Domineering Dad คุณพ่อหยิ่งผยอง

บทที่10 แม้ผู้หญิงจะอ่อนแอ แต่หญิงที่เป็นแม่คนมักเข้มแข็ง



บทที่10 แม้ผู้หญิงจะอ่อนแอ แต่หญิงที่เป็นแม่คนมักเข้มแข็ง

ตอนนี้เฉินเหมือนหุ่นที่ถูกเชือกอยู่ ไม่มีพฤติกรรมตอบโต้ใดๆ เลย

ปล่อยให้เจียงเยวถึงเธอเข้าไปในห้องทํางาน

“เธอ……..เธอเป็นไรไหม

เจียงเยวมองเฉินที่น้ำตาคลอ และใจลอยๆอยู่นั้น รู้สึกว่า ปวดใจเหลือเกิน จึงถามอย่างเป็นห่วง

แต่เฉินไม่ได้มีคำพูดหรือพฤติกรรมใดเลยๆ

สายตาของเธอมองไปที่นอกหน้าต่างอย่างลอยๆ ไม่มองเจียง

เยวเลย

ถามติดต่อกันหลายคำถามก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ

“เธอพูดอะไรหน่อยได้ไหม

เจียงเยวถอนหายใจแล้วถาม

“ให้พูดอะไร”

เฉิน มีการตอบสนองจนได้

“ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยของนาย นายอยากให้ฉันพูดอะไร ฉันจะ เชื่อฟังคําสั่ง”
สีหน้าที่เย็นชาและสายตาอย่างกับคนตายของเธอ ทําให้เสียง เยวปวดใจเหลือเกิน

มีเพียงคนที่หัวใจชนชา

ถึงจะมีพฤติกรรมแบบนี้

เรื่องที่น่ากลัวที่สุดบนโลกก็คือหัวใจนั้นในชาไปแล้ว

ไม่มีอะไรในสายตาเลย แม้จะเป็นชีวิตของตนเอง

ถึงแม้ตอนนี้เฉินจะตบเขาแรงๆสองที่

หรือระบายความโกรธที่อยู่ในใจด้วยถือมีดมาแทงเขาตาย

เจียงเยว่ก็รับได้

พูดได้ว่าดีใจมากๆด้วย

เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ หมายความว่าอย่างน้อยในใจของเฉิน ยังมีความรู้สึกอยู่

แต่ เฉินตอนนี้ แม้แต่อารมณ์ยังไม่มีเลย

เผชิญกับเฉินที่เป็นสภาพนี้ ทำให้เจียงเยวรู้สึกเหมือน ออกแรงชกบนฝ้าย

เธอไม่มีการตอบสนองใดๆ ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรต่อ

ได้เลย

เขาหันหลังไปนั่งบนโซฟา จุดบุหรี่มวนหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า
“เฉินยี่ ผมรู้ว่าเธอเกลียดผม แต่ว่า……

“ฉันสามารถสูบบุหรี่ในห้องทำงานนายได้ไหม

อยู่ดีๆเฉินก็ตัดบทพูดของเจียงเยว่ แล้วถาม

“ได้”เจียงเยวพยักหน้าเบาๆ

เห็นเฉินยี่หยิบบุหรี่สำหรับสตรีออกมาจากกระเป๋ากล่องหนึ่ง กับตา พฤติกรรมจุดบุหรี่นั้นดูชำนาญมาก

ท่าการจุดบุหรี่ของเธอดูสวยมาก

แต่ในสายตาเจียงเยว่ พฤติกรรมของเธอ

เป็นสิ่งที่ทำเขารู้สึกทรมานที่สุด

หญิงผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเต้น ที่แต่คนอิจฉา

ควรมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

นั่งอยู่ในตึกทำงานชั้นสูง ดื่มกาแฟมีระดับ

ก้มหน้าลงเป็นภาพทั้งเมือง เงยหน้าขึ้นเป็นท้องฟ้า แต่ตอนนี้ กลายเป็นคนที่สูบบุหรี่ดื่มเหล้า ตัวตลกที่ถูกผู้คน

หัวเราะเยาะ

เงยหน้าขึ้นเป็นบุคคลประสบความสำเร็จ ที่ยืนอยู่บนที่สูง

ก้มหน้าลง ก็เป็นเงาของตนเองที่ต่ำต้อย

ซึ่งทั้งหมดนี้ เขาเป็นคนนำมาให้เธอ
“เธออยากได้อะไร ผมให้เธอได้หมด”

เงียบไปสักพัก เจียงเยว่อ้าปากถาม

“ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้น

เฉินดูตาไม่มีสติ เขย่าหัวเบาๆ

“นายเพียงแค่ไม่รบกวนชีวิตของฉันและเหมิงเหมิงก็พอ ฉันไม่ ขอให้นายทําอะไรให้ฉันหรอก อีกอย่างนายก็ไม่ต้องชดใช้ฉัน ขอเพียงแค่นายปล่อยฉันออกจากเปียเฉิงกรุ๊ปและไม่มารบกวน ชีวิตของฉันกับเหมิงเหมิง เราทั้งสองคนก็ไม่มีใครเป็นหนี้ใคร อีก”

พอเห็นสภาพของเฉินในตอนนี้

เจียงเยว่กำหมัดไว้แน่นๆ ในตาของเขามีความมุ่งมั่นขึ้นมา เขาต้องเปลี่ยนแปลงเฉิน

ไม่ยอมให้เงินยี่ปล่อยตัวเองเหลวไหลแบบนี้อีกต่อไป ชีวิตนี้อีกยาวไกล ยังต้องผ่านอะไรอีกหลายอย่าง

ถ้าใช้ชีวิตอย่างศพ มีประโยคอะไร

เจียงเยว่ไม่ปล่อยให้ชีวิตต่อจากนี้ของเฉินที่อยู่ในความมืดต่อ อย่างแน่นอน

เขาจะให้เงินไปหาท้องฟ้าที่เป็นของเธอด้วยตนเอง “แต่เธอเซ็นสัญญาแล้วนะ”เจียงเยวตอบด้วยเสียงเบา
“นายหมายความว่าไง

สายตาที่ลอยอยู่ของเฉินที่เริ่มมีสติขึ้นมา เธอยักคิ้วแล้วมอง ไปที่เจียงเยว่

“สัญญามีผลบังคับใช้ห้าปี ถ้าเซ็นสัญญาแล้ว เธอต้องทำงา นที่เป่ยเฉิงกรุ๊ปให้ครบห้าปี ถ้าเธอจะจากไปก็ได้ แต่ต้องจ่ายค่า ปรับสามสิบล้าน”เจียงเยวตอบด้วยเสียงเบาๆ

พอได้ยินเช่นนี้ จมูกและตาของเฉินแดงขึ้นมาทันที น้ำตา คลออยู่ขอบตา เธอกัดปากของตนเองไว้แน่นๆ

“ฉันไม่มีสามสิบล้าน และจะไม่อยู่ที่นี่ต่อด้วย ถ้าจะเอา นาย เอาชีวิตของฉันไปได้เลย

“ผมไม่เอาชีวิตเธอหรอก แต่เธอจะเป็นหนี้สามสิบล้าน ผมก็จะ สามารถขึ้นศาลกับเธอได้ แล้วพาเหมิงเหมิงไป”

“เพราะผมสามารถให้ชีวิตที่ดียิ่งกว่านี้กับเหมิงเหมิง สิทธิ์ใน

การเลี้ยงดูเด็ก ผมเอาแน่

หลังจากที่เจียงเยวพูดประโยคนี้จบ ก็ปิดตาลงทันที เพราะเขา รู้ว่าความโกรธกำลังจะมาถึงเขา

เป็นอย่างที่เจียงเยว่คิดไว้จริงด้วย

“เจียงเยว่ นายจะทำอะไรกันแน่”

เฉินพุ่งเข้าหาเจียงเยวอย่างกับเป็นบ้า แล้วตบหน้าเขาแรงๆ ทันที พร้อมกับตะโกนอย่างใจจะขาดว่า
“ฉันบอกนาย นายจะทําอะไรกับฉันได้หมด แต่ถ้านายจะพาเห มิงเหมิงไปจากฉัน ฉันจะให้นายตายพร้อมกับฉัน ใครก็อย่าม ชีวิตอยู่ต่อ”

โดนตบไปทีหนึ่ง เจียงเยว่ยังคงปิดตาไว้ไม่ตอบสนองใดๆ

เพราะเขาสมควรที่โดนตบ “เจียงเยว่ นายปล่อยฉันไปได้ไหม ฉันขอร้อง ปล่อยฉันเถอะ

นะ”

สายตาของเฉินเริ่มมีความหวาดกลัวขึ้นมา เธอใช้มือสอง ข้างจับแขนของเจียงเยวไว้แน่นๆ

“นายจะทำกับฉันยังไงก็ได้ แต่นายอย่าพาเหมิงเหมิงไปจาก ฉันเลย เธอเป็นเหมือนชีวิตของฉัน”

“นายทำชีวิตของฉันพังทลายไปแล้วครั้งหนึ่ง นายอย่าทําลาย

ชีวิตฉันครั้งที่สองเลย ฉันขอร้อง”

ประโยคนี้ทำให้หัวใจของเจียงเยวหยุดเต้นสอง ความรู้สึก ผิดนั้นทําให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก

แต่เขาก็ยังคงปิดตาและกำหมัดไว้แน่นๆ

“เฉินยี่ ผมไม่พาเหมิงเหมิงไปก็ได้ และสามารถปล่อยเธอออก ไปจากเปียเฉิงกรุ๊ป แต่เธอต้องทำสิ่งหนึ่งให้ได้ก่อน

“เป็นเรื่องอะไร นายว่ามา” ในตาของเฉินที่มีความหวังขึ้นมา จึงรีบถามออกไป
วินาทีต่อมา เจียงเยวหยิบสัญญาออกมาจากลิ้นชักแล้วโยนไว้ บนโต๊ะ

“นี่เป็นสัญญาพนักงานขายของเปียเจ๋งกรุ๊ป เพียงแค่เธอ สามารถทํายอดขายให้ได้แปดสิบล้านภายในเวลาสองปี ก็จะ สามารถลาออกจากเปียเจ๋งกรุ๊ปได้ อีกอย่างผมก็จะสัญญากับ เธอ ผมจะออกจากเมืองซู ทั้งชีวิตนี้จะไม่กลับมารบกวนชีวิตของ เธอกับเหมิงเหมิงอีก ผมพูดจริงทำจริง

ยอดขายแปดสิบล้านภายในเวลาสองปี

เลขนี้ทำเฉินตกใจจนตาค้าง เธอมองสัญญาที่อยู่ต่อหน้า ด้วยมือที่สั่นและในตาเต็มไปด้วย ความสิ้นหวัง

ถึงแม้เธอจะทําอาชีพพนักงานขายมาตลอด แต่ไม่เคยมีผล งานที่โดดเด่นเลย

เธอไม่มีเส้นสายอะไรที่สามารถช่วยเธอได้เลย แล้วเธอจะทำ แปดสิบล้านได้ยังไงภายในเวลาสองปี

ไม่กล้าหรือ ถ้าไม่กล้า งั้นก็ให้ผมพาเหมิงเหมิงไป ผมจะพา เธอจากไปเอง”

เจียงเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ได้ ฉันจะทําตามที่นายว่า ไปเป็นพนักงานขาย

เฉินหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อตัวเองบนสัญญาอย่างทันที
ก่อนหน้านี้ เธอตกใจกับยอดแปดสิบล้านก็จริง

แต่พอนึกถึงเหมิงเหมิง เธอก็รู้ว่าเธอต้องเซ็นแน่นอน

เธอไม่ยอมให้เจียงเยวพาเหมิงเหมิงไปจากเธอหรอก

อย่าว่าแปดสิบล้านเลย ถึงแม้จะเป็นแปดร้อยล้าน เธอก็จะ ทำให้ได้เพื่อเหมิงเหมิง

เหมิงเหมิงคือชีวิตของเธอ เป็นเหมือนโลกของเธอ

ใครก็ไม่สามารถแย่งไปได้

“นายพูดแล้วต้องทำนะ ถ้าฉันทำยอดนี้ได้ นายก็ออกไปจาก เมืองซูทันที จะไม่มารบกวนชีวิตฉันกับเหมิงเหมิงตลอดชีวิต”

“สิ่งที่ผมพูดออกมา ผมทำแน่นอน”

“ได้”

เฉินพยักหน้าแรงๆ แล้วหยิบสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ หันหลัง เดินออกจากห้อง

มองเงาจากข้างหลังที่เข้มแข็งของเฉิน เจียงเยวใช้มือปิดตา ที่แดงอยู่ ร่างกายก็สั่นเบาๆ

จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขารู้สึกว่า ความแค้นที่เฉินที่มีต่อเขา มีมากกว่าที่เขาคิดไว้

เพื่อที่จะไล่เขาออกไปจากที่นี่ เธอเซ็นสัญญาแปดสิบล้านโดยไม่ลังเลเลย
เรื่องนี้สำหรับเงินที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานใดๆเลย

ต้องมีความกล้าขนาดไหน

ถึงแม้ผู้หญิงจะอ่อนแอ แต่ถ้าได้เป็นแม่คนแล้วมักจะเข้มแข็ง

เพื่อที่จะปกป้องลูกสาว ไม่เพียงแต่ยอดขายแปดสิบล้าน ถึงแม้จะให้เฉินยี่เสียสละชีวิตตัวเอง เธอก็จะยอมแบบไม่ลังเล

กลางคืน เฉินกับอ้ายเยวย้ายบ้านพร้อมกัน

“ว้าว บ้านนี้ใหญ่จังเลย”

เฉินกับเหมิงเหมิงมองคฤหาสน์ที่ตบแต่งอย่างหรูหรา ในตา นั้นเต็มไปด้วยความซึ้ง

“เป็นไง ชอบไหม”

อ้ายเยวยิ้มแล้วยืนอยู่กลางห้องโถงของคฤหาสน์ แนะนำ เหมือนกำลังแนะนำบ้านของตัวเอง

“นับตั้งแต่วินาทีที่พวกเธอก้าวเข้าประตู คฤหาสน์นี้ก็เป็นโลก ของเราทั้งสาวแล้ว”

“เข้ามาเถอะที่รัก เรามาแชร์ความหรูของโลกใบนี้ด้วยกัน

“เหมิงเหมิง ชอบไหม

เฉินใช้ขาแตะร่างกายของเหมิงเหมิงแล้วถาม
เหมิงเหมิงได้ยินประโยคนี้ รีบเงยหน้าขึ้นมามองเงิน หน้า ใบเล็กๆนั้นพยักหน้ารัวๆเหมือนไก่ที่กินข้าวอยู่

“แม่ หนูชอบ”

“ไป หลังจากนี้ เราก็จะใช้ชีวิตที่นี่แล้วนะ”

เฉินไม่พูดอะไรมาก แล้วจูงเหมิงเหมิงเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หลังใหญ่

หลังจากที่นอนอยู่บนเตียงซิมมอนส์ที่ใหญ่มากๆแล้ว เฉินไม่ได้ดีใจเหมือนอย่างที่คิด ในสมองเธอเต็มไปด้วย เรื่องสัญญาแปดสิบล้าน

อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าตัวเองตลกมากจริงๆ เป็นคนที่ขนาดใบจบที่ ดูดียังไม่มีเลย ยังกล้าเซ็นสัญญาแบบนี้อีก

แต่พอนึกถึงเหมิงหมิง

เฉินก็ทําหมัดไว้อย่างแน่นโดยทันที

“เหมิงเหมิง แม่สามารถทำทุกอย่างเพื่อลูก ก็แค่แปดสิบล้าน แม่ต้องทำให้ได้ แม่จะให้เจียงเยรู้ว่า แม่ไม่กลัวแผนที่เขาวางไว้ หรอก เพียงแค่เราอยู่ด้วยกันสองแม่ลูก โลกนี้ไม่มีอะไรที่ผ่านไป ไม่ได้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ