Domineering Dad คุณพ่อหยิ่งผยอง

บทที่ 18 ผู้เถรตรงไม่พูดลับหลัง ฉันอยากก่อกบฏ



บทที่ 18 ผู้เถรตรงไม่พูดลับหลัง ฉันอยากก่อกบฏ

หลังกลับถึงบ้านพัก เฉินก็เห็นอ้ายเยวนั่งอยู่ข้างสระว่ายน้ำ อย่างสูญเสียวิญญาณ กำลังเหม่อมองดวงจันทร์

ส่วนเหมิงเหมิงก็นั่งเบะปากอยู่ด้านข้างมองอ้ายเยว่ จาก สายตาของเหมิงเหมิงมองเห็นถึงความกังวลต่ออ้ายเยว่

“คุณแม่กลับมาแล้ว” เหมิงเหมิงมาถึงข้างกายเฉิน “น้าอ้าย เยว่ไม่มีความสุข”

เฉินลูบหัวเหมิงเหมิง “เหมิงเหมิง กลับไปนอนนะ แม่ไป ปลอบน้าอ้ายเยว่เอง”

เหมิงเหมิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง กลับบ้านพักไปนอนทันที

จริงๆ แล้วเฉินรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่มีความสุข เธอมาถึง ข้างกายอ้ายเยวแล้วนั่งลง

“เป็นไง หลังจากรู้ว่าเหมิงเหมิงเป็นลูกของเจียงเยวแล้ว ในใจ ผิดหวังมาก ใช่หรือไม่? ”

“พี่ยี่ ฉันไม่รู้ว่าเจียงเยว่เป็นพ่อของเหมิงเหมิง ฉัน…

“ชอบเจียงเยวหรือ? ”

“อืม” อ้ายเยว่ไม่มีการลังเลใด ยอมรับตรงๆ ถึงความรู้สึกที่ ตนมีต่อเจียงเยว่

“งั้นก็ไปจีบสิ” เฉินยี่สองมือวางบนพื้น เงยหน้ามองดวงดาวใบหน้าเบาสบาย

“อ้า? ”

อ้ายเยวทั้งหน้าตกตะลึงมองเฉิน

“เหมิงเหมิงเป็นลูกสาวของเจียงเยว่ งั้นพี่ก็เป็นผู้หญิงของ เจียงเขา ทำไมให้ฉันไปจีบ? หรือว่าพี่ไม่หึง หรือว่า ในใจไม่เป็น ทุกข์หรือ? ”

“ฉันและเขาชีวิตนี้คงเป็นไปไม่ได้ ปีนั้นเขาทำให้ฉันมีมลทิน ทําลายทั้งชีวิตของฉัน ฉันเกลียดเขายังแทบไม่ทันเลย ถ้าเธอ สามารถจีบเจียงเยว่ได้ พาเขาไปจากเมืองซู ฉันขอบคุณเธอยัง แทบไม่ทัน”

“พี่ยี่ ฉันจีบเจียงเยว่ได้จริงใช่ไหม? ”

“แน่นอนว่าได้ จีบให้เต็มที่เถอะ หวังว่าเธอจะทำสำเร็จ พาเขา ไปจากเมืองซู”

เฉิน กล่าวคำพวกนี้ออกมาด้วยความจริงใจ

ถ้าอ้ายเยวตามจีบเจียงเยว่ได้จริงๆ และพาอีกฝ่ายไปจาก เมืองซู

เช่นนั้นเธอก็สามารถใช้ชีวิตด้วยกันกับเหมิงเหมิงได้อย่าง มั่นคงแล้ว

และอีกอย่างอ้ายเยว่ก็ได้แต่งเข้าตระกูลร่ำรวยสมความ ปรารถนา ทําไมจะไม่ยินดีทำล่ะ?
แล้วอ้ายเยวก็ลุกขึ้นมาทันที พูดเสียงดังกับเงาหลังของเฉิน ว่า “ขอบคุณนะพี่”

“ขอให้เธอทำสำเร็จ แต่งเข้าตระกูลร่ำรวย”

เช้าตรู่วันที่สอง เฉินมาถึงฝ่ายขายตามปกติเช่นเดิม ยังคง เห็นซาลาเปาสองลูกและน้ำถั่วเขียวหมักหนึ่งแก้ววางอยู่บนโต๊ะ

คิดก็ไม่ต้องคิด ตรงเข้าไปเอาสิ่งนั้นโยนทิ้งไปในถังขยะ

หมี่ถึงที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนี้ จึงถามอย่างแปลกใจ

“พี่ พี่มีความชมชอบประเภทนี้หรือ? ซื้อซาลาเปากับน้ำถั่ว เขียวมาแล้วเอาไปทิ้งเล่น? ”

เฉินยี่ยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำของหมี่ถึง

“เดือนหนึ่งฉันมีฐานเงินเดือนแค่แปดร้อยเอง ถ้าพี่ไม่กิน งั้นก็ ให้ฉันสิ ฉันจะได้ประหยัดค่าข้าวไปได้หนึ่งมื้อ”

“ได้ พรุ่งนี้ถ้าบนโต๊ะยังมีข้าวอีก ก็หยิบไปได้เลย”

“แหะๆ ขอบคุณพี่”

หลังจากประชุมช่วงเช้าเสร็จ เฉินลากหมี่ถึงมาที่มุมของห้อง ทํางานด้วยท่าทางลึกลับ

“เสี่ยวหมี่ ไปหนานหัวกรุ๊ปกับฉันสักรอบไหม? เอาแต่รอ ตลอดก็ไม่ใช่วิธีอะไร พวกเราต้องบุกโจมตี ตรงไปหาผู้จัดการที่ บริษัทเพื่อพูดคุย”
ตอนนี้เฉินนับว่ามองออกแล้ว

ถ้าให้รอไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกถั่วหญิงหญิงกดจน ตาย

จะต้องบุกโจมตี บุกไปหาโอกาส ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นัดล่วงหน้าแล้วไปถึงบริษัทจะบุ่มบ่ามไปบ้าง แต่ถ้าไม่แม้แต่จะไปล่ะก็ คิดจะลงนามคำสั่งซื้อของหนานหัว กรุ๊ป ก็ยากยิ่งกว่าปืนขึ้นฟ้า

“ได้สิ เราบุกเข้าไปหาเอง อย่างน้อยก็มีโอกาสในการเจรจา ถ้ารอต่อไป ลูกค้าจะเป็นฝ่ายมาหาเราก่อนได้ยังไงกัน? ”

หญิงสาวสองคนปรึกษากันอย่างเรียบง่ายแล้ว ก็ออกเดินทาง

หนานหัวกรุ๊ป

หญิงสาวสองคนเริ่มจากไปแผนกต้อนรับนัดหมายผู้จัดการ

ฝ่ายจัดซื้อ

ได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังเจรจาพูดคุยกับลูกค้าคนสำคัญอยู่ที่ห้อง ประชุม ไม่มีเวลาต้อนรับพวกเธอ

ภายใต้ความไร้หนทาง ทั้งสองคนทำได้เพียงยืนรออยู่ที่ประตู บริษัท

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของหนานหัวกรุ๊ปทานข่ายเล็กและเซียวหยาง กั๋วหย่งและกั่วหญิงหญิงสี่คนเดินออกมาจากในบริษัท

ใบหน้าทั้งสี่คนเต็มไปด้วยความสุข

จากที่ระหว่างเซียวเฟิงจับมือกับทานข่ายเล็กไม่หยุดก็ สามารถมองออกได้

คำสั่งซื้อจะต้องได้มาแล้วแน่ ตอนที่มองเห็นคนทั้งสี่

เฉินและหมี่ถึงสีหน้าก็เปลี่ยน สบตากัน ใบหน้าเต็มไปด้วย ความท้อใจ ยังคงมาช้าไปก้าวหนึ่ง

“อุ้ย นี่ไม่ใช่เฉินหรอกหรือ? เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ? ”

ถั่วหญิงหญิงสองมือล้วงกระเป๋า เดินเข้ามาถึงด้านหน้าเป็น ถามขึ้น

เฉินไม่ได้สนใจกั่วหญิงหญิง แต่วิ่งไปที่ด้านหน้าของหาน ข่ายเลิก ใบหน้าจริงใจ “ผู้จัดการหาน คุณยังจําฉันได้ไหม? ฉัน คือเฉิน จากเปียเฉิงกรุ๊ป เมื่อวานพวกเราติดต่อกันทางโทรศัพท์ แล้ว คุณว่าวันนี้พวกเราเจอหน้าพูดคุยกันเกี่ยวกับ

ไม่รอให้เฉินพูดจบ หานขายเลิกมองไปทางเชียวหยาง “เรื่องของบริษัทของคุณเอง จัดการกันเองเถอะ ตอนนี้ฝ่ายขาย ของเป่ยเฉิงกรุ๊ปบ้าบิ่นขนาดนี้แล้วหรือ? แย่ง ใบรายการสั่งซื้อ อย่างเปิดเผย ยอดเยี่ยมๆ ”

หานข่ายเลิกไม่ได้สนใจเฉิน หมุนกายจากไปโดยตรง ไม่ว่าเงิน จะตะโกนเรียกอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่หันกลับมา “เฉินยี่ เธอประสาทหรือเปล่า? ” กั๋วหญิงหญิงตะโกนอย่าง

โมโห สีหน้าดูถูก “คำสั่งซื้อถูกพวกเราคว้าไว้ได้แล้ว เธอตะโกน โหวกเหวกอะไรกัน? เจียงเยวสอนทีมของพวกเธอให้มาแย่งใบ รายการสั่งซื้อแบบนี้หรือ”

เฉินยี่ยืนหอบอยู่ที่เดิม ไม่ได้พูดอะไร

แต่ในใจกระจ่างแจ้ง ตอนนี้เชียวหยางก็ลงสนามเองแล้ว

เสียคำสั่งซื้อไปก็ปกติมาก

เธอก็เป็นเพียงแค่พนักงานขายตัวเล็กๆ เท่านั้น จะเอาอะไรไป แข่งกับเซียวหยางและกั่วหย่งได้กัน?

“เฉินยี่ เธอยังห่างชั้นอีกมากนะ”

กั่วหญิงหญิงมองเฉินอย่างดูถูก เยาะเย้ยอย่างไร้เมตตา กล่าว

“ฉันจะบอกเธอให้ เลือกทีมนั้นสำคัญมาก ฝ่ายขายแปดสิบ กว่าคน มีแค่พวกเธอยี่สิบกว่าคนเข้าร่วมทีมเจียงเยว่

“ดูกลุ่มคนของพวกเธอ ผลงานแย่จนอยากร้องขอชีวิตเลย เชียว รู้ไหมว่าเพราะอะไรผลงานของพวกเราถึงดีขนาดนี้? ”

“เพราะประธานเซียวของพวกเรา เพื่อคําสั่งซื้อของพวกเรา แล้ว สามารถวิ่งเต้นให้ได้”

“แต่ประธานเจียงของพวกเธอล่ะ? เกรงว่ายังคงดื่มชาอาบแดดอยู่ที่ห้องทำงานน่ะสิ”

เขียวหยางและกั่วหย่งมองเฉินปราดหนึ่ง หมุนกายจากไป ฐานะของพวกเขาไม่อนุญาตให้ตัวเองพูดคุยกับเฉิน ลดเกียรติ เกินไป

“ขยะกลุ่มหนึ่ง” ก่อนไปทั่วหญิงหญิงกล่าวเยาะเย้ยอย่างไม่ เกรงใจ “ยังคิดจะมายื้อแย่งคำสั่งซื้อกับฉัน เป็นตัวอะไรกัน? ”

หมี่ถึงก็เป็นคนนิสัยเถรตรง เธอมองรถที่จากไปด้วยหน้าที่เต็ม ไปด้วยเจตนาร้าย ใบหน้าเดือดดาล “มีการรังแกคนอื่นแบบนี้ ที่ไหนกัน? กลุ่มผู้จัดการกลั่นแกล้งกลุ่มมือใหม่ และยังเพื่อเป็น รองผู้อำนวยการ ก็ให้ประธานเซียวเคลื่อนไหว รังแกกันเกินไป แล้ว”

“ประธานเจียงของเราทำไมไม่ช่วยพวกเราบ้างนะ เพียงแค่ มองดูพวกเขากลุ่มนั้นกลั่นแกล้งมาถึงบนจมูกของเราเฉยๆ

“พี่ย เห็นชัดๆ ว่าพี่พยายามขนาดนี้ ถ้าอาศัยความสามารถ ส่วนบุคคล ไม่แน่ว่าพี่ก็สามารถคว้าคำสั่งซื้อมาได้แล้ว กั๋วหญิง หญิงคนต่ำช้าคนนี้ ให้ประธานช่วยเธอเจรจาโครงการ ฉันไม่สน กลับไปฉันจะไปหาประธานเจียง ให้เขาช่วยพวกเรา นี่เป็นชื่อ เสียงของทีมนะ”

“ไปเถอะๆ ” เฉินยี่ถอนหายใจ “ไม่มีคำสั่งซื้อนี้ พวกเราก็ไป หาอย่างอื่น ไม่ต้องไปหาประธานเจียงของเธอแล้ว เขาเป็น ประธานผู้สูงส่ง จะมาถึงคำสั่งซื้อกับกลุ่มมือใหม่อย่างเราได้ อย่างไร พึ่งใครก็ไม่เท่าพึ่งตัวเอง”
หมีถึงถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าหญิงสาวชนบทที่มีนิสัย ตรงไปตรงมาคน ทนความโกรธไม่ไหว

ถึงแม้ว่าประธานจะไม่มีหน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือพนักงาน ขายลงนามคําสั่งซื้อ

แต่เซียวหยางคนนั้นก็เป็นประธานนี้ ยังสามารถมาเจรจาค สั่งซื้อกับพนักงานได้ ทำไมเจียงเยวจะเคลื่อนไหวไม่ได้ล่ะ?

ต้องรู้ว่าหนานหัวกรุ๊ปเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่มากชิ้นหนึ่ง ถึงแม้ จะเป็นประธาน ใคร่ครวญเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท ที่ช่วยได้ก็ จําต้องช่วย

ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ฝ่ายขายของบริษัทปรากฏเจียงเยวมา กลาย เป็นสองฝ่าย ต่อสู้ทั้งที่แจ้งและที่ลับ คึกคักอย่างยิ่ง

อีกทั้งใครเจรจาค่าสั่งซื้อของหนานหัวกรุ๊ปมาได้ก็สามารถ เป็นรองผู้อำนวยการได้

หรือว่าเจียงเยวจะไม่อยากอบรมคนสนิทของตัวเองเป็นรองผู้ จํานวยการในบริษัทกัน?

ดังนั้น หลังหมี่ถึงกลับถึงบริษัท ก็ตรงเข้าไปถึงห้องทำงานของ เจียงเยว่ มองเห็นเจียงเยว่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอาบแดดอ่าน หนังสือพิมพ์ ภายในใจเดือดดาล พี่พยายามดึงผลงานขนาดนี้ เพื่อทีมเจียงเยว่ ถึงแม้จะถูกคนของทีมเชียวหยางกลั่นแกล้ง ล้วนต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ

ผลสุดท้ายเจียงเยวในฐานะลูกพี่ของทีม ทำเพียงนั่งอาบแดดอยู่ที่นี่

เบ้าตาของหมี่ถึงแดง เปิดปากพูด “ประธานเจียง ผู้เถรตรง ไม่พูดลับหลัง ฉันอยากก่อกบฏ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ