ร้กลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

บทที่ 42 ธาวิน ให้รางวัลเธอ



บทที่ 42 ธาวิน ให้รางวัลเธอ

ธาวินได้ยินการรายงานที่มีความหมายเป็นนัยน์แบบนี้แล้วก็ เหมือนว่าไม่ได้โกรธเคืองอะไร

ไม่เพียงแต่ไม่ได้โกรธเคืองสักนิด ขนาดสีหน้าที่แปลกใจยัง ไม่มีเลย

ธาวินเหลือบตามองเช็คเงินสดสองล้านใบนั้นอยู่ในมืออยู่สัก ครู จากนั้นก็วางมันลงทันที

เขาหยิบ การมวนบางหนึ่งมวนออกมาจากกล่องใส่ซิการ์ จากนั้นก็จุดขึ้น

ไพลินจ้องมองสีหน้าของเขาที่ยากแก่การคาดเดาได้ จนในใจ ไม่สามารถจับจุดได้ ไม่กล้าที่แม้จะปริปากพูดต่ออะไรมากได้อีก เลย

ธาวินพ่นควันออกมาครั้งหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ถามกลับอย่างไม่ รีบไม่ร้อน “ไพลินคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?”

ไพลินคิดแล้วคิดอีก หลักฐานที่แสดงออกมาอย่างทนโท่ขนาด นี้แล้วถ้าว่าเธอไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เธอก็สบายใจจริง ๆ

เธอลังเลอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็ตอบกลับมา “ฉันแค่รู้สึกว่าเงินสอง ล้านมันได้มาช่างง่ายดายเกินไปหน่อย จากการสังเกตของฉันที่มีต่อคุณชาแล้ว เธออายุยัง น้อย แถมยังได้ประสบการณ์ในการทำงาน ทว่าเรื่องนี้เธอกลับ สามารถเอาเงินก้อนนี้มาจากมือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างดนัยกฤตมา ได้อย่างง่ายดาย จนทำให้ฉันมองเธอไม่ออกแล้ว…”

ธาวินชำเลืองมองเธอ “คุณฉลาดเป็นกรด ยังมีอะไรที่คุณมอง ไม่ออกอีกเหรอ มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลย อย่าได้แต่ ๆ อึ้งๆ อยู่”

ไพลินไม่กล้าพูดใส่ไฟให้มาก ถึงอย่างไรใช่ว่าเธอดูไม่ออกว่า นั่งปีศาจริชานั่นมันเกาะแกะคุณชายเอาไว้แน่น ขนาดเรื่องงาน วันแต่งงานของคุณชายยังไม่สามารถเขย่าฐานะของเธอได้เลย ไม่แน่เรื่องงานฉลองในคืนวันหมั้นที่ใหญ่โตในวันนั้นเธอจงใจ ทําขึ้นมาก็ได้….

ไม่เสียดายในการทำลายชื่อเสียงของตนเองให้ป่นปี้ แถมยัง เปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับคุณชายต่อหน้าต่อตา สาธารณชนแบบจัดเต็มอีก ช่างสุดยอดจริงๆ เลย

ไพลินได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่กล้าพูดลอย ๆ ก็แค่กล่าว รายงานไปตามความจริงเท่านั้นเอง และเชื่อว่าคุณชายย่อมมี วิจารณญาณเป็นของตัวเองเช่นกัน
ธานสูบซิการ์มวนบางไปครึ่งมวน สีหน้ายังคงปกติตามเดิม มองไม่ออกถึงอาการยินดีหรือโกรธเคือง

เขาโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เธอออกไป ไพลินทำได้แค่หัน

ตัวออกไปอย่างเงียบๆ

วินาทีที่เธอเปิดประตูห้องหนังสือนั้น ก็ตกใจกับใบหน้าอันเย็น ชาของธิชาที่อยู่ด้านหน้า

ตอนที่เธออ้าปากจะพูดออกมา เชาก็ยื่นขาออกมาเพื่อขวาง เธอเอาไว้

ไพลินไม่คิดสักนิดว่าด้านหน้าประตูห้องหนังสือจะมีคนกล้า แอบฟังเธอ อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าเนื้อหาที่ตนเองกับคุณชายพูด กันอยู่นั้นผู้หญิงคนนี้จะได้ยินสักกี่มากน้อยแล้ว

ช่วงเวลาตื่นตระหนกตกใจ อีกทั้งยังไม่มีการตั้งรับใดๆ จน

ทําให้สะดุดขาเธอ

ธิชาไม่คิดเลยว่าไพลินที่เป็นผู้หญิงแกร่งกล้าคนหนึ่งจะมี ปฏิกิริยาตอบกลับได้เชื่องช้าขนาดนี้ เมื่อเห็นท่าทางที่ล้มกองอยู่ ที่พื้นอย่างทุเรศทุรังแล้ว จนเธออดไม่ได้ที่จะเม้มปากแสดง อาการดีใจออกมา

เธอไม่ยิ้มก็ยังพอทนไหว แต่นี่ถึงกลับมีเสียงหัวเราะออกมาจน ยั่วทำให้ไพลินโมโหทันที
เธอรีบลุกพรวดจากพื้นทันที พร้อมทั้งรีบทรงตัวบนรองเท้าสูง ปลายสันแหลมปรีดด้วยท่าทางจองหองและตอบกลับไป “คุณ ชานี่มันหมายถึงอะไร ฉันไปทำผิดกับคุณเหรอไง ถึงได้ทำเรื่อง ปัญญาอ่อนนขาออกมาให้ฉันสะดุดมีแค่คุณเท่านั้นเหรอที่ สามารถทำได้ใช่ไหม?!

ธิชาแสยะยิ้ม และเผยอปากเยาะเย้ย “เมื่อเทียบกับคุณไพลิน ที่รู้ทั้งรู้ว่าไนต์คลับห้องนั้นเป็นถิ่นของคนอื่น แต่กลับจงใจผลัก ฉันให้ส่งไปตาย ความสามารถของฉันแน่นอนว่ามันไร้เดียงสา อยู่มาก ใครจะกล้าลงมือได้แสบทรวงกว่าคุณกัน

ไพลินถูก ยอกย้อนจากเธอจนสีหน้าประหม่าออกมาทันที แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไร

ผู้ชายที่อยู่ในห้องหนังสือตื่นตระหนักกับเสียงของพวกเธอที่ กำลังทะเลาะกันอยู่ และเดินมาถึงประตูด้วยสีหน้าไร้ซึ่งความ รู้สึก

ไพลินเห็นว่าธาวินเดินออกมาแล้ว จึงรีบปรับความเฉียบคม บนใบหน้าของตนเอง พลันแสดงท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจในการ อดทนอดกลั้นเอาไว้ พลางส่งเสียงกระซิบมาอย่างอ่อนโยน “คุณชาย…”

สีหน้าของธิชาก็ไม่มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด เมื่อเห็นเขา ก็ไม่ได้คือไม่ได้คืออะไรต่อ
ธาวินชำเลืองมองเธอ พลางเบนสายตาไปทางไพลิน “นี่พวก คุณกำลังทะเลาะอะไรกันอยู่

ในใจของไพลินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คำพูดจุกปากแต่ไม่

กล้าจะเอาเรื่องยิบย่อยไปรบกวนเขา แค่กลัวว่าตนเองจะคิดมากเกินไปจนไปยั่วอารมณ์ให้เขา โมโหขึ้นมา

เวลานั้นเธอก็ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรออกมา ทว่าธิซาได้แต่ แสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึมแปลก พิกล “ไม่รู้ว่าคุณไพลินไปทำอะไรที่ใจคอไม่สู้ดีมาเหรอถึงได้รีบ ร้อนจะออกไป พอเปิดประตูออกมาก็ร้อนรนจนไม่ยอมมองทาง โตขนาดนี้แล้ว ยังหกล้มได้ จนทำให้ฉันยังตกใจตามเลย”

ไพลินมองเธอที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จนนัยน์ตาจะระเบิด อารมณ์ความโกรธอยู่แล้ว

ธาวินจ้องมองใบหน้าเล็กอันดื้อรั้นหัวชนฝาของธิชา ในใจคง

คาดเดาเอาเองไปเรื่อยเปื่อยแล้ว

ซึ่งสีหน้าของเขาก็ยังคงเช่นเดิม พลางยื่นมือออกไปคว้าข้อมือ ของเธอ พลางดึงเธอเข้าหาด้านข้างของตนเอง พร้อมทั้งถาม กลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทำไมอารมณ์คุณบูดบึงขนาดนี้เนี่ย ปกติแล้วไพลินทำงานเยอะมาก ตอนนี้ยังต้องคอยสอนคุณ ทำงานอีก เธออายุมากกว่าคุณทั้งสองปี ถึงอย่างไรก็ควรจะเรียกว่าพี่นะ โตป่านนี้แล้วทำไมถึงไม่เข้าใจกฎระเบียบ บ้างล่ะ?”

ไพลินได้ยินคำพูดของธาวินแล้ว ทั้ง ๆ ที่กำลังกล่าวโทษอย่าง เปิดเผยอยู่ แต่ในทางกลับกันแสดงความหมายเป็นนัยน์ไม่ได้ คิดเอาความใดๆ

เธอเสียหน้าเล็กน้อย คำพูดที่ต้องการจะฟ้องเลยทำได้แค่กลืน

ลงท้องไปทั้งหมด

ธิชาแสดงท่าทีเชื่อฟัง พร้อมทั้งยิ้มหวานให้เธอ “พี่ไพลิน ต่อ ไปเวลาเดินก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะ จะได้ไม่ล้มจนทำให้ตัวเอง บาดเจ็บอีก เวลาก็ดึกดื่มแล้ว คุณควรจะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เถอะ”

หลังจากพูดจบ เธอก็มองใบหน้ารูปไข่อันวิจิตรงดงามไพลินที่ กำลังหน้าชาอยู่ จนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกรธเคืองออกมาและ หันหลังเดินกลับไป

ธิชาแสยะยิ้มอย่างได้ใจ เรื่องนี้ถือว่าจบกันสักที

นิ้วเรียวยาวของธาวินบีบปลายคางของเธอ ริมฝีปากอัน งดงามอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ผมให้คุณไปเรียนรู้งานกับไพลิน แต่คุณนี่ดีจริง ๆ ไปโกรธเคืองอะไรกับเธอล่ะ?”

เธอกะพริบตาไป แถมยังทำหน้าไร้เดียงสา “ฉันจะกล้าไป อารมณ์เสีย ใส่พี่ไพลินได้ยังไงกัน ใครหน้าไหนไม่รู้บ้างว่าพี่ไพลินเป็นคนโดดเด่นมากในสายตาของคุณ ชายธาวิน แต่ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าฉันเลยจงใจทำให้ฉันลำบาก ใจเท่านั้นเอง ฉันจะกล้าไปยั่วโมโหเธอได้ยังไงกันคะ

ธาวินเดินโอบตัวเธอกลับไปที่ห้อง และไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเล็ก น้อยที่แสนน่าเบื่อพวกนี้เลย ได้แต่สอบถามเธอว่าช่วงนี้เรียน อะไรมาบ้างแล้ว

ธิชาตอบหมดเปลือก ตอนแรก ในใจยังมีเรื่องบางอย่างค้าง อยู่ เพราะว่าคอยกังวลว่าธาวินจะถามเรื่องเช็คใบนั้นขึ้นมา

ทว่ายากมากนักที่ธาวินไม่ได้แหวกหญ้าให้ตื่น ตั้งแต่ต้นจน จบก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเรื่องดนัยกฤตเลย เธอย่อมไม่เสนอหน้า พูดออกไปเอง เรื่องนี้เหมือนว่ามันไม่ได้ส่งผลจนสร้างปมอะไรใน ใจเขาเลย

ในทางกลับกัน เหมือนว่าธาวินเองก็ดีใจมากกับการพัฒนา ของเธอที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ

กระทั่งเป็นคนเอ่ยปากถามเธอก่อนว่าอยากได้อะไรเป็นของ ขวัญด้วยซ้ำ

ธิชาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ยากนักที่ธาวินจะใจกว้าง เธอไม่ สามารถปล่อยผ่าน โอกาสนี้ไปได้เลย

ปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับเธอในช่วงนี้คือความอิสระเพราะว่า ธาวินมักจะให้คนขับรถคอยติดตามเธออยู่ตลอด เวลา จนทำให้เธอไม่กล้าไปฉีดยาคุมที่โรงพยาบาลเลย

นอกจากนี้ ตอนนี้เธอไปอยู่สองที่คือที่มหาวิทยาลัยกับอยู่ใน คลับ ถ้าไม่มีคนขับรถคอยตามอยู่ ตนเองก็ยังไม่สะดวกเข้าไป ใหญ่

ดังนั้น ในใจของเธอคิดขึ้นมา พลางใช้เสียงกระซิบลองถามดู “ฉันอยากได้รถยนต์หนึ่งคัน ไม่ว่าจะไปเรียนหรือว่าไปทำธุระ อะไรก็จะได้สะดวกขึ้นค่ะ”

ตอนที่เธอถามมีอาการหดหูเล็กน้อย เพราะมีการเตรียมการ

ถูกปฏิเสธกลับมาเอาไว้ก่อนแล้ว

หลังจากนั้นธาวินก็ไม่ได้มีท่าทางลังเลแต่อย่างใดเลย พลาง พยักหน้าตกลงทันที

หลังจากนั้นหลายวัน ธิชาก็เห็นรถปอร์เช่คันใหม่กริ๊บจอดอยู่

ด้านหน้าสนามของวิลล่า

สีรถยนต์แน่นอนว่าต้องเป็นสีชมพูระเรื่อ ไม่ได้เป็นสีที่ฉูดฉาด มากนัก แต่ก็สะดุดตาอยู่พอควร ยิ่งสาวๆ พอเห็นแล้วยิ่งทำให้ ชื่นชอบกันยกใหญ่

ผู้ช่วยคนหนึ่งของธาวินเป็นคนเอารถมาส่ง

เขาเอากุญแจรถยื่นให้ธิชากับมือ
แถมยังท่าทางได้สอพลอเกินตัว และยิ้มหน้าบานตอนที่พูด ออกมา ประธานธาวินได้สั่งจองกับทางโรงงานโดยตรง รถยนต์ คันนี้ราคาแพงหูฉี และยังดำเนินการเอาเข้ามาจากโรงงาน โดยตรงด้วยการสั่งทํา ขอแสดงความยินดีกับคุณชาด้วย สีนี้ มันช่างเหมาะกับนิสัยของคุณเป็นพิเศษ”

ธิชาเองก็แปลกใจมาก จนถึงขั้นตะลึงเล็กน้อย

ตลอดปีที่ผ่านมา ขนาดเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันธาวิน ยังขี้เหนียวกับเธอเลย อย่าได้เอ่ยถึงส่งของขวัญอะไรให้เลย

เงินที่ใช้สอยในชีวิตประจำวันกับค่ายาของณิชานาฏก็ได้มา จากการที่เธอไปนอนกับธาวินทั้งสิ้น ราคารถคันนี้อย่างน้อยห ลายล้านมาก ถ้าธาวินไม่ได้ส่งให้เธอฟรี ๆ เธอเกรงว่าคงต้อง หลับนอนถึงขั้นขาอ่อนก็ยังไม่ยอมให้นอนแล้วมั้ง…

####บทที่ 43 แต่ว่านี่เป็นสิ่งที่คุณหาเรื่อง ใส่ตัวเองนะ

ในมือของริชาก๋ากุญแจเอาไว้แน่น และยืนตะลึงอยู่นาน

เธอเริ่มคิดไม่ออกว่าทำไมธาวินถึงได้ซื้อรถที่ราคา ราคาแพงหูฉี่ ขนาดนี้ให้กับเธอ เธอก็แค่ต้องการรถยนต์เป็นอุปกรณ์ในการ เดินทางเท่านั้น และไม่กล้าเสนอข้อเรียกร้องพิเศษอะไรกับเขา

หรือว่าช่วงนี้เขาอารมณ์ดี เลยซื้อให้สักคันเท่านั้นเอง

หรือว่า…นี่คือสิ่งชดใช้แทนคำพูดของเขาเหรอ? คำว่าชดใช้สองคำนี้มันผุดขึ้นมาในหัวสมองของเธอในเวลานี้ จนทำให้เธอใจเต้นโครมคราม

ถ้าไม่ใช่ว่าเธออ่อนไหวมากเกินไปแล้วละก็ ระยะนี้ธาวินช่างดี กับเธอขึ้นบ้างแล้ว

ที่สำคัญคือตอนนี้เวลาพูดคุยกับเธอก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นแล้ว

ฟังดูแล้วก็เหมือนว่าไม่ได้ต่อต้านกับเธอมานานมากแล้ว…

ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เหมือนว่าจะเกิดขึ้นหลังจากวันหมั้น หมายแล้ว

เขาแสดงละครฉากใหญ่ขนาดนั้น จนทำให้ชื่อเสียงของเธอ

ปนไป แถมความสัมพันธ์กับญาณินยังขาดสะบั้นอีก

จิตใต้สำนึกของธาวินรู้ตัวแล้วเหรอว่าตนเองช่างโหดร้ายเกิน ไป เลยจําใจเมตตาเธอบ้างแล้ว?

ธิชารู้สึกเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก

ในทางกลับกันธาวินก็ให้มาแล้ว งั้นเธอก็ไม่มีอะไรที่ต้องเกรงใจอีกแล้ว พลางขึ้นรถแล้วลองขับออกไปกินลม ชมวิวทันที

ธิชาไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับรถยนต์คันนี้ และก็ไม่เลือกมาก แถม ยังขับได้คล่องมือเลยขับอยู่ทุกวัน

ทว่ารถยนต์ปอร์เชสีชมพูบลอนด์ที่สั่งจอง โดยเฉพาะมันช่าง

ทิ่มแทงลูกนัยน์ตาของไพลินอย่างหนักหน่วง

รถสปอร์ตคนสีแดงของไพลินคันนั้นธาวินเป็นคนซื้อให้เธอ เป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้

เธอหลงรักมาก ทั้งปลื้มสุดๆ ตอนขับมาทุกวันก็ยิ่งภาคภูมิใจ มาก เหมือนว่าตอนที่ขับรถอยู่ก็เหมือนได้อวดความรักของธาวิน ที่มีต่อเธอเลย

ทว่าในเวลานี้ มีบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว

ความรู้สึกในการถูกเอาใจอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาโดย ตลอดมันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว

ความรู้สึกอันตรายที่อยู่ในใจของไพลินมันเข้าขั้นวิกฤตแล้ว กลัวว่าตอนที่ธาวินใกล้จะประกาศงานแต่งงานกับตระกูลมงคล วัชรกุล เธอกลับไม่เคยมีตัวตนอยู่แล้ว
ข่าวคราวก็ไม่รู้ว่าไปหลุดออกมาจากคนปากมากคนไหน

เหมือนว่าแค่คืนเดียวผู้คนต่างรู้เรื่องปอร์เซของชาเป็นของ ขวัญที่ธาวินสั่งทำให้เธอ โดยเฉพาะ

ทว่าในสายตาทุกคนก็ไม่ได้ตาบอดจนมองไม่ออกว่า รถ สปอร์ตสั่งทําคันนี้ ราคามันเกินค่ามากกว่าเงินสองล้านที่เธอเอา มาได้จนเห็นได้ชัด

พอเรื่องนี้เกิดขึ้น ชื่อเสียงลือนามของธิชาที่อายุยังน้อยหน้าตา สวยแถมยังรักหลงเป็นคนโปรดมากก็ดังกระฉ่อนออกไป ไม่ เพียงแต่บรรดาลูกน้องของไพลินเท่านั้น ขนาดทุกแก๊งก็ต่าง ได้ยินข่าวนี้กันทั้งหมด

ความเก่งกาจเฉพาะตัวของไพลินเหมือนว่าโดนข่าวใหม่ของ ชากลบข่าวไปหมดแล้ว

ในสายตาของเธอนั้นยิ่งนานวันเข้าก็ทนสภาพไม่ได้กับการที่

ต้องปล่อยผ่านยัยคนหน้าเงินที่กำลังอ่อยให้พี่ชายต่างแม่ไปได้

หลังจากช่วงบ่ายของวันนี้ ไพลินก็มาส่งเอกสารให้กับธาวินที่วิลล่า
ธาวินอยู่ที่ห้องหนังสือด้านบน ดังนั้นคนที่ไพลินเจอเป็นคน แรกก็คือญาณิน

ญาณินนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา สีหน้าดูแย่มาก

อาจจะเป็นเพราะว่าในห้องรับแขกไม่มีคน เธอเลยไม่ต้อง ปกปิดความรู้สึกของตนเองเอาไว้ ราวกับกำลังเอาความอิจฉา และความโกรธเกลียดที่มีต่อผู้หญิงคนหนึ่งเอามาไว้อยู่ใน ดวงดา

ญาณินถูกบีบจนใกล้จะประสาทเสียอยู่แล้ว

เดิมเธอก็คิดว่าตนเองสามารถทนได้ เพราะว่าเธอนั้นรักธาวิน จริง ๆ พร้อมทั้งยินยอมลงทุนมหาศาลเพื่อจะได้แต่งงานกับเขา

แค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ไม่สามารถจะมาเป็นอุปสรรค ขวางทางเธอได้เลย

แต่ว่าตอนนี้เธอยังเข้ามาอยู่ในตระกูลอย่างเป็นทางการ และ ยังไม่เคยนอนห้องเดียวกันกับธาวินอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ แต่ชากันอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างเปิดเผย

ผู้อาวุโสของตระกูลมงคลวัชรกุลต่างเกลี้ยกล่อมเธอให้อดทน เอาไว้ แม้ว่าจะจัดการให้ธิชาตายคามือ ก็ต้องรอโอกาสที่ ประจวบเหมาะ
รอจนเธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอก็คือนายหญิงของตระกูล ธนาภูวนัตถ์

ก็แค่ภาระที่เอามาฝากไว้มันจะสักแค่ไหนกันเชียว เธอมีวิธี การเป็นร้อยเป็นพื้นที่ทำให้ธิชาตายอย่างไม่มี ไม่มีขลุ่ย แต่ในเวลานี้ เธอทำได้แค่ตนเองตาบอดไปเท่านั้นเอง

แต่การแกล้งตาบอดนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายขนาดนั้น

วันนี้เธอรู้ว่าธาวินจะกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน เธอจึงได้แต่ง ตัวเป็นพิเศษเพื่อจะได้มาอยู่กับเขา

จากนั้นตอนที่เธอกำลังมุ่งหน้าเดินไปทางห้องอาหารนั้น พลัน ได้ยินเสียงกรีดร้องครวญครางของหญิงสาวดังระงมอย่างสดใส มาจากในห้องอาหาร

ญาณินระงับความแปลกใจของตนเองเอาไว้ไม่อยู่ เธอยืนอยู่ ในตำแหน่งด้านข้าง เพื่อไม่ให้เปิดเผยเงาร่างกายของตนเอง และสามารถมองเห็นภาพในห้องอาหารจากมุมนี้ได้

ธิชาถูกธาวินกอดและกดทับลงบนโต๊ะอาหาร ขาข้างหนึ่งของเขาเบียดแทรกหัวเข่าของเธอทั้งสองข้าง ส่วนมือนั้นราวกับกำลังหยิบอาหารเพื่อป้อนเข้าปาก ของ ชา

ชาเหลือบมองเวลา จนสีหน้าแสดงอาการร้อนในออกมา จน ใช้มือทั้งสองข้างวางตรงแผ่นอกของเขาและต้นเขาออกอยู่สอง ครั้ง

“ฉันจะเข้าเรียนสายแล้ว ธาวินคุณอย่าก่อกวนนะ!”

ธาวิน ใช้มือข้างหนึ่งบีบเค้นบริเวณเอวคอดของเธอ แถม สีหน้าไม่แยแสและพูดออกมา “ผมไม่สนใจ มันยากมากนะที่ผม จะกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน คุณต้องนั่งกินข้าวให้หมดเป็น เพื่อนผม

ธิชาขมวดหัวคิ้ว “แต่ถ้าฉันสายต้องถูกหักคะแนนตั้งใจเรียน

ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาจ้องมองเธอเอาไว้ แววตานั้นแสดง

ความรักและเอ็นดูอย่างที่ญาณินไม่เคยเห็นมาก่อน

เขาถกกระโปรงของธิชาขึ้นมาทันที พร้อมทั้งใช้ฝ่ามือใหญ่สุด แทรกเข้าไปด้านในจน ธิชากรีดร้องออกมาอย่างเศร้าโศก

“อย่า อย่าหาเรื่องเลย ธาวินคุณทำเกินไปแล้วนะ!! ธาวินลูบคลำเธอแต่ยังไม่พอ จากนั้นก็ประกบตัวพร้อมทั้งจูบเธอทันที และการจูบนั้นอ้อยอิ่งเนิ่นนาน เหมือนว่า เขาจูบอย่างหนักหน่วง จนตอนสุดท้ายนั้นใบหน้าของชาถือ กลับแดงแจ๋ทั่วใบหน้า

ชายนคิ้วหากัน สีหน้าไม่ดีใจเอาซะเลย แถมยังยกต้นขา เปล่าเปลือยทั้งสองข้างขึ้นมา

“คุณเล่นสนุกพอหรือยัง ฉันจะสายจริงๆ แล้วนะ”

รอยยิ้มของธาวินช่างชั่วร้ายมาก ราวกับเด็กผู้ชายตัวโตที่ ชอบเล่นสนุกๆ ที่ทำยังไงก็มัวแต่ไม่ยอมปล่อยมือจากของเล่นที่ ตัวเองรัก

เขาก็พูดอย่างร้ายกาจและชั่วร้ายออกมา “ให้คุณมานั่งกิน ข้าวเป็นเพื่อนผมให้หมดดีๆ คุณก็ไม่ยอม นี่ถือว่าคุณหาเรื่องใส่ ตัวเองนะ!”

ธิชาไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เห็นว่าเขาแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตรงเนินนม

ของเธอออก พลางประกบตัวและจัดการเม้มกัดทันที

ธิชาอายจนหน้าแดงพร้อมทั้งผลักศีรษะของเขาออกทันที “คุณ มันโรคจิต เจ็บนะ คุณกัดฉันเบาๆ หน่อย คุณทำให้ฉันเจ็บแล้ว

ญาณินเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนถึงได้จ้องมองหนังสดอย่างคนโง่ เขลาไปได้นะ
แต่ว่าเธอก็ควบคุมตนเองไว้ไม่ได้

บางทธาวินเริ่มแรกคือแกล้งหยอกเธอเล่น แต่พอเล่นเพลินไป หน่อยจนอารมณ์ปะทุมาแล้ว ผู้ชายอายุขนาดนี้แล้วพอคิดเรื่องนี้ ขึ้นมา มันก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว

ญาณินจ้องมองตาโตตอนที่เขาจูบด้านบนกับเธอแล้วยังไม่พอ

เขาจัดแจงยกขาทั้งสองข้างของธิชาขึ้นทำให้เป็นรูปแบบตัว M ซึ่งแยกออกจากกันอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างเปิดเผย

เขาก้มศีรษะลง จากนั้นก็เริ่มบรรเลงจูบลงไปจนธิชากรีดร้อง เสียงดังลั่นอย่างสบายใจ ราวกับปลาโลมากำลังร้องเสียงครวญ ครางอยู่เช่นนั้น….

ดวงตาของญาณินเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงฉาน มือทั้งข้างกำหมัด แน่น แถมยังเกลียดจนร่างกายสั่นสะท้าน

ธาวิน ในใจของเธอนั้นก็เหมือนกับจักรพรรดิที่ยังมีชีวิตอยู่ อยู่

เหนือคนอื่น ไม่สัมผัสมลทินใดๆ

ทว่าเขากับท่าเรื่องพรรค์นี้ก็เพื่อธิชา

ตั้งแต่ญาณินคบหาดูใจกับเขามาตลอด ขนาดฝันยังไม่กล้าจะคิดเลย

เธอได้ยินเสียงขาดๆ หายๆ ของอีดาวยั่วเขา จนปรารถนา อย่างแรงกล้าต้องการถือมีดปอกผลไม้พุ่งเข้าไปแทงเธอให้ตาย เสียจริง

แต่ว่าเธอกล้าไหม

เธอไม่กล้า

เพราะว่าเธอรู้ว่าถ้าเธอกล้าแตะต้องธิชา ธาวินจะเอาชีวิตของ เธอทันที

แต่เธอเป็นคุณนายธนาภูวนัตถ์นี้ ส่วนนั่งธิชานั่นมันก็แค่ผู้ หญิงเลวที่ไม่มีอนาคตคนหนึ่งเท่านั้นเอง

หลังจากความบ้าคลั่งในห้องอาหารจบลงแล้ว ธิชาก็รีบ จัดแจงตนเอง พร้อมทั้งใส่เสื้อผ้าและรีบหนีออกมาทางด้านนอก

ตอนที่เธอหนีออกมานั้นญาณินก็หลบซ่อนตัวแล้ว เธอยืนอยู่ ในมุมมืด พร้อมทั้งมองเห็นธิชา โดนชายหนุ่มเอาจนบำรุงได้มา จนร่างกายอิ่มเอิบแล้ว

ในเวลานี้เอง ไพลินสังเกตสีหน้าของญาณิน
เธอไม่เพียงแต่เอาใจผู้ชายเก่งเท่านั้น และยิ่งเข้าใจผู้หญิง ด้วยกันมากพอ และยิ่งไปกว่านั้นคืออารมณ์ความรู้สึกตามความ เป็นจริงที่ไม่รู้จักการปกปิดของญาณินคุณหนูพันล้าน

ไพลินยิ้มแย้มแจ่มใสและเดินไปยืนตรงหน้า และถามกลับ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “คุณนายอารมณ์ไม่ดีเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ