู่นั้นเต็ม ไปด้วยความโกรธแค้นที่จะล้นฟ้า เธอตะโกนอย่างกับสัตว์ป่าที่ จะเป็นบ้า
“ฉันกำลังสอนลูกของฉันอยู่เกี่ยวอะไรกับนาย อีกอย่าง นายมี สิทธิ์อะไรพาตัวลูกสาวฉันไป
“จะมาผมอะไร”
เฉินพูดด้วยน้ำเสียงอันแข็งกร้าว “แปดปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่ สามารถทำให้นายกลับตัวเป็นคนดีใช่ไหม ถ้าหลังจากนี้นายยัง จะมายุ่งกับลูกสาวฉันอีก ฉันจะให้นายไปติดคุกอีกสองปีแน่” “แม่อย่าโทษลุงเลย หนูวิ่งออกไปเอง อีกอย่างลุงยังช่วยหนู
แก้ไข.……..
“หนูแก้ตัวให้เขาทำไม
ความรู้สึกน้อยใจที่เกิดขึ้นในใจ ทำให้เฉินเสียใจจนนั่งลง บนพื้น ไม่สนว่าเจียงเยวี่ยังอยู่ที่นี่ ก็ร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง
วันนี้เธอไปขอยืมเงินกับเจ้านาย เจ้านาย ให้บัตรที่ในนั้นมีเงินสองแสนมา
แต่มีเงื่อนไขว่าเธอต้องไปเที่ยวซานย่ากับนายเป็นเวลาหนึ่ง อาทิตย์ เธอรู้ว่า หมายถึงอะไร
จึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไป จึงโดนบริษัทไล่ออก
แล้วได้รับข่าวว่าลูกสาวหาย ในขณะที่เธอหมดหวัง
สุดท้ายคือลูกสาวอยู่กับเจียงเยวอีกด้วย ตอนนี้เหมิงเหมิงช่วยคนเลวคนนี้แก้ตัว เลยทำให้เธอมีความ รู้สึกเสียทั้งโลกไป
เหมิงเหมิงเห็นแม่เศร้าขนาดนี้ จึงรีบเอาขวดไปวางไว้หน้าเงิน
“แม่อย่าร้องไห้เลย วันนี้หนูเห็นปู่ขอเงินค่าพยาบาลกับค่าเช่า
กับแม่ เลยรู้ว่าแม่ไม่มีเงิน
“หนูเลยไปเก็บขวดข้างนอกมาขาย อยากจะช่วยแม่แบ่งเบา ภาระนิดหนึ่ง”
ตอนแรกเหมิงเหมิงคิดว่าประโยคนี้สามารถปลอบให้แม่หยุด
ร้องไห้ได้
แต่ประโยคนี้ทำให้เฉินรู้สึกผิดมากขึ้น เลยร้องไห้หนักขึ้น
กว่าเดิม
พอเห็นภาพเฉินที่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ในใจเจียงเยรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
ฟังจากเสียร้องไห้ที่เศร้าโศก เขาสามารถรับรู้ได้ว่า หลายปี ผ่านมานี้เฉินยี่เลี้ยงลูกคนเดียวลำบากขนาดไหน
“แม่ แม่พาเหมิงเหมิงออกไปรอข้างนอกหน่อย”เฉิน พูดด้วย สีหน้าเย็นชา
“ได้”ก่อนที่โจวรั่วหยินจะพาเหมิงเหมิงออกไป เธอจ้องเจียง เยว่ด้วยสายตาที่โหดร้ายไปที่หนึ่ง
ลังเลไปตั้งนาน เจียงเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจากปากเลย จึงหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วจุดบุหรี่นั้น
แต่เขายังไม่ทันได้สูบเลย เฉินยื่นมือไปแย่งบุหรี่ที่อยู่ในปาก ของเจียงเยวมาทันที
ท่าทีการสูบบุหรี่ของเธอดูคล่องมาก สูบคำต่อคำ เหมือนโลก เงียบลงทั้งโลก ในวินาทีนั้น
ในสายตาเจียงเยวบุหรี่ทุกคำที่เธอสูบเข้าไป ทำให้เขายิ่งรู้สึก
ผิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนเอาไม้เรียวมาฟาดหัวใจของเขาแรงๆ ทําเขาเจ็บปวด จนหายใจไม่ออก
“เลิกสูบได้แล้ว”เจียงเยวี่แย่งบุหรี่จากมือของเฉิน
บุหรี่โดนแย่งไป เฉินเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชาไม่กี่เสียง นั่งบนพื้นด้วยผมที่ปล่อยลงมาอย่างโทรมๆ ไม่มองหน้าเจียงเยว่ เลย ทำตัวเฉยนิ่งมาก
เธอยิ่งเป็นแบบนี้ เจียงเยวยิ่งรู้สึกแย่
ถ้าหลังจากที่เฉินยี่เห็นเขา ควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้วตบเขา สองที่เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ เขาจะรู้สึกดีกว่านี้อีกเยอะ
แต่ความเฉยชาของเธอ เหมือนกับเธอลืมทุกอย่างที่เคยเกิด
เจียงเยวรู้
ขึ้น
การแสดงออกแบบนี้ หมายความว่าเฉินตรองใจตายแล้ว “ขอโทษ”หลังจากที่เงียบไปนาน เจียงเยวพูดขึ้นมาด้วยน้ำ เสียงเบาๆว่า นี่คือสิ่งที่ผมต้องชดใช้คุณ
ประโยคนี้ทำให้ตาของเฉินที่ไม่มีประกายแสงใดเลยๆมอง ไปทางเจียงเยว่ เหมือนกับคนตาย โดยไม่กล่าวอะไรเลย
แต่เจียงเยวสามารถสัมผัสถึงความแค้นที่จะล้นฟ้าของเธอ
เหมือนกับว่ามีเพียงแค่เขาตายตอนนี้เลย ความแค้นของเฉิน ยี่ที่มีต่อเขาถึงสามารถจางหายไป
“เฉิน…..”
ในเวลานั้นเจียงเยว่ไม่รู้จะทำยังไงดี เขายื่นมือออกไปโดย ไม่ทันได้คิด อยากจะไปกอดผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้
แต่พฤติกรรมของเขาเหมือนกับเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟ
เฉินที่เฉยชาโมโหขึ้นมาทันที แล้วปัดมือของเจียงเยวออก ด้วยอารมณ์ที่โมโหที่รุนแรงมาก เธอยืนขึ้นมาแล้วตะโกนว่าไปอย่ามาแตะตัวฉัน”
“ผมรู้ว่าคุณไม่รับคำขอโทษของผมหรอก แต่ขอให้คุณรับ ของที่ผมอยากชดใช้ให้คุณไว้ได้ไหม นี่คือบูติกวิลล่าของเพิ่ง หวงเฉิง และรถมาเซราติคันหนึ่ง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมอยาก ชดใช้ให้คุณ คุณช่วยรับไว้ด้วยเถอะ
เจียงเยวยื่นกุญแจและโฉนดที่ดินไว้หน้าเฉินแล้วพูดอย่าง จริงใจ
สิ่งที่เขาทำ ทำให้เป็นที่รู้สึกตลกมาก น้ำตาคลอโดยไม่รู้ตัว รถมาเซราติคันหนึ่ง บูติกวิลล่าของเพิ่งหวงเฉิงหลังหนึ่ง สามารถชดใช้สิ่งที่เขาทำให้เธอเจ็บมาหลายปีหรือไง
เป็นเพราะเขา ทำให้เธอที่มีแต่คนอิจฉากลายเป็นผีบ้า ใน สายตาคนอื่น
เป็นเพราะเขา เธอจึงโดนไล่ออกจากตระกูล ต้องทนทำงานอยู่
ในบริษัทเล็กๆ
เป็นเพราะเขา ปัญหาในครอบครัวไม่เคยหมด พ่อกลายเป็น พิการ แม่จากที่เป็นคุณหญิงก็กลายเป็นแม่ค้าข้างทาง
ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเจียงเยวคนเลวคนนี้
ทันใดนั้น เฉินกัดฟันและหายใจแรงขึ้น จ้องหน้าเจียงเยว่ไว้ แล้วแย่งโฉนดที่ดินกับกุญแจมา โยนกุญแจลงบนพื้นแรงๆ อย่างกับผีบ้าคนหนึ่ง
กุญแจหายไปหลังมีเสียงตกพื้น หลังจากนั้นเธอก็ฉีกโฉนด ที่ดินทิ้งด้วยหน้าตาที่โกรธแค้น
เปรียบเสมือนกำลังฉีกเฉียงเยวที่ยืนอยู่หน้าเธอ
“ลูกอย่าฉีกสิ ลูกอย่านึก”
โจวรั่วหยินพุ่งออกทันที พยายามห้ามเฉินไม่ให้ฉีกโฉนด ที่ดิน
“ลูกสาว คนเลวคนนี้เขาต้องชดใช้หนู ถ้าไม่ใช่เขา ครอบครัว เราก็ไม่ตกต่ำแบบนี้หรอก ของพวกนี้เป็นสิ่งที่หนูสมควรได้
“หนูไม่เอาของที่ไอ้คนเลวนี้ให้หรอก “เฉินกัดฟันแล้วพูด ไม่ ว่า โจวรั่วหยินห้ามเธอยังไง เธอก็ยังฉีกโฉนดที่ดินจนไม่เป็นชิ้น อยู่ดี
ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบันเจียงเยวมองเฉิน ที่ยืนอยู่ต่อหน้านิ่งๆ ปล่อยให้เธอระบายอารมณ์ของเธอ
ถ้าทำแบบนี้แล้วสามารถทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ก็ปล่อยให้เธอทำ ไปเถอะ
โจวรั่วหยินมองเศษกระดาษที่กระจายเต็มพื้นด้วยสายตา ลอยๆ รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน บ้านที่แพงขนาดนี้ ทำไมไม่เอา
ทั้งๆที่เป็นเพราะไอ้เลวคนนี้ที่ทำให้ครอบครัวพวกเธอกลาย เป็นแบบนี้
อย่าว่าแต่รถคันหนึ่ง คฤหาสน์หลังหนึ่งเลย ถึงแม้จะเป็นรถสิบคัน คฤหาสน์สิบหลังก็ไม่สามารถลบบาดแผลที่คนเลวคนนี้ทํา กับลูกเธอ
“ฉันบอกนายนะ”
เฉินหน้าเจียงเยวพร้อมกับตาที่แดงอยู่
“ฉันไม่สนว่านายมีเงินขนาดไหน ก็ไม่หวังว่านายจะชดใช้ อะไรให้ฉัน”
“ทั้งหมดนี้ฉันไม่ต้องการทั้งนั้น สิ่งที่ฉันหวังมีแค่ทั้งชีวิตนี้นาย อย่ามาเจอเหมิงเหมิงอีก”
“เธอคือลูกสาวของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย เข้าใจไหม
“แม่”
ขณะนี้ เหมิงเหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เม้มปากไว้แน่นๆ
“ลุงคนนี้เป็นพ่อของหนูหรือเปล่า”
“เขาไม่ใช่”
เฉินตะโกนใส่เหมิงเหมิงด้วยอารมณ์ที่รุนแรง “เขาเป็นเพียง แค่คนเลวคนหนึ่ง”
ตั้งแต่เด็กจนโตเหมิงเหมิงไม่เคยโดนแม่ตะโกนใส่เลย จึง ตกใจจนหน้าซีดไปหมด
แต่ก็ยังมองเฉินด้วยสายตาที่แข็งกร้าว และร้องไห้ไม่หยุด “แม่ ทำไมเด็กคนอื่นมีพ่อกันหมด มีแค่หนูที่ไม่มีพ่อ
“เหมิงเหมิง เราไปกันเถอะ”
เฉินยี่ลากเหมิงเหมิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาออกจากคลินิก พอมองเหมิงเหมิงที่เดินไปด้วยร้องไห้ไปด้วย เฉินก็รู้สึกผิดขึ้นมา น้ำตาก็ไหลออกมาจากตาเช่นกัน แต่ความแค้นที่มีต่อเจียงเยว่ไม่ได้จางหายไป ถึงแม้เธอจะทำดีกับเหมิงเหมิงมากๆตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่เธอก็รู้ว่า ความเห็นแก่ตัวของเธอจะทำให้ชีวิตของเหมิงเห
ขาดสิ่งที่เรียกว่าความรักจากพ่อตลอดชีวิต
แต่เธอก็จะไม่ยกโทษให้ชายคนนี้ที่ทำร้ายชีวิตของเธอด้วย เหตุผลนี้
ลูกสาว ให้อภัยความเห็นแก่ตัวของแม่ด้วย แม่ขอโทษ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ