บทที่ 52 ถ้าคุณกล้าแต่งงานกับคนอื่น ผมจะบีบคอคุณให้กาย
แรกๆ ธิชาก็ปฏิเสธ จนอณูขุมขนทั่วทั้งร่างกายกำลังต่อต้าน
ทว่าการจูบของเขาอันอ่อนโยนขนาดนี้……..
มันมีทั้งความอดทนและการเอาใจอยู่ด้วย พร้อมทั้งพยายาม จูบอย่างไม่เร่งรัด อ้อยอิ่งอยู่ตลอด
ราวกับใช้การจูบอย่างอ่อนโยนอ้อยอิ่งครั้งนี้เพื่อเป็นการ ปลอบโยนความรู้สึกของเธอ
ธิชาอารมณ์ทั้งอายทั้งโกรธนั้นค่อยๆ มลายหายไปอย่างไร้ เสียงท่ามกลางลมหายใจที่ค่อยๆ ขาดหายไป…
ทว่ามันกลับแทนที่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง
ขึ้นมาแทน
ตัวเธอเองก็ไม่สามารถขัดขืนได้
พยายามดูดริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน รอจนเธอค่อยๆ ปล่อยผ่อนคลายความระมัดระวังอยู่ในเวลานั้น ถึงได้ยอมเผยอ ปากออกมา
ริมฝีปากกับฟันอ้อยอิ่ง ผสมเข้าเป็นสิ่งเดียวกัน
ธิชาน้ำตาไหลพราก โดยไร้เสียง ในขณะกำลังดื่มกับจูบใน
ครั้งนี้ อีกอย่างก็ยังเกลียดทั้งขยะแขยงตนเองที่ทั้งร่วมมือและอ่อน
ปวกเปียกตามไปด้วย….
ธิชารู้สึกเบื่อหน่ายสภาพชีวิตของตนเองในเวลานี้
ทว่าเธอรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ได้เกิดมาให้เป็นแบบนี้
ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าธาวินที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เขายกย่องเธอไว้สูงส่งด้วยมือของเขาเอง แถมยังเอาดอกไม้และ ขนมหวานมาให้เธอนับไม่ถ้วน
จนทำให้เธอเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้จะเอ็นดูเธอไปชั่วชีวิต และ ตนเองก็เชื่อมั่นว่าจะอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต…
ทว่าไม่คิดเลยว่าการใช้เวลาชั่วชีวิตมันยาวนานเกินไป ยาวนานซะจนธาวินของเธอกลายสภาพจากพลิกหน้ามือเป็น หลังมือคนละขั้วไปเลย เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายที่ทั้งโหดร้ายและ ทารุณคนหนึ่ง
ความรู้สึกสิบปี มันไม่ใช่เวลาอันสั้นชั่วข้ามวัน แล้วมันจะปล่อยวางได้อย่างไรกัน
จากนั้นในทุกครั้งที่ธิชาต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ในเวลาที่
โหดร้ายทารุณนั้น กระทั่งจนอดไม่ได้จนสงสัยขึ้นมา หรือว่าทุก สิ่งทุกอย่างเป็นการจัดฉากเอาคืนตั้งแต่แรกแล้ว ธาวินเป็นคนถอนความอิสระของตนเองไปกลับมือ จนทำให้
เธอสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ไม่มีจิตวิญญาณ
ราวกับหุ่นเชิดที่อยู่ในอุ้งมือเขา ไม่สามารถหนีไปที่ไหนได้เลย
ธิชาเล่าสู่หลุมลึกอันอ่อนโยนที่ชายหนุ่มขุดขึ้นเอาไว้ จน สติสัมปชัญญะทั่วทั้งตัวหลุดขาดไปเฉยๆ
เธอยอมให้เขาจูบได้ตามสบาย และยินยอมให้เขานั้นได้เป่า ผมที่เปียกโชกของเธอให้แห้งสนิท จากนั้นก็อุ้มในนอนเกลือก กลั้วบนเตียงขนาดใหญ่
ธาวิน โอบกอดเธอเอาไว้ เพื่อให้เธออยู่ตรงแผงอกของตนเอง ลักษณะเกยซึ่งกันและของคนทั้งสองคนราวกับเมื่อสมัยยังเด็ก
อารมณ์ของเชาฟื้นกลับคืนมาเกินครึ่งแล้ว เธอเงียบไปแล้ว จนหายใจเข้าออกก็สงบนิ่งมาก
ทว่าตอนที่เธออยากจะเข้านอนนั้นธาวินก็จูบปลายจมูกของ
เธอ
พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มอย่างมีเสน่ห์ “ไม่ยอมมีลูกให้ ผมจริงๆ เหรอ”
ธิชาค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้น ด้วยแววตาสุกสกาวจ้องมองไปยัง นัยน์ตาของเขา
ปลายจมูกของเธอเริ่มแสบบ้าง สักพักถึงได้ตอบกลับเขาไป
“ฉันไม่อยากให้ลูกของฉันเกิดมาแล้วไม่มีสถานะไม่อยากให้ เหมือนกับณิชานาฏที่เป็นแม่แต่ไร้ความรับผิดชอบใดๆ เลย และ ไม่อยากให้คนนอกต่างสนใจว่าลูกฉันเป็นลูกไม่มีพ่อ
ธาวินขมวดคิ้ว เขากระซิบถาม “นี่คือลูกของผม ใครจะกล้า
พูดออกมาว่าลูกผมไม่มีพ่อกัน?”
เธอทำสีหน้าเยาะเย้ยให้ตัวเอง “ลูกที่เกิดมาโดยไม่มีสถานะ นั้น ไม่สนว่าพ่อของเขาเป็นใคร อย่างไรก็คือลูกไม่มีพ่อ ชีวิตฉัน ก็เป็นแบบนี้มาตลอด พอได้อายุ 20 ปี ก็ยังคงเป็นลูกไม่มีพ่อ แบบนั้นแหละ นี่คือชีวิต ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้”
สีหน้าของธาวินไม่ค่อยดี เขาขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา “คุณ เป็นคนของตระกูลธนาภูวนัตถ์ นี่กำลังพูดมั่วเรื่องอะไรอยู่
ชาผละออกจากแผงอกของเขาเอง พลางพลิกตัวหันหลังให้ กับเขา
ธาวินรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดที่เธอพูดออกมาประโยคเมื่อกี้ พลางได้แค่เก็บอารมณ์และกางแขนและค่อยๆ โอบกอดเธอเอา ไว้ พลางเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน “เป็นอะไรไปอีก? ผมเพิ่งรู้ ว่าเดี๋ยวนี้ใส่อารมณ์เยอะจัง พอพูดขัดหูขึ้นมาประโยคหนึ่งก็เริ่ม ตั้งแง่กับผมทันที ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหมล่ะ ผมควบคุมคุณไม่ ได้แล้วใช่ไหม?”
เธอเม้มริมฝีปากไม่พูดไม่จา ในใจนั้นก็รู้สึกว่าไม่มีเหตุผลสัก
ความจริงแล้วเธอย่อมรู้ดีว่าตัวเธอนั้นเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้น
ระยะนี้ธาวินปฏิบัติตัวดีกับเธออยู่บ้าง ในวันปกติก็ไม่ได้ทำ เกินเหตุ กระทั่งมีบางครั้ง ยังให้ความรู้สึกผิดปกติกับเธอ ราวกับเหมือนย้อนเวลากลับไปหนึ่งปีก่อน ช่วงวัยที่เขาเอาใจเธอ ตอนที่เธอเป็นเด็กในเวลานั้น
หากเป็นช่วงเวลาที่เขาปฏิบัติต่อเธออย่างโหดร้ายที่สุดนั้น ธิชารู้ตัวว่าไม่กล้าจะอารมณ์เสียใส่เขาแม้เพียง ประโยคเดียวก็ตาม และไม่ต้องไปพูดถึงการลงมือทั้งถีบทั้งเตะ เขาด้วยอารมณ์โมโห
แม้ว่าจะรู้สึกผิด เธอก็ต้องจําใจกัดฟันเอาไว้ และพิมพ์ไม่ หยุด “คุณเป็นคนเริ่มทำร้ายฉันก่อน ฉันก็แค่ต่อสู้กลับก็เท่านั้น เอง”
ธาวินอยากจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อครู่หลังจากที่เขาเป่าผมให้เธอจนแห้งแล้วก็สำรวจ ร่างกายของเธอด้วย บนตัวเธอขาวสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอย แผลเป็นใดๆ แถมตอนที่เขาใช้เข็มขัดลงบนตัวนั้นก็เบามาก แทบจะไม่ได้เจ็บมากอะไร
เขาถึงกลับขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว
ได้แต่โอบกอดทางด้านหลังของเธอและตบหลังให้ “อารมณ์ เสียใสกันจนพอแล้วนะงั้นเราก็ควรจะมาคุยธุระอย่างกันได้สักที คุณเป็นคนเริ่มไปฉีดยาก่อน ก็ช่างแม่งมันเถอะ มันก็มีกำหนดแค่ สามเดือน อีกสามเดือนค่อยมีลูกก็ได้”
ธิชาหน้าถอดสีทันที เธอพลิกตัวกลับมาหาและสบตากับเธอ ใบหน้าเล็กๆ อันเกลี้ยงเกลาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
“ไม่คลอดให้ พอสามเดือนยาหมดฤทธิ์ฉันจะไปฉีดยาอีก ฉัน จะไม่ท้อง คุณอย่าได้บังคับฉันนะ มีปัญญาคุณก็ฆ่าฉันเลย!
ธาวินเห็นเธอมีปฏิกิริยาตอบโต้มากขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ปวดหัว
แต่อึดอัดอยู่บ้าง
เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ มันยากมากที่เขาจะมาพูดคุยกับเธอ อย่างอารมณ์ปกติ
“ผมไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมามีลูกให้ผม ช้าสุดคืออายุ 30นะ คุณต้องท้องก่อนที่ผมจะอายุ 30นะ”
ธิชาหน้านิ่วคิ้วขมวด อย่างขมขื่น
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมธาวินไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นมีลูกให้เขา นอกจากนี้ญาณินได้ตั้งท้องก่อนแล้ว หรือว่าเขาไม่ได้วางแผนให้ ลูกคนนี้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยเหรอ
แต่ว่าเธอรู้ชัดอยู่ในใจ ธาวินมีแผนการในระยะยาว แถมยัง
คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบด้าน
เขาถึงขั้นวางแผนไว้แบบนี้ แน่นอนว่าเขาต้องมีเหตุผลอยู่ เธอไม่สนใจว่าธาวินเขาจะมีแผนการอะไร ได้แค่เป็นเจ้านาย หลักให้กับมดลูกของตัวเองก็พอ
ธิชาเม้มริมฝีปากไว้ พลางเน้นออกมาทีละคำพูด “ถ้าณิชา นาฏคลอดฉันออกมาและมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ฉันก็ คงไม่ได้พบเจอคุณ ก็ไม่ต้องเชิญกรรมวิบากตั้งมากมายขนาดนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ลุงรัณ เธอก็คงไม่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย… เธอจะ พาฉันจากบ้านผู้ชายคนหนึ่งไปอยู่บ้านผู้ชายอีกคน ตอนนั้นฉัน ยังเด็กมาก ใครก็สามารถรังแกฉันได้ เรื่องที่แย่ที่สุดก็ สามารถเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นบางครั้งฉันรู้สึกว่า การที่ได้มาพบ เจอกับคุณก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ย่ำแย่ที่สุด
“ทว่าหากฉันมีลูกขึ้นมาสักคน กระทั่งเป็นเด็กผู้หญิง ฉันเองก็ หวังให้เธอมีพ่อที่เป็นปุถุชนคนทั่วไปเท่านั้น และใช้ชีวิตตาม ครอบครัวปกติทั่วไป นอกจากนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่า ความปรารถนาของฉันมันง่ายดายแค่นี้แหละ
ทว่าสีหน้าของเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเธอแล้วก็เปลี่ยน สีหน้าเป็นย่ำแย่ที่สุดแทน
เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้าเอาไว้แน่น พลันยื่นมือออกมาบีบสะโพก สลาตันของเธอ
เธอเจ็บจี๊ดจนร้องซี้ดปากออกมา และจ้องมองเขาตาเขม็งด้วย อารมณ์หงุดหงิด
ธาวินตีกันเธอ “คุณยังกล้าตาเขม็งใส่ผมอีกเหรอ? ในสมอง วันๆ เอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย? แถมยังอยากจะไปมีลูกสาว ให้กับผู้ชายธรรมดาทั่วไปอีกเหรอ? ธิชา ความฝันลมๆ แล้งๆ ก็ ยังฝันหวานสวยหรูเกินไปสักหน่อยไหม!คุณเชื่อไหมว่าผมจะบีบ คอคุณ ถ้าคุณยังมีความคิดที่จะแต่งงานกับคนอื่น ผมจะบีบคอ คุณให้ตายคามือ!
กันของธิชาที่เขาบีบเคล้นและตีจนเจ็บมาก
เธอยื่นมือออกไปทุบเขาด้วยความโกรธ “ฉันไม่มีอะไรจะพูด กับคุณแล้ว อย่างไรก็ตามฉันก็จะไม่มีลูกให้กับคุณ สามเดือน ผ่านไปฉันก็ยังไม่มี! คุณอยากจะมีลูกกับใครก็ไปหาคนนั้น ฉัน ไม่สนใจคุณหรอก คุณอย่าได้คิดที่จะใช้ผลประโยชน์จากมดลูก ของฉัน”
เธอพูดจบก็กพลิกตัวลงกันอย่างแรงทันที พลางใช้ผ้าห่มผืน บางคลุมศีรษะของตนเองเอาไว้
ธาวินจ้องมองร่างกายของเธอที่เป็นก้อนกลมๆ พลางขมวดคิ้ว นิ่งเงียบอยู่นาน
เขารู้สึกว่าเธอนั้นมีความมุ่งมั่นมากกว่าเก่า แต่โดยรวมแล้ว ทุกครั้งยังคงกลัวเขาอยู่ และยังคงเชื่อฟังเขาอยู่ไม่กล้าขัดขืน อะไรง่ายๆ
แต่ว่าครั้งนี้ ถ้าเขาบีบบังคับให้เธอมีลูกกลัวว่าจะเป็นโศกนาฏกรรมทั้งสองฝ่าย
สีหน้าของธาวินไม่ค่อยดี แต่ก็ยังคงปิดไฟให้และนอนกอดเธอ
เอาไว้แน่น ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำเส้นผมของเธอ น้ำเสียงทุ้ม “เรื่องนี้ขอ พักเอาไว้ก่อนก็ได้นะ ขอแค่คุณเชื่อฟังขึ้นสักนิด อยู่ข้างกายผม อย่างเชื่อฟัง ไม่คิดเปลี่ยนใจ อย่าได้คิดว่าจะหนี เรื่องลูก… ยัง
ไม่คลอดตอนนี้ก็ได้นะ”
####บทที่ 52 คุณชาย ธิชาต้องการจะชนฉัน หลังจากเรื่องฉีดยาคุมได้พักยกกันไปแล้ว ธิชาก็ถือว่าใช้ชีวิต อยู่ในวันพายุสงบมาได้หลายวัน
เห็นได้ชัดว่าไพลินก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอ เธอก็ไม่อยากจะเอา ไพลินมาเก็บไว้ให้รกหูรกตาเหมือนกัน หลังจากที่คุ้นชินกับงานที่ ทำแล้ว ก็เริ่มจัดการปัดการควบคุมและการชี้นำของไพลินไปซะ เป็นผู้นำให้คนของตนเองได้ทำงาน
ธิชามีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปถึงข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำ ธุรกิจหรือว่าในทางสังคมอิทธิพลมืดก็ตาม เมื่อเจอเธอก็มักจะไว้ หน้าให้เธอเล็กน้อย
เพราะว่าในใจของพวกเขาต่างคิดกันไว้แล้ว ผู้หญิงคนนี้กับ โสเภณีที่อยู่ข้างนอกช่างไม่เหมือนกันเลย
ผู้หญิงด้านนอกของธาวินสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ขนาด ภรรยา พูดตรงๆ เลย ขอแค่อยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนได้โดยไม่ ต้องหลักการหรือเหตุผลอะไรเลย
มีแค่เท่านั้นแหละ… ยังไงเธอก็มักจะกลับคืนสู่การเป็นคุณหนู ใหญ่ของตระกูลธนาภูวนัตถ์ แถมทะเบียนบ้านยังเป็นเล่มเดีย วกับธาวิน และมีความสัมพันธ์กันมาเป็น 10 ปีอยู่ตรงหน้า ไม่ สามารถเปลี่ยนไปได้
ผลของการนําพาทีมด้วยตนเองของชาจนทำให้เธอทำธุรกิจ ได้อย่างราบรื่น ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น มีแค่ช่วงระยะนี้ ที่ ตอนเองรู้สึกว่าหงิดใจเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องเธออยู่ ในที่มืด
ธิชาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าตอนนี้ข้างกายเธอมีบอดี้ การ์ดคอยประกบอยู่ และน้อยครั้งมากที่จะออกจากบ้านไปคน เดียว อีกทั้งคนที่จ้องมองเธออยู่นั้น มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ จะเป็นสายตาของธาวิน
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ผิดของธาวินเธอชินแล้วแหละ ใครจะไปรู้ว่า เส้นประสาทตรงไหนมันเกิดผิดปกติขึ้นมา ถึงได้จัดคนมาคอยดู เธอเอาไว้ส่วนเธอก็ไม่นึกแปลกใจอะไร
วันนี้ ธิชาขับรถไปเจอกับเถ้าแก่สมพรท่านหนึ่งในงานเลี้ยงสัก
งาน และพูดคุยกันเรื่องทำงานด้านความร่วมมือทั่วไป เธอพาผู้ช่วยบอดี้การ์ดไปแค่คนเดียว แถมตนเองยังขับรถเอง
ด้วย
ช่างเหมือนจะไม่บังเอิญเลย ตรงด้านนอกของสถานที่ประชุม นั้น มีนักเลงอันธพาลที่เธอเคยเจอมาแล้วสองคน เห็นกับตาว่า เธอลงมาจากรถปอร์เช่สีชมพูบลอนด์คันนั้น
ผู้ชายหนึ่งในนั้นย้อมสีผมเป็นสีทองและจุดบุหรี่ ทั้งสูบไปด้วย และพูดไปด้วย “ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดูคุ้นๆ ใช่เมียน้อยของแซ่ ธนาภูวนัตถ์คนนั้นไหม?”
ส่วนอีกคนคือลูกน้องของชนัดพล เขาสำรวจโดยรอบ สีหน้าดู เคร่งขรึม “ไม่มีหลักฐานชัดเจนก็อย่าได้พูดไร้สาระออกมา ผู้ หญิงคนนั้นระยะนี้ชื่อเสียงดังมากเลยนะ ได้ข่าวว่าเป็นคนคนที่ ธาวินซุกไว้นอนข้างกายอยู่ในกรงทองมานานหลายปีแล้ว ท่าน ดนัยของเราดูถูกคนข้างกายของธาวิน อย่าได้เที่ยวไปพูดว่าจะ แย่งมาจากเขาเลย พูดออกไปมันราคาตกชะมัด!”
คนผมสีทองคนนั้นพูดต่อ “ฉันไม่ได้พูดมั่วๆ! ครั้งที่แล้ว เห็น กับตามา ท่านดนัยว่าค่อนข้างเอาใจเด็กสาวคนนี้ ไม่แน่นะอาจ จะสนใจในตัวแล้วก็ได้ คนของธาวินแล้วจะทำไมล่ะ ท่านดนัย ของเราอยากจะได้ แม้ว่าเป็นผู้หญิงของท่านประธานาธิบดีก็ต้อง ยกให้เขาอย่างเชื่อฟัง
ทั้งสองคนกำลังเถียงกันไม่หยุดอยู่นั้น ก็เห็นเต็มสองตาว่ามี ผู้ชายใส่หมวกแก๊ปแอบย่องมาเปิดฝากระโปรงรถคันนั้นของ ชาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอาประแจขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง จาก นั้นก็ปิดฝากระโปรงรถและหนีไปอย่างรวดเร็ว
คนคนนั้นลงมือทำทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่า เป็นการวางแผนมานานแล้ว
นักเลงอันธพาลสองคนนั้นเห็นกับตา เวลานั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง จนสุดท้ายผมสีทองก็เลยเสนอตัว ในการแจ้งข่าวตามจริงให้กับ ชนัดพลรับทราบเรื่องนี้
หลังจากที่ชาพูดคุยเรื่องธุรกิจแล้วเดินออกมาจากสมาคม แล้วนั้น ก็ประจันหน้ากับชนัดพลที่มาต้อนรับ
ชนัดพลสีหน้าเกรงใจ พลางพูดอย่างเคารพ “คุณธิซา รถของท่านดนัยจอดอยู่ทางด้านข้าง มีเรื่องต้องคุยกับคุณ อยู่ไม่กี่ประโยคเอง”
ธิชาดูสับสนอยู่ เลยไม่อยากจะขึ้นรถ ในใจก็แอบก่นด่าดนัยก ฤตที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขึ้นรถอย่างไม่มีเรื่อง อะไรเกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาตอนที่ทะเลาะกันในที่ สาธารณะ
พอธิชาขึ้นรถแล้ว ตอนที่หลุดปากพูดออกมาว่า “มีธุระอะไร ถ่อมาที่นี่ได้” ในเวลานั้น
สีหน้าของดนัยกฤตไร้ความรู้สึก และโยนiPad ให้เธอเครื่อง หนึ่งตรงบริเวณขาของเธอ
ธิชาตะลึงทันที และก้มลงมามองด้านในอย่างแปลกใจ เมื่อดู อยู่สักพักถึงได้รู้ตัวว่าเนื้อหาที่กำลังเปิดอยู่ตรงหน้าจอนั้นคือ บันทึกในกล้องวงจรปิด
“นี่มันไม่ใช่ตรงประตูของคลับเหรอ…” ตอนที่เธอกำลังตกอก ตกใจใหญ่เพราะไม่เข้าใจอะไรเลยอยู่นั้น หน้าจอก็ปรากฏชาย หนุ่มที่ใส่หมวกแก๊ปจนมองหน้าไม่ชัดเจนและใส่เสื้อฟ้าสีฟ้า เหมือนคนซ่อมรถยนต์จำพวกนั้นเดินเข้ามาด้านหน้ารถของเธอ พลางเปิดกระโปรงรถขึ้น จากนั้นก็ทำอะไรสักอย่างด้านใน กระโปรงรถ
ธิชาทั้งสงสัยและมีรู้สึกที่หวาดหวั่นหลังจากดูคลิปวงจรปิดช่วงนั้นเสร็จแล้วพลันหันกลับไปวนดูอีกรอบ อย่างอดใจไม่ไหว
จากนั้นเธอก็มองมาทางดนัยกฤต และถามอย่างไม่เข้าใจ
“คนคนนั้น…เขาทำอะไรกับรถของฉันเหรอคะ?”
สีหน้าของดนัยกฤตไร้ความรู้สึกใดๆ แสดงออกมา นัยน์ตา แสดงอาการไม่มีความสุขออกมาบ้าง น้ำเสียงก็ดูหม่นหมองลง อย่างชัดเจน
“เขาไปยุ่งกับเบรกรถของคุณ เมื่อความเร็วของรถแตะไปถึง ระดับหนึ่งแล้ว เมื่อเหยียบเบรกกะทันหันมันจะใช้การไม่ได้ แต่ ว่าถ้าขับรถทั่วไปคุณจะไม่สามารถจับสัมผัสได้ มีเพียงแต่เบรก กะทันหันเท่านั้นถึงจะแสดงปัญหานี้ออกมา
“…” ธิชาเบิกตาโตอย่างตกใจ ขนาดจนเกือบจะหยุดหายใจ อยู่แล้ว “ใครเป็นคนต้องการจะเอาชีวิตฉัน?”
ดนัยกฤตขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณคิดเอาเองว่าไปทำผิดกับใคร เขามา
ธิชาครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอไม่เคยไปบาดหมางกับใครมาก่อน
แต่ว่าช่วงนี้เหมือนว่าไปบาดหมางกับคนหลายคนมาก่อน…..
ที่มีก็คือดนัยกฤต ยังมีตระกูลมงคลวัชรกุล ญาณิน และ ไพลิน……
ตัดตายกฤตออกไปก่อนได้เลย เพราะว่าผู้ชายคนนี้เคยช่วย ชีวิตเธอมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีแผนการ อุบายอะไร อย่างไรเสียก็ไม่มีวันคิดจะเอาชีวิตเธอ
ส่วนคนที่สอง ตระกูลมงคลวัชรกุลนั้นเธอคิดแล้วคิดอีกจนตัด ทิ้งไป เพราะว่าเรื่องที่ตระกูลมงคลวัชรกุลจับตัวเธอไปนั้นเรื่อง มันก็เพิ่งผ่านมาได้ไม่นานนี้เอง และพวกเขาก็จ่ายเงินมากมาย มหาศาลให้กับเรื่องนี้ จนต้องโอนหุ้นสองส่วน ให้ธาวินกับมือ บท เรียนในครั้งนี้ถือว่าเจ็บปวดมาก ก็คงไม่ทำผิดซ้ำสองในระยะ เวลาเพิ่งผ่านไปนานขนาดนี้หรอก
เมื่อคิดแล้วคิดอีก จากนั้นเขาก็บ่นพึมพำออกมา หรือจะเป็น ไพลิน…นังผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบขี้หน้าฉันอยู่ด้วย ฉันเองก็เบื่อเธอ มากเช่นเดียวกัน แต่คงไม่ถึงขั้นต้องการชีวิตของฉันเพื่อสาเหตุ เรื่องยิบย่อยนี้มั้ง?”
ดนัยกฤตได้ยินแล้ว ถึงกับหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเล็กน้อย เขาพาธิชาไปเจอกับคนคนหนึ่ง คนคนนั้นธิชาคุ้นตามาก เป็นลูกน้องของไพลิน เวลานี้ดนัยกฤตได้จัดการให้คนสั่งสอนอย่างทรมานแล้ว ตอนที่เจอกับธิชานั้น เขาก็ยอมพูดหมดเปลือกอย่าง ไม่เหลือความอดทนอะไรอีกแล้ว
“คุณธิชา ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตผมด้วย เป็นมันก็แค่อันธพาลคน หนึ่งเอง พี่ไพลินให้ผมทำอะไรผมก็ต้องทำ เธอให้ผมคอยเฝ้า คุณไว้ และฉวยจังหวะตอนที่คุณเผลอลงมือทำอะไรนิดหน่อยกับ รถของคุณ ผมก็แค่หาคนงานที่มีความถนัดในการซ่อมรถยนต์ มา ที่ผมพูดออกมามันคือความจริงทั้งหมด…
คนคนนั้นทั้งตัวมีแต่บาดแผลไปทั่ว เห็นแล้วถึงกับตกใจเลย
ตอนแรกดนัยกฤตยังคิดว่าธิชาจะตกใจจนกลัว หดตดหาย
ไม่คิดเลยว่าเธอกลับยังคงนิ่งเฉยกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้า ทั้งหมด อีกทั้งก็ไม่ได้ใจอ่อนหรือว่าพูดกล่าวโทษว่าเขาลงมือกับ อันธพาลคนนี้รุนแรงขนาดนี้
ธิชายืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้ความรู้สึกอยู่สักพัก ราวกับกำลังคิด
อะไรอยู่
จากนั้นเธอก็หันศีรษะออกไปกำชับกับบอดี้การ์ดของตนเอง “เอาตัวคนนี้ไปส่งคืนให้ไพลิน ส่งให้ถึงในคอนโดของเธอเลย นะ”
เมื่อบอดี้การ์ดได้รับคำสั่งแล้วก็ลงมือจัดการทันที
สีหน้าของ ซาซีดเผือดเล็กน้อย แต่ก็ยังความรู้สึกโชคดีที่
หลุดพ้นความเป็นความตายมาได้ เธอยิ้มให้กับดนัยกฤต “เหมือนว่าท่านดนัยช่วยฉันไว้อีกครั้ง หนึ่งแล้ว…”
ตบไหล่ของเธอเล็กน้อย “ผมเป็นนักธุรกิจ ชอบคิดบัญชี จด เอาไว้ก่อนแล้วกันนะ คุณเริ่มต้นหนี้ผมอีกครั้งแล้วสิ
ธิชาพยักหน้า
ในช่วงเวลาเพียงชั่วอึดใจเดียวนั้น ดนัยกฤตก็ได้หาคนมา จัดการซ่อมเบรกรถของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ธิชาขับรถกลับตระกูลธนาภูวนัตถ์ เมื่อเข้าประตูใหญ่ของตระ กูลธนาภูวนัตถ์แล้ว ตอนที่กำลังเข้าสู่โรงรถ แต่กลับบังเอิญที่เจ อกับธาวินและไพลินกำลังเดินเคียงข้างกันอยู่ตรงประตูโรงจอด รถ
เธอหันพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนทิศทางทันที ท่ามกลางกรีดร้อง ดังลั่นของไพลิน ราวกับจะเฉียดกับพวกเขาเช่นนั้น
ไพลินเกือบจนล้มคว่ำ ส่วนธาวินหลบได้ทันเวลา
ธาวินยังไม่ทันพูดอะไรออกมา ไพลินก็ฟ้องด้วยน้ำเสียงสะอึก สะอื้นออกมาทันที “คุณชาย! คุณก็เห็นกับตาแล้วใช่ไหม เธอ ต้องการจะขับชนฉันให้ตาย! เธอจงใจหักหลบมาชนฉัน! อีกนิดก็ จะชนคุณเข้าแล้ว เธอนี่มันช่างเป็นนอกกฎหมายจริงๆ น่ากลัว ชะมัดเลย!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ