ฮูหยินข้ายอมแล้ว

ตอนที่ 4 ท่านพี่โปรดอยู่เงียบ



ตอนที่ 4 ท่านพี่โปรดอยู่เงียบ

บุรุษรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาของเขานั้นหล่อเหลาล่อลวงเหล่าสตรี มานักต่อนัก แต่เห็นจะรักจริงก็มีเพียงคุณหนูตระกูลกวนผู้นั้น เขายืนอยู่หลังจากนั้นเมื่อได้ยินเสียงสนทนาโต้ตอบเขาออกมา เขาเดินอยู่ใกล้นางแค่เอื้อมมือ กลับได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยออก มาจากห้องนั่น

“ข้ารู้ว่าท่านพี่รักนางและเชื่อนาง เอาเป็นว่าคราวหน้า ข้าจะ ให้นางอยู่กับท่านทั้งวันดีหรือไม่เล่า” มู่หลันพูดอย่างไม่ใส่ใจ และไม่สนใจสักนิดว่าเขาจะคิดอะไรกับนาง อยากพูดก็พูดไป อยากบ่นว่าก็เชิญตามสบาย

“เจ้าจะบ้าหรือ สตรีไม่ออกเรือนอยู่ที่เรือนจนถึงค่ำ ชาวบ้านจะ นินทานางสิ”

“อืม ท่านก็รู้นี่นา อาชิง อาซิง” นางเริ่มทนไม่ไหว ไม่คิดว่าครั้ง นี้มันจะหนักเสียจนนางตั้งสติไม่อยู่ จึงได้เรียกหาสาวใช้ของนาง แต่ไร้เสียงตอบรับ

เมื่อคนด้านในเงียบเสียง เขาจึงเอะใจหรือว่านางวางแผนอัน ใดไว้ เขาค่อย ๆ ย่องเข้าไปดูหลังฉากกั้นนั้น พบกับโลหิตสีดำ กระจายอยู่ที่พื้นเป็นวงกว้าง ไม่ใช่น้อย ๆ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไป ทั่ว และเมื่อเห็นร่างบอบบางนั้น สลบไป เขารีบอุ้มนางออกจาก อ่างน้ำทันที

เขามองที่เนื้อตัวของนางช่างขาวและดูเย้ายวนยิ่งนักแต่ซาลาเปาคู่นี้เด่นสะดุดตาเขาจริง ๆ อีกทั้งผิวของนางก็ช่างนุ่มมือ ยิ่งนัก เขาละสายตาแต่ต้องตกใจกับสายตาของสาวใช้อย่าง อา ซึ่ง ที่วิ่งเข้ามาพร้อมผ้าคลุมร่างกายของนายสาว

“นายท่านเชิญด้านนอกก่อนเจ้าค่ะ” อาชิงมองดูเจ้านายของ ตนเองที่แน่นิ่งสลบไป พร้อมกับคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ที่ริม ฝีปาก และส่งสายตาแค้นเคืองไปยัง อันหยางที่ยังงงงันอยู่ไม่ น้อย

“นางเป็นอะไร” เขาถามขึ้นเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติของเจ้านายและ ลูกน้อง ครั้งจะเค้าความตอนนี้ก็ไม่ได้

“หากนายท่านจะเมตตา รบกวนนำป้ายนี้ไปมอบให้สำนัก หมอลวงให้มาดูอาการของฮูหยินด้วยนะเจ้าคะ” อาซึงยื่นป้ายไม้ ที่ดูจะธรรมดามาก เขารับและรีบไปด้วยตนเอง

หากนางเกิดตายในจวนของเขาที่เพิ่งจะแต่งงานกัน แล้วยังมี คนรักของเขาด้วยนี่สิ ท่าจะเรื่องใหญ่เป็นแน่ ๆ เขาควบม้าอย่าง เร่งรีบ สำนักหมอหลวงนั้นอยู่ด้านในของวังหลวง เขาลืมไปได้ ยังไง

นางเป็นใครกันแน่ถึงเรียกใช้หมอหลวงได้ เขาจำต้องละ ความคิดที่จะสืบหาก่อน และตอนนี้ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า

“อาจิน อาจิน เจ้าอยู่หรือไม่” อาชิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ นางรับ รู้ทุกเรื่องของเจ้านาย ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่ท่าทางของนางก็ กระวนกระวายยิ่งนัก มือเรียวติดจะหยาบกร้านสักเล็กน้อยค่อย ๆ จับมือของเจ้านายเอาไว้ พลันบ่อน้ำตาของนางก็ค่อย ๆ ไหลรินออกมา ทั้ง ๆ ที่นางมิได้อยากจะร้องไห้สักนิด

ผู้ที่ถูกเรียกหาตอนนี้กำลังถูกลงโทษให้ยืนตากแดดอยู่ เพราะ

เมื่อคืนดันเข้าไปในห้องที่ท่านรองอาบน้ำ ไท่จื่อ จึงสั่งลงโทษ

สถานเบา แต่ที่หนักกว่านั้นคือมือสองข้างต้องยกถัง อาจมเอาไว้ อีกด้วย อาจิน แทบจะอาเจียนออกมา ทำให้เหล่าบุรุษที่เป็นทั้งรุ่นพี่

รุ่นน้องหัวเราะขบขันกับบทลงโทษที่แสนจะแปลก พิลึกพิลั่นนี

หน่วยจินเซ่อ ขึ้นตรงต่อไท่จื่อของแคว้น จะรับเรื่องร้องทุกข์ ของชาวบ้านและสืบหาคนที่ทุจริตในหน้าที่ ประหนึ่งหน้าที่ คล้ายๆ กับผู้ตรวจการ แต่กลุ่มนี้มิอาจจะเปิดเผยตัวตนได้ ทำงานในที่ลับ และจะมีการจับกุมอย่างเปิดเผย รวมทั้งหลักฐาน ต่าง ๆ อีกด้วย

เหล่าขุนนางทั้งหลายหวาดกลัวกลุ่มนี้ยิ่งนัก พวกเขามรู้เลยว่า ใครเป็นใคร

“อาจินเหม็นหรือไม่” สหายนายหนึ่งเอ่ยขึ้นในพื้นที่ ที่กว้าง ใหญ่ มีตำหนักรกร้างไร้ผู้อาศัยมานานหลายสิบปี แต่ด้านในนั้น ถูกซ่อมแซมยังคงใหม่เอี่ยม สถานที่นี้คือสถานที่ของพวกเขาเอา ไว้เวลารวมตัวปรึกษาเรื่องสำคัญทั้งหลาย

“มาแบกเองไหม!!” อาจิน หน้าย่นเข้า เขาเหม็นแทบจะขาดใจ

ตาย

ภายในจวนตระกูลฉาง ท่านหมอหลวงมีสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อตรวจอาการของสตรีที่นอนหลับใหลไม่รู้สึกตัวเช่นนี้ ชีพจรของนางเต้นผิดจังหวะ ลมปราณของนางก็แปรปรวนยิ่ง เขาม เคยเจอแบบนี้มาก่อน พิษร้ายแรงจริง ๆ

ทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวของสตรีนางนี้ต้องเก็บเงียบเป็นความลับ

เอาไว้กับตัวจนตาย ท่านหมอมิได้ห่วงว่าตนเองจะตายวันตาย พรุ่ง แต่ห่วงว่าตนเองจะรับโทสะจากไท่จื่อได้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง “ว่าอย่างไร นางเป็นอะไร” อันหยางกอดอกมองท่านหมอชรา

เขามีสีหน้าที่เคร่งเครียดเช่นเดียวกัน

“นางไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกคุณชายฉาง วางใจได้ ให้นาง พักผ่อนและอย่างมีเรื่องสะเทือนใจก็พอ” ข้อแก้ตัวของท่านหมอ ชราฟังดูมีเหตุผลยิ่งนัก

“อาชิงส่งท่านหมอ” อันหยางเอยอย่างไม่สบอารมณ์ พลันเขา จดจ้องใบหน้าที่ซีดเซียวและริมฝีปากของนางก็ยังดูม่วงคล้ำ เขา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เจ้าของเรือนร่างจะรู้ตัว

มู่หลันรู้สึกตัวขึ้น แพขนตาหนางอนงามของนางค่อย ๆ กะพริบขึ้นอย่างช้า ๆ มองเห็นว่าตนเองอยู่ในห้องนอนแล้ว และ สะดุดกับสายตาของเขาที่จ้องนางเหมือนอยากได้คำตอบใน เรื่องนี้

“บอกมาว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ คนทั่วไปจะเรียกหาหมอหลวง ได้อย่างไรกัน” เสียงที่ดูดุดันพร้อมสายตาเชิงอยากรู้คำตอบ แต่ นางนั้นมีสีหน้าและแววตาเย็นชาและหยาบกระด้าง เมินเฉยต่อ

คำพูดของเขา เขาจึงได้นั่งลงข้างเตียงนอนของนาง “ท่านพี่จะรู้ไปทำไม อย่ารู้จะดีกว่า” เสียงเย็นชาและนางก็หลับตาหาได้สนใจ นางเพียงอยากพักผ่อนและเรื่องนี้ก็มีอยาก ให้ใครมาเดือดร้อนเพราะนาง และยังกลุ่มนั้นอีกหากรู้ว่านาง ต้องพิษร้ายเช่นนี้ มีหวังยกกันมาทั้งโขยงต้องตื่นตกใจเป็นแน่

“ทำไม ข้าจะรู้ไม่ได้ ในเมื่อเจ้าแต่งงานเป็นภรรยาของข้า เสียงดังชัดถ้อยชัดคำ นางควรจะดีใจที่เขาพูดออกมาเช่นนี้ แต่ เปล่าเลย มู่หลันสตรีเย็นชา ก็ยังเย็นชาประดุจน้ำแข็งอยู่วันยัง

“หากไม่อยากตายเร็ว ท่านพี่โปรดอยู่เงียบ ๆ นะเจ้าคะ สีหน้าของนางยังคงเรียบ และแววตาของนางนั้นช่างดูยากจริง ๆ มันว่างเปล่า

“เจ้าข่มขู่ข้าหรือ” เขาลุกขึ้น สะท้านกายอย่างเงียบ ๆ และติด ที่สีหน้าของเขาจะสลดลงเล็กน้อย มิเคยมีสตรีใดข่มขู่เขามาก่อน นางคือคนแรกจริง ๆ ช่างร้ายกาจเช่นนี้

“ข้ามิได้ข่มขู่ท่าน หากท่านที่อยู่เงียบ ๆ ชีวิตของท่านก็จะสงบ สุข อย่าได้ยุ่งวุ่นวายเรื่องของข้าอีกเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นชีวิต น้อย ๆ ของท่านคงไม่แคล้วจะต้องตายก่อนที่จะแต่งกับคนรัก ของท่านนะ จงอยู่ ยู่ในที่ของท่านเสีย อย่าให้ข้าได้โมโห

***ภัคจิรา ***


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ