Domineering Dad คุณพ่อหยิ่งผยอง

บทที่1 ธิดาของเทพแห่งสงคราม



บทที่1 ธิดาของเทพแห่งสงคราม

เมืองเดือนกันยายน ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่าน ทำใบไม้ร่วงหล่น จนหมดต้น เจียงเยวที่คุมเสื้อกันลมสีดำอยู่นั้น ยืนอยู่หน้าประตูคลินิกอัน

เก่าแก่แห่งหนึ่งอย่างกับทวน ปล่อยให้ใบไม้ร่วงบนไหล่อันกว้าง

ของเขา

“พาไอ้บ้านที่แกคลอดออกมา ออกไปจากตระกูลเจียงเมือง เยียนเดี๋ยวนี้ และอย่ากลับมาอีก

สิบปีที่แล้ว เจียงเยวอาศัยอยู่ในตระกูลเจียงที่เป็นหนึ่งในสาม ตระกูลใหญ่ของเมืองเยี่ยน

แต่เนื่องจากเขาป่วยเป็นโรคโมโหร้ายชนิดที่ประหลาด เขา

กับแม่จึงถูกไล่ออกจากตระกูล เร่ร่อนที่เมืองซู

ใช้ชีวิต โดยพึ่งคลินิกเล็กๆที่แม่เปิด

ถึงแม้ชีวิตจะขาดสน แต่แม่ลูกทั้งสองคนมีความสุขกันมาก แต่โรคโมโหร้ายของเขา ได้ทำชีวิตที่สงบมานานแตกสลาย

โรค โมโหร้ายกำเริบอีก เป็นสาเหตุก่อให้เจียงเยวทำลูกสาว ของตระกูลเฉิน แปดเปื้อน จึงถูกจำคุกแปดปี

ณ ตอนนั้น แม่กลับไปยังเขียนจึงคุกเข่าขอร้อง ของให้ตระกูล ออกมาช่วยเขา
แต่กลับโดนตระกูลเหยียบหยามอย่างร้ายแรง กลับมาด้วย น้ำตา และไม่สามารถทำอะไรได้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

หลังจากนั้น แม่จึงออกไปจากเมืองซูไม่กลับมาอีก

ไปปฏิบัติธรรม กินเจไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในหัวเซีย เพื่อ ชดใช้ความผิดที่ลูกชายได้กระทำไว้

“แม่ไม่เคยโทษลูกเลย แต่ลูกต้องสัญญากับแม่ว่า หลังออกมา

จากคุก ต้องชน ใช้ผู้หญิงที่ถูกลูกทำร้ายด้วยสุดชีวิตของลูก”

พอนึกถึงสิ่งที่แม่บอกตอนนั้น ทำให้อารมณ์ของเจียงเยวที่ สงบเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตาของเขาค่อยๆแดงขึ้นมา

พรสวรรค์ด้านการแพทย์และกำลังเหนือธรรมชาติที่มีมาแต่ เกิดของเขา ค้นพบโดยผู้บังคับการเรือนจํา

หลังจากผ่านการฝึกซ้อมพิเศษแล้ว ก็ถูกส่งตัวไปเป็นทหารที่

สนามรบเป่ยเจียง

แปดที่ผ่านมา เขาฆ่าศัตรูไปมากมาย ชนะสงครา ครามอยู่เรื่อยๆ จนได้กลายเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง ยมราชเจียง

ความสามารถของเขาทั้งด้านการรบและการแพทย์ไม่มีผู้ใด สามารถเทียบเท่าได้ มือซ้ายช่วยชีวิตคน มือขวาฆ่าคน ดูแล ความปลอดภัยของบ้านเมือง ปกป้องประเทศชาติ

ตอนนี้ เขา กลับมาแล้ว ขณะนี้ ผู้ช่วยบนสนามรบที่เจียงเยวชื่นชอบที่สุดเหล่าเดินมายังหลังเจียงเยว่ ในตาของเขาเต็มไปด้วยความนับถือ พร้อม กับยื่นจดหมายให้หนึ่งฉบับ

“ลูกพี่ นี่คือผู้หญิงที่พี่ให้ผมไปสำรวจ

แปดปีที่ผ่านมา เจียงเยวคิดถึงหญิงผู้ที่ถูกเขาทำร้ายอยู่ทุกวัน ทุกคืน

แต่เนื่องจากเขาสัญญากับบังคับการเรือนจำว่า เขาจะ สามารถกลับเมืองซูจากเป่ยเจียงได้ ก็ต่อเมื่อครบเวลาจําคุก เท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถติดต่อหญิงผู้นั้นได้ และไม่รู้ด้วยว่า ตอนนี้เธอเป็นไงบ้างแล้ว

เขาเปิดจดหมายด้วยมือที่สั่นไม่หยุด

พอเห็นผู้หญิงในรูป เจียงเยวชะงักนิ่งไป

รูปที่หนึ่ง ผู้หญิงในรูปหน้า ในตาดูว่างเปล่า นั่งดื่มเหล้าอยู่ ในมุมบาร์อย่างเงียบๆ สายตาของเธอหยุดนิ่งอยู่ที่โซนเต้น มอง วัยรุ่นที่เต้นในนั้นอย่างสนุก ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความ สับสนและความลังเล

รูปที่สอง เป็นรูปที่หญิงคนนี้นั่งอยู่ริมคูเมือง ใช้มือเท้าไว้ที่คาง มองท้องฟ้ากลางคืนด้วยสายตาไร้จุดหมาย ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย

รูปที่สาม สายตาของหญิงในรูปดูมีชีวิตชีวาขึ้น ไม่ได้ซึมเศร้า ต่อไป แต่ในอ้อมกอดเธอมีเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากๆ เพิ่มมาคน หนึ่ง
พอเห็นหญิงที่อยู่ในรูป หัวใจของเจียงเยาปวด ตๆ ความรู้สึก ผิดในใจไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูด

เมื่อก่อนลูกสาวคนโตของตระกูลเฉินเป็นผู้มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง ในเมืองเจียง

ไม่เพียงแต่มีหน้าตาที่งดงาม

ยังมีพรสวรรค์ด้านการเต้นที่ใครๆก็อิจฉา เธอเป็นคนใจดี

ท่าทางสง่างาม เป็นกุลสตรีของตระกูลชั้นสูง

กับเธอที่อยู่ในรูป ดูไม่เข้ากันเลย แตกต่างจนเหมือนคนละคน “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้

เจียงเยวถามพร้อมกับมือที่สั่นอยู่

“หญิงผู้ที่มีอะไรกับพี่ ชีวิตของเธอแย่มาก ตอนนั้นเธอมี พรสวรรค์ในการเต้นอย่างมาก กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่าง ประเทศเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น จึงทำให้นิสัย เธอเปลี่ยนไปเยอะมาก กลายเป็นคนซึมเศร้าที่ไม่ใส่ใจตัวเอง”

“หญิงที่เป็นนักเต้นมีพรสวรรค์สูงในตอนนั้น ตอนนี้ตกต่ำจน เป็นผู้หญิงเกเรที่ชอบสูบบุหรี่ติดเหล้า”

“และสมาชิกครอบครัวทั้งสามคนก็ถูกไล่ออกจากตระกูล”

“หลังโดนไล่ออกจากตระกูลพ่อของเธอทนความกดดันไม่ได้ จึงเหลือทนความกดดันจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สําเร็จ แต่ขาของเขาก็ พิการ ต้องนั่งรถเข็นอยู่เสมอ
“แม่ของเธอหาเงินประทังชีวิตด้วยการเป็นแม่ค้าที่ขายผักผล ไม้อยู่ริมถนน

“แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้คือใคร

สายตาของเจียงเยวจ้องไปที่เด็กผู้หญิงในรูปอยู่ตลอด “ตอน นี้เธอต่างงานแล้วหรอ”

“เด็กคนนั้นคือลูกสาวของพี่”ขณะที่เหล่าพูดอยู่ สายตาของ

เขาก็จ้องหน้าของเจียงเยวอยู่เสมอ

พอได้ยินเช่นนี้ มือเจียงเยวก็กะตุกไปที่หนึ่ง รูปในมือร่วง ลงพื้นทันที ในตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“นายว่าอะไรนะ”

ปฏิกิริยาของเจียงเยว่เป็นอย่างที่เหล่าคิดไว้เลย เขาพูดด้วย สีหน้านิ่งๆ ในขณะที่เขาก้มเก็บรูป

“หลังจากที่พี่ติดคุกไปหนึ่งปี หญิงผู้นั้นได้คลอดลูกสาวคน หนึ่งและตั้งชื่อว่าเฉินเหมิง ตอนนี้เรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมซัน ไชน์ชั้นปีที่สอง หลังมีลูกสาวเธอเริ่มใส่ใจชีวิตมากขึ้น เลือกที่จะ พยายามทํางานหาเงินเลี้ยงลูก แต่ด้วยเหตุเป็นโรคซึมเศร้ามา นาน ทำให้เธออารมณ์แปรปรวน จึงไม่มีบริษัทใหญ่ไหนจ้างเธอ เลย”

“ทำได้เพียงแค่ใช้ชีวิตในบริษัทเล็กๆอย่างลำบาก ตอนนี้ผมก็ ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเป็นยังทำงานในบริษัทหรือเปล่า”

“แต่สิ่งที่ผมมั่นใจเลยก็คือ ตอนนี้เหมิงเหมิงกำลังขายผักเป็นเพื่อนย่าของเขาที่ตลาด

“ไปกัน”เจียงเยวรีบพาเหล่าไปตลาดทันที

สิบนาทีผ่านมา เจียงเยวมาถึงตลาดเหมียวหญิง

เขากับเหล่าอยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน สังเกตเด็กผู้หญิงที่ถือใบ ผักกาดขาวโบกไปโบกมา พร้อมกับตะโกนอย่างเสียงดังอยู่ ตลอดว่า “ปู่ย่าน้าอา พี่ๆทั้งหลาย ดูผักของบ้านหนู สนมากเลย นะ ย่าหนูเพิ่งเก็บมาใหม่ๆเลย

มองเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนนั้นเรียกลูกค้าอย่างเหน็ดเหนื่อย ตา ของชายผู้เข้มแข็งอย่างเทพแห่งสงครามเจียงก็ค่อยๆแดงขึ้นมา บนตัวเด็กผู้หญิงคนนี้มีหลายจุดเหลือเกินที่เหมือนเขา

เด็กผู้หญิงคนนี้หรือ ที่เป็นลูกสาวของเขา

หน้าตาของเหมิงเหมิงน่ารักมาก ถักเปียสองข้าง สวมเสื้อ ดลายมิกกี้เมาส์สีแดง ทำให้สีผิวยิ่งดูขาวเข้าไปอีก

ผิวเนียนใสที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์นั้น น่ารักเหมือนกับตุ๊กตา ทำให้คนที่มองเห็นนั้นอยากจะเข้าไปใช้มือบีบหน้าใบเล็กๆของ เด็กคนนี้

โดยเฉพาะรอยยิ้มนั้น เหมือนเจียงเยวเหลือเกิน

“ลูกพี่ เด็กคนนี้ไงที่เป็นลูกสาวของพี่ที่ชื่อเหมิงเหมิง”

เจียงเยวพยักหน้าเบาๆ “อย่ารบกวนผม ปล่อยผมมองอีกสัก พัก”
เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล สำหรับเลี้ยงเยว่เปรียบเสมือน สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดบนโลก

พฤติกรรมที่ดูธรรมดาของเธอ สามารถควบคุมจิตใจและ อารมณ์ของเขาได้

ไม่น่าเชื่อเลย เขามีลูกสาวคนหนึ่งจริงด้วย

หลังเรียกลูกค้าไปสักพัก มีลูกค้าเข้าร้านเพียงแค่ไม่กี่คน

เลยทำให้บนใบหน้าอันน่ารักของเหมิงเหมิงเริ่มมีสีหน้า เสียใจเล็กน้อย

แต่พอหันไปมองโจวรั่วหยินที่ดูเหนื่อยล้า ใบหน้าที่เสียใจนั้น ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่มุ่งมั่น เสียงที่เรียกลูกค้าก็ดังขึ้นกว่าเดิม

ในตลาดที่มีผู้คนมากมาย มีเสียงเล็กเสียงน้อยของเด็กดังขึ้น เรื่อยๆ

“หนูน้อย ผักของหนู ผมซื้อหมดเลย ” พอได้ยินเช่นนี้ เหมิงเหมิงเงยหน้าขึ้นมามองเจียงเยวทันที

หลังจากทั้งสองคนสบตากัน ทันใดนั้นเหมิงเหมิงเงียบและนิ่ง

ลง เอียงหัวแล้วสำรวจเจียงเยว่

ไม่รู้ทำไม ลุงที่ยืนอยู่หน้าเธอคนนี้ เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเขาเหลือ

เกิน

เหมือนเคยเจอกันที่ไหนสักที

“นาย”
โจวรั่วหยินเงยหน้าขึ้น พอมองเห็นเจียงเยวเท่านั้น อารมณ์ ของเธอเปลี่ยนไปทันที

ก็คือผู้ชายคนนี้เอง ที่ทำร้ายลูกสาวของเธอ

ทำให้หญิงที่มีแต่คนอิจฉากลายเป็นผีบ้าที่ใครๆก็ดูถูก ก็คือผู้ชายคนนี้เอง ทำให้เธอที่เป็นคุณหญิงในตระกูลชั้นสูง ตกต่าเป็นแม่ค้าข้างทาง

วินาทีต่อมา โจวรั่วหยินยืนขึ้นมาทันที พร้อมกับลากเหมิงเหมื งมากอดไว้แล้วตะโกนด้วยสีหน้าอย่างระแวงว่า

“นายออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย อย่ามาแตะเหมิงเหมิงฉัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ